รวมวิธีทำความสะอาดชักโครก โดยไม่พึ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมี ให้ชักโครกสะอาด ไม่มีทั้งคราบสกปรกหรือกลิ่นเหม็น และช่วยรักษาอายุการใช้งานเครื่องสุขภัณฑ์ให้ยาวนาน
การทำความสะอาดห้องน้ำถือว่าเป็นงานบ้านที่ต้องใช้ความอดทน โดยเฉพาะการทำความสะอาดชักโครกจุดรับของเสีย ที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค สิ่งสกปรก และมีกลิ่นเหม็นมากที่สุด แต่อย่าท้อใจไปค่ะ ! เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมสูตรทำความสะอาดชักโครกโดยไม่ใช้น้ำยาเคมีมาฝากกันค่ะ ถ้าอยากให้ชักโครกสะอาดปลอดภัยไร้เชื้อโรค และไม่ทำลายพื้นผิวสุขภัณฑ์ให้เสียหายก็ตามไปดูกันเลย
1. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide)
คิดจะทำความสะอาดไปพร้อมกับการฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำทั้งที อย่าเสี่ยงใช้สารเคมีแรง ๆ ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนพื้นผิวสุขภัณฑ์ให้เสียหายเลยดีกว่า แค่นำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) หรือที่รู้จักกันในนามของยาล้างแผล เทใส่ขวดสเปรย์แล้วนำไปฉีดพ่นตามชักโครก ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วค่อยกดน้ำทิ้ง
2. DIY น้ำยาล้างชักโครกสูตรสบู่มะกอกสกัด
ต่อให้คราบหนักขนาดไหน น้ำยา DIY สูตรนี้ก็เอาอยู่ โดยผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง กับสบู่มะกอกสกัด ½ ถ้วยตวง เบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง และน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ 15-30 หยด คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นฉีดลงไปในชักโครก ขัดถูพอประมาณ แล้วฉีดไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) ซ้ำอีกที ทิ้งไว้ประมาณสักพักแล้วล้างออก แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงไปผสมกับเบกกิ้งโซดาในขวดที่มีฝาปิดมิดชิดเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดแก๊สระเบิดได้
3. ก้อนกำจัด
ทำเองง่าย ๆ ด้วยการผสมเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง กรดมะนาว ½ ถ้วยตวง และผงบอแรกซ์ ½ ถ้วยตวง ให้พอเข้ากันแล้วเทลงในถุงซิปล็อก ปิดปากถุงทิ้งไว้สักพัก หมั่นฉีดสเปรย์น้ำเปล่าเป็นระยะ ๆ สัก 2-3 ครั้ง จนกว่าส่วนผสมจะมีเนื้อสัมผัสเปียกชื้น จากนั้นหยดน้ำมันหอมระเหยลงไป 25 หยด ผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี ตักใส่แม่พิมพ์รูปทรงที่เป็นก้อน ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 1 วัน เมื่อจับตัวเป็นก้อนดีแล้วให้นำเก็บไว้ในโหลเพื่อเอาไว้ใช้ได้นาน ๆ ใช้โดยการหย่อนก้อนขจัดคราบนี้ลงไปในชักโครก มันจะเกิดฟองฟู่ รอให้ฟองหายไปแล้วค่อยกดน้ำทิ้ง แต่ถ้าคราบหนักมากก็ทิ้งไว้นานกว่านั้นก็ได้ค่ะ
4. หินพัมมิส
หลายคนอาจไม่รู้ว่าเจ้าหินพัมมิส (Pumice stone) ที่ใช้ขัดผิวนั้น จะสามารถนำมาทำความสะอาดห้องและโถส้วมได้ด้วย หินพัมมิสเป็นหินภูเขาไฟชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นรูพรุน สามารถกลั่นกรองสิ่งสกปรกให้หมดจดได้ ก่อนอื่นสวมถุงมือแล้วนำหินพัมมิสไปถูคราบสกปรกตามชักโครกให้ทั่ว หรือจะใช้ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ เพื่อเพิ่มพลังขจัดคราบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ได้
5. ยาแก้เมาค้างชนิดฟองฟู่
ไม่ตกใจไปค่ะ ! เพราะยาแก้เมาค้างหรืออัลกา-เซลท์เซอร์ (Alka-Seltzer) ชนิดนี้ มีฤทธิ์ในการทำความสะอาดคราบสกปรกในชักโครกได้อย่างดีเยี่ยม แค่หย่อนลงไปในชักโครกประมาณ 2 เม็ด มันจะเกิดฟองฟู่และทำความปฏิกิริยากับคราบ และเมื่อฟองหายไปให้ใช้แปรงขัดห้องน้ำ วนน้ำในนั้นขึ้นมาขัดถูชักโครกให้สะอาด ก่อนกดน้ำทิ้งไป
6. เครื่องดื่มเกลือแร่
เชื่อหรือไม่ว่า เครื่องดื่มเกลือแร่ ที่ดื่มตอนออกกำลังกายหรือเวลาที่เสียเหงื่อ มีคุณสมบัติช่วยกำจัดคราบหนักในชักโครกได้ เพียงแค่ปล่อยน้ำในชักโครกออกให้หมด แล้วเทเครื่องดื่มเกลือแร่ลงไป ทิ้งไว้สักพัก แคลเซียมที่อยู่ในเครื่องดื่มก็จะเข้าสลายคราบหนักให้หลุดออก หลังจากนั้นก็ใช้แปรงขัดถูกให้เกลี้ยงก่อนกดน้ำทิ้งไป
7. เกรปฟรุตและเกลือ
อีกหนึ่งสูตรสครับจากธรรมชาติที่เราสามารถหาได้จากในบ้าน นั่นก็คือ การนำเกรปฟรุตครึ่งซีกมาชุบเกลือแล้วนำไปขัดคราบตามชักโครกหรือจุดต่าง ๆ ในห้องน้ำ รับรองได้เลยว่าห้องน้ำจะสะอาดแบบปลอดภัย แถมไม่ทำลายพื้นผิวให้เสียหายอีกด้วย หากไม่มีเกรปฟรุตก็ให้ใช้มะนาวหรือเลมอนแทนได้
8. เทปกาวและน้ำส้มสายชู
ดูเหมือนว่าของทั้ง 2 นี้จะไม่สามารถไปด้วยกันได้ แต่สำหรับการทำความสะอาดชักโครกนั้น...ทำได้ค่ะ โดยปล่อยน้ำในชักทิ้งไปจนหมดแทงก์ จากนั้นใช้เทปกาวอย่างหนาปิดรูชักโครกเอาไว้ให้มิด เทน้ำส้มสายชู 1 แกลลอน ลงในแทงก์ชักโครก แล้วกดน้ำให้น้ำส้มสายชูไหลออกมาล้างคราบสกปรก ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วค่อยดึงเทปกาวออก นำแปรงมาขัดถูให้สะอาด ก่อนจะกดน้ำทิ้งไป
9. น้ำยากำจัดคราบอเนกประสงค์
หลังจากทำความสะอาดห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมทำความสะอาดแปรงขัดห้องน้ำกันด้วยนะคะ นอกจากจะใช้น้ำเปล่าและน้ำยาล้างคราบล้างออกแล้วยังไม่พอค่ะ ให้เทน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ลงในฐานครอบแปรงด้วย แช่หัวแปรงเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ให้แปรงสะอาดพร้อมใช้งานในครั้งต่อไป
10. บอแรกซ์และสบู่มะกอกสกัด
ไม่ต้องไปหาซื้อน้ำยาทำความสะอาดให้ยุ่งยาก เพราะถ้าหากที่บ้านมีส่วนผสมเหล่านี้ก็ให้นำมาใช้ได้เลย เริ่มจากเทสบู่มะกอกสกัดลงไปในชักโครกพอประมาณ ตามด้วยผงบอแรกซ์ ¼-½ ถ้วยตวง ใช้แปรงขัดถูให้ทั่วจนเกิดฟอง ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก จะพบว่าชักโครกสะอาดอย่างเห็นได้ชัด
11. ยาสีฟันเด็ก
เนื่องจากยาสีฟันสำหรับเด็ก ๆ มีคุณสมบัติช่วยเคลือบฟันอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถกำจัดคราบได้อย่างอ่อนโยน จึงสามารถนำมันมาประยุกต์ในการทำความสะอาดชักโครก แค่ป้ายยาสีฟันให้ทั่วแล้วใช้แปรงขัดทำความสะอาดให้เกิดฟอง ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกให้เกลี้ยง
12. น้ำอัดลมชนิดน้ำดำ
เป็นเครื่องดื่มอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยทำความสะอาดชักโครกได้อย่างดี เพราะหาง่ายและประหยัดเวลา เพียงแค่น้ำอัดลมชนิดน้ำดำลงไปในชัดโครก เน้นเทให้โดนบริเวณรอบ ๆ และจุดที่มีคราบเกาะติด ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง หรือถ้าเจอคราบหนักก็ทิ้งไว้สัก 1 คืน ใช้แปรงขัดถูให้ทั่ว แล้วค่อยกดน้ำทิ้งไป หากคราบยังออกไม่หมดก็สามารถทำซ้ำได้เลยค่ะ
13. น้ำยาล้างจาน
หากชักโครกที่บ้านเจอปัญหาอุดตันค่อนข้างบ่อย ให้ต้มน้ำเปล่าจนเดือดแล้วยกออกมาพักไว้ หยดน้ำยาล้างจานลงไปในชักโครกประมาณ 2-3 หยด เมื่อน้ำที่ต้มมีอุณหภูมิลดลงแต่ไม่ร้อนอยู่ ก็ให้ตักน้ำนั้นมาเติมลงในชักโครก แล้วกดน้ำทิ้งไป สามารถทำซ้ำได้เพื่อลดการอุดตัน
14. ทิชชูชุบน้ำส้มสายชู
ถ้าหากชักโครกเลอะคราบกรังหรือมีคราบเชื้อราขึ้นบริเวณขอบหรือในส่วนที่ไม่โดนน้ำ ให้นำทิชชูอย่างหนามาชุบน้ำส้มสายชูให้ชุ่ม แล้วนำไปปิดทับคราบเอาไว้ ทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมง จากนั้นให้ดึงทิชชูออกก่อน แล้วจึงค่อยขัดทำความสะอาดและกดน้ำทิ้งภายหลัง
15. สครับกำจัดกลิ่นฉี่
บ้านไหนที่ต้องพบเจอปัญหากลิ่นฉี่ตามโถชักโครก จะกดน้ำเท่าไรกลิ่นก็ยังไม่หายไป แนะนำให้ใช้วิธีนี้เลยค่ะ โดยการนำเบกกิ้งโซดา ¼ ถ้วยตวง ผสมกับน้ำเปล่า คนให้เป็นเนื้อสครับเข้มข้น ใช้ฟองน้ำชุบแล้วเช็ดและขัดภายในชักโครกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 2-3 นาที นำสเปรย์น้ำส้มสายชู ¼ ถ้วยตวง ที่ผสมกับน้ำเปล่า 2 แกลลอน มาฉีดพ่นในชักโครกให้ทั่ว แต่ถ้ากลิ่นยังไม่หายไปก็สามารถเพิ่มผงบอกแรกซ์ ½ ถ้วยตวง ลงไป ก่อนจะล้างด้วยน้ำเปล่าในขั้นตอนสุดท้าย
เห็นไหมล่ะว่าเราไม่จำเป็นจะต้องพึ่งน้ำยาเคมีเพื่อความสะอาดชักโครกก็ได้ ถ้าไม่อยากให้พื้นผิวชักโครกสึกกร่อนและมีอายุการใช้งานสั้น ก็อย่าลืมทริคดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปลองปรับใช้ดูนะคะ รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่อยากเสียเงินซื้อน้ำยาเคมีมาใช้อีกต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : onecrazyhouse, Livesimply, Diynatural, Bobvila, Eddie Got Funny Jokes, Theseamanmom, Homespothq, Cleanandscentsible, Binkiesandbriefcases และ Wikihow