ปัญหาคราบสกปรกบนเสื้อผ้าคงเป็นปัญหากวนใจแม่บ้านหลาย ๆ คนไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะหาวิธีการไหนจัดการ เจ้าคราบสกปรกก็ยังปรากฏตัวเป็นด่างเป็นดวงไม่ยอมหายไปสักที ยิ่งกับผ้าขาวหรือผ้าสีอ่อนด้วยแล้ว ยิ่งสังเกตเห็นได้ง่าย วิธีต่อไปนี้จึงเป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดคราบสกปรกบนเสื้อผ้าที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้กันค่ะ
คราบเปื้อนทั่วไป แทนที่จะปล่อยให้คราบเปื้อนฝังแน่นบนเสื้อผ้า เราก็ควรชิงทำความสะอาดเบื้องต้นทันทีที่เจอคราบเปื้อน ด้วยวิธีพื้นฐานอย่างการเอาน้ำลูบลงไปบนคราบ และถ้ามีสบู่หรือน้ำยาซักล้างชนิดอื่นอยู่ใกล้ ๆ ก็ใช้ทำความสะอาดชั่วคราวไปก่อนก็ได้ แต่ถ้าตรงนั้นไม่มีแม้แต่ก็อกน้ำ ลองใช้น้ำดื่มธรรมดาหรือน้ำแข็งถูลงไปบนคราบก็ได้เช่นกัน แล้วก็ซักทำความสะอาดเสื้อผ้าทันทีที่ถึงบ้านค่ะ แต่ถ้าซักทำความสะอาดก็แล้ว คราบยังดื้อไม่ยอมหายไปสักที ก็คงต้องทำความสะอาดใหม่อีกรอบ หรือหาวิธีกำจัดคราบแบบเฉพาะจงเจาะเป็นชนิด ๆ ไป แล้วนำมาใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้านั้นอีกที
คราบเปื้อนจากไอศกรีมและอาหาร ในกรณีที่เพิ่งเกิดคราบใหม่ ๆ ให้ใช้น้ำยากำจัดคราบ ป้ายลงบนคราบ แล้วนำไปแช่ในน้ำเย็น ละลายผงซักฟอกประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้คราบคลายตัว แล้วค่อยซักทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง แต่ถ้าคราบเปื้อนทิ้งเวลามาสักระยะหนึ่งจนเริ่มแห้งแล้ว ให้คุณใช้แปรงขัดคราบแห้ง ๆ ให้หลุดออกไปก่อน แล้วค่อยซักล้างตามขั้นตอนข้างต้น แต่ถ้าคราบยังคงติดแน่นอยู่อีก ให้เพิ่มเวลาแช่ผ้าอีก 30 นาที แล้วซักทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นอีกครั้งก่อนทำความสะอาด
คราบเปื้อนจากผลไม้ คราบเปื้อนจากผลไม้หรือน้ำผลไม้ อย่าง แตงโม หรือน้ำส้ม บนเสื้อผ้า สามารถกำจัดได้ด้วยน้ำยาซักผ้า โดยละลายน้ำยาซักผ้าในน้ำอุ่น ผสมน้ำยากำจัดคราบลงไปด้วยเล็กน้อย แล้วแช่ผ้าที่มีคราบเปื้อนลงไป ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แต่ไม่แนะนำให้ซักด้วยสบู่นะคะ เพราะไขมันในสบู่จะทำให้คราบยิ่งติดฝังแน่น ส่วนคราบเปื้อนที่ทิ้งไว้เป็นเวลานาน ให้ซักด้วยน้ำยาฟอกผ้าขาว แต่ต้องเลือกชนิดน้ำยาให้เหมาะกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด และระวังอย่ารีดเสื้อผ้าที่มีรอยเปื้อน เพราะความร้อนจะยิ่งทำให้คราบติดฝังแน่นยิ่งขึ้น
คราบเปื้อนจากดินและหญ้า สำหรับบ้านที่มีสวนหรือสนามหญ้า น่าจะเคยเจอกับปัญหาเสื้อผ้าเปื้อนคราบดินและคราบเขียว ๆ จากต้นหญ้ามาบ้าง กำจัดคราบเปื้อนจากสิ่งพวกนี้ง่าย ๆ ด้วยการผสมน้ำยาซักผ้าในน้ำอุ่น แล้วแช่เสื้อผ้าที่มีคราบเปื้อนลงไปประมาณ 30 นาที (หรือนานกว่านั้นตามระยะเวลาการฝังแน่นของคราบ) แล้วซักตามปกติ แต่ห้ามใช้น้ำเย็นจัดซักกับคราบเหล่านี้เด็ดขาด เพราะจะทำให้คราบจับกันเป็นก้อน และทำความสะอาดได้ยากยิ่งขึ้น ถ้าคราบยังคงหลงเหลือก็จัดการทำความสะอาดตามขั้นตอนเดิมอีกครั้งจนกว่าจะคราบจะหมดไป
คราบเปื้อนจากโคลน หากเกิดคราบเปื้อนจากโคลนบนเสื้อผ้า ทิ้งคราบไว้ให้แห้งสนิท แล้วใช้แปรงถูเอาคราบออกก่อน จากนั้นป้ายน้ำยากำจัดคราบลงบนรอยเปื้อน แล้วแช่ผ้าในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา และน้ำส้มสายชูกลั่น 1 ช้อนโต๊ะ ประมาณ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ค่อยซักตามปกติ แต่ถ้าคราบยังไม่จางหายไป ให้ใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์ (Rubbing Alcohol) แล้วเช็ดไปตามรอยเปื้อน จากนั้นล้างน้ำสะอาดและซักตามปกติ หรือจะใช้วิธีแช่น้ำยาขจัดคราบหรือน้ำยาฟอกผ้าขาว และทิ้งไว้ 30 นาทีก็ได้เช่นกันค่ะ
คราบเปื้อนจากซอส คราบเปื้อนจากบรรดาซอสต่าง ๆ กำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยการแช่ผ้าลงในน้ำเย็นผสมสบู่ล้างมือ 1/2 ช้อนชา กับน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ถ้ายังมีคราบหลงเหลืออยู่ให้ทำความสะอาดอีกครั้งด้วยน้ำยาขจัดคราบ แล้วซักทำความสะอาดอีกครั้งด้วยน้ำอุ่น จากนั้นเป่าให้แห้ง แต่ถ้าคราบยังฝังแน่นอยู่ ให้แช่ผ้าในน้ำยาซักผ้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือแช่ทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ค่ะ จากนั้นก็ซักทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง อย่าใช้ความร้อนกับคราบเด็ดขาดไม่ว่าเป็นการแช่หรือซักผ้าในน้ำร้อน ใช้ไดร์เป่าแห้ง หรือรีดในขณะที่คราบยังไม่หมดไป เพราะความร้อนเหล่านี้จะยิ่งทำให้คราบฝังแน่นขึ้นไปอีก
การใส่เสื้อผ้าที่สะอาดหมดจด เป็นการเสริมบุคลิกให้ผู้สวมใส่ เพราะฉะนั้นการดูแลเสื้อผ้าให้สะอาดอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย และเราหวังว่า เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้จะช่วยให้พ่อบ้านแม่บ้านคืนความขาวสะอาดให้เสื้อผ้าได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
