รีวิวสร้างบ้านเดี่ยวในฝัน บ้านชั้นเดียว ราคา 1.5 ล้านบาท ที่เจ้าของบ้านบอกว่าทำไม่ยาก แค่มีความพยายาม ใครอยากมีบ้านเหมือนเธอ ตามไปชมกันเลยค่ะ

[CR]**รีวิว**สร้างบ้านเดี่ยวในฝัน ความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ยาก..ขอแค่พยายาม
โดย คุณ มดคนโก้
สวัสดีค่ะ...เนื่องจากเพิ่งเคยโพสต์เป็นกระทู้แรก อาจมีติดขัดไปบ้างต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ วันนี้เราจะมาเล่าความภูมิใจอย่างหนึ่งที่เราใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าเราจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังหนึ่ง แล้ววันนี้เราก็ทำสำเร็จ อาจจะยังไม่สมบูรณ์ดี แต่เราก็ตั้งใจไว้ว่าจะค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ค่ะ
มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า เนื่องจากเรามีความตั้งใจอยากได้บ้านมาตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ พอเราเรียนจบเราก็พยายามศึกษาขั้นตอนการขอยื่นกู้ซื้อบ้านจากเว็บไซต์พันทิป ห้องชายคา ที่เคยมีคนมารีวิวไว้นี่แหละค่ะ กระทู้เก่า ๆ หลาย ๆ ปีก็ตามอ่านมาประมาณ 1 ปี จนเราเริ่มแน่ใจแล้วว่าอายุงานของเราน่าจะยื่นกู้ได้แล้ว
1. ไปติดต่อธนาคาร
เราเริ่มจากไปที่ ธอส. ก่อนเลยค่ะ เพราะเราคิดว่าเป็นธนาคารที่เกี่ยวกับการกู้เพื่อบ้านโดยตรง ไปสอบถามเจ้าหน้าที่สินเชื่อว่าคุณสมบัติของเราสามารถยื่นกู้ได้ประมาณกี่บาท (จริง ๆ แล้วบริษัทที่เราทำงานอยู่มีสวัสดิการยื่นกู้กับ ธอส. ได้ 100% มีเงื่อนไขคือต้องอายุงาน 3 ปี แต่เราอายุงานแค่ปีเดียวเลยเป็นลูกค้ารายย่อย) พอเราทราบแล้วว่าเราสามารถกู้ได้เท่าไร เอกสารในการขอยื่นกู้มีอะไรบ้าง ออกมาจากธนาคารปุ๊บ เราก็เริ่มหาทำเลที่อยากได้พร้อมกับทีมงานผู้รับเหมาสร้างบ้านทันที
2. หาที่ดินและช่างรับเหมา
เริ่มหาช่างรับเหมาเพื่อคุยรายละเอียด ซึ่งจริง ๆ แล้วพ่อเราก็มีอาชีพหลักคือรับเหมาก่อสร้างอยู่แล้ว แต่พ่อเรางานยุ่งมาก ถ้ารอพ่อคงอีกนานกว่าจะได้สร้าง พ่อเรามีเพื่อนที่เป็นผู้รับเหมา แล้วเขาก็มีที่ดินแนะนำเราด้วยพอดี พอเราเห็นที่ดินเรารู้เลยว่าที่ดินตรงนี้แหละต้องเป็นบ้านเราแน่ ๆ (ฮ่า ๆ เหมือนเว่อร์นะคะ แต่รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ) ก็เลยตกลงราคากับผู้รับเหมา (ทั้งซื้อที่ดินแล้วก็จ้างสร้างบ้านด้วยเลย) ซึ่งเรามีแบบบ้านในใจอยู่แล้ว เราก็ไปจ้างพี่วิศวกรแถวบ้านที่เขารับเขียนแบบบ้าน ไปอธิบายให้ฟังว่าบ้านที่เราอยากได้เป็นแบบไหน ตกลงราคาค่าเขียนแบบเรียบร้อย 6,000 บาท รอ 1 สัปดาห์ แบบบ้านเสร็จ เราก็เอาแบบบ้านไป อบต. เพื่อขอใบอนุญาตปลูกสร้างบ้าน เราจำไม่ได้ว่าเสียเงินเท่าไร แต่ไม่เกิน 100 บาทค่ะ รอประมาณ 2 สัปดาห์ก็ได้มา เราก็จัดการถ่ายเอกสารไว้เผื่อใช้ครั้งต่อ ๆ ไปด้วยเลย
3. ยื่นกู้ที่ธนาคาร
พอได้เอกสารจาก อบต. แล้ว เราก็เตรียมเอกสารส่วนตัวของเราเพื่อเตรียมยื่นกู้ ของเราจะกู้แบบกู้ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้าน มีดังนี้ค่ะ
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า ทุกคน พร้อมฉบับจริง
- หนังสือรับรองเงินเดือน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน (ฉบับจริง )
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมประทับตราธนาคาร
- สมุดบัญชีที่เงินเดือนเข้าตัวจริง พร้อมสำเนาหน้าแรก
- สำเนาโฉนดที่ดินที่เราจะสร้างบ้าน
- แบบแปลนบ้าน
พอเขียนคำร้องขอกู้เงินที่ธนาคารเสร็จ เจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าให้รอผลอนุมัติไม่เกิน 45 วัน
4. รอผลการอนุมัติ
ระหว่างนี้ให้เราโทร. ไปถามเจ้าหน้าที่จนแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไรในการยื่นกู้ เราก็เริ่มทำการก่อสร้างเลยค่ะ ให้ได้ประมาณ 20% คือ ตั้งเสา เทพื้นปูน (ก่อนหน้านี้เราคุยกับผู้รับเหมาไว้แล้วว่าเราจะจ่ายเงินตามงวดที่ธนาคารกำหนดให้ ผู้รับเหมาจะต้องจ่ายค่าก่อสร้างให้ก่อน) หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มาประเมิน มีค่าใช้จ่าย 2,800 บาท อีก 3 วันเจ้าหน้าที่ก็โทร. มาบอกว่าผ่านการอนุมัติ (รวม ๆ แล้วเรารอผลเกือบเดือนเลยค่ะ)

วันเซ็นสัญญาเราไปแต่เช้าเลยค่ะ เพื่อจะได้คิวแรก ๆ วันนั้นมีค่าใช้จ่ายดังนี้ค่ะ
- ค่าทำนิติกรรม 1,000 บาท
- ค่าธรรมเนียม 1,109 บาท (0.1% ของจำนวนเงินที่อนุมัติ)
- ค่าเปิดบัญชีของ ธอส. 500 บาท
พอชำระเสร็จ เราต้องถือเอกสารที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ไปที่กรมที่ดินค่ะ เพื่อที่จะจดจำนอง (เรานัดเจ้าของที่ดินซึ่งก็เป็นผู้รับเหมานั่นแหละ ไปที่ที่ดินพร้อมกันเลย เพื่อที่จะได้เซ็นเอกสารของกรมที่ดินค่ะ) เราเสียค่าจดจำนองที่ดินไป 14,551 บาท พอเจ้าหน้าที่ที่ดินดำเนินการจดจำนองพร้อมสลักหลังโฉนดเสร็จ ให้เราถือเอกสารกลับไปที่ธนาคาร พอเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบเอกสารเสร็จเราก็ได้เงินงวดแรก พร้อมกับโดนหักค่าประกันชีวิตไป 20,000 บาท เราได้เงินงวดแรกมาก็เอาให้ผู้รับเหมาหมดเลยค่ะ สิ่งสำคัญวันนี้คือธนาคารแจ้งเราว่า เดือนหน้าให้เราเริ่มผ่อนชำระได้เลย วันชำระเงินกู้คือ วันที่ 1-10 ของทุก ๆ เดือน จะไม่มีจดหมายทวงหนี้เหมือนบัตรเครดิต ให้เราจำของเราเองว่าจะต้องเสียปีนี้กี่บาท แล้วปีต่อ ๆ ไปกี่บาท ถ้าไม่แน่ใจสามารถโทร. สอบถาม call center ของ ธอส. ได้ค่ะ
6. ดำเนินการสร้างบ้าน
ผู้รับเหมาก็สร้างบ้านต่อไปเรื่อย ๆ จน 80% เราก็โทร. ให้เจ้าหน้าที่มาประเมิน เสียค่าประเมินรอบนี้ 800 บาท อีก 2 วันต่อมา ธนาคารก็โทร. ให้ไปรับเงินงวดที่ 2

หลังจากนั้นก็สร้างไปอีก จนเกือบครบ 100% เราเริ่มไปขอเลขที่บ้าน ไปยื่นที่ อบต. ก่อน เอกสารที่ใช้ครั้งนี้ก็จะมีสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบขออนุญาตปลูกสร้าง รูปถ่ายบ้านด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง ห้องน้ำที่ติดสุขภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว พอยื่นเอกสารเสร็จจะมีใบ ทร.900 ให้ไปหาผู้ใหญ่บ้านเพื่อออกเลขที่บ้านให้ พอได้ปุ๊บเราก็ไปที่ที่ว่าการอำเภอไปติดต่อขอทำทะเบียนบ้าน พร้อมย้ายตัวเองเข้าอยู่ด้วยเลย (ต้องเตรียมเล่มทะเบียนบ้านตัวจริงอันเก่าไปด้วย) ได้เล่มทะเบียนบ้านแล้ว เราก็ไปติดต่อขอมิเตอร์ไฟฟ้า เราเลือกแบบ 15 แอมป์ เสียเงินไป 4,621 บาท ขอไฟได้แล้วไปขอน้ำประปาต่อค่ะ ยื่นขอมิเตอร์น้ำประปา ยื่นเรื่องไว้ยังไม่ได้เสียเงิน รอเจ้าหน้าที่มาประเมินก่อน จากนั้นเขาก็โทร. นัดไปจ่ายเงินค่ะ เราจำค่าใช้จ่ายไม่ได้ แต่ของเราไม่เกิน 4,000 บาทค่ะ








- เริ่มติดผ้าม่าน ติดกันเองค่ะไม่ได้จ้างช่าง ประหยัดไปได้เยอะเลย
ได้เลขที่บ้าน เล่มทะเบียนบ้าน ไฟฟ้าและประปาเรียบร้อย บ้านสร้างเสร็จ 100% แล้ว เราโทร. ไปให้ธนาคารมาประเมินงวดที่ 3 เสียค่าประเมินไป 800 บาท หลังจากนั้น 3 วัน ธนาคารแจ้งว่าให้ไปรับเงินงวดสุดท้าย เอกสารที่ต้องเอาไปวันนั้นคือ
- สำเนาเล่มทะเบียนบ้านใหม่ พร้อมตัวจริง
- สำเนาใบ ทร.900
- ใบเสร็จมิเตอร์ไฟฟ้า+ประปา
- สมุดบัญชี ธอส.
พอตรวจเอกสารครบแล้ว เราก็ไปถอนเงินเพื่อเอาไปให้ผู้รับเหมาทันทีเลยค่ะ ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นขั้นตอนคร่าว ๆ ในการดำเนินการสร้างบ้านด้วยการกู้เงินจากธนาคารที่เราผ่านมานะคะ ของแต่ละบุคคลก็อาจจะไม่เหมือนกันแล้วแต่ธนาคารด้วยค่ะ
***สรุปแล้วทั้งที่ดิน+ผู้รับเหมา 1,500,000 บาท อันนี้ยังไม่รวมค่าจิปาถะ (ไฟฟ้า+ประปา+จดจำนองที่ดิน+ค่าธรรมเนียม+ค่าประเมิน+ค่าทำนิติกรรม+หักประกันชีวิต) นะคะ***



