5 วิธีป้องกันงูในชักโครกหรือโถส้วม เคล็ดลับลดความเสี่ยงก่อนโดนอสรพิษทำร้าย พร้อมไขข้อสงสัยคาใจ งูเข้าบ้านได้อย่างไร ? ถ้าเจองูในห้องน้ำทำไงดี ?
งูเข้าบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครอยากเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ห้องน้ำ ห้องที่มีไว้เพื่อปลดทุกข์ แต่ดันมีข่าวออกมาว่าเป็นห้องที่เจองูบ่อยสุดซะอย่างนั้น ฉะนั้นงานนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอรวบรวมวิธีป้องกันงูเข้าห้องน้ำหรืองูเข้าโถส้วมมาฝาก จะได้ช่วยให้ทุกคนทำภารกิจได้อย่างสบายใจ ปลอดภัยจากอสรพิษร้ายมากยิ่งขึ้น ทว่าก่อนอื่นเรามาดูสาเหตุที่มักจะมีงูเข้าชักโครก และวิธีรับมือเมื่อเจองูในชักโครกกันหน่อยดีกว่าค่ะ
งูเข้าชักโครกได้อย่างไร ?
การที่งูเข้าไปอยู่ในชักโครกหรือห้องน้ำ สามารถเกิดขึ้นได้หลายกรณี คือ
1. มาจากท่อระบายน้ำที่มีรูแตก
ปิดฝาไม่สนิท และไร้การป้องกัน ซึ่งปกติงูมักจะมาหาหนูกินบริเวณนี้ จึงทำให้มีโอกาสเลื้อยเข้ามาในท่อที่เป็นแหล่งอาหาร และโผล่มาจนถึงชักโครกได้ ส่วนใหญ่มักจะพบที่ห้องน้ำชั้นล่างบ่อยที่สุด
2. มาจากช่องระบายอากาศบนเพดานหรือหลังคา
งูสามารถเลื้อยเกาะเกี่ยวต้นไม้หรืออะไรก็ได้บริเวณนั้น แล้วทะลุเข้าไปในท่อระบายอากาศ และแอบเลื้อยเข้ามาในบ้าน หรือทะลุลงไปสู่ท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกัน และโผล่ขึ้นมาในชักโครกได้
3. มาจากการเปิดประตู-หน้าต่างห้องน้ำทิ้งไว้
จนทำให้งูแอบเลื้อยเข้ามาหลบ และเมื่อพวกมันร้อนก็จะหนีลงไปหาน้ำในชักโครกนั่นเอง
เจองูในชักโครก ทำอย่างไรดี ?
ถ้าหากเจองูในห้องน้ำ ขั้นแรกต้องรีบตั้งสติ แล้วปิดฝาชักโครกทันที จากนั้นหาของหนัก เช่น กล่องใส่ของหรืออิฐ มาวางทับไว้ด้านบน แล้วปิดประตู-หน้าต่างให้สนิท ก่อนจะโทร. เรียกผู้เชี่ยวชาญมาจับออกไป
ทั้งนี้ ถ้าหากโชคร้ายถูกงูกัดไปแล้ว ให้รีบล้างแผลแล้วไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นงูมีพิษ หรือไม่มีพิษ ก็เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เหมือนกัน
วิธีป้องกันงูในชักโครก
1. ติดตาข่ายหรือตะแกรงที่ท่อระบายน้ำ
วิธีป้องกันงูในชักโครกที่ง่ายที่สุด ต้องยกให้กับการหาอุปกรณ์ เช่น ตาข่าย ตะแกรง มุ้งลวด มาติดปิดปากท่อระบายน้ำเอาไว้ เพื่อช่วยบล็อกไม่ให้งู รวมถึงสัตว์อื่น ๆ เช่น หนู กบ เล็ดลอดเข้ามา แต่ก็ยังปล่อยให้ท่อระบายน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้ ควรหมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดบริเวณปากท่ออยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลให้การไหลเวียนมีปัญหา ติดขัด ทำงานช้า และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
2. ติดปล่องระบายอากาศบนหลังคา
นอกจากจะติดตาข่าย ตะแกรง มุ้งลวด ที่ปากท่อระบายน้ำแล้ว อย่าลืมติดลูกหมุนหรือปล่องระบายอากาศที่ปากท่อระบายอากาศบนหลังคาด้วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้งูหรือสัตว์ตัวอื่นเลื้อยเข้ามาจากด้านบนได้ แถมยังเป็นการช่วยถ่ายเทอากาศภายในบ้านให้ดีขึ้นอีกด้วย
3. สำรวจท่อระบายและบริเวณรอบบ้าน
หมั่นสำรวจตรวจสอบท่อระบายน้ำและท่อระบายอากาศอยู่เสมอ เพราะถ้าหากมีปัญหาก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายได้ ไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังต้องคอยตรวจสอบฝาปิด รูรั่ว และช่องโหว่รอบบ้าน ไม่ว่าจะบนผนัง กำแพง หรือท่อระบายน้ำ เพราะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้งูเข้ามาภายในห้องน้ำและห้องอื่น ๆ นั่นเอง และก็แน่นอนว่าถ้าหากพบจุดเสี่ยงต่าง ๆ แล้วละก็ ควรหาทางแก้ไขและซ่อมแซมทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้เสี่ยงมากขึ้น
4. กำจัดหนูหรือจิ้งจก
อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยป้องกันงูในชักโครกก็คือ การกำจัดสัตว์ตัวเล็ก ๆ อย่างหนูหรือจิ้งจก ไม่ให้มีแหล่งอาหารของงู อย่าให้มีเล็ดลอดอยู่ในบ้าน เช่น ปิดฝาถังขยะให้มิดชิด เก็บกวาดบ้านให้สะอาด ไม่ให้รก ไม่ให้มีกลิ่นเหม็น หรือบางทีอาจจะใช้กับดักเข้ามาช่วย
5. ใช้อุปกรณ์ป้องกันงู
ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ผู้ผลิตต่าง ๆ จึงมีไอเทมช่วยป้องกันงูออกมา ช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น อย่างท่อกันงูหรือกล่องกันงู ฉะนั้นใครอยากจะสบายใจหรือหาทางป้องกันตั้งแต่ต้น ก็ลองศึกษาหาข้อมูลและไปหาซื้อมาใช้กันดูนะคะ
มาถึงตอนนี้ ทุกคนคงจะพอได้ไอเดียป้องกันงูเข้าบ้าน งูเข้าห้องน้ำกันไปพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากเคล็ดลับทั้งหมดแล้ว อย่าลืมเปิดไฟ สังเกตและตรวจเช็กก่อนใช้งานชักโครก หรือเวลาเข้าห้องน้ำทุกครั้งด้วย จะได้ช่วยให้ปลอดภัยและขับถ่ายได้สุขใจมากยิ่งขึ้นนั่นเอง อ้อ แล้วถ้าหากใครอยากเช็กจุดเสี่ยงที่งูชอบเข้าบ้าน หรือวิธีป้องกันงูเข้าบ้านอื่น ๆ ละก็ สามารถตามไปดูเพิ่มเติมได้ที่