ต้นตีนเป็ด หรือพญาสัตบรรณ
หรือสัตบรรณ ดอกไม้ของต้นนี้มีกลิ่นค่อนข้างฉุน บางคนก็บอกว่าเหม็น
แต่รู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของต้นตีนเป็ดมีเยอะมากทีเดียว
วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก ต้นตีนเป็ด หรือพญาสัตบรรณ
หรือสัตบรรณ ต้นไม้มีกลิ่นฉุน หนึ่งในต้นไม้มงคล วิธีการปลูก
และประโยชน์ของมัน จนมองข้ามดอกไม้กลิ่นฉุนของต้นไม้ต้นนี้ไปเลยล่ะ
ต้นตีนเป็ด ต้นตีนเป็ด หรือพญาสัตบรรณ หรือสัตบรรณ ชื่อภาษาอังกฤษ White Cheesewood ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alstonia scholaris (L.) R. Br. เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีประวัติควรค่าแก่การจารึกไว้ เพราะเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดพระราชทานกล้าไม้มงคลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในงานรณรงค์โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2537 อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย
ต้นตีนเป็ดจัดอยู่ในวงศ์โมก เป็นไม้ยืนต้นรูปทรงสูงใหญ่ ลำต้นสามารถเจริญเติบโตสูงได้ถึง 15-35 เมตร เป็นไม้เนื้ออ่อนแต่เหนียวสีขาวอมเหลืองอ่อน มีเปลือกค่อนข้างหนาสีเทาหรือเทาอมเหลือง ลักษณะต้นมีรูปทรงพุ่มสูงคล้ายฉัตร ใบเป็นแบบเลี้ยงเดี่ยว ทรงรูปไข่ โคนใบสอบ มีติ่งที่ปลายใบ ผลเป็นฝักคู่ยาวเรียว 10-20 เซนติเตร ออกดอกเป็นช่อปลายกิ่ง มีสีขาวอมเหลืองและเขียวนิด ๆ กลีบดอกเป็นรูปวงรีมีขนภายใน มักออกดอกช่วงตุลาคม-ธันวาคม และที่สำคัญดอกมีกลิ่นหอมแรงไปจนกระทั่งฉุน โดยเฉพาะในตอนกลางคืน กลิ่นของดอกต้นตีนเป็ดจะฉุนรุนแรงมากเป็นพิเศษ จนทำให้บางคนถึงขั้นเกิดอาการแพ้ได้
เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นที่นิยมปลูกในบ้านเพื่อให้ร่มเงาและให้ความสวยงาม ดังนั้นการปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ดจึงเหมาะสมที่สุด จะทำให้ต้นมีความแข็งแรงและยึดเกาะได้ดี ด้วยการนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ มาปลูกลงในกระถางเพาะกล้าที่มีดินร่วนปนทรายผสมขุยมะพร้าว และรองก้นด้วยปุ๋ยคอก ควรจะเพาะต้นกล้าแค่กระถางละ 1 ต้น จากนั้นก็ดูแลรดน้ำทั้งเช้าและเย็น รดให้พอชุ่มแต่อย่าแฉะหรือมีน้ำขังโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงเป็นโรคราได้ หลังจากปลูกไปได้ 90 วัน บวกกับว่าต้นมีความแข็งแรงดีแล้ว ก็ให้ย้ายต้นกล้าตีนเป็ดมาปลูกในหลุมปลูกดินร่วน เน้นบริเวณที่เป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีเสาไฟหรือสายไฟฟ้าพาดผ่าน ปลูกให้ห่างจากตัวบ้านหรือแนวกั้นรั้วสักประมาณ 20-30 เมตร เพื่อไม่ให้รากขนาดใหญ่ชอนไชทำร้ายฐานรากของสิ่งก่อสร้าง
วิธีการดูแลก็ไม่แตกต่างจากไม้ยืนต้นทั่ว ๆ ไป แนะนำให้รดน้ำทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น รดให้พอชุ่มฉ่ำปานกลาง อย่าแฉะมากเกินไป ปลูกในที่ที่มีแดดส่องถึงหรือที่แจ้งเพราะเป็นไม้ชอบแดด บำรุงปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 3 ครั้ง ต้นก็จะเจริญเติบโตแข็งแรง
ประโยชน์ในการช่วยบังแดดและให้กลิ่นหอมของต้นไม้ชนิดนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้คนนิยมหันมาปลูกต้นตีนเป็ด แต่ความหมายอันเป็นสิริมงคลของต้นนี้ต่างหากที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากนำมาปลูกไว้ในบ้านนั่นเอง ด้วยลักษณะต้นทรงพุ่มที่ดูคล้ายฉัตร หรือ ฉัตรบรรณ เครื่องชั้นสูงที่ใช้ในขบวนแห่นั้น เชื่อกันว่ามีความหมายที่เป็นเกียรติเป็นพญา น่าเคารพยกย่อง และด้วยชื่อที่ขึ้นต้นว่า “สัต” ยังหมายถึงคุณธรรมและสิ่งดีงาม หากนำมาปลูกไว้ก็จะทำให้คนในบ้านได้รับการเคารพยกย่องจากคนอื่น ๆ
เคล็ดลับในการปลูกเพื่อเสริมสิริมงคลจะต้องปลูกต้นพญาสัตบรรณไว้ทางทิศเหนือ ให้ผู้ใหญ่ที่บำเพ็ญคุณธรรมและความดี เป็นที่น่าเคารพนับถือ ลงมือปลูกต้นพญาสัตบรรณในวันเสาร์ จะยิ่งช่วยเสริมสร้างสิ่งดี ๆ และเกียรติยศให้กับคนในบ้านได้
6. ประโยชน์
นอกจากจะให้ร่มเงา ส่งกลิ่นหอม และมีความหมายที่เป็นสิริมงคลแล้ว ต้นไม้ชนิดนี้ยังถูกนำไปแปรรูปเป็นของใช้ในและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ เช่น กล่องใส่ของ แต่ด้วยลักษณะเนื้อไม้ที่ไม่แน่น เลยทำให้ไม่มีความแข็งแรงทนทานพอ จึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้ในการก่อสร้าง
หากว่าด้วยเรื่องของสรรพคุณทางยา ต้นตีนเป็ด ช่วยรักษาและบำรุงร่างกายมากมายเลยทีเดียว อย่างเช่น โรคบิด พอกแก้พิษ แก้หวัด สติดเชื้อที่ลำไส้ ขับพยาธิ อาการทางผิวหนัง ช่วยให้เจริญอาหาร และลดน้ำตาลในเลือด เป็นต้น [อ่านเพิ่มเติม : ต้นตีนเป็ด กลิ่นไม่ธรรมดา สรรพคุณทางยาก็ไม่น้อยหน้าใคร]
แม้หลายคนจะมองว่า ต้นตีนเป็ด มีกลิ่นหอมฉุนรุนแรงนั้นเป็นอุปสรรคแลดูไม่น่าปลูก แต่ก็มีคุณสมบัติดี ๆ อีกตั้งมากมาย หากใครที่กำลังมองหาไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มาปลูกประดับไว้ในสวน ก็อย่าลืมนำข้อมูลของต้นตีนเป็ดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปลองพิจารณากันดูนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช, อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุขชาติ, กรมอุทยานแห่งชาติ, Puechkaset, Gotoknow และ Maipradabonline