รีโนเวทห้องนอนเก่า 10 ปี ให้กลายเป็นห้องนอนในฝัน ที่ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าอิจฉาจริง ๆ
หลายคนอยู่บ้านหลังเดิมมานาน ห้องนอนที่เคยเป็นห้องในฝันก็เก่าทรุดโทรมลงจนถึงเวลาต้องฟื้นคืนชีพใหม่สักที และถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาไอเดียรีโนเวทห้องนอนอยู่ละก็ วันนี้กระปุกดอทคอมมี รีวิวการเปลี่ยนแปลงห้องนอน ของ
คุณ pondkungz สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาให้ได้ชมกัน ซึ่งแปลงโฉมห้องนอนอายุ 10 ปี ให้กลายเป็นห้องนอนในฝันได้อีกครั้ง ส่วนจะออกมาชวนหลับฝันดีแค่ไหน รีบไปชมกันเลยจ้า
รีวิว เปลี่ยนห้องนอนสุดรกที่อยู่มาเกือบ 10 ปี ให้เป็นห้องใหม่ในฝัน โดย คุณ pondkungz
สวัสดีครับ เคยเห็นกระทู้ตกแต่งที่อยู่อาศัยให้ดูสวยงามมาก็หลายปีแล้ว
ครั้งนี้ได้โอกาสเปลี่ยนแปลงห้องของตัวเองบ้างแล้วครับ ไม่พูดมากดีกว่า
เข้าเรื่องเลยก็แล้วกันครับ
ห้องที่จะทำใหม่นี้
คือห้องนอนของผมเอง อายุประมาณเกือบ ๆ 10 ปีแล้วครับ โดยมีขนาด 4x6 เมตร
ซึ่งมีจุดที่เรียกว่าพลาดตอนออกแบบครั้งแรกนิดหน่อย นั่นคือ
เป็นห้องที่มีกระจกอยู่ถึง 3 ด้าน และกระจกทั้ง 3 ด้านก็รับแดดทั้งวันเต็ม ๆ
เรียกได้ว่าตอนกลางวันร้อนยังกับทะเลทราย เปิดแอร์ 23 องศา
ยังเกือบจะเอาไม่อยู่
- ส่วนความรก ก็อย่างที่เห็นในภาพครับ
คือมีอะไรก็จะเอามาวางที่ชั้นวางทีวี (ทีวีไม่อยู่ชั่วคราว)
และโซฟาอยู่อยู่หน้าเตียง
เพราะตอนเลือกเฟอร์นิเจอร์ลืมคิดถึงการเก็บของใช้ทั่วไปเลยไม่มีตู้เก็บของเลย
ในวันแรก ๆ ก็โล่งดีนะครับ แต่พออยู่มาหลายปีเข้าก็เริ่มทนไม่ไหว
อยากจะหาจุดเปลี่ยนให้กับห้องนอนตัวเองบ้าง
- โปรเจคท์ที่วางไว้ตอนแรก จริง ๆ
มีแค่จะเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ให้สามารถกันแสงได้ (ม่านเก่ากันแสงแทบไม่ได้
เลยร้อนมาก ๆ) และเปลี่ยนม่านแบบพับที่หัวเตียง ให้เป็นมูลี่
เพื่อที่จะได้กันแสงที่สาดมาโดนหัวเพื่อปลุกผมในยามเช้าได้
(ทุกวันนี้เจอแสงแดดลอดม่านมาปลุกทุกเช้าแบบเก๋ ๆ เรียกว่าตื่นด้วยความร้อน
ไม่ต้องพึ่งนาฬิกาเลยครับ)
- แต่เอาไปเอามา ไหน ๆ
ก็จะเสียเงินเปลี่ยนผ้าม่านยกชุดแล้ว ก็เลยวางแผนยกเครื่องห้องใหม่ทั้งหมด
เพราะห้องเก่าก็อยู่มาเกือบ ๆ 10 ปีแล้ว
ทำใหม่ทั้งทีกะจะเอาแบบว่าเหมือนย้ายบ้านใหม่กันเลยทีเดียว (เว่อร์ไป !)
- ขั้นตอนแรกคือการย้ายของออกจากห้องครับ พอย้ายเสร็จปุ๊บ อ้าว ! ห้องเราก็ยังดูดีอยู่นี่หว่า
- แม่ผมถึงกับบอกว่า
"จริง ๆ เอาของออกหมดก็น่าอยู่นะ"
- ผมก็คิดในใจ "ขอเวลาผม 1 อาทิตย์เท่านั้นล่ะฮะ มันจะกลับมาเป็นเหมือนรูปแรกแน่ ๆ"
- จากนั้นก็เริ่มร่างแบบคร่าว ๆ ก่อนครับ
ด้วยการใช้โปรแกรมอย่าง SketchUp ร่างแบบขึ้นมา โปรแกรมนี้ใช้ง่ายครับ มั่ว
ๆ อยู่วันสองวันก็ได้แบบห้องในฝันที่ต้องการมาแล้ว
เบื้องต้นผมอยากจะเอาเตียงนอนมาไว้กลางห้อง ย้ายโต๊ะทำงานไปอยู่หลังเตียง
เลือกใช้โซฟาตัวเล็กปลายเตียงแทน และเพิ่มตู้เก็บของ/ตู้เสื้อผ้า ขนาดใหญ่
2-3 ตู้ ติดวอลเปเปอร์ใหม่ ลายอิฐสีเทา ๆ ให้ดูมีลูกเล่นขึ้น
และเลือกใช้โทน ส้ม/ดำ/ขาว ตัดกันไปมา
เอาล่ะ ได้เวลาลงมือจริง ๆ แล้วครับ !
- ขั้นตอนแรกสุดคือติดมู่ลี่ไม้ครับ
ที่เลือกมู่ลี่เพราะคิดว่าตรงกับความต้องการในการใช้งานดีครับ
เนื่องจากทุกวันนี้หน้าต่างทั้งสองฝั่ง (หัวเตียง และปลายเตียง)
เป็นหน้าต่างที่วิวคนละเรื่องกันเลย
ฝั่งหัวเตียงถ้าเปิดจะพบกับต้นไม้สีเขียวของบ้านข้าง ๆ
ที่ดันมาขึ้นตรงหน้าต่างผมพอดี ทำให้ได้มุมร่มรื่นใช้ได้
แต่ก็ต้องปิดตอนก่อนนอน เพราะตอนเช้าแดดจะแยงตามาก ๆ
- ส่วนหน้าต่างฝั่งปลายเตียง
วิวเป็นบ้านข้างหน้าที่อยู่ติดกันเต็ม ๆ ครับ
แต่ก็ต้องเปิดรับแสงในบางโอกาส
ดังนั้นเลยคิดว่าแบบมู่ลี่น่าจะตรงกับรูปแบบการใช้งาน ที่เปิด ๆ ปิด ๆ
มากที่สุด เลยมาจบที่มู่ลี่ไม้คู่นี้
- จากนั้นทำการโละส่วนของผ้าม่านแบบเลื่อน 2 ตอน
ที่อยู่ผนังฝั่งยาวออกทั้งหมด เปลี่ยนเป็นผ้าม่านกันแสงสีน้ำตาลเข้มแทน
โดยผมเลือกใช้ม่านแบบเต็มพื้นที่ผนังเลยครับ
ถึงแม้ว่าพื้นที่กระจกจะไม่ได้เต็มผนังก็ตาม
แต่ก็กะว่ายังไงก็ไม่ได้เปิดม่านตรงนี้อยู่แล้ว เพราะรับแสงทั้งวันโดยตรง
ก็เลยเอาคลุมแบบเต็ม ๆ เพื่อความสวยงามไปเลย ส่วนรางม่าน
ผมเลือกแบบซ่อนไว้ข้างใน แลดูแกรนด์เล็ก ๆ (คิดไปเอง)
- สภาพห้องโดยรวม เมื่อเปลี่ยนม่าน และมู่ลี่แล้ว
เห็นได้ว่าอารมณ์ของห้องเปลี่ยนไปมากพอสมควรแล้วทีเดียวครับ
จากนั้นก็ทำการปูพื้นใหม่ครับ
- จริง ๆ
เรื่องของการปูพื้นนี่ผมอยากได้พื้นเป็นไม้มาตั้งนานแล้ว
แต่ด้วยเมื่อก่อนงบประมาณค่อนข้างจำกัด เลยต้องเลือกเป็นกระเบื้องแทน
ความฝันจะมีห้องนอนพื้นไม้ก็พังทลายลงไปนับตั้งแต่วัยเยาว์
จนมาวันหนึ่งผมได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า "กระเบื้องยางลายไม้" คุณพระ !
เหมือนโชคชะตานำพาเรามาให้เจอกัน (เริ่มเว่อร์แล้ว)
เพราะสามารถปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้ทันที แถมดูแลรักษาง่าย
เพราะพื้นผิวเป็นวัสดุสังเคราะห์ ผมจึงสั่งกระเบื้องยางลายไม้สีส้ม ๆ
มาปูห้องในบัดดล
- ตอนช่างกำลังปูพื้นนี่ตื่นเต้นมากครับ
ตามประสาคนอยากอยู่ในห้องพื้นไม้มานาน ถึงแม้จะไม่ใช่ไม้จริง
แต่ผิวของกระเบื้องยางและลวดลายก็ทำให้ฟินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
- และแล้ว พื้น + ม่าน + มู่ลี่ ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว พอเหลือแต่ห้องเปล่า ๆ ก็รู้สึกเหมือนได้ห้องใหม่มาเหมือนกันนะ
- อันนี้ให้ดูระหว่างประตูห้องนอน
กับพื้นบ้านด้านนอกครับ เรียกว่าปูทับกันจะ ๆ
โชว์รอยต่อให้เห็นกันแบบเนี้ยแหละ
เปิดประตูห้องเข้ามาแทบจะเป็นโลกใหม่กันเลยทีเดียว
- จากนั้นเตียงที่สั่งไปก็มาส่งครับ จริง ๆ
มาเร็วไปหน่อย เพราะยังจัดการห้องไม่เรียบร้อยเลย แต่บ้านไม่มีที่ไว้แล้ว
เลยต้องเอามาลงแล้วล่ะ เดิมทีเตียงที่ห้องเป็นแบบ 5 ฟุตครับ
แต่ขอบเตียงกว้างมากระดับเตียง 6 ฟุตเลย ดังนั้นพอเปลี่ยนเตียงใหม่
เลยเลือกเตียง 6 ฟุต ขอบแคบ ๆ แทน ซึ่งขนาดความกว้างเท่ากับตัวเดิมเลย
แต่ได้ฟูกใหญ่ขึ้น นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างสนุกสนาน
ส่วนหัวเตียงผมเลือกเป็นหนังสีดำแบบนิ่มครับ
กะว่าจะเอาไว้หนุนอ่านหนังสือก่อนนอนสบาย ๆ อะไรแบบนั้น
- ส่วนหลังเตียง เว้นที่ไว้วางโต๊ะยาวที่เล็งจะซื้อเร็ว ๆ
นี้ ตัวเตียงกว้าง 2 เมตรครับ ดังนั้นโต๊ะต้องยาวประมาณ 1.8 เมตร
ซึ่งตอนนี้เจอแล้วตัวหนึ่งพอดี แถมความลึกแค่ราว ๆ 40 ซม.
จะทำให้ประหยัดพื้นที่เชิงลึกได้พอสมควร เน้นความยาวแทน
ตรงนี้เคยไปนอนโรงแรมที่มีโต๊ะอยู่หลังเตียง รู้สึกชอบมาก เลยเอามาทำตาม
(ประมาณว่าทำงานง่วง ๆ ก็กระโดดข้ามโต๊ะไปนอนบนเตียงเลย ฮ่า ๆ)
- หลังจากนั้นก็เลือกวอลเปเปอร์ครับ ผมเลือกสีเทาเรียบ ๆ
ตรงด้านที่เคยมีตู้วาง เพราะเดี๋ยวก็จะมีตู้มาบังอยู่แล้ว เลยเน้นเอาถูก ๆ
ไว้ก่อน
- ส่วนผนังด้านหัวเตียงและปลายเตียง
เลือกวอลเปเปอร์ลายอิฐสีเทา เพราะชอบสีโทนนี้อยู่แล้ว อยากให้ห้องมันดูขรึม
ๆ มีลูกเล่นขึ้นมานิดนึง ก็รื้อมู่ลี่ออกก่อน เดี๋ยวค่อยติดเข้าไปใหม่
- ผนังอีกข้างก็ติดลายอิฐเช่นเดียวกัน
สังเกตได้ว่าวิวของหน้าต่างบานนี้คือบ้านคนอื่นเต็ม ๆ ไม่มีอะไรเจือปน
มูลี่ฝั่งนี้เลยน่าจะปิดไปยาว ๆ เลย
- เริ่มติดวอลเปเปอร์ตั้งแต่เที่ยง ๆ เสร็จอีกทีก็หกโมงเย็นเลยครับ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ห้องของผม ^_^
- ระหว่างรอเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ก็ทำความสะอาดรอไปก่อน
ปล่อยหุ่นยนต์ลงไปช่วยดูดฝุ่นอีกแรง (ชั่วโมงแรกหุ่นแทบสำลักฝุ่น
เพราะเยอะมาก ฮ่า ๆ) พอปิดไฟดวงสว่าง ๆ ให้เหลือแค่ไฟดาวน์ไลท์
ห้องก็ดูขรึมขึ้นมาทันที ส่วนโต๊ะคอมข้างเตียงเอาของเก่ามาใช้ชั่วคราว
รอของใหม่ครับ
- และแล้วเฟอร์นิเจอร์อีกลอตก็มาส่งครับ
โดยผมได้สั่งตู้เสื้อผ้าขนาดความกว้าง 160 ซม. ไป 2 ตู้ !
ซึ่งข้างในมีการแบ่งกันโซนเก็บของให้ค่อนข้างลงตัว
และมีลิ้นชักให้เก็บของจุกจิกได้อีก ผมเลือกสีน้ำตาลดำ ที่ดูตอนสว่าง ๆ
จะเห็นน้ำตาลหน่อย แต่พอค่ำ ๆ จะดูเหมือนสีดำ ขรึมมาก ชอบเลย
- ส่วนเตียงดันไปชิดที่ผนังด้านบนก่อน เพราะตู้ใหญ่ ต้องใช้พื้นที่ประกอบเยอะพอสมควร
- ช่างก็เข้ามาช่วยประกอบกันให้เต็มที่ ตู้ใหญ่มากครับ
พอประกอบเสร็จสองตู้ก็เอามาวางเรียงติดกัน
ซึ่งการที่ผมเลือกตู้แบบบานสไลด์ก็เพราะว่าแบบห้องที่ผมออกแบบไว้ในใจ
เตียงนอนจะใกล้กับตู้มาก ทำให้เปิดบานพับไม่ได้
ซึ่งพอเอาตู้ใหญ่มาเรียงกันก็ดูอลังการงานสร้างขึ้นมาทันที คล้าย ๆ
บิวท์อินเหมือนกันนะ
- ถัดมาจากตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาก 2 ตู้
ที่ความยาวรวมกันก็ 3.2 เมตรเข้าไปแล้ว
(แค่ตู้เสื้อผ้ากินไปครึ่งห้องแล้วคร้าบ) ผมก็ยังจะสั่งตู้เสื้อผ้ามาลงอีก
แต่ตัวนี้ผมเลือกแบบความยาว 90 ซม. ครับ และเลือกหน้าบานเป็นกระจกคู่
สำหรับเอาไว้ส่องเวลาแต่งตัว และจากการจัดตำแหน่งเตียงนอน
ตัวหน้าบานของตู้เสื้อผ้าตู้นี้จะเปิดออกมาได้ 90 องศา
และพอดีกับขอบเตียงเป๊ะ ๆ (เพราะพ้นระยะแล้ว)
เท่ากับว่าตอนนี้แนวตู้เสื้อผ้าจากหัวเตียง มาปลายเตียงก็ 4.1
เมตรแล้วครับพี่น้อง
- ตู้เสื้อผ้าที่บานเป็นกระจก
ผมสั่งทำแบบด้านในไม่เอาราวแขวนครับ แต่กั้นเป็นชั้นวางของจำนวน 3 ชั้นแทน
และใช้กล่องพลาสติกจัดของให้เป็นระเบียบอีกที เสื้อผ้าน่ะ 2 ตู้ก็เหลือ ๆ
แล้ว ดังนั้นตู้สุดท้ายผมเลยกะเอาไว้เก็บของทุกอย่าง
ที่จะทำให้ห้องไม่สวยไว้ในนี้ และใช้งานเป็นกระจกแต่งตัวไปด้วยเลย
- ต่อมาก็ถึงคราวชั้นวางทีวีกันบ้าง
เนื่องจากโซฟาที่จะมาอยู่ปลายเตียง (ของยังไม่มาส่ง) ค่อนข้างจะเตี้ย
และทีวีที่จะมาวางขนาดค่อนข้างใหญ่ประมาณ 46 นิ้ว
ผมเลยคิดว่าชั้นวางทีวีอาจจะต้องเตี้ย ๆ หน่อย
เลยไปสั่งทำชั้นวางโครงสีน้ำตาลเข้ม สีเดียวกับตู้เสื้อผ้า
และเลือกหน้าบานเป็นสีขาวตัดกันซักหน่อย ไม่งั้นมันจะดูมืดไป
สุดท้ายก็ได้ชั้นวางทีวีเรียบ ๆ ดูมินิมอล อยู่อีกปลายผนัง
- ถอยออกมาจากเตียงให้ดูนิดนึง จะเห็นว่าห้องเริ่มดูขรึม ๆ มืด ๆ แล้วครับ ระหว่างรอโต๊ะยาวหลังเตียง ก็ทำงานบนโต๊ะตัวเก่าแก้ขัดไปก่อน
- แอบมายืนหลังเตียง ถ่ายออกไปหน้าเตียงดูบ้าง
ถ้าเอาทีวีมาตั้งปุ๊บ จะสามารถนอนดูได้อย่างสบายมาก ๆ
หรือจะนั่งโซฟาปลายเตียงดูก็ได้ (พยายามเลือกโซฟาให้เตี้ยที่สุด
เพื่อที่จะได้ไม่บังตอนดูจากบนเตียง)
-
และนี่คือภาพเปรียบเทียบระหว่าง
Before และ After จนถึงล่าสุดครับ จะเห็นได้ว่าแค่นี้ก็มาไกลมากแล้ว
จากห้องเดิม ๆ ที่ใช้โทนสีธรรมชาติ กลายมาเป็นห้องสีโทนขรึม ตัดกับสีส้ม,
น้ำตาล, และลวดลายอิฐเก๋ ๆ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขครับ ^_^
- ของทุกอย่างที่เห็นในรูปแรก ที่ดูรกอยู่เต็มห้อง
ตอนนี้ยัดเข้าไปในตู้บานกระจกได้ทั้งหมดครับ
ดูหายรกขึ้นมากพอสมควรเลยทีเดียว (แถมเหลือที่ให้เก็บอีกเยอะเลยครับ
รวมถึงพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าที่เหลืออีกเพียบเลย)
-
ส่วนตอนนี้ยังขาดเฟอร์อีกไม่กี่อย่าง
เช่น โซฟา, โต๊ะยาวหลังเตียง, และของตกแต่งพวกโคมไฟและพรม
โดยบางอย่างสั่งซื้อไปแล้ว กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้ บางอย่างก็กำลังเลือกอยู่
เร็ว ๆ นี้จะเอาอัพเดทล่าสุดมาให้ดูกันนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ครับ ^_^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ pondkungz สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม