x close

เลือกเฟอร์นิเจอร์ห้องทำงานยังไง ถึงจะเพอร์เฟคท์

เลือกเฟอร์นิเจอร์ห้องทำงานยังไง ถึงจะเพอร์เฟคท์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         ใครที่งานยุ่งล้นมือ จนต้องหอบกลับมาทำที่บ้านอยู่บ่อย ๆ ก็คงแบ่งห้องทำงานเอาไว้แล้ว หรืออย่างน้อย ๆ ก็ต้องกันมุมสงบ ๆ ในบ้านมาทำเป็นห้องทำงานแน่ ๆ แต่ถ้ายังไม่ได้จัดห้องทำงานเป็นกิจจะลักษณะ จนดูเหมือนจะขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้าง และกำลังอยากจะหาเฟอร์นิเจอร์มาเพิ่มเติมในห้องทำงานสักหน่อย ถ้าอย่างนั้นมาดูวิธีเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานให้เพอร์เฟคท์กันก่อนดีกว่าค่ะ

1. วัดขนาดพื้นที่ของห้อง

         หลังจากที่เคลียร์ห้องจนโล่งเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ควรต้องกะขนาดพื้นที่ของห้องคร่าว ๆ ก่อน เพื่อให้เราสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ขนาดที่เหมาะสมได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรวัดขนาดห้องไปให้ชัดเจน เพราะอย่าลืมว่าแค่ตาเปล่าเราอาจจะกะขนาดห้องผิดเพี้ยนไป จนคิดว่าห้องโล่ง ๆ ที่เห็นด้วยตาในตอนนี้มีขนาดกว้างมาก ก็เลยเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ มาไว้ในห้องทำงานซะเลย และสุดท้ายก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่า แค่วางโต๊ะทำงานตัวเดียวก็เต็มคับห้องแล้ว นอกจากนี้ควรคำนึงแสงสว่างภายในห้องด้วย ถ้าในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ แต่หันหน้าไปทางทิศที่แดดตอนบ่ายส่องเข้ามาเต็ม ๆ ก็ควรหาซื้อม่าน หรือมู่ลี่มาติดกันแดดด้วย และอย่าลืมติดตั้งแอร์ หรือหาพัดลมมาไว้ระบายอากาศสักตัวนะจ๊ะ

2. ประมาณเวลาและความถี่ที่ใช้ห้อง

         ก่อนจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ห้องทำงาน ให้คุณนึกถึงช่วงเวลาที่ต้องนั่งทำงานและความถี่ของการใช้ห้องทำงานด้วย โดยเฉพาะคนที่จำเป็นต้องนั่งทำงานต่อเนื่องกันนาน ๆ ทั้งที่ออฟฟิศ และในห้องทำงานที่บ้าน ก็ควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่อำนวยความสะดวกกับร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โต๊ะก็ควรมีความสูงพอดี เก้าอี้ก็ต้องนั่งสบาย ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระร่างกายได้อย่างเหมาะเจาะ แต่ถ้าคุณใช้ห้องทำงานแค่เช็กอีเมลล์ หรือเก็บตกงานที่ค้างจากออฟฟิศเพียงเล็กน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเก้าอี้ราคาแพงขนาดนั้นก็ได้

3. ดูงบประมาณ

         จริง ๆ ถ้าในบ้านมีเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่สามารถดัดแปลงมาใช้ในห้องทำงานได้ก็จะดีมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็คงต้องเตรียมงบประมาณเอาไว้บางส่วน ในกรณีที่ต้องหาซื้ออุปกรณ์สำนักงานมาใช้เพิ่มเติม เช่น ตู้เก็บเอกสาร โต๊ะทำงาน และเก้าอี้ทำงาน เป็นต้น ซึ่งถ้ามีงบประมาณมากหน่อยก็คงไม่ต้องกังวลอะไร แต่ถ้ามีงบน้อย แนะนำให้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์จากร้านขายเฟอร์นิเจอร์มือสองแทน เพราะตลาดเฟอร์นิเจอร์มือสองเหล่านี้ จะมีเฟอร์นิเจอร์เก่ามากมายให้เราได้เลือกหา และบางทีก็อาจจะได้อุปกรณ์สำนักงานดี ๆ ติดมือกลับมาด้วยนะ

4. ใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์

         ในกรณีที่ขนาดห้องไม่เอื้ออำนวยมากนัก ก็ควรหาทางออกด้วยการใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น หลังตู้เก็บเอกสาร หรือหลังตู้หนังสือ อาจจะโล่งพอให้วางพรินเตอร์ หรืออุปกรณ์สำนักงานชิ้นอื่น ๆ ส่วนที่ว่างข้างโต๊ะทำงาน ก็อาจจะวางชั้นเก็บเอกสารเล็ก ๆ หรือโทรศัพท์บ้านก็ได้ รู้จักดัดแปลงพื้นที่ใช้สอยได้อย่างนี้ ก็จะช่วยประหยัดทั้งพื้นที่และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นอีกด้วยค่ะ

5. จัดตามสไตล์การตกแต่ง

         ความสวยงามของการตกแต่งควรต้องอาศัยความเข้ากันดี เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยดูตามหลักการตกแต่งบ้านของคุณเอง ว่ามีสไตล์การตกแต่งเป็นแบบไหน แนววินเทจ โมเดิร์น หรือแนวร่วมสมัย ซึ่งก็ควรหาซื้อเฟอร์นิเจอร์แนวที่เข้ากันมาตกแต่งห้องทำงาน และไม่ต้องกลัวว่าถ้าอิงตามสไตล์การตกแต่งแล้วจะหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่สะดวกสบายไม่ได้ เพราะปัจจุบันนี้เฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีก็มีการออกแบบที่หลากหลายมากขึ้น จนคุณตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลยล่ะ

6. นั่งสบายและเหมาะกับตัว

         ห้องทำงานมีไว้สำหรับทำงานจริง ๆ ดังนั้นคุณก็ควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ตัวเองนั่งแล้วสบายตัวที่สุด หากเป็นคนสูง ก็ต้องเลือกซื้อโต๊ะเก้าอี้ที่ค่อนข้างสูงตามไปด้วย เวลาทำงานจะได้ไม่ต้องก้มมากจนปวดหลัง หรือถ้าเป็นคนตัวเล็ก ก็ควรเลือกซื้อโต๊ะขนาดพอดีกับความสูงของตัวเองในขณะที่คุณนั่ง และเลือกซื้อเก้าอี้ที่สามารถปรับระดับความสูงได้ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายตลอดเวลาของการนั่งทำงานในบ้านนะคะ


         ลำพังแค่นั่งทำงานก็ก่อความเครียดได้ไม่น้อยอยู่แล้ว ฉะนั้นเราจึงต้องเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานที่เสริมความสบายให้เราได้มากที่สุด รวมถึงควรต้องใส่ใจการตกแต่งห้องทำงานด้วยนะคะ ทั้งแสงสว่าง ความโปร่ง การระบายอากาศ และอุณภูมิภายในห้อง หรือจะนำวิทยุ และเครื่องเล่น MP3 เข้าไปไว้ในห้องทำงานด้วยก็ได้ เวลานั่งทำงานจะได้มีรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นยังไงล่ะ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เลือกเฟอร์นิเจอร์ห้องทำงานยังไง ถึงจะเพอร์เฟคท์ อัปเดตล่าสุด 30 สิงหาคม 2556 เวลา 18:16:38 2,411 อ่าน
TOP