ดอกไม้ออกเป็นช่อห้อยระย้าและให้ร่มเงา มีชนิดไหนบ้างที่น่าสนใจ เผื่อเอาไว้เติมสีสันให้กับสวน แถมยังใช้ทำซุ้มบังแดดได้ด้วย การจัดสวน ไม่ว่าจะเป็นสวนหน้าบ้าน ข้างบ้าน หรือหลังบ้าน สามารถเลือกต้นไม้ได้หลากชนิด วันนี้เราขอยกตัวอย่าง ดอกไม้ออกเป็นช่อ บางสายพันธุ์ดอกมีกลิ่นหอม พร้อมลักษณะและการดูแลมาฝากกัน ต้นไม้ออกดอกเป็นช่อ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย พวงแสด ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pyrostegia venusta (Ker Gawl.) Miers เป็นไม้เลื้อย มีเถาอ่อนสีเขียว เถาแก่สีน้ำตาล สามารถเลื้อยไปไกลกว่า 15 เมตร ใบสีเขียวเป็นใบประกอบ มี 3 ใบย่อย โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่งห้อยลงมาเป็นพวง มีสีส้มแสด รูปทรงกรวย ปลายดอกบาน มักออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและตอนกิ่ง ชอบดินร่วนปนทราย แสงแดดจัด ทนความแห้งแล้ง รดน้ำวันเว้นวันได้ นิยมปลูกเลื้อยตามรั้วหรือทำซุ้ม รวมทั้งปลูกในดินหรือกระถางทำไม้ค้ำหรือไม้แขวน พวงคราม (Purple Wreath) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Petrea Volubilis Linn. เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 6-8 เมตร ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ดอกสีม่วงอ่อนถึงม่วงเข้มคล้ายรูปดาว 5 แฉก มีลักษณะห้อยลง ออกดอกตลอดปี แต่จะออกดอกเยอะเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว กิ่งอ่อนมีขนสั้น ผลสามารถกินได้ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำ ควรปลูกในดินร่วนซุย มีความชื้นแต่ไม่แฉะ ชอบแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน โรคและแมลงรบกวนน้อย นิยมปลูกประดับรั้วหรือเป็นไม้กระถาง พวงวิวาห์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clematis paniculata Thunb. เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 9 เมตร ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3-5 ใบ ใบสีเขียวเป็นรูปรี ปลายมน ดอกเป็นสีขาว ออกเป็นช่อ ใน 1 ช่อจะมีหลายดอก ดอกมีกลิ่นหอมแรงโดยเฉพาะตอนเช้า ออกดอกตลอดปี แต่จะออกดอกเยอะช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี แสงแดดเต็มวัน รดน้ำวันเว้นวันได้ นิยมปลูกลงกระถางและปักหลักสูง 1 เมตรให้เลื้อย หรือทำเป็นซุ้มไม้เลื้อยบังแดด พวงประดิษฐ์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Congea tomentosa Roxb. เป็นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ ลำต้นอ่อนมีขนสากสีน้ำตาลเทา ลำต้นแก่เป็นไม้เนื้อแข็ง ปลายกิ่งห้อยลง ใบมีใบประดับ 3 ใบ สีชมพูอมม่วง เป็นรูปไข่ปลายแหลม โคนมน ผิวใบมีขนสาก ดอกจริงสีขาว มีกลีบประดับสีชมพูอมม่วง ออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง ปลูกในดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ชอบแดดจัด ทนแล้งได้ดี นิยมปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อย ต้นคูณขาว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia x nealiae H.S. Irvin & Barneby เป็นต้นไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 15 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 3-8 คู่ เป็นรูปไข่ ปลายแหลม โคนมน สีเขียว ดอกออกตามซอกใบและปลายกิ่งเป็นช่อขนาดใหญ่ห้อยลง ยาวได้ถึง 45 เซนติเมตร เริ่มแรกดอกจะมีสีเหลืองแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นขาว มีกลิ่นหอม ดอกออกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง หรือเสียบยอด ชอบแสงแดดจัด ทนแล้ง เหมาะปลูกให้ร่มเงา จิกน้ำ (Indian oak) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Barringtonia acutangula เป็นต้นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูงได้ถึง 5-15 เมตร เปลือกสีน้ำตาลอ่อนมีปุ่มปมกระจายทั่ว ใบเป็นใบเดี่ยว ขอบใบหยักสีเขียวเป็นมัน ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ และเป็นช่อที่ปลายกิ่งยาว 30-40 เซนติเมตร ดอกสีขาวอมชมพูรูปปากแตร มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกออกตลอดปี แต่จะมีมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ชอบแสงแดด ชอบความชื้น ทนน้ำท่วมขังได้ ปลูกได้ในดินทุกประเภท ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula L. เป็นต้นไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 20 เมตร ใบออกเป็นช่อสีเขียวมัน มีใบย่อยเป็นรูปไข่ประมาณ 3-6 คู่ โคนมน ปลายใบสอบ ดอกออกเป็นช่อสีเหลือง แต่ละช่อยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร กลีบดอกจะเป็นสีเหลือง 5 กลีบ ดอกมักจะบานในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม มีผลยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน และมีเมล็ดที่เป็นพิษ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ชอบแสงแดดจัด เจริญเติบโตได้ดีในที่โล่งแจ้ง ชอบน้ำน้อย ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับสภาพอากาศร้อนได้ดี พวงโกเมน (New Guinea Creeper) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mucuna warburgii K.Schum. & Lauterb. เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 20-25 เมตร ลำต้นกลมมีขนสีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบ มี 3 ใบย่อยเรียงสลับ โคนมน ปลายแหลม ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่งห้อยยาว ดอกสีส้มแดง ลักษณะเป็นรูปถ้วย ปลายกลีบเลี้ยงแยกเป็น 5 แฉก ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำกิ่ง ควรปลูกในดินร่วนปนทราย ชอบแดดเต็มวัน ชอบความชื้นสูง ชอบน้ำปานกลาง อย่ารดน้ำจนดินแฉะเพราะรากอาจเน่า เหลืองชัชวาล หรือ เล็บวิฬาร์ (Cat’s Claw Creeper) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dolichandra unguis-cati (L.) L.G.Lohmann เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก เนื้อแข็ง ปลายกิ่งแยกเป็น 3 แฉก เป็นมือพันคล้ายเล็บแมว ส่วนมากจะเลื้อยต้นไม้ใหญ่หรือผนัง มีใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ปลายใบแหลม มีดอกสีเหลืองทรงแตรออกตามซอกใบ ออกเป็นช่อที่ปลายยอดตลอดทั้งปี นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำ ทนต่อทุกสภาพอากาศ ชอบแสงแดดจัด ต้องการน้ำปานกลาง ปลูกได้ในดินทุกประเภท ลัดดาวัลย์ หรือ ลดาวัลย์ (Snow Vine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Porana volubilis เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกลถึง 3 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ มักขึ้นเรียงสลับกัน ปลายใบแหลม โคนใบเว้าลึก มีขนสั้น ๆ ปกคลุมทั่วทั้งใบ ออกดอกเป็นช่อดอกแบบช่อกระจุกและปลายยอด ดอกสีขาว ลักษณะของดอกจะเป็นรูปกรวย แต่ละช่อดอกมีดอกย่อยประมาณ 10-30 ดอก ส่งกลิ่นหอมตอนเช้า และออกดอกช่วงปลายปีประมาณเดือนตุลาคม-ธันวาคม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำ และตอนกิ่ง ชอบแสงแดด ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ใครกำลังมองหาต้นไม้ออกดอกเป็นช่อเอาไว้จัดสวน ต้นไม้ที่เราแนะนำน่าจะเป็นทางเลือกได้ มีทั้งสายพันธุ์ที่เหมาะปลูกเป็นแนวรั้ว ปลูกในกระถาง หรือลงดิน ชอบสไตล์ไหนเลือกปลูกกันได้เลย 10 ไม้เลื้อยทำซุ้มบังแดด โตไวเลี้ยงง่ายให้ร่มเงา 8 ไม้เลื้อยเกาะกำแพง แต่งผนังสวย ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านและคอนโด 10 ผักไม้เลื้อย ปลูกไว้เก็บกินก็ได้ ใช้ทำซุ้มบังแดดก็ดี๊ดี ! 8 ไม้เลื้อยขนาดเล็กทนแดด เหมาะปลูกในกระถาง ออกดอกตลอดปี ขอบคุณข้อมูลจาก : dnp.go.th (1), (2), data.addrun.org (1), (2), (3), panmai.co, oer.learn.in.th, highland_plant.hrdi.or.th, buildings.oop.cmu.ac.th และ clgc.agri.kps.ku.ac.th
แสดงความคิดเห็น