DIY เฟอร์นิเจอร์จากท่อประปา ถ้าใครไม่อยากเสียเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง ลองดูขั้นตอน DIY เฟอร์นิเจอร์จากท่อประปา ของ คุณ แกะเทา แล้วเอาไปลองทำดูแล้วจะรู้ว่าการทำเฟอร์นิเจอร์ใช้เองอาจไม่ได้ยากอย่างที่คิด และหากทำจนคล่องยังเอาไปทำขาย สร้างรายได้ได้อีกทางหนึ่งด้วยนะคะ
[CR]CR : DIY ทำเฟอนิเจอร์ จากท่อประปาใช้เอง โดย คุณ แกะเทา
ผมมีอพาร์ทเม้นท์เล็ก ๆ ให้เช่าอยู่ แต่ด้วยความที่เฟอร์นิเจอร์ในห้องลูกค้าคนปัจจุบันเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้พาร์ติเคิลบอร์ด ซึ่งมีข้อดีคือดูสวยงาม ราคาไม่แพง มีแบบให้เลือกเยอะ หลายสี หลายราคา แต่ข้อเสียคือเฟอร์นิเจอร์แบบนี้จะไม่ทนโดยเฉพาะถ้าโดนน้ำ หากลูกค้าลืมวางแก้วกาแฟหรือลืมปิดหน้าต่างแล้วฝนสาด โอกาสที่ไม้จะด่างหรือบวมง่ายมาก ผมก็เลยอยากลองทำเฟอร์นิเจอร์จากท่อประปามาลองใช้เอง ใครนึกภาพไม่ออกลองพิมพ์คำว่า "pipe furniture" ในกูเกิลก็ได้ครับ หน้าตาประมาณนั้น
ส่วนตัวผมเองก็ชอบแนวนี้อยู่แล้ว อยากลองแต่งห้องเช่าแบบแนวร้านกาแฟหรือรีสอร์ทปูนเปลือยประมาณนั้น เลยคิดว่าน่าจะลองทำเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ดู ส่วนห้องปกติที่ปูกระเบื้องแล้วทาสี ผมก็บอกผู้รับเหมาว่าขอทำห้องแบบปูนเปลือยแนวลอฟท์ประมาณนั้น ไม่ทาสี ไม่ปูกระเบื้อง เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์ที่เราทำมามันเข้ากันได้ ความจริงแล้วคำว่าปูนเปลือยกับปูนขัดมันก็แตกต่างกัน แต่ตอนสั่งให้ช่างทำเราไม่มีความรู้เพราะคิดว่ามันเหมือนกัน ลองดูนะครับ ว่าสุดท้ายมีอะไรสำเร็จและมีอะไรล้มเหลวบ้าง
อันนี้เป็นเตียงนะครับ แต่กว่าจะได้แบบนี้ยุ่งยากเหมือนกัน 
ดูหน้าตาของห้องหน่อยนะครับ
อันนี้เป็นรูปห้องตอนที่ให้ช่างทำแบบปูนเปลือยครับ จะสังเกตเห็นว่าห้องที่เสร็จแล้วเป็นผนังสีเทาอ่อนแบบรูปข้างบน แต่ห้องนี้เราอยากได้ปูนเปลือยทั้งห้องรวมพื้นด้วย 
อันนี้ตอนใกล้เสร็จดูก็โอเคดี อารมณ์เหมือนร้านกาแฟสี นึกในใจว่าเดี๋ยวลงเคลือบเงาแล้วคงจะสวย
ภาพตอนเสร็จแล้ว ทำไมมันดูน่าเกลียดแบบนี้หว่า ยิ่งทาเคลือบเงายิ่งดูสกปรก ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะดูหลอนมาก ผมก็เรียกเพื่อนมาช่วยดู ทุกคนลงความเห็นว่าน่ากลัวมากกว่าน่าอยู่ ระหว่างนี้ก็มีลูกค้ามาดูห้องตัวอย่างทุกคนจะเลือกห้องที่ทาสีปกติ พื้นปูกระเบื้องหมด มีห้องนี้ห้องเดียวที่ขายไม่ได้ สุดท้ายก็ถอดใจเราอาจผิดเองที่สื่อสารกับช่างไม่เป็นหรือคาดหวังมากไป บอกให้ช่างแก้เอาสีทาผนังให้เหมือนห้องอื่น ส่วนพื้นที่ทำเป็นปูนเปลือยไปแล้ว จะปูกระเบื้องก็ไม่ได้เพราะยกระดับพื้นและติดประตูเรียบร้อยแล้ว ผมเลยเลือกกระเบื้องยางมาปูทับ 
กลับมาที่เฟอนิเจอร์รอระหว่างที่ช่างทำห้อง ผมก็ดูแบบในกูเกิลเลือกเอาแบบที่ธรรมดาที่สุด ทำเอาไว้ใช้วางของเองก่อน ถ้าเข้าท่าก็จะเริ่มทำในห้องของลูกค้า อันนี้เป็นชั้นวางของตัวแรกที่ลองทำครับ วิธีทำจริง ๆ มันไม่ได้ยุ่งยากเลย แค่ดูรูปในหลาย ๆ มุมและทำความเข้าใจกับมัน ลองวาดแบบในกระดาษแล้ววัดความยาวหน้างาน ที่ยุ่งยากคือการหาร้านทำเกลียวกับร้านขายไม้ราคาถูก 
อันนี้เป็นรูปตอนที่ตัดท่อน้ำมาและมีเกลียวด้วย เหลือแค่ทำสีกับนำอุปกรณ์มาประกอบกัน 
วิธีทำ
1. เตรียมอุปกรณ์ท่อเหล็กประปาตามร้านขายจะมีขนาดเดียวคือ ยาว 6 เมตรราคาประมาณ 2-3 ร้อยบาทต่อเส้น มี 2 แบบคือแบบหนา (มีพ่นสีน้ำเงินนิดหน่อยที่ท่อ) กับแบบหนาน้อย (จะพ่นสีเหลืองที่ท่อ) ถ้าทำชั้นวางผมแนะนำให้ใช้ขนาดครึ่งนิ้วสีน้ำเงินหรือสีเหลืองก็ไม่มีผลครับ เพราะชั้นวางของไม่ได้รับน้ำหนักมากมายแค่ 10-20 กิโลกรัมเท่านั้น หนามากหรือหนาน้อยก็ได้ครับ (ในรูปเป็นแบบหนาสีน้ำเงิน) 2. พอเราตัดเหล็กตามที่เราต้องการได้ เราต้องทำเกลียวที่ปลายท่อเหล็กทุกท่อน บางร้านจะมีเครื่องทำเกลียวด้วย บางร้านมีบางร้านไม่มี บางร้านคิดแพงเว่อร์ แต่ที่ผมซื้อมาราคากลาง ๆ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 บาทต่ออัน ลองต่อรองดูนะครับเพราะราคาน่าจะถูกกว่านี้ถ้าสั่งเยอะ สำหรับผมขั้นตอนนี้ยากสุดเพราะหาร้านยาก ร้านที่เจอก็คิดราคาแพงมาก ชั้นวางของ 1 ชั้นต้องทำเกลียวประมาณ 50 เกลียว ถ้าได้ร้านที่คิดไม่แพงจะช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก 3. ข้อต่อแบบต่าง ๆ ถ้าเราลอกแบบมาจากในอินเทอร์เน็ต จำเป็นต้องใช้ข้อต่อแบบไหนต้องจดมาด้วยนะครับ ส่วนใหญ่จะมีข้องอ สามทาง และหน้าจาน แต่ถ้าทำเตียงหรือโต๊ะหน้าตาแปลก ๆ อาจต้องใช้ข้อต่อที่แปลกขึ้น เช่น 3 ทางฉากหรือ 4 ทางฉาก แล้วแต่แบบที่เราวาดขึ้นครับ 4. ไม้สำหรับวาง อันนี้ผมซื้อไม้สำเร็จรูปจาก ไทยวัสดุ ยาว 120 เซนติเมตร หน้ากว้าง 12 นิ้ว ใครชอบไม้ขนาดไหนลองหาดูได้ครับ หน้ากว้าง 10 นิ้วก็มี (ในรูปจะไม่ได้ลงแลคเกอร์) แค่เอามาขัดกระดาษทราย 5. สีรองพื้นกับสีพ่น ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแนะนำว่าถ้าเอาสีพ่นเลยสีจะไม่ติดและ หลุดง่าย ควรทาสีรองพื้นก่อนแล้วพ่นสีทับ จะพ่นดำด้านหรือดำเงา ก็ได้ ในรูปเป็นพ่นดำด้านครับ ผมว่าสวยกว่าดำเงา จริง ๆ ก็แล้วแต่คนชอบครับ 
รูปตอนประกอบดูว่ามันโอเคไหม ประกอบเสร็จแล้วแกะเอามาล้าง แล้วพ่นสีซ้ำอีกครั้ง
ตอนได้มาต้องล้างน้ำสบู่กับคราบน้ำมันออกก่อนนะครับ เพราะถ้าไม่ล้างจะพ่นสีไม่ติด ข้อเสียของท่อประปากัลวาไนซ์คือขึ้นสนิมที่เกลียวง่าย 
รูปตอนที่ทำชั้นวางอันแรกเสร็จ เอามาติดตั้งที่ห้องสำนักงานไม้ไม่ได้ทาแลคเกอร์ ท่อทาสีดำด้านครับ
อันนี้เป็นรูปชั้นวางของตัวเล็กที่จะเอาไปวางไว้ในห้องลูกค้า ไม้ทาเคลือบด้วยแลคเกอร์ อันนี้ตั้งใจทำหลายอันแต่สุดท้ายทำแค่ 2 ชิ้นเพราะทำไม่ทัน ผมก็ทำงานประจำว่างแค่วันเสาร์กับ วันอาทิตย์ ตอนทำช่วงแรก ๆ ก็ยังวางแผนไม่เป็น ตัดเหล็กผิด ๆ ถูก ๆ เจาะไม้ไม่ตรงบ้าง พอทำไป 2-3 ชิ้นก็เริ่มทำคล่องขึ้น แต่ก็ยังไม่ทันเพราะลูกค้าจะเข้าอยู่แล้ว
อันนี้เป็นชั้นวางของผสมราวแขวนผ้า ทำออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไรแต่ก็ไม่ได้เลวร้าย จะเห็นว่าผมออกแบบมาให้เป็นรูปตัว L คือมีชั้นแขวนเสื้อผ้าผสม ชั้นวางของ แล้วมาหักมุมด้วยโต๊ะเพราะผนังห้องเป็นแบบนั้น เหนือโต๊ะก็จะเป็นหน้าต่างพอดี แต่พอเอาจริงก็วัดผิดผนังสั้นกว่าเฟอร์นิเจอร์ เลยต้องเอาชั้นวางชิ้นนี้ไปไว้อีกห้องหนึ่ง 
สิ่งที่ควรจะเป็นแต่สุดท้ายไม่ได้เป็น เพราะผนังดันมีขอบเสาโผล่มา 
เตียงจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ผมว่าทำยากที่สุดเพราะต้องแข็งแรง ที่สำคัญราคาต้องไม่เกินงบ วิธีทำจะเหมือนกับการทำชั้นวางครับคือ ร่างแบบแล้ววัดขนาดดูว่าต้องใช้ของอะไรบ้าง แต่มีข้อแตกต่างจากทำชั้นวางนิดหน่อย เช่น 1. เหล็กที่ใช้ทำเป็นเหล็กขนาด 1 นิ้ว ผมลองใช้ทั้งเหล็กหนาสีน้ำเงินกับ เหล็กบางสีเหลือง ผลที่ได้ไม่แตกต่างกันครับ ทั้ง 2 เตียงแข็งแรงเหมือนกัน แต่ใช้เหล็กหนาจะหนักกว่า ราคาแพงกว่าซึ่งผมว่าไม่จำเป็น 2. ไม้ที่ใช้ทำคานเตียง ผมใช้ไม้ยาวขนาด 3 เมตรแล้วตัดครึ่ง จะได้ขนาดเตียงควีนไซส์พอดี เตียงแรกผมได้ไม้ที่เป็นไม้อัดกว้าง 8 นิ้วแต่เสี้ยนเยอะและหนัก หน้าตาธรรมดาราคาไม่แพง แต่สุดท้ายหาเวลาไปเดินบางโพอยู่หลายร้าน จนเจอร้านที่ได้ไม้จริงกว้าง 6 นิ้ว น้ำหนักเบา เสี้ยนไม่เยอะ หน้าตาสวยสะอาดกว่า และราคาต่างกันไม่มาก (ไม่ต้องลงแลคเกอร์เพิ่ม แค่เอาขัดกระดาษทรายก็พอ) 3. ขนาดของเกลียว แต่ละร้านหรือแต่ละครั้งที่ทำ เกลียวจะสั้นยาวไม่ค่อยตรงเป๊ะเพราะบางร้านมีช่างหลายคน เราสามารถปรับแต่งหน้างานตอนประกอบได้ อยากได้เตียงหรือชั้นวางที่มีตำหนิน้อย ตอนเลือกเหล็กในร้านก็เลือกท่อนที่มีรอยน้อย ๆ 4. สี ทำแบบบ้าน ๆ คือเอาสีรองพื้นทาแล้วพ่นสีตามใจชอบ แต่ถ้าทำขายสามารถส่งพ่นสีได้ เหมือนร้านทำเหล็กดัดหน้าต่างก็ส่งพ่นสีเหมือนกัน แต่ราคาจะแพงขึ้นอีกพอสมควร 5. เฟอร์นิเจอร์แบบนี้สามารถถอดเข้าออกได้ แต่ถ้าเก็บไว้นานแล้วประกอบอาจประกอบยากเพราะจะมีสนิมเกาะที่เกลียว ถ้าต้องทิ้งไว้นาน ๆ ควรเอาน้ำมันทาที่เกลียวจะช่วยได้ 6. สิ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญคือราคาของค่าทำเกลียวกับไม้ ถ้าหาร้านทำได้ถูกก็จะช่วยได้มาก ส่วนค่าเหล็กกับข้องอต่าง ๆ ผมว่าราคาไม่หนีกันเท่าไร
รูปเตียงตอนเอาไปประกอบที่ห้องเช่า คนประกอบเตียงก็ประกอบไป คนปูกระเบื้องก็ปูไป รอทำทีละอย่างไม่ได้เพราะว่างกันแค่วันเสาร์กับวันอาทิตย์
2 รูปถัดมาเป็นวิธียึดคานไม้กับเตียงง่าย ๆ แต่แข็งแรงดี 
มีไม้ที่ซื้อมาเหลือกะทำเป็นหัวเตียง แต่พอตัดแล้วจะเอาไปติด รู้สึกว่ามันไม่สวยเลยไม่ได้ทำต่อครับ
รูปสุดท้ายตอนประกอบเสร็จครับ หน้าตาอาจธรรมดาไม่ได้เก็บงานสีที่ท่อนะครับ ความจริงอยากทำไม้หัวเตียงแบบที่เป็นไม้ชิ้นเดียวด้วย แต่ไม่มีเวลาไปหา เลยเอาหน้าตาตามนั้น ส่วนใครสนใจจะสั่งทำหรือมีปัญหาในการทำติดต่อได้ที่ line : tasmanea ครับ ขอบคุณที่เข้ามาชมนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ แกะเทา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
