จัดสวนถาดเองง่าย ๆ เนรมิตสวนขนาดกะทัดรัดลงในภาชนะ โดยใช้พรรณไม้ขนาดเล็ก สามารถวางตกแต่งห้องต่าง ๆ เพิ่มความสดชื่นมีชีวิตชีวา ใครที่มีบ้านพื้นที่น้อยและมนุษย์คอนโด แต่อยากมีพื้นที่สวนสวย ๆ เพื่อผ่อนคลายสายตา วันนี้เรามีไอเดียจัดสวนถาดมานำเสนอ แม้จะเป็นสวนขนาดเล็กในภาชนะ แต่ก็ดูแลง่าย ออกแบบได้เอง สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องต่าง ๆ แถมราคาประหยัดกว่าสวนขนาดจริงอีกด้วย การจัดสวนถาด คือ การจัดสวนบนพื้นที่จำกัด โดยการจำลองธรรมชาติมาไว้ในภาชนะขนาดเล็ก สำหรับตกแต่งบ้านหรือโต๊ะทำงาน จากการใช้พรรณไม้ขนาดเล็กมาจัดเรียงในกระถางให้เป็นเรื่องราวหรือตามจินตนาการ พร้อมกับนำสิ่งของอื่น ๆ มาตกแต่ง เพื่อเพิ่มสีสันและความสวยงามยิ่งขึ้น สวนถาดแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ สวนถาดแบบชื้นและสวนถาดแบบแห้ง โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้ สวนถาดแบบชื้น คือ การจัดสวนด้วยต้นไม้ต้องการน้ำ เช่น หญ้ามอสส์ โดยต้องมีการรดน้ำตามปกติ ถาดมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา เหมาะกับคนที่มีเวลาดูแล สวนถาดแบบแห้ง คือ การจัดสวนด้วยต้นไม้ที่ไม่ชอบน้ำหรือไม่ต้องการน้ำมาก เช่น กระบองเพชร เน้นหิน กรวด ถาดมีความแห้ง โดยเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล 1. เลือกตามความต้องการแสง การจัดต้นไม้ในถาดเดียวกันควรใช้ต้นไม้ที่ต้องการแสงมากน้อยเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน สะดวกต่อการดูแล หากปลูกในบ้านหรือบริเวณที่มีแสงน้อยควรเลือกไม้ร่ม เช่น เฟิร์น ลิ้นมังกร ว่านหางจระเข้ แต่หากปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดทั้งวันควรเลือกไม้กลางแจ้ง เช่น ไทรหรือบอนไซ เป็นต้น 2. เลือกตามความต้องการน้ำ การจัดต้นไม้ในถาดเดียวกันควรใช้ต้นไม้ที่ต้องการน้ำมากน้อยเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน ดังนี้ ไม้อวบน้ำ คือ พรรณไม้ที่สามารถเก็บน้ำไว้ภายในได้มากและนานเพื่อต่อสู้กับความแห้งแล้ง บางชนิดมีหนามแหลมหรือขนปกคลุมเพื่อป้องกันน้ำระเหยและอันตราย แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นไม้ที่ไม่ใหญ่มากนัก เช่น แคคตัส กุหลาบหิน โป๊ยเซียน ชวนชม เป็นต้น ไม้น้ำ คือ พรรณไม้ที่อาศัยอยู่ในน้ำ เช่น เฟิร์นน้ำ สาหร่าย กระจับแคระ ลานไพลิน เป็นต้น ไม้ต้องการความชื้นสูง คือ พรรณไม้ที่เจริญเติบโตในดินที่มีความชื้น ควรปลูกในที่ร่ม ได้แก่ เฟิร์นดิน มอสส์ เป็นต้น 3. เลือกตามความต้องการดิน ถ้าเป็นไม้ประเภทแคคตัส ต้องปลูกในดินร่วนซุยระบายน้ำดี มีความชื้นน้อย ถ้าเป็นไม้น้ำ ต้องปลูกในดินเหนียว เก็บน้ำได้ดีและขังน้ำได้ ถาดเซรามิกก้นลึก ขนาดตามชอบ มอสส์ ดิน หินกรวด ของตกแต่งตามชอบ พรรณไม้ตามชอบ นำถาดมาเจาะรูระบายน้ำด้านล่าง โดยใช้สว่านเจาะรูใหญ่เพียงรูเดียว หรือรูเล็กหลาย ๆ รูก็ได้ ก่อนเจาะสามารถใช้เทปกาวปิดตรงบริเวณที่จะเจาะก่อนเพื่อลดแรงกระแทก พอเจาะเสร็จก็ลอกออกมา วางหินกรวดขนาดเล็กลงไปให้เต็มด้านล่างกระถางเพื่อระบายน้ำ วางต้นไม้ที่จะปลูกลงไป ตามด้วยขุยมะพร้าวและดิน สามารถวางเรียงต้นไม้ตามจินตนาการ โดยเลือกต้นสูงเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วนำต้นไม้ขนาดเล็กวางเรียงรายกันให้สมดุล กลุ่มหนึ่งมีเพียงแค่ 2-3 ต้นก็เพียงพอ วางมอสส์คลุมดินให้ทั่วหรือพอสวย แล้วแต่งด้วยหินกรวดและของตกแต่งอื่น ๆ ตามแต่จินตนาการ แคคตัส (Cactus) หรือ ต้นกระบองเพชร พรรณไม้หนามมีหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูกกันตามชอบ ทนแล้งได้ดี ขยายพันธุ์ได้ทั้งการปักชำหน่อ เพาะเมล็ด ต่อยอด และปักชำใบ รดน้ำประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้รากเน่าได้ ชอบแสงแดดรำไร ชอบดินระบายน้ำได้ดี กุหลาบหิน (Succulent) พรรณไม้อวบน้ำ อยู่ในวงศ์ Crassulaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aeonium Nobile (Praeger) Praeger มีถิ่นกำเนิดมาจากมาดากัสการ์ แอฟริกา และเอเชีย ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว ปลายมน ขอบใบหยักมน สลับเป็นชั้นเหมือนกลีบกุหลาบ ออกดอกเป็นช่อโดยเฉพาะฤดูหนาว มีหลายสีตามสายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการปักชำยอดหรือปักชำใบ หรือเพาะเมล็ด ชอบแสงแดด รดน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอ หรือรดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง ลิ้นมังกรแคระ (Snake Plant) หรือ ต้นดาบพระอินทร์ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dracaena Trifasciata มีต้นกำเนิดทั้งในยุโรป แอฟริกา และเอเชีย เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีมากกว่า 70 สายพันธุ์ มีลักษณะเด่นที่ใบเรียวยาวคล้ายหอก มีทั้งชนิดใบสั้นและใบยาว ส่วนปลายใบมีทั้งแบบปลายใบแหลมมีหนาม ปลายใบแหลมไม่มีหนาม และปลายใบมน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อและตัดชำใบ ช่วยฟอกอากาศและสามารถกรองสารพิษต่าง ๆ ปลูกในพื้นที่ที่แดดแรงจัดได้หรือปลูกในที่ร่มก็ได้ แต่ต้องได้รับแสงเพียงพอ รดน้ำแค่วันเว้นวัน หรือ 3 วันครั้ง ให้ดินพอชุ่มชื้น อย่าให้ถึงขั้นแฉะ คลาสซูล่า หรือ ต้นใบเงิน (Crassula Ovata, Jade Plant) อยู่ในวงศ์ Crassulaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crassula Ovata เชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคลช่วยส่งเสริมในเรื่องของเงินทอง มีใบอวบน้ำสีเขียว ผิวใบเรียบเนียนและหนา ดูคล้ายกับเหรียญ ออกดอกสีชมพูหรือสีขาวคล้ายรูปดาว โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ ชอบดินระบายน้ำ ชอบแดดรำไร รดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง ปลูกในร่มได้ดี ทนแล้ง ไม่ต้องดูแลมาก เปปเปอร์โรเมีย (Peperomia) อยู่ในวงศ์ Piperaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Peperomia sp. มีต้นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ อเมริกากลาง พบมากในประเทศเม็กซิโกและแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีลักษณะเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก แต่หากปลูกลงดินก็สูงได้ถึง 20 เซนติเมตร ใบมีหลายแบบตามสายพันธุ์ ทั้งใบคล้ายรูปหัวใจ ใบแหลม ใบรี ใบกลม มีดอกสีขาว ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบแดดรำไร แสงน้อยหรือแสงนีออน ควรปลูกในดินที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง แถมมีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศได้ มะสังดัด (Wood Apple) อยู่ในวงศ์ Rutaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Feroniella Lucida (Scheff.) มีถิ่นกำเนิดมาจากอินโดนีเซีย เป็นบอนไซชนิดหนึ่ง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ปลายใบโคนสอบ มีขนอ่อนปกคลุม ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด นิยมดัดหลังจากเป็นต้นกล้าและรากแข็งแรงแล้ว อายุประมาณ 5 เดือน ชอบดินร่วนระบายน้ำ รดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง อยู่ได้ทั้งบริเวณที่มีแสงแดดและแสงแดดรำไร เฟิร์นผักชี (Bolbitis Heteroclita Difformis) อยู่ในวงศ์ Dryopteridaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sphenmeris Chusang ใบประกอบแบบขนนก ก้านใบยาวถึง 5 เซนติเมตร แผ่ออกเป็นครีบตลอดก้านใบ ลำต้นเป็นเหง้าทอดยาว ขยายพันธุ์ด้วยการแยกไหล ชอบแสงแดดรำไร ถ้าได้รับแสงแดดโดยตรงใบจะเหี่ยวและเป็นสีน้ำตาล ชอบความชื้นสูง รดน้ำเมื่อหน้าดินเริ่มแห้ง ปลูกในดินระบายน้ำได้ดี ไทรแคระ หรือ ไทรใบสักแคระ (Ficus Tree, Fiddle Fig) อยู่ในวงศ์ Moraceae มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา จัดเป็นต้นไม้ฟอกอากาศขนาดเล็ก สูงได้ถึง 30 เซนติเมตร ใบเป็นรูปไข่สีเขียวเหลืองซ้อนเป็นชั้นเหมือนกลีบกุหลาบ ลำต้นมีสีเทา ผลทรงกลม พอสุกจะเป็นสีส้ม นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่งและตอนกิ่ง รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง หรือรดเมื่อหน้าดินแห้ง ชอบแสงแดดรำไรหรือปลูกในร่ม ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดใบเสมอเพื่อให้ใบสามารถหายใจและสังเคราห์แสงได้ดีและมีความเงางาม แพญี่ปุ่น หรือ พรมญี่ปุ่น (Carpet Plant, Episcia, Frame Violet) อยู่ในวงศ์ Gesneriaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Episcia cupreata (Hook.) Hanst มีถิ่นกำเนิดในโคลอมเบีย เวเนซุเอลา และบราซิล ใบเป็นใบเดี่ยว ขอบใบหยักมนออกตรงข้าม ใบมีสีและลวดลายแตกต่างไปตามสายพันธุ์ ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ปลูกในดินผสมกาบมะพร้าวสับหยาบ ชอบแดดรำไร รดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอ เฟิร์นราชินีเงิน (Victoria Fern, Victorian Brake Fern) อยู่ในวงศ์ Pteridaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pleris ensiformis ‘Victoriae’ มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ใบเป็นใบหยักแฉกเรียวแหลมคล้ายขนนก พื้นใบสีเขียว ขยายพันธุ์โดยเพาะสปอร์หรือแยกกอ ปลูกในดินร่วนปนทราย ชอบแสงแดดรำไร หากถูกแสงแดดโดยตรงจะทำให้ใบหงิกและตาย ชอบความชื้น หลีกเลี่ยงน้ำประปาและน้ำเค็ม เพราะจะทำให้ใบไหม้ การจัดสวนถาด เหมาะกับบ้านหรือคอนโดพื้นที่จำกัด ทำให้เราได้พื้นที่สีเขียวเติมความสดชื่นสบายตา เพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ถ้าใครสนใจไปหาซื้ออุปกรณ์และต้นไม้มาลองทำกันได้เลย ขอบคุณข้อมูลจาก : viverogarden.com, instructables.com, data.addrun.org (1), (2), (3), rspg.or.th, adeq.or.th และ fth1.com
แสดงความคิดเห็น