

โครงการมหานคร แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ขึ้นแท่นตึกสูงที่สุดในประเทศไทย มี 77 ชั้น พร้อมทั้งจุดชมวิวชั้นบนสุดมองเห็นวิวกรุงเทพฯ 360 องศา
จากกรณีตึกแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างย่านสีลมได้สร้างกระแสฮือฮาให้กับชาวเน็ต โดยการออกแบบรูปแบบตึกนั้นได้ออกแบบเป็นรูปท่อนไม้ถูกแทะ ซึ่งผู้ที่ออกแบบตึกดังกล่าวคือ สถาปนิกเยอรมัน โอเล เชียเรน ที่มีชื่อเสียงจากการออกแบบตึกโทรคมนาคม CCTV ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่มีรูปร่างประหลาดเช่นเดียวกัน และการที่ออกแบบเป็นท่อนไม้ที่ถูกแทะนั้น ดร.ต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้นิยามความหมายของตึกดังกล่าวว่า สื่อถึงประเทศไทยที่ต้องผุกร่อนจากการคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ทางผู้พัฒนาโครงการตึกดังกล่าวยังมีเป้าหมายที่จะทำให้เป็นตึกที่มี 77 ชั้น ความสูง 314 เมตร โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย เอาชนะตึกใบหยก และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2558 นี้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : อดีตนายกวิศวกรรมฯ เผย ตึกกลางสีลมดั่งท่อนไม้ถูกแทะ และความหมายที่คาดไม่ถึง คลิก]

ล่าสุด วันที่ 29 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทนี้เป็นผู้พัฒนาโครงการก่อสร้างดังกล่าว ในชื่อโครงการมหานคร เปิดเผยว่า โครงการมหานครถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของบริษัท ที่สามารถสร้างสถาปัตยกรรมแลนด์มาร์กให้กับประเทศไทย และในโอกาสที่เดือนเมษายนนี้ การก่อสร้างสามารถมาถึงจุดสูงสุดของตัวอาคาร ทางบริษัทจึงขอเฉลิมฉลองสถิติใหม่ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนำสุดยอดศิลปินโอเปร่าระดับโลก ‘อันเดรอา โบเชลลี’ มาแสดงโชว์ ภายใต้ชื่อ ‘MahaNakhon a Magical Night with Andrea Bocelli : The World’s Most Beloved Tenor’ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา
นายสรพจน์ กล่าวว่า มหานคร เป็นตึกที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย โดยจัดอยู่ในกลุ่ม Super tall building ทางบริษัทจึงให้ความสำคัญในการก่อสร้างเป็นอย่างมาก โดยได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการก่อสร้าง และได้ผู้รับเหมาอย่าง Bouygues Thai ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัทแม่คือ Bouygues ฝรั่งเศส ซึ่งบริษัทรับเหมาดังกล่าวถือเป็น 1 ใน 3 บริษัทผู้รับเหมาระดับโลก ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า โครงการมหานครจะมีมาตรฐานการก่อสร้างระดับเดียวกับอาคารสูงในมหานครระดับโลกอย่างนิวยอร์ก หรือโตเกียว

นายสรพจน์ กล่าวต่ออีกว่า ตัวอาคารทั้งภายนอกและภายในมีความซับซ้อน โดยแต่ละชั้นจะมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะทำให้การวางระบบสาธารณูปโภค และออกแบบตกแต่งภายในต้องอาศัยความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ซึ่งการดำเนินการภายในตัวอาคารจะทำควบคู่ไปกับการก่อสร้างในส่วนโครงสร้างอาคารชั้นบน เพื่อร่นระยะเวลาการก่อสร้าง โดยคาดว่าภายในปีนี้จะสามารถเก็บรายละเอียดภายนอกตัวอาคารได้ทั้งหมด ในส่วนของภายในอาคารจะสามารถทยอยส่งมอบห้องให้กับลูกค้าตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 จนถึงปี 2559

ทั้งนี้ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นในโครงการมหานครทั้งหมด 100% ซึ่งการเข้าถือหุ้นนี้ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงาน
สำหรับโครงการมหานคร คือ โครงการในรูปแบบผสมผสาน (Mixed-use) ประกอบด้วย




ภาพจาก pacedev.com, เฟซบุ๊ก ต่อตระกูล ยมนาค
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
