แทนที่จะปล่อยให้ห้องว่างกลายเป็นห้องเก็บของรก ๆ เต็มไปด้วยของเก่าที่คุณไม่ใช้แล้ว ลองมาดูไอเดียแต่งห้องสวย ๆ โดยการเปลี่ยนห้องขนาด 2.3x3 เมตร ที่ คุณ JouleUp สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม รีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นเซฟเฮ้าส์ส่วนตัวสำหรับนั่งเล่นและทำงาน บรรยากาศสบาย ๆ แถมยังดูปลอดโปร่งแตกต่างจากก่อนรีโนเวทมาก ๆ เลยล่ะ
เราอยู่ที่ใจกลางมหานครในทาวน์โฮมขนาด 3 ชั้นค่ะ ส่วนพื้นที่ข้างบ้านนั้นไม่ว่าจะดูในมุมไหน ก็ไม่น่าจะปลูกต้นไม้ใหญ่พอให้สร้างบ้านค่ะ แต่เราเคยฝันว่าอยากจะมีบ้านบนต้นไม้หรือห้องใต้หลังคาบ้าง เพราะแม่ชอบเปิดหนังให้ดู แล้วเด็ก ๆ ในหนังก็จะมีบ้านบนต้นไม้หรือไม่ก็ห้องใต้หลังคากัน ก็เลยอยากมีกับเขาบ้าง ^^
ซึ่งคนมีจินตนาการอย่างเราก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ค่ะ ตั้งใจไว้ว่าจะต้องสานต่อความฝันในวัยเด็กให้ได้ !!! โจทย์หลักของงานนี้คือ การทำห้องว่างเล็ก ๆ ในบ้านขนาดประมาณ 2.3x3 เมตร ให้กลายเป็นเซฟเฮาส์ไว้นั่งเล่นกับทำงาน ที่ได้ฟีลของบ้านต้นไม้หรือห้องใต้หลังคาตามที่เคยฝันไว้
- ขั้นแรกค่ะเราก็มาตบ ๆ จินตนาการของเราสู่โลกของความจริงก่อน เราเลยพยายามหาไอเดียหลักที่จะทำให้บ้านได้กลิ่นอายอารมณ์บ้านต้นไม้ให้ได้ เลยสรุปเอาเองว่า คีย์หลักก็จะเป็นห้องที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากไม้ ดีไซน์มินิมอลหน่อย ๆ อาจจะไม่ใช่บ้านต้นไม้จ๋าแต่ก็ต้องได้ฟีลแบบอบอุ่น ๆ หน่อย จริง ๆ ตอนแรกลองเสิร์ชดูไอเดียห้องสไตล์ลอฟท์ แต่ว่าที่เจอแบบดิบเกิ๊นนนน ตอนหลังเลยค้นพบว่าถ้าใช้คำว่า Mild Loft จะเจอดีไซน์ที่ใกล้เคียงที่เราต้องการ เราจึงขอเรียกสไตล์ห้องของเราว่าสไตล์ “Mild Loft” แล้วกันค่ะ
- และอันนี้คือภาพสไตล์ที่ใกล้เคียงกับที่เราต้องการค่ะ (อันนี้เอามาจาก Pinterest ค่ะ เสิร์ชคำว่า mind loft, cozy loft, pastel loft etc. เผื่อใครชอบสไตล์นี้)
- เนื่องจากห้องของเราเล็กมาก ๆ เราเลยต้องวางแผนการใส่เฟอร์ให้ดี ๆ ค่ะ ซึ่งขนาดห้องเป๊ะ ๆ ก็คือ 2.34x2.95 เมตรค่ะ (เล็กจริง ๆ) งานการคำนวณแม่นยำเลยต้องมาค่ะ !! ไม่ใช่ว่าชอบชิ้นไหน แล้วจะจับใส่ ๆ อันนี้จะทำไม่ได้นะ ส่วนรูปนี้เป็นแปลนห้องว่างของบ้านเราค่ะ โดยห้องที่จะเอามาทำจะเป็นห้องเล็กชั้น 2 ที่ว่างอยู่ค่ะ ตามแบบเนี่ยเขาแต่งห้องให้เป็นห้องนอนเล็กค่ะ
- อันนี้เป็นรูปถ่ายห้องจริงนะคะ ห้องเล็กมากขนาดที่ว่าไม่ใช้เลนส์ Wide เก็บได้ไม่หมดอะค่ะ ผนังเดิมติดวอลเปเปอร์สีครีมมาให้ มีแค่ติดแอร์กับม่านพับสีดำเพิ่มค่ะ
จากนั้นก็สวมวิญญาณอินทีเรียจำเป็น ใส่ฟังก์ชั่นที่เราต้องการลงไปค่ะ ก็มี 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. พี้นที่ทำงาน : ถึงห้องนอนเราจะใหญ่อยู่แล้ว แต่ตามฮวงจุ้ยเขาบอกว่าห้องทำงานกับห้องนอนไม่ควรอยู่ที่เดียวกันค่ะ เราเลยมาแต่งห้องนี้ให้เป็นพื้นที่ทำงานแทนค่ะ
2. พื้นที่เก็บของ : เป็นที่เก็บหนังสือและของสะสม และอีกมากมายของคนบ้าสมบัติอย่างเรา
3. พื้นที่พักผ่อน : เป็นมุมชิล ๆ ไว้นั่งอ่านหนังสือกับเล่นไอแพดค่ะ
แปลนห้องคร่าว ๆ ที่วาดไว้ค่ะ มีเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหลัก ๆ แค่ 3 ชิ้นคือ ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน แล้วก็โซฟาไว้นั่งอ่านหนังสือ
ความทรหดต่อมาของคนแต่งบ้านก็คือ การเดินเลือกเฟอร์นิเจอร์ค่ะ เดินกันทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ พูดเลยว่าไปฟิตเนสยังเดินไม่นานเท่านี้เลย ทีแรกคิดว่าการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้จะง่ายซะอีก เพราะไม้กับไม้น่าจะผสม ๆ ยี่ห้อกันได้ ปรากฏว่ามันไม่ง่ายเหมือนที่คิดไว้เลย เพราะไม้มีสีมีลายของเขาเอง ชิ้นที่เราเลือกไว้ก็ดันไม่เข้ากัน อันที่เข้ากันก็ดันเอาเข้าห้องไม่ได้
เดินไปเดินมาจนต้นขากระชับ สุดท้ายมาถูกชะตาโต๊ะทำงานของ Habitat (จริง ๆ ชอบอีกตัวที่มีบุหนังบนโต๊ะ แต่มันใหญ่เกินไปสำหรับห้องเราค่ะ เลยได้ตัวนี้มาแทน) ก็เลยสอยชั้นวางของกับโซฟามาพร้อมกันเลย จะได้ครบ 3 ชิ้นที่แพลนไว้พอดี ส่วนของแต่งห้องกิ๋บเก๋ ที่ได้มาระหว่างทางนี่เพียบจ้า ทั้งจากอิเกีย, จตุจักร, ซีดีซี, ตลาดนัด ฯลฯ ไปทุกที่ได้ของแต่งห้องทุกที่เลยค่ะ
- โต๊ะตัวนี้ที่อยากได้ ทำไมถ่ายเบลอล่ะ ? สงสัยหิวจนมือสั่น ฮ่า ๆ ๆ
- ได้ของครบแล้วก็ถึงเวลาจัดห้องค่ะ ท้า...ดา !!!
- ภาพ Before ถ่ายจากด้านนอกห้องและถ่ายจากในห้อง
- ภาพ After ตอนจัดเสร็จแล้วค่ะ ต่อไปมาดูทีละส่วนกันค่ะ
- มุมห้องทำงานที่จัดเสร็จแล้วค่ะ ส่วนที่ชอบมากของมุมนี้คือ โต๊ะตัวนี้แหละค่า สอยมาจาก Habitat เพราะเปิด-ปิดตรงกลางโต๊ะได้ด้วย เพราะเราเป็นคนที่เวลาใช้อะไรเสร็จ จะวางไว้ตรงนั้น (คิดมาตลอดว่าเดี๋ยวกลับมาใช้ใหม่อีก ไม่ต้องเก็บก็ได้ คือจริง ๆ เป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจค่ะ ฮ่า ๆ ๆ) ฉะนั้นเวลาที่ปิดแผ่นไม้ตรงกลางโต๊ะ ก็จะเหมือนเก็บของไปในตัว หมดปัญหาคุณแม่มาช่วยเก็บโต๊ะแล้วหาของตัวเองไม่เจอ ส่วนที่ชอบอีกอย่างคือมีขนาดพอดีกับห้องด้วยค่ะ
- ของที่ขาดไม่ได้สำหรับห้องนี้ค่ะ น้องซอนนี่แองเจิล ต้องพาน้องย้ายบ้านมาด้วย
- น้องอีกมุมนึง ยืนเป็นระเบียบอยู่บนชั้นวางของ ;) น่ารักใช่ปะล่า
- ด้วยความที่อยากให้ในห้องต้นไม้มาก (ตามโจทย์ใหญ่คือบ้านต้นไม้) ระหว่างทางเลือกเฟอร์นิเจอร์เลยไปได้เรือนกระจกเล็ก ๆ น่ารักจากอิเกียมา แต่ปรากฏว่ามันสูงกว่าชั้นวางของค่า มันใส่ไม่ได้อ่ะ น้ำตาจะไหล ร้องไห้ ตอนเลือกก็ไม่คิดในจุดนี้ โชคดีที่ชั้นวางของตัวที่ซื้อมามีชั้นที่ปรับระดับสูง-ต่ำได้ เลยโชคดีไป (นึกว่าต้องเอามาวางพื้นซะแล้ว)
- ต่อมาเป็นพื้นที่พักผ่อนค่ะ ส่วนที่เห็นเหมือนเป็นเห็ดสีเหลือง ๆ เข้าชุดกับโซฟาก็คือ เก้าอี้น้อย ที่เราใช้วางขาค่ะ เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้ แต่นั่งสบายมากสำหรับผู้หญิงขนาดเมตรครึ่งอย่างเรา แต่ถ้าอยากเอกเขนก ก็ลงมานั่งเล่นนอนกลิ้งที่พรมได้ เวลาที่อ่านหนังสือหรือฟังเพลงเบา ๆ อาจมีเคลิ้มได้นะ
- เห็นตอนกลางวันแดดสว่างจ้าไปแล้ว ต่อมาลองดูตอนห้องมืด ๆ แล้วเราเปิดไฟบ้างดีกว่าค่ะ โดยเราเอาไฟดวงเล็ก ๆ ติดไว้ตรงมุมห้องใกล้โต๊ะทำงานค่ะ นอนมองจากตรงโซฟาก็สวยดี หรือเปิดเวลาทำงานก็ได้ฟีลไปอีกแบบ (โรแมนติกเนอะ อิอิ)
- มาถึงมุมสุดท้ายค่ะ ด้วยความที่อยากได้ห้องที่มีต้นไม้เยอะ ๆ เราก็เลยดั้นด้นไปหาแบบต้นไม้ที่ปลูกในห้องได้แบบเก๋ ๆ มา พยายามหาแล้วแต่หาไม่ได้เลย พอดีไปเจอหลอดแก้ว เป็นเหมือนโมบายห้อยยาว ๆ ลงมา แถมมีตัวจุ๊บกระจกมาให้ด้วยไม่ต้องเจาะกำแพง สุดท้ายก็เลยเอามาปลูกต้นไม้เล็ก ๆ ไปห้อยไว้ที่หน้าต่างค่ะ เราได้ต้นเดฟจากจตุจักรมา (ไม่แน่ใจว่าเดฟอะไร) ถามลุงที่ขายต้นไม้ลุงบอกว่า ตัดเอาไปใส่หลอดแก้ว ใส่น้ำ เดี๋ยวรากก็งอก เลี้ยงแบบนี้เดี๋ยวรากก็ขึ้น แถมโตเร็วด้วย ก็เชื่อลุงนะเลยซื้อต้นใหญ่มาให้แม่เลี้ยงที่สวนข้างบ้าน แล้วตัดบางส่วนมาเลี้ยงในห้อง ;B ถ้าเรามองออกไปนอกหน้าต่างจะได้มุมนี้ สดชื่นมากค่ะ
- โชว์รูป Before & After อีกสักรอบ
- และนี่ก็เป็นเซฟเฮ้าส์ขนาด 2.3x3 เมตรของเรานะคะ พื้นที่เล็ก ๆ ส่วนตัวอาจจะไม่ได้เหมือนบ้านต้นไม้ซะทีเดียว แต่ก็ได้ฟีลอบอุ่น เป็นไอเดียแต่งห้องเล็ก ๆ ให้น่าอยู่ของเรา ไว้คราวหน้าทำห้องอื่น ๆ เสร็จแล้วจะเอามาแชร์กันนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ JouleUp สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม