ขั้นตอนการปลูกมะกรูดในกระถาง พร้อมวิธีการดูแล ที่ทั้งง่ายและได้ประโยชน์หลายอย่าง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแถมยังได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ไปดูกันว่าขั้นตอนการปลูกมะกรูดต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึงความเปรี้ยวแล้วใคร ๆ ก็ต้องยกให้มะนาวเป็นหัวแถว แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีพืชพรรณอีกชนิดหนึ่งที่ให้รสเปรี้ยวได้ดีไม่แพ้มะนาวอย่าง มะกรูด พืชสมุนไพรลูกกลม ๆ ผิวขรุขระ ใบกว้าง มีหนามแหลม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จนกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารชั้นเลิศในบ้านเรา นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและความสวยความงามชนิดที่แบรนด์เครื่องสำอางดังระดับโลกยังต้องทึ่งในสรรพคุณกันเลยทีเดียว ดังนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำเอาวิธีปลูกมะกรูดในกระถางด้วยการเพาะเมล็ดมาฝากกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้านเดี่ยวหรือห้องคอนโดขนาดเล็กก็ปลูกมะกรูดกันได้ง่าย ๆ ตามนี้เลยค่ะ
อุปกรณ์
1. ผลมะกรูดแก่ ๆ หรือผลที่ร่วงอยู่ใต้ต้นในสภาพสมบูรณ์
2. อุปกรณ์ทำความสะอาดเม็ดมะกรูด มีด, ช้อน, ถาดรอง
3. แก้วพลาสติกธรรมดา
4. ถุงดำสำหรับปลูกต้นกล้า
5. กระถางดินเผา
6. ดินร่วน
7. ปุ๋ยคอก
8. กาบมะพร้าวสับ
วิธีการปลูกมะกรูด
1. นำผลมะกรูดแก่จัดหรือที่ร่วงหล่นและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาฝานออกให้เนื้อในแยกออกจากกัน โดยต้องระวังไม่ให้เมล็ดมะกรูดเสียหาย ใช้ช้อนคว้านเมล็ดและคัดเลือกเมล็ดที่สมบูรณ์ที่สุดเก็บไว้
2. ล้างเม็ดมะกรูดที่เตรียมไว้ด้วยน้ำสะอาด เพื่อชำระล้างผิวเคลือบลื่นให้หลุดออก
3. วางเมล็ดมะกรูดที่เราล้างสะอาดแล้วลงบนถาด เกลี่ยให้ทั่วอย่าให้ทับกัน แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งประมาณ 2-4 วัน
4. เตรียมดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดีมาผสมกับมูลสัตว์หรือปุ๋ยคอก เพื่อเทลงในหลุมเพาะกล้าหรือแก้วพลาสติกที่เตรียมไว้
5. นำเมล็ดมะกรูดตากแห้งมาเพาะลงในดิน รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะจนเกินไป
6. ตั้งหลุมเพาะหรือแก้วเพาะไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
7. เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกขึ้นและออกใบประมาณ 3-4 ใบ ย้ายลงมาปลูกในถุงดำสำหรับเพาะต้นกล้าให้แข็งแรงและสูงประมาณ 30 เซนติเมตร
8. หลังจากได้ต้นกล้าที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว ให้ย้ายมาปลูกลงในกระถางด้วยดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยคอกในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน คลุมหน้าดินด้วยกาบมะพร้าวสับเพื่อป้องกันความชื้นระเหย
9. มะกรูดจะออกผลให้เก็บภายใน 1-2 ปี ส่วนต้นมะกรูดที่สูงตั้งแต่ 6 นิ้วขึ้นไป สามารถนำไปประกอบอาหารได้เลย
10. หากกิ่งมะกรูดงอกยาวเกินขนาดกระถาง แนะนำขดกิ่งยาว ๆ นั้นให้เป็นวงกลมในแนวนอนและทาบลงไปบนดิน เพื่อควบคุมขนาดต้นให้เหมาะสม แถมกิ่งที่วางทาบลงไปนั้นจะงอกกิ่งกระโดงขึ้นมาใหม่ ออกใบ ออกผลให้เก็บเกี่ยวตลอดทั้งปีอีกด้วย
2. ล้างเม็ดมะกรูดที่เตรียมไว้ด้วยน้ำสะอาด เพื่อชำระล้างผิวเคลือบลื่นให้หลุดออก
3. วางเมล็ดมะกรูดที่เราล้างสะอาดแล้วลงบนถาด เกลี่ยให้ทั่วอย่าให้ทับกัน แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งประมาณ 2-4 วัน
4. เตรียมดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดีมาผสมกับมูลสัตว์หรือปุ๋ยคอก เพื่อเทลงในหลุมเพาะกล้าหรือแก้วพลาสติกที่เตรียมไว้
5. นำเมล็ดมะกรูดตากแห้งมาเพาะลงในดิน รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะจนเกินไป
6. ตั้งหลุมเพาะหรือแก้วเพาะไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
7. เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกขึ้นและออกใบประมาณ 3-4 ใบ ย้ายลงมาปลูกในถุงดำสำหรับเพาะต้นกล้าให้แข็งแรงและสูงประมาณ 30 เซนติเมตร
8. หลังจากได้ต้นกล้าที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว ให้ย้ายมาปลูกลงในกระถางด้วยดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยคอกในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน คลุมหน้าดินด้วยกาบมะพร้าวสับเพื่อป้องกันความชื้นระเหย
9. มะกรูดจะออกผลให้เก็บภายใน 1-2 ปี ส่วนต้นมะกรูดที่สูงตั้งแต่ 6 นิ้วขึ้นไป สามารถนำไปประกอบอาหารได้เลย
10. หากกิ่งมะกรูดงอกยาวเกินขนาดกระถาง แนะนำขดกิ่งยาว ๆ นั้นให้เป็นวงกลมในแนวนอนและทาบลงไปบนดิน เพื่อควบคุมขนาดต้นให้เหมาะสม แถมกิ่งที่วางทาบลงไปนั้นจะงอกกิ่งกระโดงขึ้นมาใหม่ ออกใบ ออกผลให้เก็บเกี่ยวตลอดทั้งปีอีกด้วย
วิธีการดูแล
การดูแลรักษาต้นมะกรูดนั้นไม่ยาก เพียงแค่รดน้ำในตอนเช้าให้ชุ่มแต่อย่าแฉะจนเกินไป หมั่นสังเกตว่าดินในกระถางระบายน้ำได้ดีอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันน้ำขัง สาเหตุหลักของรากเน่า ตั้งกระถางให้โดนแดดแค่วันละประมาณ 8 ชั่วโมง ตัดแต่งส่วนที่เน่าเสียทิ้งไป และเปลี่ยนดินในกระถางทุก 2 ปี เพื่อเติมสารอาหาร
เอาเป็นว่าใครที่กำลังมีโครงการอยากจะปลูกต้นไม้สักต้น ลองหันมามองวิธีการปลูกมะกรูดในกระถางอย่างที่เรานำมาฝากกันวันนี้ดูสิคะ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านได้แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายวัตถุดิบอาหารไปได้อีกหนึ่งทาง และยังมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ดีเลิศขนาดนี้จะพลาดได้อย่างไร