ไขข้อข้องใจ…แก้วเก็บความเย็น รักษาอุณหภูมิไว้นาน ๆ ได้ยังไง เอามาใส่น้ำอัดลมได้ไหม อันตรายหรือเปล่า มาหาคำตอบกัน

แก้วเก็บความเย็น หรือ แก้วเก็บอุณหภูมิ สามารถใช้เก็บได้ทั้งเครื่องดื่มเย็นและร้อนหลายชนิด แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่าแก้วเก็บความเย็นใส่น้ำอัดลมได้หรือเปล่า จะเกิดอันตรายไหม สำหรับใครที่อยากรู้เราหาคำตอบมาฝากแล้ว รวมถึงวิธีเลือกและวิธีทำความสะอาดแก้วเก็บความเย็นด้วย
แก้วเก็บความเย็น ทำจากอะไร
แก้วเก็บความเย็น หรือ แก้วเก็บอุณหภูมิ ทำจากสเตนเลสฟู้ดเกรด (Food Grade) ที่ทนต่อการเป็นสนิม ประกอบด้วย 2 ชั้นซ้อนกัน ตรงกลางมีช่องว่างเป็นฉนวนสุญญากาศ ทำให้สามารถเก็บความร้อนและความเย็นได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง
แก้วเก็บความเย็น ทำจากสเตนเลสชนิดใด

สเตนเลสฟู้ดเกรด (Food Grade) ที่นิยมนำมาผลิตแก้วเก็บอุณหภูมิ มี 2 ชนิด คือ เกรด 304 และ 316 ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
- สเตนเลสเกรด 304 (SUS 304) มีส่วนผสมของโครเมียม 18% และนิกเกิล 8% สามารถทนทั้งกรดและด่างได้ดี
- สเตนเลสเกรด 316 (SUS 316) มีส่วนผสมของโครเมียม 16% นิกเกิล 10% และโมลิบดีนัม 2% สามารถทนทั้งกรด-ด่างและเกลือได้ดี
เราสามารถเช็กชนิดสเตนเลสที่ใช้ได้จากฉลากของสินค้า ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ ก็จะมีการพิมพ์สัญลักษณ์เป็นลายนูนเอาไว้บนตัวแก้ว โดยผู้ผลิตส่วนใหญ่จะใช้ เกรด 304 (SUS 304) กันมากกว่า เพราะไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อนสูง และเป็นวัสดุที่มีความทนทานเพียงพอเหมาะกับการใช้งานทั่วไป
ในขณะที่สเตนเลสเกรด 316 (SUS 316) ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่า เพราะมีส่วนผสมของโมลิบดีนัมเพิ่มเข้ามา แต่ก็มีราคาสูงกว่าเกรด 304 ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ในอุตสาหกรรมหนัก เช่น อุตสาหกรรมเคมีและกลุ่มเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น
แก้วเก็บความเย็น ใส่น้ำอัดลมได้ไหม

ในน้ำอัดลมมีค่า pH อยู่ที่ประมาณ 2.38-3.70 มีฤทธิ์เป็นกรดที่อาจกัดกร่อนสเตนเลสหรืออาจทำปฏิกิริยากับโลกที่อาจส่งผลเสียในระยะยาว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีค่าความเป็นกรดสูงอย่างเช่นน้ำมะนาว ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใส่น้ำอัดลมลงในแก้วเก็บอุณหภูมิ หรือหากจำเป็นควรเลือกใช้แก้วเก็บอุณหภูมิที่ทำจากสเตนเลสเกรด 304 หรือสูงกว่า เพราะทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี หรือเช็กรายละเอียดจากคู่มือการใช้จะดีกว่าว่าสามารถใส่หรือห้ามใส่เครื่องดื่มอะไรบ้าง
แก้วเก็บความเย็น

วิธีเลือกแก้วเก็บอุณหภูมิให้เช็กที่วัสดุ ควรใช้สเตนเลสฟู้ดเกรด เช่น เกรด 304 หรือ 316 ที่สำคัญคือควรใช้งานตามคำแนะนำการใช้แก้วเก็บอุณหภูมิของรุ่นนั้น ๆ ว่าสามารถใส่เครื่องดื่มชนิดไหนได้บ้าง และใช้กับเครื่องดื่มอุณหภูมิกี่องศา นอกจากนี้ดูที่ปริมาณและดีไซน์ของแก้วให้เหมาะกับการใช้งาน รวมไปถึงการเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีการผลิตที่มีคุณภาพ และราคาไม่ถูกจนผิดปกติมากเกินไป เพราะอาจทำให้ได้ของที่ไม่มีคุณภาพ
วิธีล้างแก้วเก็บความเย็น

ควรล้างแก้วเก็บความเย็นหลังการใช้งานทุกครั้ง โดยใช้ฟองน้ำนุ่ม ๆ กับน้ำยาล้างจานในการทำความสะอาดคราบต่าง ๆ และป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน โดยเฉพาะบริเวณขอบยางที่ฝาแก้วเพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อราและเชื้อโรคมาสะสม หลังจากทำความสะอาดแล้วควรเช็ดให้แห้งก่อนนำไปเก็บ ป้องกันไม่ให้มีกลิ่นอับภายหลัง ที่สำคัญคือหากสังเกตเห็นสนิมแม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ หรือคราบที่ฝังแน่น ควรเปลี่ยนแก้วใบใหม่เพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า
แก้วเก็บความเย็นเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่หลายคนขาดไม่ได้เลย แต่อย่างไรก็ดี อย่าลืมอ่านฉลากและปฏิบัติตามวิธีการใช้ด้วยนะคะ โดยเฉพาะชนิดและอุณหภูมิของเครื่องดื่มที่นำมาใส่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ จะได้ใช้แก้วไปนาน ๆ