รวมต้นไม้ยืนต้นปลูกง่ายสวยงาม มาดูเหล่าต้นไม้จัดสวนและต้นไม้ยืนต้นสวย ๆ ที่สามารถปลูกและดูแลได้แบบง่าย ๆ กันค่ะ
สำหรับคนที่มีขนาดสวนค่อนข้างกว้าง การปลูกต้นไม้ยืนต้นคงจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการจัดสวนและตกแต่งสวน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าต้นไม้ประเภทนี้จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แข็งแรง ทนทาน และให้ร่มเงาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยถ้าใครที่สนใจอยากปลูกต้นไม้ยืนต้น แต่ก็ต้องการต้นไม้ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความสวยงามและปลูกง่ายด้วยละก็ วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมเหล่าไม้ยืนต้นปลูกง่ายสวยงามให้ร่มเงากับบ้านมาฝากกันแล้ว ถ้าหากอยากรู้ว่าจะมีต้นอะไรบ้าง ก็ตามไปดูกันเลย
ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน (Indian Laburnum) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula Linn. เป็นต้นไม้ประจำชาติไทย และถือเป็นต้นไม้ยืนต้นมงคลที่เชื่อว่าถ้าปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้านจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความเจริญรุ่งเรือง มีเกียรติ และมีชื่อเสียง
โดยต้นไม้ชนิดนี้มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 5-15 เมตร ใบมีสีเขียวเป็นมัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนิยมนำมาใช้ในพิธีสะเดาะเคราะห์ ส่วนดอกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีสีเหลืองหรือสีเหลืองอมเขียวอ่อน ดูโดดเด่นเพราะออกรวมกันเป็นช่อ ห้อยยาวลงมาจากกิ่ง แต่สามารถหลุดร่วงได้ง่าย ซึ่งต้นราชพฤกษ์จะนิยมปลูกและขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยให้เลือกเมล็ดจากฝักแก่ ๆ แล้วนำไปปลูกลงดิน ซึ่งต้องบอกเลยว่าต้นราชพฤกษ์สามารถปลูกได้ดีในดินทุกชนิด ชอบน้ำน้อย แต่ต้องการแสงแดดจัด ๆ
ต้นกัลปพฤกษ์ (Horse Cassia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia grandis Linn. เป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีความสวยงามโดดเด่นอีกหนึ่งชนิด ที่คนโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นกัลปพฤกษ์ไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้านจะช่วยให้ชีวิตประสบผลสำเร็จ เพราะต้นกัลปพฤกษ์เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานพระพุทธเจ้า
มีความสูงประมาณ 5-15 เมตร ใบออกเป็นแผง มีลักษณะบางเรียบ ปลายแหลม ส่วนดอกออกเป็นช่อตามกิ่งก้าน มีสีชมพูแกมขาว มีเกสรตัวผู้สีเหลืองอยู่กลางดอก และมีกลิ่นค่อนข้างหอม รวมถึงยังมีผลเป็นฝักกลมๆ ยาว ๆ ซึ่งมีเมล็ดอยู่ด้านใน ปลูกด้วยดินร่วนปนทรายผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2:1 ส่วน ตั้งไว้ให้โดนแสงแดดจัด ๆ รดน้ำ 7-10 วัน/ครั้ง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 3-4 ครั้ง เท่านี้ก็มีไม้ยืนต้นให้ร่มเงาสวย ๆ ไว้ประดับสวนแล้ว แต่ทว่าอย่างไรก็ควรจะปลูกต้นกัลปพฤกษ์ให้ห่างจากบริเวณบ้านไว้สักหน่อย เพราะต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่แตกกิ่งก้านแผ่กว้าง
ต้นเหลืองปรีดียาธร (Silver Trumpet Tree) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia argentea Britt. เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กผลัดใบ ความสูงไม่เกิน 8 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นชั้น มีใบประกอบเป็นรูปนิ้วมือ สีเขียวอมขาว แข็ง และมีขนนุ่ม ส่วนดอกมีสีเหลืองสด ออกเป็นช่อ ดูสวยงามสะดุดตา โดยจะออกดอกมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ส่วนวิธีการปลูกและดูแลรักษานั้นถือว่าง่าย โตเร็วปานกลาง ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี และชอบแสงแดดจัด ๆ ทว่าดอกจะร่วงค่อนข้างบ่อยและเยอะ จึงต้องหมั่นเก็บกวาดให้สะอาดอยู่เสมอ
ต้นหางนกยูงฝรั่ง (Flamboyant, Flame tree) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Delonix regia (Bojer ex Hook.) Raf. เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางที่มีดอกสวยงามโดดเด่น สูงประมาณ 10-18 เมตร เรือนยอดแผ่กว้างและกลมคล้ายร่ม มีใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นเรียงสลับ ส่วนดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง มีทั้งสีแดงอมส้ม สีแดง สีส้ม และสีเหลือง โดยจะออกดอกมาก ๆ ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน
ส่วนวิธีการปลูกและดูแลรักษาสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด โดยให้ขลิบเปลือกเมล็ดออกก่อนเล็กน้อย เพราะเปลือกค่อนข้างหนา ถ้าไม่ขลิบอาจจะขึ้นช้ากว่าปกติได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วต้นหางนกยูงฝรั่งจะโตเร็ว เลี้ยงง่าย โตได้ดีในดินทุกประเภท แต่จะชอบดินที่ระบายน้ำได้ดีเป็นพิเศษ ต้องการน้ำปานกลาง ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังทนความแล้งได้ดี โดยควรเลือกปลูกให้ห่างจากตัวบ้านสักประมาณ 6-10 เมตร เนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้มีลำต้นและรากที่ค่อนข้างใหญ่ ถ้าปลูกใกล้เกินไปอาจสร้างความเสียหายกับบ้านได้ ควรปลูกให้ห่างจากบ้านอย่างน้อย 5 เมตร
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ (Pink Trumpet Tree) หรือ ตาเบบูญ่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia rosea (Bertol.) DC. เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางถึงใหญ่ สูงประมาณ 8-12 เมตร กิ่งก้านแผ่ออกเป็นพุ่ม มีใบแบบผสม แผ่ออกคล้ายใบปาล์ม มีจุดเด่นอยู่ที่ดอกสีชมพูสวย ที่จะร่วงหล่นอยู่บนพื้นประหนึ่งเทศกาลดอกซากุระที่ญี่ปุ่น
โดยต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นต้นไม้ให้ร่มเงา โตเร็ว แข็งแรง ทนทาน ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน อยู่ได้ทุกสภาพอากาศ น้ำท่วมน้ำขังก็สามารถทนไหว แถมยังดูแลไม่ยาก ปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด แต่จะชอบดินที่ระบายน้ำและระบายอากาศได้ดีเป็นพิเศษ ทว่าควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านประมาณ 1 เมตร เป็นอย่างน้อย เพราะกิ่งก้านจะเปราะบาง ร่วงหล่นได้ง่าย รวมถึงดอกยังกระจายกองอยู่ที่พื้นค่อนข้างมาก จึงต้องเว้นระยะการปลูกให้พอดี และหมั่นดูแลทำความสะอาดบ้านอยู่เป็นประจำ
6. แก้วเจ้าจอม
ต้นแก้วเจ้าจอม (Lignum Vitae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Guaiacum officinale เป็นไม้พุ่มทรงค่อนข้างกลม ออกดอกเดี่ยวเป็นกระจุกที่ปลายยอด มีสีฟ้าอมม่วงหรือฟ้าคราม โดยดอกจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และสวยงามสะดุดตามาก ๆ อีกทั้งดอกของแก้วเจ้าจอมยังมีผงที่สามารถนำไปสกัดเป็นชาบำรุงร่างกายได้ด้วย
ส่วนวิธีการปลูกและขยายพันธุ์แก้วเจ้าจอมจะนิยมทำด้วยการเพาะเมล็ด เนื่องจากมีการติดเมล็ดค่อนข้างมาก โดยแก้วเจ้าจอมเป็นต้นไม้ที่ปลูกได้ไม่ยาก สามารถโตได้ดีในดินทุกชนิด เลี้ยงง่าย แค่ปล่อยให้โดนแสงแดดเต็มวัน ต้องการน้ำปานกลาง แต่ก็ต้องระวังอย่าปลูกใกล้กับต้นไม้ชนิดอื่นมากเกินไป เพราะต้นแก้วเจ้าจอมจะโตช้า ทำให้ต้นไม้อื่นมาบดบัง จนอาจทำให้ต้นแก้วเจ้าจอมไม่เป็นพุ่มเป็นทรงได้
ต้นทองกวาว (Flame of the Forest) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Butea monosperma. เป็นต้นไม้ที่คนไทยโบราณเชื่อว่าถ้าปลูกไว้ทางทิศใต้จะทำให้มีเงินทองไหลเข้าบ้านเยอะ เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีชื่อมงคล แถมมีดอกสวยงามดั่งทอง โดยจะมีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ 12-18 เมตร กิ่งก้านแตกออกไม่ค่อยเป็นระเบียบ ใบมีลักษณะกลม ออกเป็นช่อ ส่วนดอกมีสีแดงส้มหรือสีแสด ขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งก็จะออกเป็นช่อคล้ายกับดอกทองหลาง โดยดอกจะมีลักษณะเรียงกันเป็นกลุ่ม ๆ และจะออกมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
ซึ่งสำหรับการปลูกและการดูแล ให้ผสมดินร่วนเข้ากับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตรา 2:1 ส่วน เว้นระยะห่างจากบ้านให้เหมาะสม เนื่องจากทองกวาวเป็นไม้ทรงพุ่มที่ใหญ่พอสมควร ส่วนน้ำก็ให้รดประมาณ 7-10 วัน/ครั้ง ตั้งไว้ให้โดนแสงแดดจัด ๆ หรือกลางแจ้ง พร้อมทั้งใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกใส่ที่ต้นปีละ 3-5 ครั้งด้วย
ต้นสารภี (Salapee) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ochrocarpus siamensis เป็นไม้ดอกยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 12-20 เมตร เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ลำต้นตั้งตรง ขรุขระเล็กน้อย ปลายกิ่งมักจะห้อยลงสู่ลำต้น มีใบเป็นรูปไข่ ส่วนดอกออกเป็นช่อเดี่ยวตามกิ่ง มีสีขาวและส่งกลิ่นหอม โดยตรงกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้เป็นวงเล็ก ๆ สีเหลือง ซึ่งคนโบราณมีความเชื่อกันว่าถ้าปลูกต้นสารภีไว้ที่บ้านจะทำให้มีอายุยืนนาน อีกทั้งถ้าปลูกเอาไว้ในทิศตะวันออกจะช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็งแรง ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อน และมีแต่ความรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุขได้
ส่วนการปลูก ให้ใช้ดินร่วนซุยที่มีความชื้นปานกลางผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:3 ส่วน โดยให้ปลูกต้นสารภีไว้ในที่ที่โดนแสงแดดอ่อน ๆ หรือปานกลาง ห่างจากตัวบ้านพอสมควร ส่วนน้ำให้รด 5-7 วัน/ครั้ง รวมถึงหมั่นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 3-4 ครั้งด้วย
ต้นโมก (Moke) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wrightia religiosa Benth เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 5-12 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบลำต้นแบบไม่เป็นระเบียบ ใบเป็นรูปไข่ รี ปลายมน โคนแหลม ขอบเรียบ เนื้อบาง ส่วนดอกออกเป็นช่อสั้น ๆ ตามปลายกิ่ง คว่ำหน้าลงดิน มีสีขาวสวย ส่งกลิ่นหอมระเรื่อ ทำให้รู้สึกสดชื่นตลอดวัน โดยเชื่อกันว่าถ้าปลูกต้นโมกไว้ที่บ้านจะช่วยให้เกิดความสุข ความบริสุทธิ์ และความปลอดภัยกับคนในบ้านได้
ซึ่งในการปลูกโมกให้ใช้ดินร่วนที่มีความชื้นปานกลางผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1:2 ส่วน โดยต้นโมกจะต้องการแสงแดดปานกลางจนถึงแสงแดดจัด ๆ จึงสามารถตั้งไว้กลางแจ้งได้ ส่วนน้ำก็ให้รดประมาณ 5-7 วัน/ครั้ง รวมถึงใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 4-6 ครั้งด้วย
ต้นลำดวน (Lamdman) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Melodorum fruticosum Lour. เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 5-10 เมตร ใบเป็นรูปหอก ยาว รี ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ส่วนดอกออกตามยอดและง่ามใบ สีเหลือง มีขนาดเล็ก และมีกลิ่นหอม โดยเชื่อกันว่าถ้าหากบ้านไหนปลูกต้นลำดวนไว้จะทำให้มีความสดชื่นมาก และถ้าจะให้ดีควรปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วย
สำหรับการปลูกและดูแลก็ง่าย ๆ แค่ใช้ดินร่วนในการปลูก เว้นระยะให้ห่างจากบ้านพอสมควร รดน้ำทุก ๆ 5-7 วัน ตั้งไว้ให้โดนแสงแดดปานกลาง พร้อมใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละประมาณ 3-5 ครั้ง เท่านี้ก็จะมีต้นลำดวนสวย ๆ หอม ๆ ไว้ประดับสวน ประดับบ้านแล้วค่ะ
บอกได้เลยว่าต้นไม้แต่ละต้นที่เรานำมาเสนอล้วนเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง ทนทาน ปลูกง่าย และมีดอกสวยโดดเด่นสะดุดตามาก ๆ ฉะนั้นถ้าคุณกำลังมองหาต้นไม้จัดสวนดี ๆ อยู่ อย่าพลาดปลูกต้นไม้ยืนต้นเหล่านี้เป็นอันขาด !
ขอบคุณข้อมูลจาก maipradabonline/กัลปพฤกษ์, royalparkrajapruek/เหลืองปรีดียาธร, botany942.weebly/ชมพูพันธุ์ทิพย์, maipradabonline/ทองกวาว, maipradabonline/สารภี และ maipradabonline/ลำดวน