x close

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ !

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้

        วิธีปลูกข้าวที่ถูกประยุกต์ให้เข้ากับที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมากขึ้น เพราะมีที่ว่างเล็ก ๆ ก็สามารถปลูกข้าวกินเองได้ ด้วย 3 วิธีปลูกข้าวง่าย ๆ ที่นำมาให้ชมกันต่อไปนี้

        ก่อนหน้านี้การทำนาอาจต้องใช้ที่ดินเป็นหลายไร่ แต่เดี๋ยวนี้ต่อให้อยู่ในเมืองที่มีพื้นที่นิดเดียวก็ปลูกข้าวกินเองได้ ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไร ก็ตามไปหาคำตอบกันเลยกับ 3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมืองที่หนังสือ Let\'s be a farmer ปลูกข้าวกันเถอะ รวบรวมข้อมูลมาฝากกันในวันนี้ บอกเลยว่าใคร ๆ ก็ทำได้ แถมถ้าทำได้แล้วน่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยด้วยล่ะ
ไม่มีที่ทางก็ปลูกข้าวได้ในสไตล์คนเมือง (Let\'s be a farmer ปลูกข้าวกันเถอะ)
เรียบเรียง : ประอรพิชญ์ คัจฉวัฒนา 
วาดภาพประกอบ : na-ru

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้

        มาถึงตอนนี้ คนเมืองหลายคนอาจอุทธรณ์ว่า ฉันยังไม่มีทุนซื้อที่นา แต่อยากปลูกข้าวจังเลย ทำอย่างไรดี ไม่ต้องกลุ้มใจไป เรามีวิธีง่าย ๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง อย่างการปลูกข้าวในบ่อซีเมนต์และวงบ่อซีเมนต์ การปลูกข้าวในวงยางรถสิบล้อ การทำนาบก ไปจนถึงการปลูกข้าวในกระถางต้นไม้ มาแนะนำกัน

เรื่องน่ารู้ก่อนจะเป็น Urban Farmer

        ก่อนจะไปเลือกวิธีการปลูกข้าวสไตล์คนเมืองที่เหมาะสมกับต้นทุนและสถานที่ มีสิ่งที่เป็นเหมือนปฐมบทในการปลูกข้าวอินทรีย์ที่คนเมืองต้องเรียนรู้กันด้วย

        ด้วยในเมืองมีตึกรามบ้านช่องมากมายที่อาจจะบังทิศทางแสงแดดที่จะส่องให้ทั่วถึงบริเวณที่ปลูกข้าว ดังนั้นชาวนาคนเมืองรุ่นใหม่จึงต้องดูทั้งทิศทางลมและทิศทางแสงแดดด้วย เพราะข้าวจะเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่แสงแดดส่องถึง ต้องแน่ใจว่าสถานที่ที่เลือกปลูกข้าวมีแหล่งน้ำเพียงพอที่จะมาหล่อเลี้ยงลำต้นของพืชได้อย่างพอเพียง ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำประปา และบ่อบาดาลก็นำมาใช้ได้หมด แม้กระทั่งน้ำเสียใช้แล้วจากครัวเรือน หากนำมาบำบัดด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์และการกรอง ก็นำกลับมาใช้ได้อีก

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้

1. ปลูกข้าวในวงบ่อซีเมนต์...ง่ายนิดเดียว

        ข้อดีเด่นชัดสำหรับการปลูกข้าวในบ่อซีเมนต์หรือในวงบ่อซีเมนต์คือ แค่ลงทุนซื้อบ่อซีเมนต์ครั้งเดียวก็เก็บไว้ใช้ได้นานกว่า 10 ปี และถ้าปลูกรวมถึงดูแลอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมดิน ปักดำ หรือดูแลจัดการโรคข้าวและแมลงศัตรูข้าว รับรองว่าได้ผลผลิตที่มีคุณภาพไม่แพ้การปลูกข้าวในนาข้าว จึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกข้าวอินทรีย์ไว้กินเอง

        การปลูกข้าวในบ่อซีเมนต์ ให้ใช้บ่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 85 เซนติเมตร สูง 1 เมตร ซึ่งจะกินพื้นที่ประมาณ 1 ตารางเมตรต่อบ่อ โดยมีต้นทุนเพื่อนำไปซื้อบ่อซีเมนต์ประมาณ 3,000 บาทต้น ๆ ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวเบาหรือพันธุ์ข้าวลูกผสม อายุการเก็บเกี่ยวไม่ขึ้นกับช่วงแสง ซึ่งพันธุ์ที่แนะนำ ปลูกแล้วได้ผลผลิตดี คงทนแข็งแรงต่อโรคและแมลง ได้แก่ ข้าวสุพรรณบุรี 1 ปลูกได้ 4 ครั้งต่อปี ใน 1 บ่อ ให้ผลผลิตข้าวเปลือกประมาณ 50-60 กิโลกรัมต่อปี หรือมีอีกทางเลือกหนึ่งคือ การปลูกข้าวหอม ปทุมธานี 1 ก็จะให้ผลผลิตในระดับดี แต่อาจจะน้อยกว่าพันธุ์สุพรรณบุรี 1 เล็กน้อย

สร้าง “บ่อนาซีเมนต์” กันก่อน

        เริ่มจากการปรับพื้นที่ที่จะสร้างบ่อนาซีเมนต์ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย แล้วนำก้อนอิฐบล็อกมาก่อตามความสูงที่ต้องการ เมื่อก่อสร้างแล้วให้เทพื้นบ่อด้วยปูนซีเมนต์หนาประมาณ 2-3 นิ้ว โดยประมาณ และอย่าลืมผสมน้ำยากันซึมแล้วฉาบด้านบนให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการรั่วซึม

เตรียมดิน

        ใส่ดินลงไปในบ่อวงจนสูง 20-30 เซนติเมตร ผสมมูลวัวหรือปุ๋ยอินทรีย์ให้ดินประมาณ 1 กิโลกรัมต่อบ่อ จากนั้นใส่น้ำลงไปให้ท่วมดิน แช่น้ำทิ้งไว้ 2 คืน

ลงมือ “ปลูก”

        ก่อนปลูกต้องย่ำดินให้เละ จากนั้นนำต้นกล้าที่เพาะจนมีอายุได้ 20-25 วัน มาปักดำ โดยข้าว 1 กอที่จะปักดำ ควรมีต้นข้าวประมาณ 3-4  ต้น ปักดำโดยห่างจากขอบวงบ่อระหว่างกอข้าวแต่ละกอประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือ 3-5 นิ้ว ในบ่อวง 1 บ่อจะปักดำได้ 10 กอ

ให้น้ำ

        เมื่อดำข้าวได้ 2-3 วัน ให้ใส่น้ำในบ่อจนสูง 2 นิ้ว แล้วรักษาระดับน้ำไว้ตลอด หลังจากดำกล้าได้ 50 วัน จะเป็นช่วงที่ข้าวตั้งท้อง ให้งดให้น้ำเป็นเวลา 7 วัน หลังจากนั้นค่อยให้น้ำต่อถึงช่วงก่อนเกี่ยวข้าว 7 วัน จึงงดให้น้ำอีกครั้งหนึ่ง

ใส่ปุ๋ย

        หลังจากปักดำข้าวได้ 7 วัน  ค่อยให้ปุ๋ยอินทรีย์ครึ่งกิโลกรัม ต่อ 1 บ่อ และให้ปุ๋ยอินทรีย์อีกครั้งเมื่อข้าวอายุได้ 20 วัน ในปริมาณครึ่งกิโลกรัมต่อบ่อเหมือนเดิม

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้

เก็บเกี่ยวผลผลิต

        ในวงบ่อ 1 บ่อ จะให้ผลผลิตข้าวเปลือกประมาณ 1 กิโลกรัมต่อ 1 รอบการปลูก

        นอกจากปลูกแล้ว ยังสามารถใช้วงบ่อซีเมนต์เป็นที่เพาะกล้าเพื่อนำไปปักดำได้ด้วย โดยให้เตรียมเมล็ดข้าวปลูกที่ผ่านการแช่น้ำมาแล้ว 1 คืน และบ่มในกระสอบอีก 1 คืน แล้วหว่านข้าวปลูก 2 กำมือลงไปในบ่อวงซีเมนต์ที่มีดินสูง 20-30 เซนติเมตร ซึ่งได้เปิดน้ำแช่ดินไว้ 2 คืนแล้ว จากนั้นหลังหว่านไป 4 วัน เมล็ดข้าวจะแตกใบดูแลอย่าให้ขาดน้ำ จนกระทั่งต้นกล้าอายุได้ 20-25 วันจึงถอนกล้าไปปักดำได้

2. ทำนาบกก็ได้นะ

        ฟังดูแปลกหูไปสักหน่อยสำหรับใครหลายคน แต่ขอคอนเฟิร์มว่าการทำนาบกทำได้จริง และเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในเมืองที่มีอยู่น้อยนิดแน่นอน เพราะนิยามของการทำนาบกคือ การทำนาในพื้นที่เท่าที่มี ไม่จำกัดพื้นที่ รูปร่างและขนาด

เรียนรู้วิธีทำนาบกกันก่อน

        แค่พื้นที่เพียง 18 ตารางเมตรก็สามารถปลูกนาบกได้แล้ว และนาบกผืนนี้ยังให้ผลผลิตข้าวพอกินสำหรับคน 1 คนต่อ 1 ปีเลยทีเดียว แถมใช้น้ำน้อยและดูแลรักษาไม่ยากด้วย แค่ยึดเคล็ดลับว่าการดำนาบกต้องมีการเว้นระยะให้เหมาะสม แค่นี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้

วิธีทำนาบกมีขั้นตอนดังนี้

         ใช้ดินเหนียว ดินนา หรือไม้ มาทำกรอบสูงประมาณ 15 เซนติเมตร โดยให้มีความกว้างคูณยาวเท่ากับขนาดของผ้ายางที่ซื้อมารองพื้น

         นำผ้ายางมาปูทับลงไปในกรอบที่ทำเอาไว้ ให้ผ้ายางเกยขึ้นมาเหนือขอบเล็กน้อย จากนั้นโกยดินเหนียวให้ทับผ้ายางที่เกยขึ้นมา ถ้าทำกรอบด้วยไม้ ให้ใช้เชือกผูกให้แน่น

         นำดินนาผสมคลุกเคล้ากับปุ๋ยอินทรีย์หรือมูลวัวพอประมาณ แล้วนำมาใส่ลงในกรอบพื้นที่ที่เตรียมเอาไว้ให้สูงประมาณ 8-10 เซนติเมตร (ในกรณีที่ใช้ดินทั่วไป ให้ใส่น้ำแช่ไว้ก่อน 2 คืน จึงพร้อมสำหรับดำกล้าได้)

         ใส่น้ำให้พอมีน้ำแฉะ ๆ แล้วค่อย ๆ ปรับดินให้เสมอกัน

         นำกล้าที่เพาะไว้ 17 วันมาดำลงในพื้นที่นาบกที่เตรียมไว้ โดยให้แต่ละกอห่างกันประมาณ 18 เซนติเมตร เว้นระยะจากขอบแปลง 5 เซนติเมตร เมื่อดำกล้าเสร็จแล้ว 3-4 วันให้เติมน้ำลงไปให้สูงในระดับ 3 นิ้ว จากนั้นค่อยเติมน้ำเรื่อย ๆ เมื่อสังเกตว่าน้ำเริ่มแห้ง

การดูแลข้าวในนาบก

         เติมน้ำเมื่อสังเกตว่าน้ำแห้งเท่านั้น อย่าเติมบ่อยจนดินแฉะเกินไป ขณะเดียวกันอย่าปล่อยจนดินแห้งแล้วจึงค่อยเดิม

         หลังจากที่คลุกเคล้าปุ๋ยแล้ว ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มอีกเพียง 2-3 ครั้ง ในพื้นที่ 18 ตารางเมตรจะใช้ปุ๋ยเพียง 10-20 กิโลกรัมเท่านั้น

         ดินที่ใช้ทำนาบก ถ้าไม่ใช่ดินนา ให้ใช้ดินธรรมดา ไม่ควรใช้ดินถุงสำเร็จรูปเด็ดขาด

3. ทำนาจากยางรถสิบล้อสุดเท่

           ได้พบเห็นกันเป็นประจำอยู่แล้วกับการประยุกต์เอายางรถยนต์มาใช้เป็นกระถางต้นไม้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ถึงเวลานำไอเดียนี้มาปรับใช้กับการปลูกข้าวบ้างแล้ว แต่ยางรถยนต์ที่ใช้ขอขยับไซส์จากยางรถยนต์ธรรมดาเป็นยางรถสิบล้อ เพราะมีขนาดใหญ่ ปลูกข้าวได้หลายต้นหน่อย

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้

ตระเตรียมทำนาล้อยาง

         เริ่มจากการใช้มีดกรีดล้อยาง โดยใช้มีดกดด้านเว้าข้างในของล้อยางข้างบน แล้วกรีดมีดที่มุมล้อด้านนอกของด้านบนล้อยาง ล้อยางที่กรีดแล้วจะถูกเปิดกว้าง 1 ด้านเพื่อใส่ดินลงไปได้

         นำปูนผสมกับทรายหยาบเทลงไปตรงบริเวณที่เห็นระดับของดิน โดยให้สูงจากขอบแก้มยาง 1 นิ้ว เมื่อปูนแห้ง ใช้น้ำยากันซึมผสมกับปูมฉาบทับลงไปอีก 2 ครั้ง เมื่อแห้งแล้วใส่ดินที่เตรียมลงไปสัก 3 บุ้งกี๋เททับด้วยมูลวัวอีก 1 กระสอบเล็ก จากนั้นใส่ดินลงไปให้เต็ม แล้วใส่น้ำลงไปในนาล้อยาง แช่ทิ้งไว้ 2-3 วัน ดินก็จะยุบลงไปเหลือพื้นที่ใส่น้ำได้พอดี

ลงมือดำกล้าข้าวในนาล้อยาง

         ดำกล้าให้ขอบนอกสุดชิดขอบล้อ ให้แต่ละกอห่างกัน 6 นิ้วหรือ 15 เซนติเมตร วงล้อยางรถสิบล้อ 1 ล้อสามารถดำกล้าได้ประมาณ 10-12 กอ

ดูแลนาข้าวล้อยาง

         หลังจากดำกล้าไป 7 วัน ให้เติมน้ำ 1 ครั้ง โดยรักษาระดับน้ำไว้ให้ได้ประมาณ 3 นิ้ว เมื่อข้าวเริ่มตั้งท้องให้ไล่น้ำ 3 วันต่อครั้ง พอข้าวเริ่มออกรวงจึงหยุดให้น้ำ รอดูจนกว่าน้ำจะแห้งลงไป เมื่อน้ำแห้งข้าวจะสุกพร้อมเก็บเกี่ยวพอดี

เคล็ดลับการเก็บเกี่ยว

         ให้เกี่ยวข้าวเหลือตอซังไว้ ไม่ควรถอนทั้งกอ เพื่อให้ตอซังย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยต่อไป และด้วยล้อยางไม่ให้แข็งแรงอย่างบ่อปูนซีเมนต์ การดำกล้าครั้งต่อไปควรดำระหว่างกอเดิม จะได้ไม่ต้องออกแรงดำและย้ำเพื่อให้กล้าข้าวยึดกับดิน

3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้
หนังสือ Let\'s be a farmer ปลูกข้าวกันเถอะ
ประอรพิชญ์ คัจฉวัฒนา เรียบเรียง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
3 วิธีปลูกข้าวสไตล์คนเมือง มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ ! อัปเดตล่าสุด 14 สิงหาคม 2560 เวลา 21:16:03 111,860 อ่าน
TOP