x close

แชร์บทเรียนซื้อคอนโดจากมือใหม่ เรื่องเตือนใจก่อนเสียรู้ !



           แชร์ประสบการณ์การซื้อคอนโดจากมือใหม่หัดลงทุน ที่นำมาสู่ปัญหาและบทเรียนราคาแพง เลยอยากจะนำมาบอกเล่าพร้อมข้อเตือนใจให้กับคนที่กำลังจะซื้อคอนโด

           หากไม่อยากให้เงินก้อนโตที่เก็บมานานหายวับไปกับตาเพราะความไม่รู้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อคอนโดสักแห่งก็ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดตั้งแต่เบื้องหลังของบริษัทและหลากหลายแง่มุมเกี่ยวกับโครงการให้ถี่ถ้วน เพราะไม่อย่างนั้นหากเซ็นสัญญาไปแล้วแต่เจอปัญหาภายหลังอาจหาทางแก้ได้ยาก วันนี้เลยขอนำบทเรียนซื้อคอนโดสำหรับมือใหม่ ของ คุณ fantastic GiRL สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาบอกเล่าไว้เป็นประสบการณ์พร้อมเตือนใจให้กับคนที่กำลังจะซื้อคอนโด จะได้ไม่เกิดปัญหาตามไปอีกคน

บทเรียนซื้อคอนโดสำหรับมือใหม่ (แชร์ประสบการณ์นะคะ) โดย คุณ fantastic GiRL

           วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ในการซื้อคอนโดค่ะ สำหรับเราคือมือใหม่มาก ๆ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะอยากลงทุนค่ะ เก็บเงินเองมันควบคุมไม่ได้ 100% เท่ากับไปผ่อนซื้ออะไรไว้ เพราะเราจะมีวินัยมากกว่า ^^

           ก็เลยมาตกลงซื้อคอนโดโซนใกล้บ้านเพื่อจะได้ดูแลได้ง่ายค่ะ ตั้งใจจะปล่อยเช่าค่ะ แต่เนื่องจากเราอยู่รังสิตตัวเลือกเลยมีไม่มากเท่าไร กระทั่งไปเจอคอนโดชีวิตดี๊ดี (นามสมมุติ) อยู่ใกล้คลองรังสิต (ติดเลยดีกว่า) เราก็เข้าไปดู เท่าที่คุยก็มีจุดต้องระวังหลายจุดค่ะ

1. เขาไม่เคยทำโครงการอื่นมาก่อน

           ซึ่งจุดนี้คือจุดที่น่ากลัวจุดหนึ่ง อยากให้มือใหม่สังเกตกันดี ๆ นะคะ เพราะถ้าเป็นเจ้าใหญ่ ๆ ก็จะค่อนข้างมืออาชีพหรืออย่างน้อยถ้ามีปัญหาอะไรก็ตามง่ายกว่า ซึ่งที่บอกว่าตามง่ายเพราะถ้าเขามีโครงการอื่นที่ขายอยู่ในเวลาใกล้กัน เขาก็จะกลัวเสียชื่อเสียงโครงการอื่น เลยมีผลทำให้เขาเข้ามาปิดปัญหาของเราได้เร็วขึ้นค่ะ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)

2. โครงการยังไม่ผ่าน EIA (ใบอนุญาตสิ่งแวดล้อม)

           EIA หรือใบอนุญาตสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะผ่านได้เมื่อไร และถ้าไม่ผ่านต้องรอไปอีกเท่าไร เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อตรวจสอบใบอนุญาตให้เรียบร้อยก่อนนะคะ

3. โครงการยังไม่เริ่มสร้าง
          
           เรื่องนี้บางทีซื้อก่อนสร้างก็จะได้ราคาถูกกว่าสร้างก่อนขายแต่ก็เสี่ยงพอสมควร เพราะถ้ายอดจองไม่ได้ตามเป้าหรือเอกสารต่าง ๆ ไม่ผ่าน ก็มีสิทธิ์ไม่สร้างได้เช่นกัน และถึงเวลานั้นกว่าจะได้เงินคืนก็เสียเวลามาก ๆ และกว่าจะได้คืนครบนี่ก็เหนื่อยกันเหมือนกันนะคะ

           สามข้อข้างต้นนี้เป็นจุดสังเกตที่เราเจอตอนที่จะจองโครงการนี้ แต่นั่นคือจุดที่เรามองข้ามไปค่ะ เรื่องมันก็เลยเกิด (บอกแล้วว่ามือใหม่ ฮ่า ๆ ๆ) มาฟังประสบการณ์ของเรากันนะคะ ^^

           เราจองโครงการนี้ตอนเดือนกันยายนปี 2555 ซึ่งทางเซลส์บอกว่ารอแค่เอกสาร EIA ซึ่งผ่านแน่ ๆ และกำหนดการสร้างคือเดือนตุลาคม อีกแค่เดือนเดียวจากที่เราจองแค่นั้น เซลส์ก็รับรองแข็งขันค่ะว่าได้แน่ ๆ เพราะเอกสารครบหมดแล้วรอเซ็นแค่นั้น เราก็เออออจองไปสี่หมื่นกว่าบาท และตามสัญญาคือเริ่มผ่อนดาวน์เมื่อเริ่มสร้าง (ก็คือเดือนหน้า) และกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2557 พอถึงเดือนตุลาคมปรากฏว่าก็ยังไม่ผ่าน เราก็เลยขอยังไม่ผ่อนดาวน์ (เพิ่งมาแอบฉลาด) ทางโครงการก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษร แค่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ เราก็โทรถามทุกเดือนแต่ก็ไม่อนุมัติ ถามจนเซลส์บอกว่าถ้าไม่สะดวกใจก็มายกเลิกสัญญาได้นะคะ แต่เราก็คิดว่าเพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือน ก็เลยเชื่อใจรอไปก่อน

           ผ่านไปจนถึงต้นปี 2557 โครงการก็ยังไม่มีทีท่าจะได้เริ่มสร้างแต่อย่างใด เราก็โทรไปถามเป็นระยะเช่นเคยและอ่านสัญญาเจอว่า ถ้าเราผิดนัดชำระจะมีค่าปรับ เราก็เลยขอเข้าไปคุย เพื่อทำสัญญาเพิ่มเติมในกรณีที่ไม่ผ่อนดาวน์ ตอนที่เข้าไปคุยก็ปรากฏว่าโครงการชี้แจงเรื่องการขออนุญาตหลายครั้งที่โดน reject กลับมาและเขาจะมีการแจ้งลูกบ้านทุกครั้ง เราก็ต่อว่าที่ไม่มีการแจ้งข่าวอะไรเราเลย ต้องตามเองตลอด เขาก็อ้างว่าติดต่อเราไม่ได้ทั้งทางจดหมายและทางโทรศัพท์ (เป็นความซวยของคนซื้อสินะ)

           สุดท้ายเราเลยตัดสินใจขอยกเลิกสัญญา เพราะโครงการผิดนัดและไม่มีการแจ้งข่าวความคืบหน้า ปรากฏว่าเซลส์บอกว่าไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะในสัญญาจะสร้างเสร็จปี 2557 และตอนนี้โครงการก็ยังไม่ผิดสัญญา เราก็เลยถามว่าก่อนสิ้นปียังเคยบอกว่าให้ยกเลิกสัญญาได้อยู่เลย ทำไมตอนนี้ไม่ได้แล้ว เซลส์ก็บอกว่าธนาคารไม่ยอมให้เอาเงินออกมาแล้ว สุดท้ายก็เลยทำได้แค่สัญญาที่จะไม่ผ่อนดาวน์จนกว่าจะเริ่มสร้างเป็นลายลักษณ์อักษรไว้แค่นั้น และจนถึงบัดนี้โครงการก็ยังไม่ผ่าน EIA ใด ๆ ทั้งสิ้น

           จนมาเข้าปีนี้โครงการก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเคย เดือนมิถุนายนเราจึงตัดสินใจติดต่อโครงการอีกครั้งเพื่อยกเลิกสัญญา รอบนี้โครงการบอกว่าไม่มีปัญหาบอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกที ผ่านไป 2 อาทิตย์โทรถามก็ได้ความว่าต้องประชุมกันก่อน และอาทิตย์ที่ผ่านมางดประชุมพอดี เราก็รอข่าวต่อไป จนมาเข้าเดือนกรกฎาคมโครงการถึงอนุมัติคืนเงินจองให้เรา โดยจะโอนเข้าบัญชีให้และจะแจ้งวันอีกที โทรตามอีก 2 รอบเงินงวดแรกถึงเข้ามาเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี่เอง และแบ่งจ่ายเป็น 4 งวด (กว่าจะได้ครบก็พฤศจิกายนนู่น)

           เหนื่อยใจนะคะตอนทำสัญญาเราจ่ายสดจ่ายเต็ม แต่ตอนจะขอคืน (ทั้ง ๆ ที่โครงการผิดสัญญา) เรากลับมาทวงเกือบ 2 เดือน นี่ยังไม่รวมเวลาที่ขอยกเลิกมาก่อนหน้านั้นแต่โครงการไม่ทำให้นะคะ แล้วเงินที่ได้ก็ไม่ใช่ได้ทีเดียวด้วยมาแบ่งจ่าย 4 งวด เงินหลักหมื่นแค่นี้เอาไปหมุนมันได้ดอกเยอะมากเลยเหรอคะ ถึงคืนลูกค้าเต็มจำนวนไม่ได้

           ประสบการณ์ที่แชร์มาวันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่คิดจะซื้อคอนโดบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

          
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ ^^


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ fantastic GiRL สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แชร์บทเรียนซื้อคอนโดจากมือใหม่ เรื่องเตือนใจก่อนเสียรู้ ! อัปเดตล่าสุด 20 สิงหาคม 2558 เวลา 17:48:09 10,680 อ่าน
TOP