สำหรับคนที่มีรอยแดง บวม คัน ตอนตื่นนอน เพราะโดนตัวเรือดกัด มาดูวิธีกำจัดตัวเรือดไปพร้อม ๆ กัน แล้วรีบลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ตัวเรือดจะใช้บ้านของเราเป็นที่อยู่ถาวร
ตัวเรือด คือ
วิธีกำจัดตัวเรือด
เราคงไม่สามารถกำจัดตัวเรือดได้หมด หากไม่รู้ถึงแหล่งที่อยู่จริง ๆ ของกองทัพตัวเรือด ฉะนั้นควรเริ่มด้วยการหาแหล่งที่อยู่ให้เจอเป็นอันดับแรก ซึ่งวิธีค้นหาตัวเรือดก็ไม่ยาก เพราะจุดที่ตัวเรือดอยู่จะมีจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ หรือรอยสีสนิมคล้าย ๆ รอยเลือดปรากฏอยู่ นอกจากนี้หากมีกลิ่นสาบหรือกลิ่นคล้าย ๆ ผลไม้บูดเน่า ก็เป็นสัญญาณว่ามีตัวเรือดอยู่เช่นกัน
นอกจากนี้อย่ามัวแต่มองหาตัวเรือดแค่ในห้องนอนเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วตามโซฟา ผนัง รวมถึงรอยแตก รอยร้าว และตามซอกหลืบต่าง ๆ ของบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงของเราชอบอยู่ ก็มักจะมีตัวเรือดชอบมาอาศัยด้วยเหมือนกัน ฉะนั้นสำรวจให้ทั่วว่าตัวเรือดซ่อนอยู่ตรงไหนของบ้าน จะได้ลงมือกำจัดให้ถูกจุด
2. ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดให้ทั่วทุกพื้นที่
วิธีที่ง่ายที่สุดในการกำจัดตัวเรือดก็คือ การใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตัวเรือดและสิ่งสกปรกให้ทั่วบ้าน โดยเฉพาะแหล่งที่อยู่ยอดฮิตอย่าง ที่นอน โซฟา ม่าน พรม ผนัง เฟอร์นิเจอร์ และเก้าอี้ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ดูดซอกมุมอย่างละเอียดเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมทำความสะอาดฟิลเตอร์หรือตัวกรองในเครื่องดูดฝุ่นของเราด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเรือดแพร่กระจายไปห้องอื่น ๆ ของบ้าน
3. นำเครื่องนอนไปซักด้วยน้ำร้อน
หากพบว่าแหล่งที่อยู่อาศัยของตัวเรือดคือ ที่นอน ผ้าม่าน หรือของชิ้นเล็ก ๆ ที่พอจะซักได้ ให้เรารีบนำสิ่งของเหล่านั้นไปซักในน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิอย่างน้อย 122 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 50 องศาเซลเซียส ทันที เนื่องจากตัวเรือดจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในความร้อนระดับนี้ โดยซักตามด้วยผงซักฟอกเพื่อกำจัดคราบเลือดที่อาจดึงดูดปรสิตหรือแมลงอื่น ๆ มาในห้องนอน และถ้าหากอยากทำให้แน่ใจว่าเรากำจัดตัวเรือดได้หมดจดจริง ๆ ก็ให้นำสิ่งที่เราซักมาตากแดดในวันที่มีแสงจัด ๆ ด้วย
ในกรณีที่ของใช้ชิ้นนั้น ๆ มีตัวเรือดอาศัยอยู่รวมกันมาก ไม่สามารถกำจัดได้หมด หรือตัวเรือดทำลายสิ่งของเหล่านั้นจนไม่สามารถใช้เป็นปกติได้แล้ว แนะนำให้ตัดสินใจทิ้งของชิ้นนั้นไปซะ เพราะเก็บเอาไว้ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แถมยังเป็นแหล่งที่อยู่ให้ตัวเรือดขยายพันธุ์อีกต่างหาก ทว่าก่อนจะนำไปทิ้งก็อย่าลืมเขียนโน้ตติดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นที่เจอหยิบไปใช้ต่อ
5. อุดรอยร้าวในบ้าน
รอยร้าวตามผนังบ้าน ร่องหรือรอยแตกตามเฟอร์นิเจอร์ หรือหลังวอลเปเปอร์ที่ติดไม่สนิทหรือหลุดลอก เป็นอีกหนึ่งสถานที่หลบซ่อนของตัวเรือด แถมยังกำจัดออกได้ยาก ดังนั้นทางที่ดีอย่าลืมจัดการปิด อุด ฉาบรูหรือรอยร้าวต่าง ๆ ในบ้านให้เรียบสนิทด้วย
หรือลองหันมาใช้วิธีกำจัดตัวเรือดแบบธรรมชาติ โดยนำดินเบาสูตรผสมอาหารโรยบริเวณที่มีตัวเรือดอาศัยอยู่ก็ช่วยกำจัดตัวเรือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะดินเบาจะทำหน้าที่ดูดซึมน้ำจากตัวเรือด ส่งผลให้ตัวเรือดตายลงในที่สุด แถมดินเบาผสมกับอาหารยังไม่ส่งผลเสียต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมด้วย ทำให้เราใช้ดินเบาได้แบบสบาย ๆ เลย ทว่าถึงอย่างไรตอนโรยดินเบาก็ควรจะใส่ผ้าปิดจมูกเพื่อป้องกันเอาไว้สักหน่อย ส่วนระยะเวลาที่ดินเบาจะช่วยกำจัดตัวเรือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลาประมาณ 10-12 วันค่ะ
7. ฉีดไล่ด้วยน้ำใบสะระแหน่
ถ้าบ้านใครที่เพิ่งเริ่มมีตัวเรือด หรือมีตัวเรือดไม่มาก แนะนำให้ใช้วิธีแบบธรรมชาติที่ง่ายและดี โดยการนำใบสะระแหน่มาบดแล้วคั้นให้เป็นน้ำ เทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นก็นำไปฉีดให้ทั่วบริเวณที่มีตัวเรือดอยู่ ก็จะทำให้ตัวเรือดตายและค่อย ๆ หายไป เพราะว่าในใบสะระแหน่มีกลิ่นและสรรพคุณที่ช่วยขับไล่แมลงอยู่นั่นเอง
8. หยดที ทรี ออยล์บนที่นอน
รู้ไหมคะว่าที ทรี ออยล์ (Tea Tree Oil) ที่สาว ๆ ชอบนำมาบำรุงผิว ก็ช่วยกำจัดตัวเรือดและแมลงต่าง ๆ ให้ออกไปจากบ้านของเราได้ ด้วยการนำที ทรี ออยล์มาฉีดบริเวณที่มีตัวเรือดอาศัยอยู่หรือหยดบนเสื้อผ้าและที่นอน เพียงง่าย ๆ แค่นี้ ก็ช่วยไล่เจ้าตัวเรือดออกไปได้แล้ว
9. ซิลิกาเจล (Silica gel)
ซิลิกาเจลเป็นสารสังเคราะห์จากทรายขาวกับกำมะถัน มีลักษณะเป็นโพรงด้านใน ทำให้ดูดน้ำ ดูดความชื้นได้ดี ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่เราสามารถใช้ซิลิกาเจลช่วยกำจัดตัวเรือดได้ โดยให้ป้ายซิลิกาเจลไว้ในบริเวณที่ตัวเรือดอาศัยอยู่ ทิ้งไว้สักระยะ รอให้ตัวเรือดติดกับซิลิกาเจล เพราะเนื้อซิลิกาเจลจะมีความเหนียวสูงมาก เมื่อตัวเรือดมาติดจึงไม่สามารถสลัดออกได้ แล้วตัวเรือดก็จะค่อย ๆ แห้งตายไปในที่สุด
สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้วิธีไหนในการกำจัดตัวเรือด เราขอแนะนำให้ทำวิธีนั้นซ้ำอีกครั้งในทุก 3 อาทิตย์ เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาตัวเรือดบุกบ้านอย่างถาวรและมีประสิทธิภาพ และเห็นไหมคะว่าการกำจัดตัวเรือดสามารถทำได้ไม่ยาก แถมยังมีหลายวิธีด้วย ฉะนั้นถ้าเริ่มพบว่าบ้านของเรามีตัวเรือด ให้รีบทำตามวิธีที่สะดวกที่เราแนะนำไปทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด ไม่งั้นอาจมีตัวเรือดเต็มบ้านจนกำจัดไม่ไหว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก wikihow, healthyandnaturalworld, naturallivingideas, easyways, rentokil, cleanipedia และ baygon