เครื่องอบผ้า ยี่ห้อไหนดี 2023 รวมเครื่องอบผ้า ราคาเหมาะสม คุณภาพน่าใช้ ทางเลือกทำให้ผ้าแห้งสนิททันใจ แถมไร้กลิ่นอับแบบไม่ง้อแดด
แต่ก่อนเวลาเข้าหน้าฝนทีไร หลายคนต้องเจอปัญหาเสื้อผ้าแห้งไม่ทันใส่ แถมมีกลิ่นเหม็นอับทุกที ทว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก จนมีเครื่องอบผ้าแห้งทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ออกมาช่วยทุ่นแรงคุณพ่อบ้านแม่บ้านเพียบ ว่าแต่สงสัยกันใช่ไหมล่ะคะว่าเครื่องอบผ้า ยี่ห้อไหนดี มาทางนี้เลยค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาฝากกันแล้ว
หลายคนจะนึกถึงเครื่องอบผ้า (Tumble Dryer หรือ Clothes Dryer) ในเวลาหน้าฝน เพราะอยากให้ผ้าแห้งไว ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ว่าจะฤดูไหนก็สามารถใช้เครื่องอบผ้าได้ เพราะเครื่องอบผ้าสามารถทำให้ผ้าแห้งได้ในเวลาไม่นาน เหมาะกับคนที่จำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน ซักตากแบบปกติไม่ทัน นอกจากนี้การมีเครื่องอบผ้ายังช่วยประหยัดพื้นที่ในการตากผ้า เหมาะมากกับคนที่มีพื้นที่จำกัด ติดตั้งราวตากผ้าไม่สะดวก ที่สำคัญการอบผ้ายังช่วยขจัดรอยยับบนเนื้อผ้าได้ ทำให้รีดผ้าได้ง่ายขึ้นด้วย
เครื่องอบผ้าดียังไง ?
หลายคนจะนึกถึงเครื่องอบผ้า (Tumble Dryer หรือ Clothes Dryer) ในเวลาหน้าฝน เพราะอยากให้ผ้าแห้งไว ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ว่าจะฤดูไหนก็สามารถใช้เครื่องอบผ้าได้ เพราะเครื่องอบผ้าสามารถทำให้ผ้าแห้งได้ในเวลาไม่นาน เหมาะกับคนที่จำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน ซักตากแบบปกติไม่ทัน นอกจากนี้การมีเครื่องอบผ้ายังช่วยประหยัดพื้นที่ในการตากผ้า เหมาะมากกับคนที่มีพื้นที่จำกัด ติดตั้งราวตากผ้าไม่สะดวก ที่สำคัญการอบผ้ายังช่วยขจัดรอยยับบนเนื้อผ้าได้ ทำให้รีดผ้าได้ง่ายขึ้นด้วย
ซึ่งบางรุ่นสามารถวางซ้อนกับเครื่องซักผ้าได้ โดยในการวางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าซ้อนกันนั้น จำเป็นต้องใช้ตัวยึดที่เหมาะสม ตรงตามรุ่นของเครื่องที่ใช้อยู่ จากนั้นจัดวางเครื่องอบผ้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ประกอบฉากยึดด้านหลัง และยึดด้วยสกรูให้แน่น เพื่อความปลอดภัยด้วย
แม้ลักษณะเครื่องอบผ้าจะดูคล้ายเครื่องซักผ้า แต่ระบบการทำงานของเครื่องอบผ้าแตกต่างออกไปค่ะ โดยเครื่องอบผ้าจะมี 4 ระบบให้เลือกใช้ ดังนี้
สามารถแบ่งเครื่องอบผ้าได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
เครื่องอบผ้าโดยเฉพาะจะมีระบบควบคุมการทำงานเพื่อการอบผ้าอย่างเดียว ไม่มีโหมดซักล้างใด ๆ จึงมีประสิทธิภาพในการอบผ้าดีมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้อบผ้าแบบเร่งด่วนบ่อย ๆ
เครื่องอบผ้าแบบแยกเครื่อง หรือเครื่องอบผ้าโดยเฉพาะ อบผ้าได้ดี แต่ก็ราคาสูงหน่อย ส่วนเครื่องซักอบผ้ามีราคาถูกกว่า มีการทำงานถึง 2 ฟังก์ชันด้วยกัน ทั้งซักและอบแห้งได้ ทว่าก็มีค่าใช้จ่ายในการดูแลเครื่องซักอบผ้าที่สูงด้วย เพราะต้องดูแลทั้งระบบถังซักและระบบอบผ้าไปพร้อม ๆ กัน หากเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนทั้งคู่
ดังนั้น หากอบผ้าเป็นประจำ อบผ้าจำนวนมาก น่าจะเหมาะกับเครื่องอบผ้าโดยเฉพาะมากกว่า แม้จะมีราคาสูงแต่คุ้มค่ากับการใช้งาน ทว่าในกรณีที่เน้นซักมากกว่าอบ อบผ้าแค่เฉพาะช่วงหน้าฝนที่ตากผ้าไม่ค่อยแห้ง เครื่องซักอบผ้าก็น่าจะตอบโจทย์
เครื่องอบผ้า ทำงานยังไง
แม้ลักษณะเครื่องอบผ้าจะดูคล้ายเครื่องซักผ้า แต่ระบบการทำงานของเครื่องอบผ้าแตกต่างออกไปค่ะ โดยเครื่องอบผ้าจะมี 4 ระบบให้เลือกใช้ ดังนี้
1. เครื่องอบผ้าระบบท่อลมร้อน (Venting) : ทำงานโดยปล่อยลมร้อนและระบายลมออกสู่ภายนอกผ่านทางท่อลม ซึ่งต้องเจาะผนังต่อท่อลมเพิ่ม ทำให้ต้องมีพื้นที่ที่อากาศจะถ่ายเทออกมาได้ เป็นระบบที่อบผ้าได้ดีมากและมีราคาถูก
2. เครื่องอบผ้าระบบควบแน่น (Condensing) : อบผ้าด้วยลมร้อน ผสมกับการควบแน่นความชื้นของผ้าไปเก็บไว้ในภาชนะบรรจุน้ำในเครื่อง ซึ่งสามารถปล่อยน้ำส่วนนี้ไหลทิ้งภายหลังได้ เป็นประเภทที่ติดตั้งง่าย ไม่ต้องต่อท่อ แต่ผ้าที่อบอาจจะไม่ได้แห้งมาก
3. เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump) : หลักการทำงานคล้ายระบบควบแน่น แต่ไม่มีขดลวดให้ความร้อน ใช้ความร้อนที่อุณหภูมิต่ำในการทำให้ผ้าแห้ง จึงช่วยถนอมเนื้อผ้าได้ดี กินไฟน้อย แต่ใช้เวลานาน และมีราคาสูงเมื่อเทียบกับระบบอื่น ๆ
4. เครื่องอบผ้าระบบลมร้อนแบบพกพา (Portable Venting) : มีระบบการทำงานที่เหมือนกับระบบท่อลมร้อน คือการใช้ลมร้อนเป่าให้ผ้าแห้ง แต่สามารถพับเก็บได้ ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน จัดเก็บ และเคลื่อนย้าย เหมาะกับใช้งานในห้องที่มีพื้นที่จำกัด หรือการใช้งานนอกสถานที่
เครื่องอบผ้า มีกี่ประเภท
สามารถแบ่งเครื่องอบผ้าได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1. เครื่องอบผ้าโดยเฉพาะ
เครื่องอบผ้าโดยเฉพาะจะมีระบบควบคุมการทำงานเพื่อการอบผ้าอย่างเดียว ไม่มีโหมดซักล้างใด ๆ จึงมีประสิทธิภาพในการอบผ้าดีมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้อบผ้าแบบเร่งด่วนบ่อย ๆ
2. เครื่องซักอบผ้า
เครื่องซักอบผ้ามีทั้งระบบซักล้างตามปกติ และสามารถอบผ้าแห้งได้ด้วย เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่จำกัด แต่ประสิทธิภาพในการอบผ้าอาจไม่ดีเท่าเครื่องอบผ้าแบบแยกเครื่อง
2. เครื่องซักอบผ้เครื่องอบผ้า VS เครื่องซักอบผ้า แบบไหนดีกว่ากัน
เครื่องอบผ้าแบบแยกเครื่อง หรือเครื่องอบผ้าโดยเฉพาะ อบผ้าได้ดี แต่ก็ราคาสูงหน่อย ส่วนเครื่องซักอบผ้ามีราคาถูกกว่า มีการทำงานถึง 2 ฟังก์ชันด้วยกัน ทั้งซักและอบแห้งได้ ทว่าก็มีค่าใช้จ่ายในการดูแลเครื่องซักอบผ้าที่สูงด้วย เพราะต้องดูแลทั้งระบบถังซักและระบบอบผ้าไปพร้อม ๆ กัน หากเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนทั้งคู่
ดังนั้น หากอบผ้าเป็นประจำ อบผ้าจำนวนมาก น่าจะเหมาะกับเครื่องอบผ้าโดยเฉพาะมากกว่า แม้จะมีราคาสูงแต่คุ้มค่ากับการใช้งาน ทว่าในกรณีที่เน้นซักมากกว่าอบ อบผ้าแค่เฉพาะช่วงหน้าฝนที่ตากผ้าไม่ค่อยแห้ง เครื่องซักอบผ้าก็น่าจะตอบโจทย์
ผ้าแบบไหนใช้กับเครื่องอบผ้าได้หรีอไม่ได้บ้าง ?
ก่อนจะไปเลือกซื้อเครื่องอบผ้ามาไว้ใช้ที่บ้าน ลองมาดูกันสักนิดว่าผ้าชนิดไหนบ้างที่สามารถอบได้ และผ้าประเภทไหนบ้างที่ไม่ควรนำใส่ในตัวเครื่อง
ผ้าที่สามารถใช้กับเครื่องอบผ้าได้ : ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ผ้าทำครัว กางเกงยีนส์ ถุงเท้า ผ้าฝ้าย ซึ่งจำเป็นต้องทำตามสัญลักษณ์การดูแลการซักบนฉลากเสื้อผ้า เพื่อเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมสำหรับเสื้อผ้า เนื่องจากบางชนิดสามารถอบแห้งด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่าแบบอื่น ๆ ได้
ผ้าที่ไม่สามารถใช้กับเครื่องอบผ้าได้ : ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน ผ้ารัดรูป ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ชุดหนัง หรือผ้าที่มีความบอบบางเป็นพิเศษ และเสื้อผ้าที่ประดับด้วยเลื่อมและลูกปัด
อยากซื้อเครื่องอบผ้า ควรพิจารณาจุดไหนบ้าง
เวลาไปเลือกซื้อเครื่องอบผ้า จุดเหล่านี้แหละที่ควรต้องดูให้ดี ๆ
1. ขนาดถังซักและความจุผ้า
ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน หรือเลือกให้เหมาะกับสมาชิกในครอบครัว เช่น บางคนอยู่คนเดียวในห้องคอนโดมิเนียม หรือบางคนอยู่ในบ้านที่มีครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกหลายคน ก็ควรเลือกให้พอดีกัน เพื่อช่วยในการประหยัดเวลาและพลังงานไฟฟ้าในการซักและอบผ้าแต่ละครั้ง เช่น
- ครอบครัวเล็ก หรือบ้านที่มีสมาชิก 1-2 คน ควรเลือกความจุไม่เกิน 5 กิโลกรัม
- ครอบครัวกลาง หรือบ้านที่มีสมาชิก 3-4 คน ควรเลือกความจุประมาณ 5-7 กิโลกรัม
- ครอบครัวใหญ่ หรือบ้านที่มีสมาชิก 4 คนขึ้นไป ควรเลือกความจุตั้งแต่ 7 กิโลกรัม
2. ฟังก์ชันของเครื่องอบผ้า
เครื่องอบผ้าแต่ละรุ่นจะมีฟังก์ชันที่หลากหลาย ลองเลือกฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา เช่น หากอบผ้าแทบทุกชนิดก็ดูว่ามีฟังก์ชันอบผ้าครบตามที่ต้องการไหม หรือหากอบผ้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็ควรเลือกที่มีฟังก์ชันถนอมเนื้อผ้าพ่วงมาด้วย เป็นต้น
3. ประเภทเครื่องอบผ้า
นอกจากฟังก์ชันการใช้งานที่ควรเลือกให้ตอบโจทย์ของเราแล้ว ยังจำเป็นต้องพิจารณาพื้นที่จัดวางเครื่องอบผ้าด้วย เช่น หากมีพื้นที่กว้าง ต่อท่อได้ อาจเลือกใช้เครื่องอบผ้าแบบลมร้อน หรือหากมีพื้นที่น้อย ไม่สะดวกต่อท่อลมร้อน ก็เลือกใช้เครื่องอบผ้าแบบควบแน่นแทน
4. ประกันและการบริการหลังการขาย
ไม่ว่าจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดไหนก็ควรต้องใส่ใจประเด็นหลังการขายให้ดี โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่อย่างเครื่องอบผ้า ลองเช็กว่าแบรนด์ไหนมีบริการซ่อม เปลี่ยน บริการหลังการขายที่ดี และมีประกันที่ครอบคลุม คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายมากที่สุด
5. สเปกเครื่องและราคา
ถ้าจะให้ดีลองสำรวจราคาและสเปกเครื่องอบผ้าที่ต้องการไปก่อน เพื่อจะได้จำกัดงบประมาณในการซื้อเครื่องอบผ้า และทำให้เราเลือกเครื่องอบผ้าได้ง่ายขึ้น หรือจะลองดูเครื่องอบผ้ารุ่นที่เราหยิบมาแนะนำคร่าว ๆ ก่อนก็ได้
เครื่องอบผ้า ยี่ห้อไหนดี 2023
1. เครื่องอบผ้า Haier รุ่น HDV70E1
ภาพจาก haier.com
เครื่องอบผ้า Haier ตัวถัง Reversible Tumble หมุนแบบทวนเข็มและตามเข็มนาฬิกา ช่วยป้องกันไม่ให้ผ้าพันกัน ส่งไอร้อนได้ทั่วถึง พร้อม Sensor & Timed Drying ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้พอเหมาะกับเนื้อผ้า ลดการเกิดรอยยับ สามารถติดตั้งแบบวางซ้อนได้
ขนาด : 60x58.5x83 ซม.
ความจุ : 7 กิโลกรัม
ราคา : 11,490 บาท
2. เครื่องอบผ้า Panasonic รุ่น NH-E80JA1WTH
ภาพจาก panasonic.com
เครื่องอบผ้า Panasonic มี PTC Heater ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้สม่ำเสมอให้ความร้อนในระดับที่เหมาะสม ช่วยทำลายแบคทีเรียได้ 99.9% แต่ไม่ทำลายเนื้อผ้า มีฟังก์ชันหลากหลายสามารถปรับได้เอง หากมีพื้นที่จำกัดสามารถใช้ชุดเแท่นไว้วางซ้อนหรือติดผนังได้
ขนาด : 60x59.5x85 ซม.
ความจุ : 8 กิโลกรัม
ราคา : 14,790 บาท
3. เครื่องอบผ้า Toshiba TD-H80SET
ภาพจาก toshiba-lifestyle.com
เครื่องอบผ้า Toshiba ที่ใช้ระบบ Anti-crease การหมุนตัวถังแบบทวนเข็มและตามเข็มนาฬิกา เพื่อลดการเกิดรอยยับและป้องกันไม่ให้ผ้าพันกัน พร้อมระบบเซ็นเซอร์ Sensedry ตรวจวัดความชื้นและอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการอบผ้าในแต่ละรอบ เพื่อรักษาเนื้อผ้าให้ยังคงความสวยงาม ใช้งานง่าย สามารถเลือกโหมดการทำงานได้ผ่านปุ่มปรับหมุนด้านหน้าตัวเครื่อง และดูผลการทำงานผ่านหน้าจอ LED
ขนาด : 59.5x55.5x84 ซม.
ความจุ : 7 กิโลกรัม
ราคา : 10,990 บาท
4. เครื่องอบผ้า Beko รุ่น DA8112PX0W
ภาพจาก beko.com
เครื่องอบผ้า Beko ตัวถังใช้การปั่นแบบ AquaWave ทำให้ผ้าเคลื่อนไหวแบบคลื่น ทำให้ผ้ามีน้ำหนักเบาและเพิ่มประสิทธิภาพการอบได้ดีขึ้น มีฟังก์ชันให้เลือกถึง 15 โปรแกรม แยกตามประเภทเนื้อผ้าและระดับการใช้พลังงาน แสดงผลผ่านจอ LED และล็อกหน้าจอขณะเครื่องทำงาน รวมถึงเสียงเตือนจบการทำงานและถึงเวลาทำความสะอาดฟิลเตอร์
ขนาด : 85.6.4x85.6 ซม.
ความจุ : 8 กิโลกรัม
ราคา : 16,990 บาท
5. เครื่องอบผ้า Electrolux รุ่น EDS854N3SB
ภาพจาก electrolux.co.th
เครื่องอบผ้า Electrolux UltimateCare 300 เทคโนโลยีอบลมร้อน และการหมุนตัวถังแบบ Reverse Tumbling ป้องกันไม่ให้ผ้าพันกันขณะเครื่องปั่น นอกจากนี้ยังมีระบบไอน้ำช่วยลดการเกิดรอยยับ พร้อมคืนความสดชื่นให้กับเสื้อผ้า คงสีสันของเสื้อผ้าให้สดใส ป้องกันไม่ให้ผ้าหมอง และทำให้ผ้าแห้งสนิทพร้อมใส่ในเวลาอันรวดเร็ว
ขนาด : 59.65x62.5x85 ซม.
ความจุ : 8.5 กิโลกรัม
ราคา : 18,490 บาท
6. เครื่องอบผ้า LG รุ่น RC9066A3F
ภาพจาก lg.com
เครื่องอบผ้า LG ที่มี Sensor Dry เซ็นเซอร์ไว้ตรวจจับความชื้น ช่วยทำให้เส้นใยผ้านุ่มฟู สวมใส่สบาย มีตะแกรงเสริมสำหรับอบรองเท้าหรือเสื้อผ้าชนิดพิเศษ เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ชุดชั้นใน ตัวกรองสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย ถังเก็บน้ำช่วยป้องกันแบคทีเรีย ไม่ต้องกังวลหากลืมเทน้ำทิ้ง อีกทั้งด้านในตัวเครื่องยังมีไฟ LED ทำให้สามารถมองเห็นขณะเครื่องทำงานได้อีกด้วย
ขนาด : 60x64x85 ซม.
ความจุ : 10.5 กิโลกรัม
ราคา : 39,900 บาท
7. เครื่องอบผ้า Samsung รุ่น DV90T7240BX/ST
ภาพจาก : samsung.com
เครื่องอบผ้า Samsung ควบคุมการทำงานด้วย AI Control ไว้แนะนำโปรแกรมการใช้ให้เหมาะสม อีกทั้งยังมีระบบประหยัดพลังงาน แต่ยังมีประสิทธิภาพการทำงานสูง ช่วยให้ผ้าแห้งได้ภายใน 81 นาที พร้อม Hygiene Care ช่วยฆ่าและป้องกันเชื้อโรค นอกจากนี้ยังมีโหมด Wrikle Prevent ป้องกันการเกิดรอยยับ ให้เสื้อผ้าเรียบโดยไม่ต้องรีด
ขนาด : 60x60x85 ซม.
ความจุ : 9 กิโลกรัม
ราคา : 39,900 บาท
8. เครื่องอบผ้า Bosch รุ่น WTW85560TH
ภาพจาก : bosch-home.in.th
เครื่องอบผ้า Bosch เครื่องอบผ้าเทคโนโลยี Heat Pump ให้เสื้อผ้าแห้งโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า และไม่ทำให้ผ้ายับ อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์ Duo-Tronic ตรวจจับความชื้นและปรับุอณหภูมิให้เหมาะสมกับผ้าต่อรอบการทำงาน พร้อมการออกแบบตัวเครื่องช่วยลดการสั่นสะเทือน และ SelfCleaning Condenser ช่วยกำจัดขุยผ้าให้อัตโนมัติพร้อมประหยัดพลังงานไปในตัว
ขนาด : 61.3x59.8x84.2 ซม.
ความจุ : 9 กิโลกรัม
ราคา : 46,900 บาท
9. เครื่องอบผ้า Whirlpool รุ่น 3LWED4815FW
ภาพจาก : whirlpool.co.th
เครื่องอบผ้า Whirlpool เครื่องอบผ้าฝาหน้าสไตล์คลาสสิก สามารถเลือกลมร้อนได้ 4 ระดับ และ 13 โปรแกรมอบผ้า ให้ผ้าแห้งด้วยลมร้อนจาก 4 ทิศทาง
ขนาด : 29x28.2x44 นิ้ว
ความจุ : 10.5 กิโลกรัม
ราคา : 46,900 บาท
เป็นอย่างไรบ้างคะ แต่ละรุ่นคุ้มค่า น่าสนใจ แถมราคาไม่ไกลเกินเอื้อมเลยใช่ไหม เอาล่ะ ถ้าหากหน้าฝนนี้ใครไม่อยากให้ผ้าเปียกชื้นและมีกลิ่นอับ ลองตามไปช้อปเครื่องอบผ้ามาติดบ้านไว้สักเครื่องดู รับรองช่วยแก้ปัญหาผ้าอับชื้นหลังซักให้กลับมาแห้งสนิท สามารถสวมใส่ได้ทันทีอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก thespruce.com, haier.com, toshiba-lifestyle.com, panasonic.com, beko.com, electrolux.co.th, lg.com, samsung.com, bosch-home.in.th และ whirlpool.co.th
ขอบคุณข้อมูลจาก thespruce.com, haier.com, toshiba-lifestyle.com, panasonic.com, beko.com, electrolux.co.th, lg.com, samsung.com, bosch-home.in.th และ whirlpool.co.th