ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณเสียโสดให้หญิงร้าย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, คุณเสียโสดให้หญิงร้าย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
การอาศัยอยู่ในเมืองหลวงอย่าง กทม. ทำให้มีค่าครองชีพสูง เพราะข้าวของและที่ดินก็แพงไปเสียทุกอย่าง ดังนั้นหากเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานโดยไม่มีบ้านพัก ก็จำเป็นต้องเช่าห้องราคาประหยัดเอาไว้เป็นที่พักผ่อน แต่เมื่อวันหนึ่งเกิดมีความพร้อมอยากจะซื้อคอนโดมิเนียมสักห้อง จะต้องเริ่มต้นขนย้ายและตกแต่งอย่างไรดี วันนี้ คุณเสียโสดให้หญิงร้าย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีประสบการณ์การย้ายจากห้องพัดลมเพดาน ไปสู่คอนโดที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรง มาเล่าให้ฟังค่ะ ^^
แชร์ประสบการณ์ การย้ายจากห้องเช่าพัดลมเพดาน มาสู่คอนโดมิเนียม (ที่โคตรจะชานเมือง) โดย คุณเสียโสดให้หญิงร้าย
ผมคิดว่าความฝันนึงของคนต่างจังหวัด ที่เข้ามาทำงานทำการในเมืองหลวง ก็คงคิดเหมือน ๆ กัน คือหาที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่ง ปลอดภัย เดินทางสะดวก และยกระดับความเป็นอยู่ (?) ขึ้นจากห้องเช่าที่จ่ายตังค์ให้เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ไปเรื่อย ๆ แบบเสียไปเปล่า ๆ แถมสภาพสังคมถ้าเลือกย่านไม่ดี ก็เสี่ยงต่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินอะนะ
ทำไมถึงไม่เลือกซื้อบ้าน
อยู่คนเดียว และบ้านใช้พื้นที่มากเกินกว่าความจำเป็น
มีบ้านที่ ตจว. อยู่แล้ว
ไม่อยากเอารถขึ้นมาจาก ตจว. มาใช้แค่เดินทางจากชานเมืองกว่าเข้ามาทำงาน
เน้นความคล่องตัว ไม่ต้องมีอะไรให้มาห่วงเยอะ
อันว่าด้วยตอนนั้น จขกท มีเงินเก็บไม่พอที่จะซื้อดาวน์ หรือซื้อที่สร้างเสร็จแล้ว ทางเลือกที่เหมาะสมก็คือ ก็ซื้อที่มันยังไม่สร้างนี่แหละ ผ่อนดาวน์ไปเรื่อย ๆ ถือโอกาสเก็บตังค์ไปด้วย ยอมเช่าอยู่อีก 1-2 ปีจะเป็นไรไป ก็เลยตัดสินใจหาทำเลเหมาะ ๆ ที่ต้องประเมินว่าต่อไปภายภาคหน้าทำเลที่เรามอง ๆ ไว้มันจะพัฒนาได้แค่ไหน
ดูไปดูมา ก็ไปจองมาที่นึงซึ่งเป็นทำเลโคตรอนาคตมีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่กว่าที่รถไฟฟ้าจะวิ่งก็นู่น ปี 2560 แต่ถึงกระนั้นก็ดี ที่ตรงนี้ก็ห่างจากที่ทำงานแค่ 2 กิโลเมตร ถึงตอนนั้นก็คงหาวิธีไปทำงานได้แล้วแหละ
จุดสำคัญที่อยากแชร์ตอนกำจัดและจัดการสมบัติบ้าทั้งหลายแหล่ก็คือ
จัดกรุ๊ปสิ่งของบ่อย ๆ เอาของประเภทเดียวกันมารวม ๆ กัน
กล่องพลาสติกเก็บของใบใหญ่ ๆ ซื้อมาไว้เก็บของก็ดีนะ
***แนะนำให้ใช้กล่องพลาสติกใสขุ่น ขนาดใบกลาง ๆ ใส่ของแล้ววางในห้องห้องจะดูสะอาดเรียบร้อยมากกว่ากล่องพลาสติกดำ ๆ แดง ๆ เหม็น ๆ ตามโลตัสนะ
***บางทีกล่องใส่ของในเซ็นทรัลก็ราคาถูกกว่าโลตัสนะครับ
อะไรที่มันอยู่ในแพ็ค หรือไม่ได้หยิบมาใช้ในรอบ 6 เดือน ถ้าไม่เป็นอะไรที่เป็นความทรงจำสุด ๆ ก็ตัดใจทิ้งมันไปซะเถอะ
เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้ ไม่ต้องเอามาคิดว่าต่อไปความอ้วนชั้นจะลด ต้องกลับมาใส่ได้แน่เลย อันนี้ยากมาก ๆ นะจ๊ะ ตัดใจทิ้งไปเสียก็ดี
สมบัติอะไรที่ขายได้ให้ขาย ขายไม่ได้วันสุดท้ายก็ยกให้คนข้างห้อง หรือแม่บ้านที่บริการเราดี ๆ ไป
อุปกรณ์ทำความสะอาดก็ทิ้ง ๆ ไปหาซื้อใหม่ จะถูกสุขลักษณะกว่าย้ายของเก่าไปใช้นะ
การขนย้าย ถ้าเป็นไปได้ก็ค่อย ๆ ทยอยย้าย จะสบายชีวิตกว่าย้ายตู้มเดียวนะครับ ค่าใช้จ่ายอาจจะมากกว่าย้ายทีเดียว แต่คิดว่าเราสามารถจัดการสิ่งของและสมบัติของเราได้หมดจดกว่านะครับ
ย้ายของลอตแรกแนะนำเป็นของใหญ่ที่เรากรุ๊ปเอาไว้หลัก ๆ ของที่เหลือในห้องก็น้อยลง (ส่วนมากจะเหลือแต่สมบัติบ้าแล้ว) ก็จัดการเก็บกวาดทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นได้อีกรอบนึง
ย้ายของลอต 2 ของก็จะเหลือแค่ของยังชีพไว้นอน (อาจจะน่าเบื่อหน่อยสำหรับแฟนละครที่ไม่มีอะไรดู) รอบสุดท้ายก็ถือกระเป๋าชิล ๆ ไปสองใบ ตัวปลิว ๆ
*** เรื่องดอกเบี้ย แน่นอนว่าเราก็รู้ ๆ กันว่าเลือกที่ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกถูกสุดอะเนอะ
**** ขั้นตอนการรับโอน ณ จุดนี้ ต้องเตรียมเงินค่าบลาไว้ก้อนใหญ่ ๆ เลยทีเดียวนะ
ของ ผมยอด 1.5 ล้าน ค่าใช้จ่ายที่ต้องเป็นค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง ค่าบลา ๆ ตีไปกลม ๆ เลยก็ 80,000 บาท (ต้องมีก้อนนี้เป็นเงินเย็นสำรองไว้นะ) เมื่อเราโอนแล้วเรียบร้อย รับของแถมอะไรต่าง ๆ นานามาจากโครงการ และสิ่งนึงที่เราได้มาก็คือเงินดาวน์ในส่วนที่เราผ่อนไปจ้า (ในกรณีที่กู้เต็มนะ)
ห้องโล่ง ๆ มีแค่กล่องกุญแจ กับหนังสือสัญญาซื้อขาย เอกสาร บลา ๆ แต่ก็แอบภูมิใจอยู่นะ
จัดการเปลี่ยนเรนชาวเวอร์ซะ ได้มาจาก Homeworks Expo แต่น้ำก็พอประมาณ ไม่ได้ไหลสะใจแบบในฟิตเนส
ซื้อแผ่น floor set มาจากงานบ้านและสวน วัสดุเป็นไฟเบอร์ซีเมนต์ มาวางทับไป เก๋ด้วย (คิดเอาเอง) ลดการสัมผัสฝ่าเท้ากับกระเบื้องที่ทำให้พื้นดำ ๆ ไป ฟินไปอีกดอก แต่ตอนรื้อมาขัดนี่ไม่ได้คิดสินะ !!!
ระเบียงและเครื่องซักผ้า ปลูกต้นไม้โรยกรวดเพื่อความเก๋ แต่ต้องสั่งตัดแผ่นอะคริลิกมาแปะช่องระเบียงกันกรวดร่วงใส่ชาวบ้าน
กิจกรรมแมน ๆ วันหยุดปีใหม่ด้วยการประกอบเฟอร์ ใครจะรู้ว่าไอ้ตู้สีฟ้า ๆ นั่น ประกอบยากกว่าโชฟาอีกนะ !!!!!
เริ่มดูเป็นห้องละ
ติดวอลเปเปอร์ฝั่งโซฟาให้เป็นสีเทา และเน้นสีเทาเข้มที่เสาที่ยื่นออกมา
อันนี้เป็นค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ รวมทั้งหมดจากห้องโล่ง ๆ ตัดเครื่องใช้ไฟฟ้าไปก็อยู่ประมาณ 160,000 แถมมีของที่ซื้อมาไม่ได้ใช้บางส่วนเหมือนกัน ก็ลองดูเป็นไอเดียสำหรับการเตรียมงบไว้ตกแต่งห้องกันครับ บางส่วนเป็นรายจ่ายที่คาดไม่ถึงว่า มันจะแพง (อย่างเช่น ม่าน) หรือที่อยากได้ของดี ๆ ก็เลยแพง (ที่นอน พวกตกแต่ง ๆ) ก็ลอง balance กันดูครับ ระหว่างของ function กับส่วนที่สนองนี้ด