การซื้อขาย-บ้านมือสองในปัจจุบันถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะอสังหาริมทรัพย์ทั้งหลายนั้นทยอยผุดขึ้นมาให้เห็นอยู่เต็มเมือง ดังนั้นผู้ขายแต่ละรายจำเป็นต้องดึงจุดเด่นของบ้านออกมาเสนอ พร้อมกับใช้เทคนิคทางการขายอีกนิดหน่อย เพื่อให้บ้านขายออกได้อย่างรวดเร็วและได้ราคาดีที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ยังมีผู้ขายไม่น้อยที่ทำพลาดไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนี้
1. ตั้งราคาเกินจริง
ผู้ขายหลายรายมักจะตั้งราคาของบ้านสูงเกินไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งของการขายบ้าน ทำให้มีคนให้ความสนใจน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากโดยปกติผู้ซื้อมีการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ และเปรียบเทียบราคาขายของบ้านมาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นการตั้งราคาขายควรจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง โดยคำนวณจากขนาดของพื้นที่ โครงสร้าง สภาพบ้าน อายุการใช้งาน ราคาเฉลี่ยของบ้านส่วนใหญ่ในตลาด และปัจจัยอื่น ๆ ให้ครบถ้วน จากนั้นค่อยประกาศขายด้วยราคาที่เหมาะสมจะดีกว่า
2. ปรับปรุงมากเกินไป
เทคนิคง่าย ๆ ที่ผู้ขายส่วนใหญ่มักจะนำมาใช้กันก็คือ การปรับปรุงส่วนต่าง ๆ เสียใหม่เพื่ออัพราคาบ้านให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ผิดนัก แต่ทั้งนี้ควรจะคำนึกถึงความเหมาะสมและงบประมาณที่ใช้ลงทุนด้วย ไม่ควรเลือกใช้วัสดุที่แพงมาก หรือปรับปรุงหลายจุดจนเกินความจำเป็น เพราะจะทำให้ราคาขายสูงขึ้นตามไปด้วย และก็อย่าเลือกใช้วัสดุที่ราคาถูกแต่ไม่มีคุณภาพด้วยนะคะ เนื่องจากจะทำให้บ้านดูไม่ดึงดูดใจเท่าที่ควร
3. บ้านไม่พร้อมขาย
การขายบ้านในปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูงพอสมควร เพราะฉะนั้นผู้ขายแต่ละรายควรจะเตรียมให้พร้อมสำหรับการขายเสมอ โดยก่อนที่ประกาศขายควรจะปรับปรุง และทำความสะอาดบ้านให้เสร็จสิ้นเสียก่อน นอกจากนี้หากมีบ้านบริเวณใกล้เคียงประกาศขายเหมือนกัน อาจจะขอเข้าไปดูภายในบ้าน เพื่อหาไอเดียสำหรับปรับปรุงบ้านของคุณด้วยก็ได้ ทั้งนี้คุณควรเปิดบ้านให้พร้อมเข้าชมตลอด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อได้ประทับใจในการบริการด้วย
4. ไม่ให้เวลาผู้ซื้อ
ในขณะที่ผู้ซื้อกำลังเดินดูบ้าน พวกเขาจำเป็นต้องพิจารณาทุกส่วนอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ร่องรอยบกพร่อง หรือการดีไซน์ต่าง ๆ ทำให้ต้อใงใช้สมาธิพอสมควร ดังนั้นผู้ขายควรจะให้เวลาและอิสระในการเดินชมบ้านและให้เวลาผู้ซื้อได้ปรึกษากันบ้าง นอกจากนี้ไม่ควรจะใช้คำพูดในเชิงบังคับ หรือเร่งเร้าให้รีบตัดสินใจ เพราะอาจจะเสียลูกค้าไปได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว
5. โฆษณาน้อย
หากต้องการจะขายบ้านให้ได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วควรจะเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น จากเดิมที่เคยแปะป้ายประกาศบริเวณหน้าบ้าน ลองใช้บริการจากอินเทอร์เน็ต บอกต่อ หรือเพิ่มป้ายประกาศดูบ้าง เพื่อให้ผู้ซื้อเห็นสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น และควรจะหมั่นอัพเดทข้อมูลของบ้านอยู่เสมอ เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน และค้นหาได้ง่ายมากที่สุด
6. เสียเวลากับผู้ซื้อมากเกินไป
ผู้ซื้อที่ติดต่อเข้ามาใช่ว่าทุกคนจะมีกำลังซื้อเพียงพอเสมอไป เนื่องจากบางคนแค่ต้องการเช็กราคาหรือดูบ้านเอาไว้ก่อน เพราะฉะนั้นไม่ควรจะเสียเวลากับผู้ซื้อประเภทนี้มากนัก เอาเวลาไปใส่ใจกับลูกค้าที่สนใจซื้อบ้านจริง ๆ ดีกว่า และไม่ควรตัดสินใจตกลงซื้อขายจากราคากับเงื่อนไขที่ผู้ซื้อเสนอมาเท่านั้น แต่ควรดูเรื่องอื่น ๆ อย่างเช่น สถานะทางการเงิน ควบคู่กับไปด้วย
7. ไม่สนใจคนที่ต่อราคา
ก่อนที่จะทำการตกลงอย่างจริงจังผู้ซื้อส่วนใหญ่มักจะต่อรองราคาให้ได้เท่าที่ต้องการก่อน หรืออาจจะยอมจ่ายตามราคาที่เสนอแต่กลับตั้งเงื่อนไขไว้มากมาย ซึ่งเมื่อผู้ขายเจอกรณีแบบนี้มักจะตัดใจยกเลิกการขาย หรือไม่สนใจลูกค้ารายนั้นไปเลยเป็นส่วนมาก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วผู้ขายสามารถใช้เทคนิคนี้ได้เช่นเดียวกัน โดยใช้การต่อรองกลับไปให้อยู่ในราคาที่ต้องการ หรือเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย นอกจากจะทำให้มีโอกาสขายบ้านได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังไม่ต้องเสียลูกค้าไปแบบขุ่นเคืองใจกันด้วย
8. ทำด้วยตัวเองทุกขั้นตอน
สำหรับผู้ขายที่ไม่ได้จ้างนายหน้าควรจะศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเชิงลึกที่เกี่ยวกับการขายบ้านให้ดีเสียก่อน ทั้งเทคนิคการขาย ข้อกฎหมาย และปัญหาต่าง ๆ ที่เคยพบมาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรืออย่างน้อยควรจะจ้างทนายหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เอาไว้เป็นที่ปรึกษาสักคนน่าจะดีกว่ากระทำด้วยตัวเองเพียงคนเดียวทุกขั้นตอน จะได้ช่วยลดความเสี่ยง
9. ไม่อ่านสัญญาให้ละเอียด
ส่วนผู้ที่จ้างนายหน้าเป็นตัวแทนในการดำเนินขั้นตอนซื้อขายบ้านให้ควรจะอ่านข้อความในสัญญาให้ละเอียดและทำความเข้าใจข้อมูลให้ถูกต้องก่อนที่ทำการตกลง หรือเซ็นสัญญา ทั้งนี้รวมไปถึงสัญญาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์และขายบ้านให้กับผู้ซื้อด้วย เพื่อรักษาสิทธิ และป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดจากความไม่เข้าใจของตัวเองด้วย
10. รอขายช่วงพีคเท่านั้น
การประกาศขายบ้านไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงช่วงซื้อ-ขายก็ได้ เพราะบ้านเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ซื้อต้องการตลอดอยู่แล้ว หากรอขายในช่วงนั้นอาจจะเสียลูกค้าไปเปล่า ๆ อีกทัั้งยังเป็นช่วงที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งอาจจะทำให้คนที่สนใจซื้อน้อยลงไปกว่าเดิมและขายได้ยากขึ้นด้วยซ้ำ โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งราคาบ้านสูง ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรจะประกาศขายทันทีที่เตรียมบ้านพร้อมแล้ว
การขายบ้านจะง่ายขึ้นหากระวังมัดระวังให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และจะดีมากขึ้นหากไม่เกิดข้อผิดพลาดเลย โดยเฉพาะรายละเอียดในสัญญาต่าง ๆ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายโดยตรง ซึ่งถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา อาจจะเกิดคดีฟ้องร้องและผิดใจกับผู้ซื้อได้ ฉะนั้นนอกจากศึกษาข้อมูลแล้วควรจะทำความเข้าใจกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายด้วยนะคะ
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่