9 เครื่องลดความชื้น ลดกลิ่นเหม็นอับในบ้าน พร้อมป้องกันเชื้อราช่วงหน้าฝน
เครื่องลดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ? มาดู 9 เครื่องลดความชื้นพร้อมฟังก์ชันที่น่าสนใจจากแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงวิธีเลือกก่อนตัดสินใจซื้อและประโยชน์ของเครื่องลดความชื้น ที่บอกเลยว่าโดนใจคนรักสุขภาพอย่างแน่นอน

นอกจากเครื่องฟอกอากาศแล้ว ก็มี เครื่องลดความชื้น หรือ เครื่องดูดความชื้น อีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาแรงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราตามเพดาน ผนัง เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ต่าง ๆ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ แถมทำให้เสื้อผ้าของเราไม่แห้งอีกต่างหาก วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปทำความรู้เครื่องลดความชื้นกัน ตั้งแต่ระบบการทำงาน วิธีเลือกซื้อ การติดตั้งและการดูแล รวมไปถึงเครื่องลดความชื้นจากแบรนด์ต่าง ๆ
เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier) อุปกรณ์ช่วยลดความชื้นอากาศภายในห้อง โดยการดูดอากาศเข้าไปในตัวเครื่องผ่านแผงคอยล์เย็น แล้วกลั่นความชื้นในอากาศให้กลายหยดน้ำไปเก็บไว้ในแทงก์หรือระบายออกทางท่อน้ำทิ้ง ก่อนปล่อยอากาศแห้งออกมาแทนที่
ประโยชน์ของเครื่องลดความชื้น นอกจากจะช่วยป้องกันปัญหาที่เกิดจากความชื้น เช่น กลิ่นอับ สนิม และเชื้อราตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะบริเวณผนังและเพดานแล้ว ยังช่วยลดการสะสมของฝุ่น เชื้อโรค และแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุของสารก่อภูมิแพ้ แถมบางยี่ห้อยังมีฟังก์ชันที่ช่วยทำให้เสื้อผ้าที่ตากไว้แห้งไวขึ้นอีกด้วย
- ขนาด : เลือกให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะระบุมากับตัวเครื่องอยู่แล้ว แต่ถ้าหากใช้ขนาดเครื่องลดความชื้นเล็กหรือใหญ่เกินไป ก็จะทำให้อุปกรณ์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แถมยังเปลืองไฟอีกด้วย
- ฟังก์ชัน : เพราะบางยี่ห้อมีแค่ฟังก์ชันเดียว แต่บางยี่ห้อมีฟังก์ชันอื่น ๆ เสริมเข้ามาด้วย เช่น ระบบฟอกอากาศ โหมดตากผ้า การปรับระดับความเร็วพัดลม การตั้งเวลาการทำงาน ตามปกติแล้วยิ่งมีฟังก์ชันเยอะราคาก็จะสูงตามไปด้วย ฉะนั้นควรเลือกเครื่องที่มีฟังก์ชันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ก็จะช่วยประหยัดงบและใช้งานได้คุ้มค่ามากกว่า
- งบประมาณ : จะช่วยให้เลือกรุ่นเครื่องดูดความชื้นที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ และตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็นออกได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ดีควรดูควบคู่ไปกับบริการหลังการขายด้วย เช่น การซ่อมบำรุงและประกันต่าง ๆ

-
หลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่มีแสงแดดหรืออยู่ใกล้ความร้อน
-
ไม่ควรเคลื่อนย้ายหรือยกขณะเครื่องกำลังทำงาน
-
วางให้ห่างจากผนังประมาณ 30 เซนติเมตร
-
ควรติดตั้งฝั่งตรงข้ามกับเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มที่
-
ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหากต้องการเปลี่ยนหรือทำความสะอาดแทงก์น้ำ
-
หมั่นเช็ดตัวเครื่องภายนอกด้วยผ้าสะอาดสัปดาห์ละครั้ง
-
ทำความสะอาดแผ่นกรองเดือนละครั้ง และแผงคอยล์เย็นทุก 6 เดือน
1. เครื่องลดความชื้น G.M.S รุ่น H2105
เครื่องลดความชื้นสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 25 ตารางเมตร กำลังไฟ 45 วัตต์ มีเสียงขณะระบบทำงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 45 เดซิเบล พร้อมแทงก์เก็บน้ำความจุถึง 800 มิลลิลิตร ขนาดกะทัดรัด ติดตั้งง่าย ช่วยลดความชื้นในห้องได้ รวมถึงป้องกันการเกิดกลิ่นับและลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา แบคทีเรีย และไรฝุ่นต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ราคา 1,279 บาท
2. เครื่องลดความชื้น Hanabishi รุ่น HDF-20M
เครื่องลดความชื้นสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 10-20 ตารางเมตร จุน้ำได้ 1 ลิตร ช่วยลดการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียต่าง ๆ ป้องกันของใช้ในบ้าน อาทิ เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย สามารถตั้งเวลาได้ 2 แบบ คือ 6 กับ 12 ชั่วโมง และหยุดทำงานอัตนมัติเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ราคา 1,448 บาท
3. เครื่องลดความชื้น Lumina รุ่น Q1
เครื่องลดความชื้นสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร กำลังไฟ 23 วัตต์ ระดับเสียงเมื่อเครื่องทำงาน 35 เดซิเบล ตัวเครื่องภายนอกทำจากพลาสติก ABS ที่มีความทนทาน แข็งแรง ทำความสะอาดง่าย มีขนาดกะทัดรัดวางได้ทุกพื้นที่ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น สามารถดูดความชื้นได้ที่ 300 มิลลิลิตรต่อวัน ราคา 2,590 บาท
4. เครื่องลดความชื้น Finday รุ่น Q10
เครื่องฟอกอากาศที่มาพร้อมระบบลดความชื้นในอากาศ กำลังไฟ 45 วัตต์ เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร ทำงานเงียบด้วยเสียงไม่เกิน 45 เดซิเบล สามารถดูดความชื้นได้ 700 มิลลิลิตรต่อวัน มาพร้อมแทงก์เก็บน้ำขนาด 1 ลิตร โดยจะดูดความชื้นที่อุณหภมูิ 5-50 องศาเซลเซียส เลือกความเร็วของพัดลมได้ 3 ระดับ และตั้งเวลาการทำงานได้ล่วงหน้า ราคา 4,900 บาท
5. เครื่องลดความชื้น LocknLock รุ่น ENP136WH
เครื่องลดความชื้นแบบ 2 in 1 มาพร้อมระบบฟอกอากาศในตัว กำลังไฟ 45 วัตต์ ปรับค่าความชื้นได้ 10-50% เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร ทำงานด้วยเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ไม่มีสารเคมีและสารฟลูออโรคาร์บอน มีแทงก์น้ำแยกส่วนถอดล้างทำความสะอาดได้ และหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อแทงก์น้ำเต็ม ปรับความเร็วพัดลมได้ 3 ระดับ ราคา 5,490 บาท
6. เครื่องลดความชื้น Hafele
เครื่องลดความชื้นสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร กำลังไฟ 320 วัตต์ มีเสียงขณะระบบทำงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 48 เดซิเบล พร้อมแทงก์เก็บน้ำความจุถึง 6.5 ลิตร ไม่ต้องเททิ้งบ่อย และระบบตัดอัตโนมัติเมื่อน้ำในถังเต็ม มีไฟแสดงสถานะขณะทำงาน ตัวเครื่องทำจากพลาสติก ABS ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ราคา 6,999 บาท
7. เครื่องลดความชื้น Bwell รุ่น BDH-30
เครื่องลดความชื้นสำหรับห้องที่มีขนาด 30-50 ตร.ม. กำลังไฟ 650 วัตต์ ปรับค่าความชื้นได้ 30-80% สามารถดูดความชื้นได้ 30 ลิตรต่อวัน และถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ถึง 4 ลิตร มีระบบระบายน้ำอัตโนมัติภายใน 5 นาที มีหน้าจอดิจิทัลแสดงความชื้น 3 ระดับ พร้อม 3 โหมดการทำงาน ได้แก่ ดูดความชื้น พัดลม และตากผ้า สามารถตั้งเวลาการทำงานล่วงหน้าได้ 24 ชั่วโมง แจ้งเตือนเมื่อถังน้ำเต็ม พร้อมระบบล็อกป้องกันเด็ก ราคา 17,990 บาท
8. เครื่องลดความชื้น Taurus รุ่น DH201
เครื่องลดความชื้นสำหรับห้องที่มีขนาด 32-38 ตร.ม. กำลังไฟ 650 วัตต์ สามารถดูดความชื้นได้ 20 ลิตรต่อวัน มีแผงควบคุมการทำงานแบบดิจิทัล มีระบบระบายน้ำต่อเนื่อง และแจ้งเตือนเมื่อน้ำเต็ม ราคา 21,900 บาท
9. เครื่องลดความชื้น Bionaire รุ่น BDQ-24
เครื่องลดความชื้นสำหรับห้องที่มีขนาด 40 ตร.ม. สามารถดูดความชื้นได้ 24 ลิตรต่อวัน ภายในมีทั้งแผ่นกรองไนลอนช่วยดักฝุ่น และไส้กรองคาร์บอนกำจัดกลิ่นเหม็นและกลิ่นบุหรี่ แสดงผลการทำงานและระดับความชื้นผ่านหน้าจอ LED มีระบบแจ้งเตือนและปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อถังน้ำเต็ม พร้อมล้อเลื่อนเพื่อให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกขึ้น ราคา 26,500 บาท
ช่วงหน้าฝนแบบนี้หากรู้ว่า อากาศในบ้านอับชื้นกลัวจะมีเชื้อราในบ้าน ก็ลองหาเครื่องลดความชื้นมาใช้ที่บ้านกันดูนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ที่มากับความชื้น ไม่ว่าเป็นกลิ่นอับ เชื้อโรค สนิมหรืออื่น ๆ ได้แล้ว ยังช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ได้อีกด้วยนะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sci.psu.ac.th, choosedehumidifier.co.uk, homepro.co.th (1) (2), powerbuy.co.th (1) (2) (3), central.co.th, locknlock.co.th, hafelehome.co.th และ bwellairpurifier.com