มาดูกันว่าหากสาว ๆ คิดจะอยู่คนเดียวมีเรื่องอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง และหากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องจัดการอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมมี 13 เรื่องที่สาว ๆ ควรระวังเมื่ออยู่บ้านหรือคอนโดคนเดียวมาฝากกันค่ะ
การอยู่บ้านหรือคอนโดคนเดียวอาจจะสะดวก มีความเป็นส่วนตัว แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกกับความปลอดภัยด้วย จะเห็นได้ว่าคดีอาชญากรรมต่าง ๆ นั้นมักจะเกิดกับผู้หญิง โดยเฉพาะกับสาว ๆ ที่อยู่คนเดียวหรือไปไหนมาไหนตามลำพัง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมเรื่องที่สาว ๆ ควรระวังเมื่ออยู่คนเดียวมาฝาก รวมถึงวิธีป้องกันและวิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์นั้น ๆ ด้วย
1. ติดกล้องวงจรปิดในห้อง
เอาไว้ตรวจสอบความเรียบร้อยภายในห้องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงที่เราไม่อยู่ หรือหากเกิดเหตุร้ายขึ้น เช่น มีคนงัดประตูหรือแอบเข้ามาขโมยของในห้อง จะได้ใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน สำหรับแจ้งความได้ด้วย
2. หาข้อมูลและคดีอาชญากรรมในพื้นที่
ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกบ้านหรือคอนโด ไม่ใช่ดูแค่ความสวยงามหรือราคาเท่านั้น แต่พิจารณาข้อมูลหรือข่าวที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณนั้น ๆ ด้วย หากเป็นไปได้ให้ไปดูสถานที่จริงเสียก่อน เพราะส่วนมากแล้วตามหน้าเว็บไซต์ผู้ให้เช่ามักจะบอกแค่ลักษณะของห้อง ราคา สิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งความเป็นจริงตัวอาคารอาจจะอยู่ในซอยเปลี่ยวหรือใกล้กับแหล่งมั่วสุมก็ได้
3. อย่าโพสต์ทุกอย่างลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
อย่าได้ประกาศว่าอยู่คนเดียวหรือเขียนเนื้อหาที่สื่อว่าอาศัยอยู่คนเดียวลงในเว็บไซต์โซเชียลต่าง ๆ เด็ดขาด เพราะในโลกออนไลน์นั้นมีทั้งคนที่ไว้ใจได้และไว้ใจไม่ได้ อีกอย่างที่ต้องระวังไว้ก็คือ เนื้อหาเกี่ยวกับตารางชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ทำงานจากกี่โมงถึงกี่โมง ตอนนี้อยู่ตรงไหน หรือจะกลับกี่โมง เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีวางแผนลอบเข้าห้องตอนที่คุณไม่อยู่ได้
4. ทำตัวเหมือนอยู่ห้องหลายคน
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวคือต้องไม่ให้คนรู้ว่าคุณอยู่คนเดียว โดยส่วนใหญ่คนร้ายจะจ้องเข้าจู่โจมเหยื่อที่เป็นผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่อยู่คนเดียว ซึ่งคนร้ายอาจเป็นคนนอกหรือคนในก็ได้ วิธีที่คนร้ายจะสามารถรู้รายละเอียดต่าง ๆ ของเราจากการดูชื่อบนซองจดหมายที่ส่งมาถึงเราหรือการเดินดูบริเวณหน้าห้อง วิธีป้องกันคือให้ใช้ชื่อผู้ชายในการให้ชื่อ-ที่อยู่ในการรับของแทนชื่อของตนเอง หรือให้หารองเท้าผู้ชายคู่ใหญ่ ๆ วางหน้าห้อง
5. เปลี่ยนลูกบิดประตูเมื่อย้ายเข้าใหม่
สิ่งที่ควรทำในการย้ายเข้าหอใหม่ก็คือ เปลี่ยนลูกบิดประตูห้อง เพราะผู้เช่าคนก่อนอาจจะปั๊มกุญแจสำรองไว้และอาจจะกลับมาโดยประสงค์ร้ายหรืออาจจะเกิดในกรณีที่เจ้าของห้องคนเก่าเผลอเมาแล้วกลับมาห้องเดิมซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรับความยินยอมจากเจ้าของห้องเสียก่อน ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนได้จริง ๆ ก็ให้ติดกลอนประตูด้านในแทน และเมื่อต้องออกไปข้างนอกก็ล็อกห้องโดยการหาที่ครอบลูกบิดมาใส่ไว้แทน
6. ประตูกระจกเลื่อนเสี่ยงภัย
สำหรับประตูระเบียงหลังห้องที่เป็นแบบกระจกบานเลื่อน เสี่ยงต่อการถูกจู่โจมมากกว่าประตูแบบธรรมดาเพราะง่ายต่อการงัดแงะ วิธีคือป้องกันคือให้หาท่อนเหล็กหรือด้ามไม้ม็อบใส่เข้าไปในลู่บานเลื่อน เพื่อไม่ให้คนภายนอกเปิดบานเลื่อนเข้ามาได้
7. พกอุปกรณ์ป้องกันติดตัวไว้ข้างกายตลอด
ไม่จำเป็นต้องปืนหรือมีด เพราะถ้าไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้คนร้ายอาจจะใช้โอกาสนี้แย่งอาวุธกลับมาทำร้ายเราแทน ให้พกสเปรย์พริกไทยไว้กับตัวอยู่เสมอ เพราะเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวที่หาได้ง่ายและสามารถพกติดตัวได้สะดวก สำหรับในบ้านนั้นให้วางไว้ข้างเตียงในตำแหน่งที่หยิบได้สะดวก สามารถโต้ตอบคนร้ายได้ในระยะไกลไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้และเสี่ยงอันตรายเหมือนมีด
8. มีความรอบคอบอยู่เสมอ
อย่าเผลอหรือนิ่งนอนใจในทุกสถานการณ์ เวลาอยู่บ้านคนเดียวให้ตรวจดูว่าประตูล็อกดีหรือยัง อย่าไว้ใจให้คนแปลกหน้าหรือคนที่เพิ่งรู้จักมาบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่คุณเดินจากรถมายังประตู คนร้ายมักจะใช้ช่วงเวลานี้จู่โจมเหยื่อ เพราะเหยื่อจะไว้วางใจและในมือของเหยื่อนั้นจะมีทั้งกุญแจรถ กุญแจบ้าน ฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบใดก็ควรจะระวังตัวไว้ตลอด
9. ปิดม่านให้มิดชิด
เพราะบางทีแค่รั้วบ้านอาจจะบังสายตาคนนอกที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่ได้ การเปิดม่านอาจจะช่วยให้บ้านสว่างก็จริง แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการโจรกรรมได้ เพราะคนร้ายจะรู้รายละเอียดของเหยื่อโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เดินผ่านบ้านก็รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบ้านที่มีของมีค่าตั้งโชว์
10. เก็บกุญแจและรีโมทรถยนต์ไว้ใกล้ตัว
ถึงแม้ว่ารีโมทรถยนต์จะไม่ใช่อาวุธที่ป้องกันตัวได้ แต่ก็สามารถช่วยได้ดีในเวลาคับขัน ให้เก็บรีโมทไว้บนหัวเตียงหรือในตำแหน่งที่หยิบง่าย ถ้าถูกจู่โจมในขณะที่นอนหลับหรือกำลังนอนจะได้หยิบมาใช้งานได้ทันการ โดยเมื่อถูกจู่โจมหรือทำร้ายให้กดปุ่มสีแดงเพื่อเปิดให้เสียงไซเรนร้อง อาศัยช่วงเวลาที่คนร้ายชะงักตกใจจากเสียงไซเรนรีบเอาตัวรอดแล้วตะโกนให้คนช่วย
11. เบอร์โทรศัพท์ของคนในมีไว้เยอะยิ่งดี
นอกจากเบอร์โทรฉุกเฉิน สถานีตำรวจ โรงพยาบาลแล้ว เบอร์ของยาม เจ้าของหอ แม่บ้านที่หอ หรือแม้กระทั่งเบอร์ของเพื่อนบ้านก็ควรจะมีไว้ในโทรศัพท์ เพราะบางทีเพื่อน คนในครอบครัวหรือเจ้าหน้าที่ก็อาจจะอยู่ไกล อาจจะมาช่วยเหลือไม่ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
12. แจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อเห็นพฤติกรรมน่าสงสัย
ถ้าพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย เช่น ชอบเดินตาม หรือชอบเจออยู่บริเวณทางเข้าบ้านหรือคอนโดบ่อย ๆ รวมไปถึงบุคคลภายนอกที่มีพฤติกรรมเสี่ยง อย่างเช่น การรวมตัวดื่มสุราของกลุ่มบุคคล ควรให้แจ้งเจ้าหน้าที่ไว้เพราะถึงแม้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย
13. เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้ายาม
สำหรับคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ อาจจะเลี้ยงสุนัขไว้ด้วย เพราะเจ้าตูบนี่แหละเป็นทั้งยามและสัญญาณเตือนภัยชั้นดี ประสาทสัมผัสของสุนัขจะไวมาก เมื่อได้ยินเสียงแปลก ๆ ตอนกลางคืน หรือได้ยินเสียงหรือกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยพวกมันจะเห่าและมีอาการลุกลี้ลุกลน ซึ่งเจ้าของก็สามารถสังเกตได้
หวังว่าวิธีที่เราได้นำมาฝากนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสาว ๆ ที่อยู่หอ คอนโด หรืออยู่บ้านคนเดียวนะคะ อย่างไรแล้ว สาว ๆ ก็ควรระวังตัวไว้ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสังคมในปัจจุบันที่มีข่าวอาชญากรรมให้เห็นทุกวัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก safewise, Allwomenstalk, huffingtonpost และ hubpages