
ทำโฮมเธียเตอร์เอง ราคาประหยัด สำหรับคอหนังที่ไม่อยากเสียอรรถรสในการดูหนังเพราะคนลุกเดินไป-มา มาทำโฮมเธียเตอร์เอง ไว้ดูหนัง ฟังเลง เล่นเกมและอินเทอร์เน็ตที่บ้านกันเถอะ รับรองทำแล้วคุ้ม
ไหน ๆ ก็ชอบดูภาพยนตร์เป็นชีวิตจิตใจ คุณ สมาชิกหมายเลข 3444805 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เลยค้นคว้าหาข้อมูลจอภาพอย่างละเอียด และลงมือทำจอภาพในแบบที่ต้องการเพื่อเปลี่ยนห้องธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นโฮมเธียเตอร์ระบบ HD ที่สามารถดูหนัง ดูทีวี เล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ตได้ครบทุกอย่าง คุ้มขนาดนี้เหมาะกับคอหนังที่อยากมีห้องโฮมเธียเตอร์ส่วนตัวมาก ๆ เลยล่ะ
ผมเป็นคนชอบดูภาพยนตร์คนหนึ่ง เลยซื้อโปรเจคเตอร์ DLP (ACERX1,161) มาใช้ประมาณ 4-6 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนซื้อมาในราคา น่าจะประมาณ 19,000-20,000 บาท (จำเรื่องไม่ได้แต่อยู่ในราคาประมาณนี้) ซึ่ง DLP เป็นโปรเจคเตอร์ ที่มีความสว่างมาก เพราะระบบมันเป็นการสะท้อนของแสง ซึ่งจะทำให้ไม่เสียแสง เหมือนกับระบบ LCD ซึ่งระบบ LCD เป็นระบบที่แสงจะต้องทะลุละลวงผ่านจอ LCD ที่แสดงภาพ ทำให้ความสว่างของแสงสู้ระบบ DLP ไม่ได้ (เมื่อเทียบลูเมนเท่า ๆ กัน) จนต่อมาได้เจอข้อมูลโปรเจคเตอร์ระบบใช้แสง LED
ข้อดีของโปรเจคเตอร์ LED คือ
- ไม่กินไฟ ไม่เปลืองไฟ ไม่ร้อนมาก มีอายุการใช้งานของหลอดไฟยาวนาน 20,000-30,000 ชั่วโมง และราคาถูก
- ข้อเสียของโปรเจคเตอร์ LED คือ ความสว่างอาจสู้ระบบซีนอนไม่ได้ พอรู้ว่ามีระบบนี้ก็เลยหาข้อมูลโปรเจคเตอร์ดูไปเรื่อย ๆ มีทั้ง ระบบ DLP และ LCD (DLP และ LCD คือ ระบบสร้างภาพ ส่วน LED และ ซีนอนที่เป็นระบบแสง)
- เมื่อได้ข้อมูลมาหลายอย่างและหลายราคา แต่หาดูอันที่ถูก ๆ ได้แก่ โปรเจคเตอร์จากจีน ระบบภาพเป็น LCD ส่วนระบบแสงเป็น LED ผมเลยลองซื้อมา 2 ตัว คือ
1. UNIC UC40+ ราคา 2,100 บาท ความสว่าง 800 ลูเมน ความละเอียด 800X480 พิกเซล
2. RD 806 ราคา 6,800 บาท ความสว่าง 2,800 ลูเมน ความละเอียด 1280X800 พิกเซล
- ซึ่งเมื่อทดสอบ UC40+ แสงไม่ค่อยสว่าง ต้องดูในที่มืดจริง ๆ ส่วน RD 806 พอใช้ได้ แต่ความสว่างสำหรับผมก็ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่ก็ซื้อมาแล้ว สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อก็เพราะว่า อยากเอาไว้ดูทีวีเล่น ๆ เปิดทิ้งเปิดขว้างได้ ไม่เปลืองไฟ ดูไปเพลิน ๆ ไม่คิดเสียดายเพราะราคาถูก อีกอย่างหลอดกำเนิดแสงมีราคาประมาณ 1,000 บาท (เมื่อหมดอายุ 20,000 ชั่วโมง) แต่ข้อดีของ RD 806 คือ ภาพที่ฉายออกมาชัดและละเอียด ถือว่าโอเคเลยครับ
- ซึ่งผมก็ใช้ RD 806 ดูทุก ๆ วัน ในห้องนอน (ซึ่งดูได้ครับแค่แสงน้อยไปหน่อยสำหรับผมนะ คนอื่นไม่รู้ครับ) ที่ผมฉายอยู่ขนาดจอ 260X152 เซนติเมตร ก็เกือบเต็มห้องครับ นอนดูเต็มตา เต็มใจเลยครับ ปกติผมใช้ไวนิลเป็นวัสดุจอ จะใช้ด้านที่ไม่มันเงาครับ ภาพจะออกมาหม่น ๆ ไม่ใส ไม่เคลียร์
- หลังจากนั้นผมลองหาข้อมูลดูวัสดุจอที่ทำให้แสงสว่างมากขึ้น จึงได้ไปเจอจอเงิน แล้วผมก็หาวัสดุต่าง ๆ ที่จะทำให้ได้จอเงินคือ ผ้าร่มที่เคลือบยูวี แต่ขนาดมันไม่ได้ใหญ่พอ อย่างที่ผมต้องการ คือหน้ากว้างของผ้าแค่ 150 เซนติเมตรเอง ผมเลยไปหาสีเงินที่มีเกล็ดเพื่อให้แสงมันสะท้อนได้มากขึ้น

- ผ้าร่มที่ผมลองซื้อมาทดลองดู เมตรละ 100 บาท จะยาวเท่าไรก็ได้ แต่หน้ากว้างต้องประมาณ 150 เซนติเมตร (ภาพที่ได้จะสว่างกว่าจอสีขาวธรรมดา ให้ความสดใสมากกว่า และไม่ดูหม่นเหมือนสีขาว)




- จอเงินขนาด 155X267 เซนติเมตร พื้นวัสดุคือ ไวนิลขึงกับกรอบไม้ แล้วทาสีรองพื้นด้วยสี TOA 201 รูฟซิล เพื่อให้สีเงินยึดติดกับไวนิลโดยที่ไม่ร่อนออกมาเป็นแผ่น ๆ (ผมเคยลองใช้สีเงินพ่นลงไปกับไวนิล แล้วขูด ๆ ดู มันจะร่อนออกมาเป็นแผ่น ๆ สีไม่ติดกับเนื้อไวนิล)


- สี TOA รูฟซิล ใช้สำหรับรองพื้นไวนิล (ราคา 750 บาท) ผมใช้แปรงทาสีทาลงไป แต่ที่ควรระวัง คือ เวลาทาต้องผสมน้ำให้สีมันไม่ข้นมาก ถ้าข้นมากเวลาทา มันจะเป็นรอยหนา ๆ ไม่เท่ากัน ซึ่งจอเงินนั้นมันต้องไม่มีรอยใด ๆ เลยยิ่งดี เช่น รอยการขึงไวนิลไม่ตึง รอยที่เป็นริ้ว ๆ และรอยต่าง ๆ ถ้ามีรอบเกิดขึ้นจะทำให้ไปปรากฏบนจอได้ (เหมือนภาพจอด้านบน ที่มีรอยด่าง ๆ)





- อันนี้คือ กล่องแอนดรอยด์ MXQ PRO 4K ราคา 1,250 บาท จาก LAZADA (ได้เวอร์ชั่นใหม่กว่า) เอาไว้ต่อกับโปรเจคเตอร์ ดูหนัง ดูยูทูบ ดูทีวี ได้สบาย ๆ เลยครับ (ซื้อเม้าส์ BT มาใช้นอนคลิก ๆ เปลี่ยนช่องอีกตัว ฟิน ๆ)

- ครั้งแรกที่เปิดโปรเจคเตอร์โดยที่ผมไม่ได้ปิดไฟหลักของห้อง (ไฟหลักอยู่ด้านบนและติดอยู่ด้านหน้าของจอเงิน โคมไฟหลักเป็นหลอด LED ขนาดประมาณ 28 วัตต์ และโคมไฟ LED 28 วัตต์ ความสว่างน่าจะได้สักประมาณ 100 วัตต์ ได้) รู้สึกว่ามันสว่างเหมือนกับจอทีวีพลาสมา มันมีความส่องสว่างออกมาจากจอ ซึ่งแตกต่างจากจอสีขาวที่ผมเคยใช้อย่างชัดเจนและให้ภาพที่สดใส สีขาว ๆ ก็จะขาวสดใสกว่าจอปกติสีขาว ๆ จะหม่น ๆ ไม่ขาวใส ซึ่งสามารถเปิดไฟดูได้เลย เหมือนจอทีวีเลยครับ แต่มีข้อเสียคือ ไม่สามารถมองในมุมข้าง ๆ ได้ มันจะมองไม่เห็น และจะต้องมีมุมดู คือ ด้านหน้าจอ เท่านั้น อีกอย่างถ้าอยู่มุมเฉียง ๆ ภาพที่อยู่ไกล ๆ อีกฝั่งของจอจะไม่สว่างเท่ากับมุมที่อยู่ตรงหน้าครับ (ประมาณว่าการสะท้อนของแสง มันจะสะท้อนไม่ตรงกับตำแหน่งที่เรามอง)








- ลองดู VDO ครับ เปิดไฟทั้งห้องและไฟหลักหน้าจอโปรเจคเตอร์ครับ (แต่ทำไมมันไม่เป็น HD เวลาลงยูทูบ)
- ลองเอาจอ MATT WHITE มาเทียบกับจอเงินครับ ปิดไฟและเปิดเฉพาะไฟหลักในห้อง
- โปรเจคเตอร์จากจีนที่ตอนแรกผมคิดว่า จะใช้มันเล่น ๆ แต่เมื่อนำมาใช้กับจอเงินแล้ว มันได้ผลที่ผมไม่คาดว่าจะได้ มันให้แสงที่ส่องสว่างเหมือนจอทีวีพลาสมา (จอยักษ์) เลยครับ แล้วยิ่งปิดโคมไฟหลัก 2 ดวงที่ส่องหน้าจอ ภาพก็ชัดเจนมากครับ (UHD) สีสัน สว่างสดใส และภาพชัดมากครับ อีกอย่างเปิดทิ้งเปิดขว้างได้เลย เพราะราคาถูก ฮ่า ๆ อะไรก็ถูก ผมว่าโดยส่วนตัวคุ้มมาก ๆ กับราคานี้ ทั้งดูทีวี ดูหนัง ดูยูทูบ สบาย ๆ
สรุปงบประมาณ
1. โปรเจคเตอร์ RD 806 = 6,800 บาท
2. กล่องแอนดรอยด์ MXQ PRO 4K = 1,250 บาท
3. สีเงิน 1 กระป๋อง = 150 บาท
4. สี TOA รูฟซิล = 750 บาท
5. ไวนิลขนาด 2X3 เมตร = 450 บาท
6. ไม้โครงจอ = 350 บาท
7. ทินเนอร์และกระป๋องล้างอุปกรณ์ = 150 บาท
8. แปรงทาสี = 40 บาท
- ทั้งหมดใช้ไป 9,940 บาท ครับ (ไม่รวมค่าเดินทางไปซื้ออุปกรณ์ ค่าแรง ค่าค้นคว้าหาวัสดุ ค่าเวลาที่เสียไปกับงานวิจัยนี้) ฮ่า ๆ ส่วนเครื่องเสียงก็ทางใครทางมันครับ แล้วแต่งบ (สำหรับแอนดรอยด์ที่ผมใช้ให้เสียง 5.1 ครับ แค่หาเครื่องเสียง 5.1 มาติดตั้งก็กระหึ่มทั่วฟ้าเมืองไทยไปเลย) หากใครสนใจลองไปทำกันดูครับ สำหรับตัวผม รับรองว่าคุ้ม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 3444805 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม