สำหรับห้องครัวที่เหม็นกลิ่นคาวจนเกือบทนไม่ไหว มาดูวิธีดับกลิ่นคาวปลาในห้องครัวที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ รับรองว่าช่วยให้กลิ่นคาวในห้องครัวหายไปได้ชัวร์ ด้วยวิธีง่าย ๆ เหล่านี้
กลิ่นคาวเป็นกลิ่นที่กำจัดได้ยาก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกำจัดไม่ได้ซะหน่อย
เพราะในวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวมวิธีดับกลิ่นคาวในห้องครัวมาฝากแล้ว
ขอบอกว่าแต่ละวิธีนั้นทำได้แสนง่าย แถมรับประกันเลยว่าได้ผลชัวร์
ใครที่ต้องทำอาหารประเภทปลาหรืออาหารทะเลบ่อย ๆ
หลังจากนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีกลิ่นคาวรบกวน จนแสบจมูกอีกแล้ว เพียงนำวิธีกำจัดกลิ่นคาวเหล่านี้ไปใช้
1. น้ำส้มสายชู
รู้ไหมว่าเพียงแค่เทน้ำส้มสายชูใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้ววางไว้ใกล้ ๆ เตา เวลาที่เราทอดปลา ทำอาหารทะเล หรือทำอาหารที่มีกลิ่นเหม็น ก็ช่วยกำจัดกลิ่นคาวให้หายไปได้ง่าย ๆ เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีคุณสมบัติช่วยดูดกลิ่นคาวและกลิ่นเหม็นได้อย่างหมดจด แต่ถ้าหากใครลองทำแล้วกลิ่นคาวยังออกไม่หมดสักที ขอแนะนำให้วางทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วค่อยนำไปเททิ้ง รับรองว่ากลิ่นต้องหายไปแน่ ๆ
2. มะนาว
ถ้าบ้านใครที่น้ำสมสายชูดันมาหมดพอดี จะเปลี่ยนมาใช้น้ำมะนาวแทนก็ได้เหมือนกัน โดยขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มด้วยการนำน้ำใส่กระทะแล้วตั้งไฟอ่อน ๆ จากนั้น ใส่น้ำมะนาวตามลงไปสัก 2-3 ช้อนชา จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้เดือดสักครึ่งชั่วโมง เท่านี้กลิ่นคาวก็จะหมดไป แถมยังได้กลิ่นหอมของมะนาวมาแทนด้วย
3. เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา ผงสีขาวที่มีคุณสมบัติโดนใจคนรักครัวมาก ๆ เพราะสามารถใช้ทำความสะอาดและขจัดคราบในครัวได้หลากหลาย อีกทั้งยังช่วยลดกลิ่นอับในตู้เย็นหรือตู้กับข้าวได้อีกด้วย ส่วนเรื่องกลิ่นคาวในครัวน่ะเหรอ ไม่ต้องพูดถึง เพราะเราสามาถนำเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำเปล่า 800 ซีซี จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วนำไปขัดเขียงดับกลิ่นคาว รับรองเลยว่าช่วยให้ครัวไม่เหม็นได้แน่นอน
รู้ไหมว่าเพียงแค่เทน้ำส้มสายชูใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้ววางไว้ใกล้ ๆ เตา เวลาที่เราทอดปลา ทำอาหารทะเล หรือทำอาหารที่มีกลิ่นเหม็น ก็ช่วยกำจัดกลิ่นคาวให้หายไปได้ง่าย ๆ เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีคุณสมบัติช่วยดูดกลิ่นคาวและกลิ่นเหม็นได้อย่างหมดจด แต่ถ้าหากใครลองทำแล้วกลิ่นคาวยังออกไม่หมดสักที ขอแนะนำให้วางทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วค่อยนำไปเททิ้ง รับรองว่ากลิ่นต้องหายไปแน่ ๆ
2. มะนาว
ถ้าบ้านใครที่น้ำสมสายชูดันมาหมดพอดี จะเปลี่ยนมาใช้น้ำมะนาวแทนก็ได้เหมือนกัน โดยขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มด้วยการนำน้ำใส่กระทะแล้วตั้งไฟอ่อน ๆ จากนั้น ใส่น้ำมะนาวตามลงไปสัก 2-3 ช้อนชา จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้เดือดสักครึ่งชั่วโมง เท่านี้กลิ่นคาวก็จะหมดไป แถมยังได้กลิ่นหอมของมะนาวมาแทนด้วย
3. เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา ผงสีขาวที่มีคุณสมบัติโดนใจคนรักครัวมาก ๆ เพราะสามารถใช้ทำความสะอาดและขจัดคราบในครัวได้หลากหลาย อีกทั้งยังช่วยลดกลิ่นอับในตู้เย็นหรือตู้กับข้าวได้อีกด้วย ส่วนเรื่องกลิ่นคาวในครัวน่ะเหรอ ไม่ต้องพูดถึง เพราะเราสามาถนำเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำเปล่า 800 ซีซี จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วนำไปขัดเขียงดับกลิ่นคาว รับรองเลยว่าช่วยให้ครัวไม่เหม็นได้แน่นอน
4. ขิง
ขิง นอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ รู้หรือไม่ว่าขิงเนี่ยช่วยลดกลิ่นคาวได้ด้วย ซึ่งวิธีการดับกลิ่นคาวด้วยขิงก็ทำไม่ยากเลย โดยนำขิงมาบดจนเป็นผงละเอียด จากนั้นโรยให้ทั่วตัวปลา แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ สามารถนำปลาไปประกอบอาหารแบบไม่ต้องกลัวกลิ่นคาวรบกวนระหว่างการทำอาหารเลยล่ะ
5. นมสด
อีกหนึ่งวิธีล้างปลาไม่ให้มีกลิ่นคาว ก่อนกลิ่นคาวจะฟุ้งไปทั้งครัวและก่อนนำมาทำกับข้าวคือ นำปลาหรืออาหารทะเลใส่ลงในกะละมังแล้วเทนมตามลงไปให้ท่วม ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง สารเคซี (เคซีน) ซึ่งเป็นโปรตีนในน้ำนม ก็จะดูดซับสารไตรเมทิลเอมีนออกไซด์ (Trimethylamone Oxide : TMAO) สารประกอบที่ทำให้เกิดกลิ่นคาวเอาไว้ จากนั้นก็นำปลาไปประกอบอาหารได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีกลิ่นคาวแล้ว
6. กาแฟ
หากคุณเป็นคอกาแฟอยู่แล้ว รับรองว่าต้องชอบวิธีนี้แน่ ๆ แถมยังสามารถทำได้ง่ายนิดเดียว เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟหรือเมล็ดกาแฟบดเทใส่ถ้วยเอาไว้ แล้วนำไปตั้งทิ้งไว้ในห้องครัวประมาณ 1-2 จุด กลิ่นจากกาแฟก็จะช่วยกลบกลิ่นคาวได้ นอกจากนี้ยังสามารถใส่ชินนามอน จันทร์เทศ หรือเครื่องเทศชนิดอื่น ๆ ลงเพิ่มกลิ่นหอม ๆ ให้กับห้องครัวอีกก็ได้
ขิง นอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ รู้หรือไม่ว่าขิงเนี่ยช่วยลดกลิ่นคาวได้ด้วย ซึ่งวิธีการดับกลิ่นคาวด้วยขิงก็ทำไม่ยากเลย โดยนำขิงมาบดจนเป็นผงละเอียด จากนั้นโรยให้ทั่วตัวปลา แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ สามารถนำปลาไปประกอบอาหารแบบไม่ต้องกลัวกลิ่นคาวรบกวนระหว่างการทำอาหารเลยล่ะ
5. นมสด
อีกหนึ่งวิธีล้างปลาไม่ให้มีกลิ่นคาว ก่อนกลิ่นคาวจะฟุ้งไปทั้งครัวและก่อนนำมาทำกับข้าวคือ นำปลาหรืออาหารทะเลใส่ลงในกะละมังแล้วเทนมตามลงไปให้ท่วม ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง สารเคซี (เคซีน) ซึ่งเป็นโปรตีนในน้ำนม ก็จะดูดซับสารไตรเมทิลเอมีนออกไซด์ (Trimethylamone Oxide : TMAO) สารประกอบที่ทำให้เกิดกลิ่นคาวเอาไว้ จากนั้นก็นำปลาไปประกอบอาหารได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีกลิ่นคาวแล้ว
6. กาแฟ
หากคุณเป็นคอกาแฟอยู่แล้ว รับรองว่าต้องชอบวิธีนี้แน่ ๆ แถมยังสามารถทำได้ง่ายนิดเดียว เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟหรือเมล็ดกาแฟบดเทใส่ถ้วยเอาไว้ แล้วนำไปตั้งทิ้งไว้ในห้องครัวประมาณ 1-2 จุด กลิ่นจากกาแฟก็จะช่วยกลบกลิ่นคาวได้ นอกจากนี้ยังสามารถใส่ชินนามอน จันทร์เทศ หรือเครื่องเทศชนิดอื่น ๆ ลงเพิ่มกลิ่นหอม ๆ ให้กับห้องครัวอีกก็ได้
7. แอปเปิล
รู้ไหมว่าแอปเปิลช่วยดูดกลิ่นคาวจากการทำอาหารได้ โดยสไลด์แอปเปิลเป็นแผ่นบาง ๆ วางบนปลาให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก่อนนำปลาไปทำอาหาร สำหรับปลาที่มีกลิ่นแรง วิธีนี้อาจช่วยลดกลิ่นคาวให้น้อยลงได้ และไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติ เพราะวิธีนี้ไม่ได้ทำให้รสชาติและกลิ่นของเนื้อปลาเปลี่ยนไป
8. บุหงา
ถ้าแค่ดับกลิ่นคาวยังไม่พอ เพราะต้องการให้ห้องครัวหอมสดชื่นด้วย ก็ต้องหันมาทำบุหงา เครื่องหอมที่เป็นการผสมผสานระหว่างกลีบดอกไม้หรือเปลือกผลไม้หอม ๆ อย่างเช่น ดอกกุหลาบ ดอกจำปา เปลือกมะนาว เปลือกมะกรูด เปลือกส้ม เข้ากับเครื่องเทศ เช่น อบเชยหรือกานพลู แล้วล่ะ โดยวิธีการทำบุหงาก็ไม่ยาก แค่ต้มน้ำโดยใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นก็ใส่ส่วนผสมต่าง ๆ ลงไป ปล่อยทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง หรือสักระยะหนึ่ง เพียงแค่นี้กลิ่นหอม ๆ ก็จะฟุ้งไปทั่วห้องครัวแทนที่กลิ่นคาวแล้ว หรือถ้าจะให้สะดวกกว่านั้นก็ใช้วิธีจุดเทียนหอมแทนก็ได้ค่ะ
9. หน้าต่าง
วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดกลิ่นคาวในห้องครัวของเราได้ ก็คือเปิดหน้าต่าง ทั้งในขณะที่กำลังทำอาหาร หรือแม้แต่ตอนทำอาหารเสร็จแล้ว เพื่อให้ห้องครัวมีอากาศถ่ายเท หมุนเวียนกลิ่นเหม็น ๆ ออกไป แต่ควรเปิดประตูที่เป็นทางเข้า-ออกนอกตัวบ้านนะคะ อย่าเผลอเปิดประตูที่เชื่อมกับห้องต่าง ๆ ภายในบ้านเชียว ไม่อย่างนั้นกลิ่นคาวได้ตลบอบอวนอยู่ในบ้านแน่ และถ้าหากวันไหนฝนตก ใช้วิธีเปิดหน้าต่างดูท่าจะไม่เวิร์ก ลองหันมาเปิดพัดลมระบายอากาศแทน ก็ช่วยระบายกลิ่นคาวได้เหมือนกัน
เห็นไหมคะ ว่าแต่ละวิธีทำตามได้ไม่ยากเลย แถมอุปกรณ์ที่ใช้ทำก็ยังหาได้ง่าย ๆ ในบ้านของเราด้วย รู้อย่างนี้แล้วอย่ามัวปล่อยให้ห้องครัวเหม็นคาวต่อไปอีกเลยนะคะ อ้อ แล้วยังไงก็อย่าลืมหาสาเหตุต้นตอที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเอาไว้ด้วย เพราะถ้าหากกลิ่นเหล่านี้ไม่ได้มาจากอาหาร แต่มาจากของใช้ภายในครัว ก็จะได้หาทางดับกลิ่นเฉพาะจุดกันต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Howtoremovethat, dengarden, thespruce, vkool, tescolotus, pirun.ku.ac.th และ foodnetworksolution
รู้ไหมว่าแอปเปิลช่วยดูดกลิ่นคาวจากการทำอาหารได้ โดยสไลด์แอปเปิลเป็นแผ่นบาง ๆ วางบนปลาให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก่อนนำปลาไปทำอาหาร สำหรับปลาที่มีกลิ่นแรง วิธีนี้อาจช่วยลดกลิ่นคาวให้น้อยลงได้ และไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติ เพราะวิธีนี้ไม่ได้ทำให้รสชาติและกลิ่นของเนื้อปลาเปลี่ยนไป
8. บุหงา
ถ้าแค่ดับกลิ่นคาวยังไม่พอ เพราะต้องการให้ห้องครัวหอมสดชื่นด้วย ก็ต้องหันมาทำบุหงา เครื่องหอมที่เป็นการผสมผสานระหว่างกลีบดอกไม้หรือเปลือกผลไม้หอม ๆ อย่างเช่น ดอกกุหลาบ ดอกจำปา เปลือกมะนาว เปลือกมะกรูด เปลือกส้ม เข้ากับเครื่องเทศ เช่น อบเชยหรือกานพลู แล้วล่ะ โดยวิธีการทำบุหงาก็ไม่ยาก แค่ต้มน้ำโดยใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นก็ใส่ส่วนผสมต่าง ๆ ลงไป ปล่อยทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง หรือสักระยะหนึ่ง เพียงแค่นี้กลิ่นหอม ๆ ก็จะฟุ้งไปทั่วห้องครัวแทนที่กลิ่นคาวแล้ว หรือถ้าจะให้สะดวกกว่านั้นก็ใช้วิธีจุดเทียนหอมแทนก็ได้ค่ะ
9. หน้าต่าง
วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดกลิ่นคาวในห้องครัวของเราได้ ก็คือเปิดหน้าต่าง ทั้งในขณะที่กำลังทำอาหาร หรือแม้แต่ตอนทำอาหารเสร็จแล้ว เพื่อให้ห้องครัวมีอากาศถ่ายเท หมุนเวียนกลิ่นเหม็น ๆ ออกไป แต่ควรเปิดประตูที่เป็นทางเข้า-ออกนอกตัวบ้านนะคะ อย่าเผลอเปิดประตูที่เชื่อมกับห้องต่าง ๆ ภายในบ้านเชียว ไม่อย่างนั้นกลิ่นคาวได้ตลบอบอวนอยู่ในบ้านแน่ และถ้าหากวันไหนฝนตก ใช้วิธีเปิดหน้าต่างดูท่าจะไม่เวิร์ก ลองหันมาเปิดพัดลมระบายอากาศแทน ก็ช่วยระบายกลิ่นคาวได้เหมือนกัน
เห็นไหมคะ ว่าแต่ละวิธีทำตามได้ไม่ยากเลย แถมอุปกรณ์ที่ใช้ทำก็ยังหาได้ง่าย ๆ ในบ้านของเราด้วย รู้อย่างนี้แล้วอย่ามัวปล่อยให้ห้องครัวเหม็นคาวต่อไปอีกเลยนะคะ อ้อ แล้วยังไงก็อย่าลืมหาสาเหตุต้นตอที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเอาไว้ด้วย เพราะถ้าหากกลิ่นเหล่านี้ไม่ได้มาจากอาหาร แต่มาจากของใช้ภายในครัว ก็จะได้หาทางดับกลิ่นเฉพาะจุดกันต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Howtoremovethat, dengarden, thespruce, vkool, tescolotus, pirun.ku.ac.th และ foodnetworksolution