
1. ปัดฝุ่นผงออกจากผนังก่อนทุกครั้ง
เริ่มจากใช้ไม้กวาด ไม้กวาดหยากไย่ แปรงปัดฝุ่น หรือเครื่องดูดฝุ่น กำจัดฝุ่นออกจากผนังเสียก่อน หากขนของไม้กวาดหรือแปรงแข็งเกินไป แนะนำให้ใช้ผ้าขี้ริ้วหรือพรมคลุมขนแปรงก่อนนำไปทำความสะอาด จะได้ไม่เกิดรอยขีดข่วนบนผนัง
2. หมั่นปัดฝุ่นบ่อย ๆ หากไม่ได้ทำความสะอาดด้วยวิธีอื่น ๆ
โดยเฉพาะผนังที่อยู่ใกล้กับเตาอบ อ่างล้างจาน ฝักบัวอาบน้ำ หรือที่ไหนก็ตามที่ทำให้เกิดไอความร้อน หยดน้ำ หรืออาจมีละอองน้ำกระเด็นใส่ นอกจากนี้แล้วก็ควรจะหมั่นทำความสะอาดจุดที่สามารถมองเห็นได้ง่าย เช่น สวิตช์ไฟ หรือจุดที่เกิดรอยเปื้อนได้ง่ายด้วย
- รอยเปื้อนบางชนิดก็สามารถกำจัดได้ โดยการใช้ฟองน้ำแห้งเช็ดออก
- หรือทดลองใช้ส่วนผสมที่ทำขึ้นเอง โดยนำน้ำมันลาเวนเดอร์ 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำเปล่าในกระบอกฉีดน้ำ จากนั้นนำไปฉีดบนผนังที่มีรอยเปื้อนแล้วเช็ดออก โดยเน้นจุดที่มีคราบฝังแน่น ก็จะทำให้ผนังบ้านสะอาดยิ่งขึ้น ในขณะที่น้ำหอมก็ยังทำให้รู้สึกสดชื่นไปพร้อม ๆ กันด้วย
3. ใช้ผ้าคลุมพรมและเฟอร์นิเจอร์ให้เรียบร้อย
อะไรก็ตามที่อาจเกิดความเสียหายได้ หากโดนละอองน้ำจากน้ำยาเช็ดผนังหรือน้ำยาทำความสะอาด ก็ควรคลุมด้วยผ้าให้หมด ยิ่งเป็นผ้าเก่า ๆ ได้ยิ่งดี แต่ถ้าหากไม่สามารถหาได้ ลองหาซื้อแผ่นพลาสติก เสื่อน้ำมัน หรือของอื่น ๆ ที่มีอยู่ในบ้าน เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ และผ้าเช็ดตัว มาใช้แทน
4. เริ่มเช็ดจากผนังด้านล่าง
การทำความสะอาดผนัง ควรเริ่มทำความสะอาดจากด้านล่างสุดก่อนแล้วค่อย ๆ เช็ดไล่ขึ้นไปด้านบน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหยดน้ำ หรือรอยเช็ดบนผนัง ส่วนการเช็ดผนังให้แห้ง ควรใช้ผ้านุ่มและสะอาดในการเช็ด
5. สวมถุงมือแบบรัดข้อมือขณะทำความสะอาด
ในการทำความสะอาดผนัง ควรสวมถุงมือแบบรัดข้อมือดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าถุงมือ ในขณะที่เอื้อมมือทำความสะอาดผนังสูง ๆ
6. ควรมีถังใส่น้ำอย่างน้อย 2 ถัง
ถังแรกเอาไว้ผสมน้ำยาทำความสะอาดที่จะใช้เช็ดผนังในรอบแรก ส่วนอีกถังเป็นน้ำสะอาดอย่างเดียว สำหรับทำความสะอาดซ้ำอีกรอบหลังเช็ดด้วยน้ำยาแล้ว และหมั่นเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ หากเห็นว่าน้ำในถังเริ่มสกปรก

สำหรับผนังทาสี
1. ปัดฝุ่นบนผนัง
ใช้แปรง ไม้กวาดขนนุ่ม หรือเครื่องดูดฝุ่น กำจัดฝุ่นออกจากผนังให้หมดก่อนเริ่มทำความสะอาด เพื่อกำจัดคราบสกปรกในเบื้องต้น ป้องกันไม่ให้เกิดคราบหลังทำความผนังเสร็จ
ใช้แปรง ไม้กวาดขนนุ่ม หรือเครื่องดูดฝุ่น กำจัดฝุ่นออกจากผนังให้หมดก่อนเริ่มทำความสะอาด เพื่อกำจัดคราบสกปรกในเบื้องต้น ป้องกันไม่ให้เกิดคราบหลังทำความผนังเสร็จ
2. กำจัดคราบสกปรกและรอยเปื้อนออกก่อน
แนะนำให้ทดสอบน้ำยาที่จะนำมาใช้ที่จุดใดจุดหนึ่งของผนัง ก่อนเริ่มลงมือกำจัดคราบ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ทำลายผิวผนังบ้านของคุณ
- หนึ่งในส่วนผสมที่หาง่ายและกำจัดคราบได้ดีที่สุด คือส่วนผสมที่ทำจากโซดากับน้ำ โดยทั้ง 2 อย่างนี้สามารถกำจัดได้ทั้งคราบดินสอสี ดินสอ ปากกามาร์กเกอร์ รอยด่างดำที่เกิดจากการขัดถู รอยน้ำหมึก โดยการนำผ้ามาชุบส่วนผสมดังกล่าวแล้วนำไปถูบริเวณที่มีคราบ
- คราบดินสอสีสามารถกำจัดได้ โดยนำผ้าขี้ริ้วชุบยางสนหรือยาสีฟันถูบริเวณที่มีคราบ แล้วทิ้งไว้สักระยะ ก่อนล้างออก
- จุดด่างดำที่เกิดจากการถูก็สามารถกำจัดออกโดยใช้ยาสีฟันเช่นเดียวกัน แค่นำยาสีฟันถูบริเวณที่มีคราบ แล้วทิ้งไว้ 2-3 นาที ก่อนเช็ดออกด้วยผ้าขี้ริ้วนุ่ม ๆ
3. ล้างผนัง
น้ำยาที่ใช้ในการทำความสะอาดผนังทาสีส่วนใหญ่คือ น้ำอุ่น น้ำสบู่ หรือน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำ 1 ถัง หากคุณต้องการน้ำยาที่ขจัดคราบได้ดีกว่านี้แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชู แต่ไม่ต้องล้างออก
- ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในการทำความผนัง เพราะบางผลิตภัณฑ์อาจทำให้สีเกิดรอยแตกได้ อีกทั้งยังสร้างรอยด่างแบบซีดจางไว้ให้ดูต่างหน้าด้วย
4. ทำความสะอาดด้วยน้ำยาสูตรเข้มข้น
หากใช้น้ำอุ่นและน้ำสบู่ไม่ได้ผล อาจต้องการน้ำยาที่มีความเข้มข้นมากกว่านั้น ซึ่งสามารถทำได้โดย
- ใช้โซดาซักผ้า ผสมกับน้ำเปล่า ในอัตราโซดาซักผ้า 100 กรัมต่อน้ำ 4 ลิตร
- ใช้ผ้าชุบน้ำยาข้างต้น แล้วนำไปเช็ดบริเวณที่มีคราบ จากนั้นล้างออกพร้อมกับใช้ผ้าแห้งเช็ด ตรวจสอบอีกครั้งว่า ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจหรือไม่
5. ล้างน้ำยาออก
ใช้ผ้าขี้ริ้วชุบน้ำอุ่นบิดให้แห้ง แล้วนำมาเช็ดเบา ๆ บนผนัง เพื่อกำจัดน้ำยาออก แล้วเช็ดตามด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง
- สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย หากใช้น้ำส้มสายชูกำจัดคราบก่อนหน้านี้

สำหรับผนังติดวอลเปเปอร์
เนื่องจากวอลเปเปอร์ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน สามารถทำความสะอาดได้บ้างไม่ได้บ้างปะปนกันไป จะเป็นประโยชน์กับคุณมากกว่า หากรู้ว่าวอลเปเปอร์ทำจากวัสดุอะไร หากไม่รู้ควรจะลองทดสอบก่อน
สำหรับผนังวอลเปเปอร์ที่สามารถเช็ดถูได้
วอลเปเปอร์ที่ทำความสะอาดได้ส่วนใหญ่ จะมีการเคลือบกระดาษด้านนอกด้วยไวนิลอีกชั้น
1. กำจัดฝุ่นบนวอลเปเปอร์
ผ้าขี้ริ้วคลุมไม้กวาดหรือแปรงก่อนนำไปปัดฝุ่น
2. กำจัดคราบสกปรกออก
หลังจากกำจัดฝุ่นเสร็จแล้ว ก็ถึงขั้นตอนของการกำจัดคราบ ซึ่งสามารถทำได้โดย
- ใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดแบบแห้งในการกำจัดคราบน้ำหมึก ดินสอสี หรือปากกามาร์กเกอร์
- คราบน้ำมันสามารถกำจัดออกได้ด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำสบู่
- ส่วนคราบอื่น ๆ ใช้น้ำยาต่าง ๆ ตามที่ระบุเอาไว้บนฉลากของน้ำยาทำความสะอาด
3. ล้างน้ำยาออก
โดยปกติหลังจากกำจัดฝุ่นออกแล้ว คุณสามารถล้างออกด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำสบู่ผสมน้ำอุ่น และแอมโมเนียเล็กน้อยได้เลย
- สำหรับวอลเปเปอร์เคลือบไวนิลสามารถล้างออกได้โดยใช้น้ำส้มสายชู (แต่ไม่ควรพ่นน้ำส้มสายชูบนคราบโดยตรง)
- ถ้ามีคำแนะนำอื่น ๆ จากผลิตภัณฑ์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
4. เช็ดให้สะอาด
สุดท้ายให้ผ้าสะอาดชุดน้ำอุ่นเช็ดบนวอลเปเปอร์เบา ๆ แล้วเช็ดตามด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง
สำหรับผนังวอลเปเปอร์ที่ไม่สามารถเช็ดถูได้
1. การทำความสะอาดวอลเปเปอร์ที่ไม่สามารถเช็ดถูได้
อาจจะยากสักนิด และใช้ความระมัดระวังมากสักหน่อยในการทำความสะอาด
- เริ่มจากใช้แปรงนุ่ม ๆ กำจัดฝุ่นบนผนังออกให้หมด เช่น แปรงฟองน้ำ ไม้กวาด หรือแปรงขนนุ่ม ๆ หากกำจัดด้วยเครื่องดูดฝุ่น ควรใช้หัวดูดฝุ่นที่มีขนแปรง จะได้เก็บกวาดหยากไย่ ฝุ่นผง และควาบสกปรกต่างไปพร้อม ๆ กัน
2. หากมีคราบสกปรก ควรรีบกำจัดออกไปก่อน
- คราบน้ำมันต่าง ๆ สามารถกำจัดได้ โดยเริ่มจากใช้กระดาษซับน้ำมันออกก่อน
- นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดโดยใช้แป้งฝุ่น แห้งข้าวโพด หรือผงบอแรกซ์ โดยนำส่วนผสมชนิดชนิดหนึ่งไปผสมน้ำ จากนั้นทาลงบนคราบ แล้วทิ้งไว้แห้ง ก่อนเช็ดออกเบา ๆ ด้วยผ้านุ่ม ๆ
- สำหรับคราบดินสอ ปากกา หรือรอบเช็ดบนผนังสามารถเช็ดออกได้โดยใช้ Putty Cleaner หรือวัสดุเหนียว ๆ คล้ายดีน้ำมัน ผิวมันวาว แต่ไม่ทิ้งคราบเหมือนดินน้ำมัน
- สำหรับคราบดินสอสี เริ่มจากใช้ผ้าถูเบา ๆ แล้วลบด้วยยางลบ ถ้ายังไม่ออกจึงค่อยเริ่มใช้น้ำยากำจัดคราบ
วิธีกำจัดคราบน้ำมันบนผนัง
1. กำจัดคราบโดยใช้ขนมปัง
ขนมปังช่วยดูดซับน้ำมันจากวอลเปเปอร์ทุกชนิดได้ดีทีเดียว โดยการเลือกใช้สีขนมปังก็ขึ้นอยู่กับสีของวอลเปเปอร์ ขนมปังสีขาวสำหรับผนังสีสว่าง และใช้ขนมปังสีเข้มกับผนังสีทึม ๆ
- เริ่มจากกำจัดฝุ่นบนผนังออกโดยแปรงขนนุ่ม ๆ หรือเครื่องดูดฝุ่น
- ถูขนมปังตรงบริเวณที่มีคราบ โดยถูซ้ายขวาจนกว่าคราบน้ำมันจะหมดไป
- ปัดเศษขนมปังออกให้หมด
สำหรับผนังไม้ก๊อก
1. ปัดฝุ่นออกจากผนัง
2. เช็ดด้วยน้ำร้อน โดยไม่ต้องผสมน้ำยาใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ผนังแห้งเอง
3. ขั้นตอนสำหรับคราบกำจัดยาก
- ใช้เมทิลสปิริต 1 ส่วนผสมกับน้ำเปล่า 10 ส่วน
- จุ่มผ้าลงไปแล้วบิดให้แห้ง
- ใช้ผ้าขัดบริเวณที่มีคราบ
- เช็ดซ้ำด้วยผ้าสะอาด
สำหรับผนังไม้ทั่วไป
1. กำจัดฝุ่น
ใช้ไม้กวาด แปรง หรือเครื่องดูดฝุ่น กำจัดฝุ่นก่อน
2. ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ
สำหรับคนที่จะใช้น้ำยาทำความสะอาดควรทดสอบจุดเล็ก ๆ ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของผนังเสียก่อน
3. ทำความสะอาดผนังภายนอก
- ในการทำความสะอาดผนังภายนอก ควรทำในวันที่ช่วยให้ผนังแห้งเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อไม้เปื่อย หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำแรง ๆ ใส่ผนังโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
- หากใช้สายยางฉีดควรใช้ล้างเฉพาะบริเวณที่มีรอยเปื้อนเท่านั้น ส่วนจุดอื่น ๆ ใช้ผ้าเช็ดธรรมดา
- พวกเห็ดราต่าง ๆ สามารถเช็ดออกได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชู ควรสวมถุงมือหากต้องตัดหรือถอนด้วยมือ

1. ใช้น้ำส้มสายชู
ถ้าคุณทำความสะอาดด้วยของเหลว ควรถูออกแบบเบา ๆ ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชู จะช่วยให้กำจัดคราบต่าง ๆ ออกได้ง่ายกว่า
วิธีกำจัดเชื้อราบนผนัง
1. ใช้น้ำหรือน้ำส้มสายชูเช็ดออก
เชื้อราค่อนข้างกำจัดยาก ดังนั้นอาจจะต้องใช้น้ำยากำจัดเชื้อราบนผนังโดยเฉพาะ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
- โดยระมัดระวังในขณะที่กำลังพ่นน้ำยากำจัดเชื้อรา เพราะหากพ่นน้ำยามากเกินไป อาจทำให้เกิดคราบน้ำยาบนผนังตามมาได้ ดังนั้นควรพ่นสเปรย์ช้า ๆ และใช้ความระมัดระวังให้มาก และเช็ดออกทันทีที่พ่นสเปรย์เสร็จ ก่อนที่น้ำยาจะซึมเข้าผนัง
2. ทำผนังให้แห้งหลังจากทำความสะอาด
ใช้แปรงหรือไม้ถูผนังเช็ดน้ำยาเช็ดผนังด้านบน แล้วค่อยใช้ผ้าสะอาดเช็ดผนังด้านล่างและบริเวณที่คุณเอื้อมถึง
3. หาทางป้องกันในระยะยาว
- เชื้อราจะเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีความชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในห้องน้ำ ห้องครัว หรือตู้เสื้อผ้า รวมไปถึงผนังภายนอก ถ้าหากผนังบริเวณดังกล่าวยังไม่ได้ทำการตกแต่งใด ๆ ควรรีบหาทางป้องกันให้เร็วที่สุด โดยใช้สีที่มีส่วนผสมของสารป้องกันเชื้อราแบบเงาหรือแบบกึ่งเงา เพราะเป็นสีที่สามารถล้างและทำความสะอาดได้
- เชื้อราจะน้อยลงหากสามารถกำจัดต้นตอที่ทำให้เกิดเชื้อราออกจากบ้านไปได้
การทำความสะอาดผนังบ้านเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว เพียงแค่คุณทำความสะอาดให้ถูกต้องตามลักษณะของผนังที่บ้าน เพราะผนังแต่ละประเภทมีวิธีการทำความสะอาดที่แตกต่างกันไป และหมั่นดูแลรักษาให้สะอาดอยู่สม่ำเสมอ เท่านั้นผนังบ้านก็สะอาดได้อย่างใจแล้วค่ะ