x close

สิ่งที่ต้องคิด เมื่อเปลี่ยนจากเช่าไปซื้อคอนโดฯ

ซื้อคอนโด

          กู้ซื้อคอนโดฯ นอกจากค่าผ่อนรายเดือนแล้ว ยังมีค่าส่วนกลาง ค่าประกัน ค่าซ่อมบำรุง ฯลฯ ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งต้องกันเงินสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ด้วย
 
          หลาย ๆ คนที่ตอนนี้เช่าห้องหรือคอนโดฯ อยู่ คงมีความคิดว่า เพิ่มเงินจากค่าเช่าคอนโดฯ อีกสักหน่อยไปเป็นค่าผ่อนจะดีกว่าไหม จะได้มีคอนโดฯ เป็นทรัพย์สินของตัวเอง แต่ความคิดนี้สามารถทำกันได้ง่าย ๆ หรือไม่ หรือมีสิ่งใดที่ต้องคิดก่อนตัดสินใจบ้าง K-Expert ธนาคารกสิกรไทย มีคำแนะนำมาฝาก
 
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเมื่อกู้ซื้อคอนโดฯ
           
          หากต้องการเปลี่ยนจากเช่าคอนโดฯ มาเป็นกู้ซื้อคอนโดฯ ไม่ได้มีเพียงแค่ส่วนต่างของค่าผ่อนที่เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าเท่านั้น (โดยปกติแล้ว ค่าผ่อนมักสูงกว่าค่าเช่า) แต่ยังมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้
 
          1. ค่าใช้จ่ายรายงวด

          เป็นค่าใช้จ่ายที่มักจ่ายเป็นรายปี เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ค่าซ่อมบำรุง ยกตัวอย่างคอนโดฯ ห้องสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน หากไม่ได้อยู่ในตัวเมืองมากนัก ค่าเช่าอยู่ที่เดือนละประมาณ 7,500 บาท ขณะที่ราคาซื้อขายประมาณ 1.5 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อคอนโดฯ เช่น  

ซื้อคอนโด
          จากตัวอย่างจะเห็นว่า นอกจากค่าผ่อนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เฉลี่ยเดือนละเกือบๆ 2,000 บาท หรือประมาณ 18% ของเงินผ่อน รวมแล้วมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 12,867 บาท ซึ่งสูงกว่าค่าเช่าถึง 70% ยิ่งไปกว่านั้น หากเดิมอาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ค่าใช้จ่ายหนึ่งที่หลายคนมักลืมนึกถึง คือ ค่าน้ำค่าไฟ อีกประมาณเดือนละ 1,000 บาท รวม ๆ กันแล้ว แต่ละเดือนจะต้องจ่ายเงินเพิ่มจากค่าเช่าถึงเท่าตัวเลยก็ได้
          2. ค่าใช้จ่ายเงินก้อน

          เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนซื้อหรือโอนคอนโดฯ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กรมที่ดิน ธนาคาร โครงการคอนโดฯ รวมถึงค่าตกแต่งคอนโดฯ ก่อนเข้าอยู่ เช่น

ซื้อคอนโด

          ดังนั้น หากคิดจะเปลี่ยนจากเช่าเป็นซื้อคอนโดฯ แล้ว ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จำง่าย ๆ ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 20% ทั้งค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เพิ่มขึ้นเกือบ 20% ของเงินผ่อน และเงินก้อนที่ต้องเตรียมไว้อีกประมาณ 20% ของราคาคอนโดฯ

ข้อดีของการซื้อ vs เช่าคอนโดฯ

          การซื้อและการเช่าคอนโดฯ ก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

          1. ข้อดีของการซื้อคอนโดฯ

          - มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง

          แม้ว่าค่าผ่อนคอนโดฯ อาจสูงกว่าค่าเช่า แต่ถ้าดูในรายละเอียด จากตัวอย่างกู้ซื้อคอนโดฯ 1.5 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 11,100 บาท จะเป็นส่วนดอกเบี้ยประมาณ 6,500 บาท (คิดดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 5.25% ต่อปี) ส่วนที่เหลือเป็นเงินต้น ถ้าเทียบเฉพาะดอกเบี้ยกับค่าเช่าที่เป็นเงินจ่ายทิ้งแล้ว รายจ่ายดอกเบี้ยยังต่ำกว่าค่าเช่าคอนโดฯ ซึ่งการจ่ายเงินผ่อนคอนโดฯ ในแต่ละเดือนทำให้เรามีทรัพย์สินเป็นของตัวเองในอนาคต

          - โอกาสสร้างรายได้หรือผลตอบแทน

          หากไม่ได้อยู่คอนโดฯ ที่ซื้อไว้แล้ว สามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อซึ่งมีโอกาสได้รับกำไรจากการขาย โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยเดือนกรกฎาคม 2560 พบว่า ดัชนีราคาคอนโดฯ ย้อนหลัง 1 ปีเติบโตขึ้น 3.8% ดังนั้น หากซื้อคอนโดฯ ราคา 1.5 ล้านบาท เมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 ตอนนี้ราคาคอนโดฯ จะเพิ่มขึ้นประมาณ 57,000 บาท"

          - ลดหย่อนภาษีได้

          ดอกเบี้ยจากการกู้ซื้อบ้านสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 1 แสนบาท เช่น จ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 6,500 บาท หากฐานภาษีอยู่ที่ 10% จะได้รับเงินภาษีคืนปีละ 7,800 บาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 650 บาท ในช่วงปีแรก ๆ"

ซื้อคอนโด
          2. ข้อดีของการเช่าคอนโด

          - ยืดหยุ่นในการย้ายคอนโดฯ

          หากเช่าคอนโดฯ อยู่ แล้วต้องการย้ายคอนโดฯ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเปลี่ยนงาน อยากเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม ต้องการห้องที่ใหญ่ขึ้นหรือใหม่ขึ้น หรือย้ายคอนโดฯ เพื่อให้มีค่าเช่าถูกลง ก็สามารถทำได้ง่าย แต่หากซื้อคอนโดฯ เอาไว้ เมื่อต้องการย้ายคอนโดฯ อาจขายคอนโดฯ เดิมไม่ได้ทันที

          - ไม่ต้องแบกรับต้นทุนสูง

          ค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างมาพร้อมกับการซื้อคอนโดฯ เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าส่วนกลาง ค่าประกันอัคคีภัย ซึ่งหากเช่าคอนโดฯ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เจ้าของห้อง หรือผู้ให้เช่า มักเป็นผู้รับผิดชอบเอง

          - ทดลองไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตในคอนโดฯ

          หลายคนอยากมีคอนโดฯ ใกล้ที่ทำงานเพื่อให้เดินทางสะดวก แต่ที่ผ่านมาอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่โดยตลอด การเช่าคอนโดฯ อยู่ก่อนเป็นการทดลองว่า เรามีไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับคอนโดฯ หรือไม่ แตกต่างจากอยู่บ้านอย่างไร ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดฯ เป็นของตัวเอง

ใครเหมาะกับการซื้อหรือเช่าคอนโดฯ

          หากตอนนี้กำลังตัดสินใจว่า จะซื้อคอนโดฯ ดีหรือไม่นั้น มี 3 เรื่องที่แนะนำให้พิจารณา คือ
         
          1. "อายุงาน" ควรมีอายุงานอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป เพื่อแสดงถึงความมั่นคงในหน้าที่การงาน

          2. "รายได้" เพียงพอกับค่าผ่อนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยค่าผ่อนไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน

          3. "เงินเก็บ" เตรียมไว้จ่ายตอนรับโอนคอนโดฯ ประมาณ 20% ของราคาคอนโดฯ
 
          แนะนำว่า หากเป็นคนที่เพิ่งทำงานมีโอกาสเปลี่ยนย้ายงานบ่อย รายได้ไม่สูงนักหรือยังไม่แน่นอน รวมถึงยังไม่มีเงินก้อนสำหรับดาวน์คอนโดฯ หรือเตรียมไว้จ่ายตอนรับโอนคอนโดฯ จะเหมาะกับการเช่าคอนโดฯ
 
          แต่หากเป็นคนที่ทำงานมาสักพัก ไม่มีแผนเปลี่ยนงานในอนาคตอันใกล้ หรือตั้งใจไว้ว่าแม้โยกย้ายงานก็อยู่ในเส้นรถไฟฟ้า สามารถอยู่คอนโดฯ เดิมได้ มีรายได้สูงเพียงพอกับค่าผ่อนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็สามารถซื้อคอนโดฯ เพื่อเป็นทรัพย์สินของตัวเอง
 
          ก่อนจะซื้อคอนโดฯ ควรพิจารณาให้ดีว่า ถ้ากู้ผ่านแล้ว มีกำลังผ่อนไหวไปตลอดไหม และคิดถึงอนาคตด้วยว่ามีโอกาสสร้างครอบครัวและซื้อบ้านในอนาคตอันใกล้หรือไม่ เพราะการมีภาระผ่อนคอนโดฯ อยู่อาจเป็นอุปสรรคของการซื้อบ้านหลังใหม่ได้

 
          K-Expert Action

          • เลือกซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ให้มีภาระผ่อนไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อไม่เป็นภาระที่หนักเกินไป

          • เก็บเงินสำหรับเป็นเงินดาวน์อย่างน้อย 20% ของราคาบ้านหรือคอนโดฯ เพื่อขอวงเงินสินเชื่อน้อยลง ช่วยให้เสียดอกเบี้ยน้อยลง และหมดหนี้เร็วขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สิ่งที่ต้องคิด เมื่อเปลี่ยนจากเช่าไปซื้อคอนโดฯ อัปเดตล่าสุด 24 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13:35:32 6,266 อ่าน
TOP