วิธีซักผ้าให้หอม ติดทนนาน คงกลิ่นหอมสดชื่นทั้งวัน เพิ่มความมั่นใจทุกย่างก้าว พร้อมสาเหตุที่ซักผ้าแล้วไม่หอมเพราะทำสิ่งนี้
เวลาใส่เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมจะช่วยเสริมบุคลิกภาพ ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งการซักผ้าให้หอมสามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่ต้องง้อร้านซักรีด วันนี้เรามีวิธีซักผ้าให้หอมติดทนนานมาฝาก รวมทั้งสาเหตุที่ทำให้ผ้าไม่หอมด้วย
ทำไมซักผ้าแล้วผ้าไม่หอม
ทิ้งผ้าในเครื่องซักผ้านานเกินไป
หากลืมผ้าในเครื่องซักผ้านานเกินไปอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ เนื่องจากเสื้อผ้ามีความชื้นอยู่รวมกันและเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้น ถ้าซักผ้าเสร็จแล้วควรรีบนำออกมาใส่เครื่องอบผ้าหรือนำไปแขวนตากแดดหรือผึ่งลมทันที
ไม่ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
การละเลยทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอาจเป็นต้นเหตุของผ้ามีกลิ่นอับ มีสิ่งสกปรกหรือผงซักฟอกติดเสื้อผ้า และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อราและเชื้อโรคต่าง ๆ ดังนั้น ควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก นอกจากจะช่วยให้เสื้อผ้าสะอาด ไม่มีกลิ่นอับแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าด้วย
ใช้น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป
การใช้น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไปไม่ได้ช่วยทำให้เสื้อผ้าสะอาดและมีกลิ่นหอมสดชื่น เพราะแทนที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจะกลายเป็นว่ายิ่งทำให้ความสกปรกเกาะเส้นใยผ้าและทิ้งคราบขาวบนเสื้อผ้า รวมทั้งอาจเกิดก้อนเหนียวติดอยู่ในถังซักผ้า เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อแบคทีเรียในระยะยาว ดังนั้น ควรใส่น้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่องตามปริมาณที่แนะนำ เพราะได้ถูกคิดคำนวณมาอย่างดีแล้วจากผู้ผลิตเครื่องซักผ้า
มีคราบสกปรกฝังแน่นบนเสื้อผ้า
เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ทุกวันมีคราบเหงื่อไคล ถ้าซักไม่สะอาดและสะสมไปเรื่อย ๆ จะเกิดกลิ่นอับถาวรและเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ดังนั้น ควรซักโดยเน้นดูแลบริเวณปกเสื้อและใต้วงแขน รวมทั้งควรนำเสื้อผ้าไปซักทันทีถ้ามีเหงื่อออกมาก
วิธีซักผ้าให้หอมติดทนนาน
1. เบกกิ้งโซดา
นำเบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง ผสมกับผงซักฟอกก่อนนำไปซักผ้า จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นบนเสื้อผ้า รวมทั้งทำให้เสื้อผ้ามีความนุ่มขึ้น
2. น้ำส้มสายชู
ใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาปรับผ้านุ่มขณะซักผ้า เนื่องจากน้ำส้มสายชูจะช่วยดับกลิ่นอับและทำให้ผ้านุ่ม แต่ควรทำเพียงเดือนละ 2 ครั้ง เนื่องจากชิ้นส่วนที่เป็นยางยืดหรือผ้าที่บอบบางอาจเสื่อมสภาพได้
3. อย่าใส่ผงซักฟอกจนล้น
การใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้ามากเกินไปจนล้นไม่ช่วยทำให้เสื้อผ้าสะอาด เนื่องจากน้ำที่ปล่อยออกมาจากเครื่องซักผ้าอาจไม่มากพอทำความสะอาด ทำให้เกิดคราบสกปรกสะสมในเส้นใยผ้าและกลิ่นจะติดทนนานยากที่จะเอาออก
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นธรรมชาติ
ควรใช้น้ำยาซักผ้าออร์แกนิก เนื่องจากไม่มีสารเคมี ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง และควรเลือกกลิ่นธรรมชาติ เช่น ลาเวนเดอร์ ดอกคาโมมายล์ เป็นต้น
5. ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าหากใช้บ่อยครั้งและรู้สึกว่าผ้าเริ่มมีกลิ่นเหม็นอับจากการซัก ให้ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาซักผ้าขาวหรือน้ำส้มสายชู 1-2 ถ้วย เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นอับ โดยใช้โปรแกรม Clean Washer หรือ Sanitize หากไม่มีให้ใช้โปรแกรมซักที่ยาวที่สุด รวมทั้งทำความสะอาดซอกต่าง ๆ ในเครื่องซักผ้า ถ้าใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้าให้ทำความสะอาดแผ่นยางตรงขอบฝาหน้าด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำชุบหมาด ๆ เช็ดคราบออกไป
6. ซักผ้าด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ
การซักผ้าด้วยน้ำร้อนจะทำให้ความเข้มข้นของกลิ่นหอมลดลง และผ้าบางชนิดอาจหดตัวหรือถูกทำลายได้ อีกทั้งผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าบางชนิดเหมาะกับน้ำเย็นเท่านั้น
7. ควรรีบซักชุดออกกำลังกาย
เสื้อผ้าที่ใช้ออกกำลังกายมีเหงื่อออกเยอะไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในตะกร้านาน เนื่องจากความสกปรกจะกำจัดออกยากและเกิดกลิ่นเหม็นอับได้
ถ้าอยากให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมติดทนนานลองทำตามวิธีที่เราแนะนำข้างต้นได้เลย พร้อมหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผ้าไม่หอมด้วยนะคะ