
วันที่ 28 มิถุนายน 2558 มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์บริการประชาชน ระบุว่า มีประชาชนหลายคนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีการถูกเจ้าของห้องพักและหอพักเอาเปรียบคิดราคาค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าสูงเกินจริง โดยหากเปรียบเทียบราคากับบ้านเรือนธรรมดาพบว่าผู้เช่าหอพักต้องจ่ายราคาสูงกว่า 1-2 เท่า
โดย ร.ต. ไพโรจน์ คนึงทรัพย์ เลขานุการกรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ตามที่ศูนย์บริการประชาชนของสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า ถูกเจ้าของห้องพักและหอพักคิดราคาค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าสูงเกินจริงนั้น เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ สคบ. เข้าไปดำเนินการตรวจสอบตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว พร้อมทั้งเชิญคู่กรณีเข้ามาไกล่เกลี่ย ทั้งนี้ หากพบว่ามีรายการใดที่ไม่ถูกต้อง ก็จะเจรจาให้เจ้าของหอพักลดราคาให้เหมาะสม
ร.ต. ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าของหอพักมักอ้างว่า การจัดเก็บค่าน้ำของหอพักที่มีราคาสูงกว่าปกติ เนื่องจากทางหอพักมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของค่าไฟฟ้า เพราะต้องสูบน้ำขึ้นไปยังห้องต่าง ๆ ทำให้ต้องคิดราคาสูงกว่าปกติ ซึ่งที่จริง สคบ. มีกฎหมายที่ควบคุมธุรกิจหอพักไว้อยู่แล้ว โดยออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาของ สคบ. กำหนดให้ธุรกิจการให้เช่าที่อยู่อาศัยที่เรียกเงินประกันเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงินโดยบังคับให้เจ้าของหอพักต้องออกหลักฐานการรับเงินจากผู้บริโภคพร้อมระบุรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน หากไม่ทำตามถือว่ามีความผิด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ นายจิรชัย มูลทองโร่ย หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอฝากถึงประชาชนที่เดือดร้อนจากเรื่องดังกล่าว ให้เข้ามาร้องเรียนกับทางภาครัฐ จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หากพบว่า หอพักที่ถูกร้องเรียนมีการคิดราคาค่าน้ำ ค่าไฟสูงเกินจริง ก็เข้าข่ายมีความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ 2542 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
