เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เคล็ดลับการทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องที่แม่บ้านทุกคนอาจจะค้นเจอแบบฟลุ๊ค ๆ ด้วยตัวเอง เพราะถ้าเราทำงานบ้านทุกวัน รวมทั้งขยันทำความสะอาดตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน ก็คงน่าจะมีโอกาสได้เจอข้อผิดพลาด ซึ่งเมื่อเจออุปสรรคงานบ้านปุ๊บ แม่บ้านทุกคนคงหาสารพัดวิธีมาจัดการปัญหานั้นแน่ ๆ และบางครั้งเราก็เจอแจ็กพอต แบบที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการหาซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาด หรือน้ำยาทำความสะอาดอีกด้วย แต่สำหรับแม่บ้านมือสมัครเล่น ที่เพิ่งจะเริ่มทำงานบ้านอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ น่าจะลองศึกษาเคล็ดลับเรื่องงานบ้านเอาไว้เป็นแนวทางบ้าง อย่างเคล็ดไม่ลับเรื่องงานบ้านต่อไปนี้ ที่ต้องบอกว่าง่ายดาย ประหยัด และให้ผลลัพธ์แบบเวิร์กสุด ๆ ไปเลยล่ะ
1. ล้างไมโครเวฟอย่างล้ำลึกด้วยเบกกิ้งโซดา
ไมโครเวฟที่ผ่านการใช้งานมาไม่น้อย คงต้องถึงเวลากำจัดคราบอาหารและกลิ่นที่อบอวลปนกันอยู่ในนั้นสักที โดยการทำความสะอาดครั้งนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดไมโครเวฟโดยเฉพาะ เพียงแค่เตรียมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ใส่ลงไปในถ้วยแก้ว แล้วเติมน้ำลงไปสักหน่อย จากนั้นก็ฝานมะนาวประมาณ 1 ซีก บีบตามลงไป ซึ่งคุณจะใส่เปลือกมะนาวลงไปในถ้วยด้วยก็ได้ เสร็จแล้วก็นำถ้วยเบกกิ้งโซดาไปเวฟประมาณ 1.30 นาที เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วก็ปล่อยไมโครเวฟเอาไว้เฉย ๆ สัก 2-3 นาที พอให้ไอน้ำจากเบกกิ้งโซดาและมะนาว เข้าไปคลายความเหนียวแน่นของคราบอาหารที่เกาะติดในไมโครเวฟ รวมทั้งให้น้ำมะนาวช่วยดูดกลิ่นอาหารที่หลงเหลืออยู่ในไมโครเวฟออกไปด้วย จากนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดไมโครเวฟอีกที
2. แอมโมเนียช่วยกำจัดคราบไหม้
คราบไหม้บนตะแกรงปิ้งย่าง หรือจะเป็นคราบไหม้ในถาดอบขนมปังก็ตาม สามารถกำจัดออกไปง่าย ๆ ด้วยแอมโมเนีย วิธีการก็ไม่ยากเลยด้วย เพียงแค่เติมแอมโมเนียประมาณ 1 ช้อนโต๊ะใส่ถุงพลาสติก แล้วจัดการหย่อนตะแกรงที่มีคราบไหม้ลงไป ใช้ยางรัดปากถุงให้แน่น แล้วหมักทิ้งไว้อย่างนั้น 1 คืน แอมโมเนียจะช่วยกัดกร่อนเถ้าถ่านและรอยไหม้บนตะแกรงให้คลายตัว ทีนี้เราก็สามารถใช้แปรงขัดทำความสะอาดตะแกรงได้อย่างสะดวกแล้วจ้า
3. ดับกลิ่นขยะด้วยเปลือกมะนาว
หลังจากบีบน้ำมะนาวปรุงรสอาหารได้ลงตัวแล้ว ให้หย่อนเปลือกมะนาวที่เหลือใส่ถังขยะไปเลย มะนาวจะช่วยดับกลิ่นหมักหมมในถังขยะได้อยู่หมัด ไม่ต้องทนกลิ่นเหม็นเน่าจากถังขยะอีกต่อไป แต่ทั้งนี้คงจะดีกว่าหากคุณจัดทำระบบคัดแยกขยะเอาไว้ในบ้าน แล้วนำขยะเปียกไปเททิ้งทุกวัน เพื่อป้องกันขยะเน่าเหม็น และลดการสะสมของเชื้อโรคด้วยนะคะ
4. ขจัดคราบบนพรมด้วยของในครัว
ทั้งเบกกิ้งโซดา และน้ำส้มสายชูต่างก็มีคุณสมบัติในการกำจัดคราบที่ไม่น้อยหน้ากัน แต่ที่สำคัญของใช้ในครัวทั้ง 2 อย่างนี้ สามารถใช้กำจัดคราบเปื้อนบนพรมได้ด้วย เริ่มแรกก็โรยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบ ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดคราบให้เรียบร้อย เสร็จแล้วต่อด้วยการผสมน้ำส้มสายชู และน้ำสะอาดอย่างละครึ่ง แล้วใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำผสม นำไปเช็ดคราบเรื่อย ๆ จนกว่าคราบเปื้อนบนพรมจะจางหายไป
5. ปลอกหมอนช่วยเช็ดพัดลมเพดาน
แม่บ้านจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาฝุ่นฟุ้งกระจายจากการเช็ดทำความสะอาดพัดลมเพดานด้วยไม้ปัดขนไก่ หรือแม้กระทั่งใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฝุ่นก็ยังไม่พ้น แต่คราวต่อไปลองใช้ปลอกหมอนอันเก่า เช็ดทำความสะอาดพัดลมเพดานดูสิ โดยเปิดปลอกหมอนให้อ้าออก แล้วเอาไปหุ้มไว้ที่พัดลมเพดาน จากนั้นมืออีกข้างก็จัดการใช้เนื้อผ้าปลอกหมอนที่เหลือ ค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดปลอกหมอนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้น เพียงเท่านี้ก็หมดปัญหาฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบ้านแล้วค่ะ
6. เช็ดคราบน้ำมันด้วยน้ำมัน
อย่าเพิ่งตกใจว่าเราเขียนผิดนะจ๊ะ เพราะเคล็ดลับนี้ต้องใช้หนามยอกเอาหนามบ่งจริง ๆ ด้วยการใช้น้ำมันพืช เช็ดคราบน้ำมันที่เขรอะอยู่ตามหน้าเตาออกให้หมด เพราะคราบน้ำมันที่ข้นเหนียว ๆ ต้องใช้น้ำมันที่มีความมันลื่น มาเช็ดทำความสะอาดคราบให้หมดจด รับรองว่าเคล็ดลับนี้จะช่วยจัดการคราบน้ำมันเหนียวหนืดบนเตาคุณได้ในพริบตาเลยจ้า
7. เกลือป่นช่วยกำจัดฝุ่นบนดอกไม้
หากดอกไม้ที่บ้านของคุณมีฝุ่นจับอยู่หนาเตอะ คงต้องทำความสะอาดกันหน่อย แต่หากไม่อยากเสียเวลาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดกลีบดอกไม้ หรือใบของต้นไม้ล่ะก็ แนะนำให้ใส่ดอกไม้ลงในถุง เติมเกลือลงไปสัก 1 ช้อนชา จากนั้นก็จัดการเขย่า ๆ ถุงไปเรื่อย ๆ จนกว่าดอกไม้และใบไม้จะกลับมาสะอาดเอี่ยมไร้ฝุ่นอีกครั้ง
8. ลบร่องรอยสีเทียนบนกำแพง
บ้านที่มีเจ้าหนูวัยกำลังซน คงต้องมีประติมากรรมฝาผนังของเหล่าจิตรกรตัวจิ๋วกันบ้างแน่ ๆ ซึ่งสีเทียนบนกำแพงเหล่านี้ก็ไม่ใช่งานหินอย่างที่กลัวกันแต่อย่างใด เพราะเพียงแค่คุณผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำสะอาดจนเบกกิ้งโซดามีเนื้อข้นเหนียว แล้วนำฟองน้ำชุบน้ำจุ่มเบกกิ้งโซดาที่ผสมไว้ มาลบรอยขีดเขียนบนกำแพง แค่นี้ฝีมือของหนู ๆ ก็จะเป็นเพียงแค่ความทรงจำแล้วจ้า
9. หนังสือพิมพ์เช็ดกระจก
แม้จะเป็นวิธีโบร่ำโบราณ แต่ก็จัดว่าเป็นเคล็ดลับการทำความสะอาดกระจกที่ไม่มีวันหมดอายุขัยแน่นอน เพราะกระดาษหนังสือพิมพ์ได้ถูกพิสูจน์มาแล้วว่า สามารถใช้เป็นวัสดุทำความสะอาดกระจกได้วาวใส ไร้รอยขีดข่วนแม้แต่นิดเดียวเลยล่ะค่ะ
10. น้ำยาฆ่าเชื้อจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
หากคุณกำลังมองหาน้ำยาฆ่าเชื้อทรงประสิทธิภาพอยู่ล่ะก็ แนะนำให้จ่ายเงินซื้อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ แล้วนำมาผสมกับน้ำสะอาดอย่างละครึ่ง เทใส่กระบอกสเปรย์ หรือภาชนะที่จะเปิดใช้งานได้สะดวก เพียงเท่านี้คุณก็จะมีน้ำยากำจัดเชื้อโรค และเชื้อแบคทีเรียเจ๋ง ๆ ไว้ใช้ในบ้านแล้วล่ะ
11. เคลือบเครื่องเงินให้วาวใหม่ฉบับบ้าน ๆ
เครื่องเงินในบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว หรือเครื่องประดับ หากใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ กาลเวลาก็ย่อมสะสมคราบสกปรก และกร่อนความเงางามไปได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องโละเครื่องเงินยกเซ็ต เพียงแค่เตรียมหากะละมังอะลูมิเนียมมา 1 ใบ แล้วนำเครื่องเงินที่อยากทำความสะอาดให้หมดจดมาวางไว้ โรยเบกกิ้งโซดาลงไป 1 ถ้วยตวง ตามด้วยเติมน้ำร้อนลงไปจนท่วม แช่ทิ้งไว้อย่างนั้นสักพัก ส่วนผสมที่เราใส่ลงไปจะทำปฏิกิริยากัดกร่อนความหมองดำให้หลุดออกไป คืนความวาวใสให้เครื่องเงินเหมือนใหม่ยังไงยังงั้นเลยจ้า
ก้นกระทะบ้านไหนที่มีรอยไหม้ หรือมีรอยคราบน้ำเกาะติดทนนาน ให้เติมน้ำลงไป จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูลงไป 1 ถ้วยตวง นำกระทะไปตั้งไฟจนน้ำเดือด เสร็จแล้วยกกระทะลง แล้วเติมเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ สุดท้ายก็ขัดทำความสะอาดกระทะตามวิธีปกติได้เลยค่ะ
13. แว็กซ์เคลือบรถป้องกันคราบน้ำ
วัสดุโครเมียม เช่น ก๊อกน้ำต่าง ๆ มักจะเกิดคราบหยดน้ำได้ง่าย ๆ แต่เพื่อป้องกันปัญหานี้ คุณสามารถอาศัยคุณสมบัติของแว็กซ์เคลือบเงารถยนต์ มาทาให้ทั่วก๊อกน้ำ เพื่อให้แว็กซ์ช่วยเป็นเกราะป้องกันคราบน้ำมาเกาะติดก๊อกน้ำของเราก็ได้นะ
14. เพิ่มความขาวให้ผ้าขาว
ผ้าขาวที่ซักบ่อย ๆ และเริ่มหมอง เราก็สามารถเติมน้ำมะนาว ½ ถ้วยตวงลงไปในน้ำยาซักผ้าขาว แล้วใช้ซักผ้าได้ตามปกติเลย กรดในน้ำมะนาวจะช่วยขจัดความหมองที่เกาะติดเสื้อผ้าสีขาว และคืนความขาวใสให้ผ้าขาวมีความขาวยิ่งขึ้น
15. กรุ่นกลิ่นหอมของผ้าจากวอดก้า
วอดก้าไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้นแล้วล่ะค่ะ เพราะเราสามารถผสมวอดก้า ¼ ถ้วยตวง และน้ำสะอาดในปริมาณที่เท่ากัน จากนั้นเทใส่ชวดสเปรย์ แล้วนำไปใช้ฉีดพรมเพื่อความหอมสดชื่นให้เสื้อผ้าได้ง่าย ๆ เลย แถมไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นของวอดก้าด้วย เพราะเพียงแค่ผ้าแห้ง แอลกอฮอล์ในวอดก้าระเหยไปหมด คราวนี้ก็จะเหลือเพียงกลิ่นหอมสดชื่นติดอยู่ในเสื้อผ้าแล้วจ้า
16. ทำความสะอาดวันละ 15 นาที
เคล็ดลับทำความสะอาดที่จะช่วยให้คุณรักษาความสะอาดได้อย่างยาวนาน คงหนีไม่พ้นต้องใช้ความขยันทำความสะอาดให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็แบ่งเวลาสัก 15 นาที มาทยอยทำความสะอาดทีละจุดของบ้านในทุกวัน เพียงแค่นี้บ้านของคุณก็จะเป็นระเบียบ และสะอาดเรียบร้อยตลอดไปแล้วค่ะ
17. ฟองน้ำผลไม้
มหัศจรรย์ของผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว เกรปฟรุต ส้ม และเลมอน คือ คุณสมบัติขจัดคราบสกปรก และกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้ชนิดนี้ ดังนั้นหากทำความสะอาดห้องน้ำครั้งต่อไป คุณก็อาจจะผ่าผลไม้เหล่านี้ออกเป็น 2 ส่วน โรยเกลือ หรือเบกกิ้งโซดาลงไป จากนั้นก็ดัดแปลงใช้เป็นฟองน้ำผลไม้ ขัดถูทำความสะอาดสุขภัณฑ์ได้ตามใจเลย ซึ่งนอกจากจะได้ความหอมสดชื่นแล้ว คุณยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับความสะอาดใสของพื้นผิวสุขภัณฑ์จากฝีมือของกรดในผลไม้รสเปรี้ยวอีกต่างหาก
18. กากกาแฟสดขจัดคราบในกระทะ
กากกาแฟสดยังมีประโยชน์ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ นั่นก็คือคุณสมบัติกัดกร่อนคราบฝังแน่น ซึ่งหากคุณอยากกำจัดคราบอาหาร และรอยไหม้ที่ติดฝังแน่นในกระทะ ก็สามารถใช้กากกาแฟสดมาขัดทำความสะอาดกระทะได้เช่นกัน เพียงแค่นี้กระทะของคุณก็จะกลับมาสะอาดปิ๊งเหมือนเดิมแล้วค่ะ
19. เคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยสูตรธรรมชาติ
ใครที่กำลังมองหาน้ำยาเคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์ไม้อยู่ น่าจะลองนำสูตรน้ำยาเคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์โฮมเมดไปใช้ดูบ้างนะคะ วิธีทำก็ไม่ยาก เพียงแค่ผสมน้ำมันมะกอก น้ำสะอาด และน้ำเลมอนในอัตราส่วนอย่างละ 1 ช้อนชา คนทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์จุ่มน้ำยา นำไปทาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้เงางามเหมือนใหม่
20. น้ำยารีดผ้าเรียบโฮมเมด
น้ำยาปรับผ้านุ่มมีสารที่ช่วยคลายเส้นใยผ้าให้เรียบลื่นอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงสามารถผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ช้อนชา ต่อน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง เทลงกระบอกสเปรย์ จากนั้นก็เขย่าส่วนผสมให้เท่ากัน แค่นี้คุณก็จะมีน้ำยารีดผ้าเรียบที่แสนหอมไว้ใช้แล้วจ้า
เคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสูตรที่หาส่วนประกอบไม่ยาก แถมวิธีการใช้ยังแสนจะง่ายดายอีกต่างหาก คุณแม่บ้านคนไหนสนใจอยากนำไปใช้ทำงานบ้าน เพื่อทุ่นทั้งแรงกาย เวลา และเงินในกระเป๋าเราก็ไม่หวงห้ามนะคะ จะนำไปใช้ หรือบอกต่อเพื่อนด้วยก็ตามสะดวกเลยจ้า
