เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หลายครั้งที่เรากังวลเรื่องความสะอาดของภาชนะที่ใช้ใส่อาหาร ไม่ว่าจะเป็น จาน ชาม ช้อน ส้อม หรือแม้กระทั่งแก้วน้ำตามร้านอาหาร แต่น้อยคนนักที่จะนึกเฉลียวใจว่า เชื้อโรคหลากหลายชนิด จะพากันซุกตัวอยู่ในฟองน้ำนุ่มนิ่ม อุปกรณ์สำคัญที่เราใช้ล้างจานกันอยู่นี่ล่ะค่ะ และต่อให้ล้างจานจนสะอาดแค่ไหน แต่ถ้าฟองน้ำไม่สะอาดก็ยังคงมีเชื้อโรคตกค้างอยู่ดี การันตีด้วยผลการวิจัยของศาตราจารย์ ชาร์ลส์ เกอบา ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา ของมหาวิทยาลัยอาริโซน่า ที่บอกไว้ว่า การใช้ชีวิตอยู่อย่างคนสกปรก ยังดีกว่าการใช้ฟองน้ำที่สกปรกล้างจานซะอีก
ดังนั้นการดูแลรักษาให้ฟองน้ำสะอาดอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรละเลย วันนี้กระปุกดอทคอมเลยมีวิธีการทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานของคุณให้ห่างไกลจากเชื้อโรคมาฝากกันค่ะ
1. ไมโครเวฟช่วยได้
คลื่นความร้อนจากไมโครเวฟสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียในฟองน้ำล้างจานได้ถึง 99.99% วิธีการก็ไม่ยากค่ะ ชุบฟองน้ำด้วยน้ำสะอาดให้ชุ่ม แล้วนำเข้าไปอบในไมโครเวฟ (เฉพาะฟองน้ำที่ไม่มีโลหะและเหล็กเป็นส่วนประกอบนะคะ) ตั้งความร้อนที่อุณหภูมิสูงสุด ใช้เวลาประมาณ 2 นาที คอยดูอย่าให้ฟองน้ำแห้ง เพราะอาจจะเกิดไฟไหม้ได้ เสร็จสรรพก็ใช้คีมครีบฟองน้ำออกมาจากไมโครเวฟ ทิ้งไว้สักพักให้คลายความร้อนก่อน ทีนี้ก็ใช้งานได้อย่างปกติแล้วล่ะค่ะ
สำหรับบ้านไหนที่มีเครื่องล้างจานก็สามารถใช้วิธีนี้ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานได้เช่นกันค่ะ เพราะเครื่องล้างจานก็สามารถฆ่าเชื้อโรคในฟองน้ำได้เทียบเท่ากับไมโครเวฟ วิธีการก็แค่วางฟองน้ำในเครื่องล้างจาน แนะนำว่าควรจะวางในที่ที่น้ำจะสามารถไหลเวียนผ่านได้สะดวก และควรจะมีที่กั้นไม่ให้ฟองน้ำหลุดลงไปในถังน้ำทิ้งของเครื่องล้างจาน เมื่อหาตำแหน่งที่แน่ใจได้แล้วก็กดปุ่มเริ่มทำงานให้เครื่องได้เลยค่ะ
คงไม่ดีแน่หากคุณใช้ฟองน้ำเพื่อล้างจาน แต่กลับไม่ยอมบีบเอาคราบสกปรกและเศษอาหารออกจากฟองน้ำ แล้ววางทิ้งไว้อย่างนั้น ลองคิดดูสิว่า เชื้อโรคสารพัดจะแฝงตัวอยู่มากขนาดไหน เมื่อกลับมาล้างจานครั้งต่อไป จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจานของคุณสะอาดหมดจดจริง ๆ ไม่แน่นะอาจจะเป็นการหนีคราบสกปรกมาพบครอบครัวเชื้อโรคแทนก็ได้ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจมากขึ้น แค่ทำความสะอาดฟองน้ำทุกครั้งหลังใช้ ก็คงไม่เสียเวลามากนักนะจ๊ะ
จะดีกว่าไหมถ้าเราแยกฟองน้ำสำหรับล้างจานกับฟองน้ำสำหรับล้างแก้วให้เป็นสัดส่วน เพราะหากใช้ร่วมกัน นอกจากจะทำให้เชื้อโรคแพร่พันธุ์ได้อย่างสะดวกขึ้นแล้ว ยังอาจจะทำให้แก้วของคุณเหม็นคาวอาหารได้ด้วยค่ะ อ้อ! แล้วก็อย่าลืมสำรองฟองน้ำแต่ละชนิดไว้ในบ้านด้วยนะคะ เผื่อวันไหนจะนำฟองน้ำไปทำความสะอาด จะได้มีใช้แทนกันอย่างทันท่วงที
5. เก็บไว้ในที่แห้ง
ฟองน้ำที่เปียกชื้นอยู่ตลอดเวลาจะเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีของเชื้อราและแบคทีเรีย คงดีกว่าถ้าคุณจะบีบน้ำออกจากฟองน้ำให้หมดหลังการใช้งานทุกครั้ง และเก็บในตำแหน่งที่จะมั่นใจได้ว่าฟองน้ำจะไม่มีโอกาสไปซับน้ำจากที่ไหนได้อีก นอกจากจะเป็นการรักษาฟองน้ำให้พ้นจากเชื้อโรคต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการยืดระยะเวลาการใช้งานให้ฟองน้ำอีกด้วยค่ะ
ผ้าหรือกระดาษชำระคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า สำหรับใช้เช็ดคราบน้ำที่หยดมาจากเนื้อสัตว์ หรือคราบน้ำมันที่เกาะอยู่บนผนังห้องครัวและเตา เพราะสามารถใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งได้เลย อย่าหมักหมมเชื้อโรคไว้ในบ้านคงจะดีกว่าใช่ไหมล่ะคะ
เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและครอบครัว อย่าละเลยการทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานเป็นอันขาดนะคะ เพราะไม่อย่างนั้น เชื้อโรคและแบคทีเรียทั้งหลาย จะพร้อมใจกลับมาเช็กอินในโรงแรมฟองน้ำของเราอยู่ตลอดเวลา ป้องกันไว้ยังไงก็ดีกว่าแก้ คุณจะได้ไม่ต้องกังวลใจกับเชื้อโรคร้ายใด ๆ ให้ปวดหัวด้วยค่ะ