มาดูการตกแต่งภายในที่มีทั้งสไตล์คอนเทมโพรารี คลาสสิก โมเดิร์น ลอฟท์ และวินเทจ ในบ้านหลังเดียวกัน แต่เป็นการผสมผสานที่ลงตัวและทำออกมาได้น่าอยู่เลยทีเดียว
Before
After
ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาไอเดียตกแต่งภายในบ้านคอนเทมโพรารี คลาสสิก โมเดิร์น ลอฟท์ หรือวินเทจอยู่ คุณ อู่หลงหอมละมุน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ได้รวบรวมสไตล์เหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกัน แล้วนำมาข้อมูลมาบอกต่อให้ได้ติดตามกันอย่างละเอียด บอกเลยว่างานนี้ใครที่ต้องการแนวทางหรือไอเดียตกแต่งภายในบ้านแบบผสมผสานดี ๆ ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
[CR] รีวิวบ้านในฝันแบบ Contemporary Classic Modern Loft Vintage Style โดย คุณ อู่หลงหอมละมุน
เริ่มจากการหาบ้านใหม่ เนื่องจากมีเจ้าตัวเล็กและไม่มีคนดูแล จึงต้องย้ายมาอยู่ใกล้ ๆ บ้านแม่ยาย และเดิมทีเคยซื้อบ้านทาวน์โฮมมาก่อน รู้สึกว่าน่าจะคับแคบมากขึ้น เพราะฉะนั้นก็จะมีประสบการณ์บ้างแล้ว ในครั้งนี้จึงเลือกบ้านเดี่ยว เพราะสมาชิกเพิ่มขึ้นและเตรียมใจจะอยู่ยาวแล้ว ซึ่งถ้าหากรีวิวข้อมูลผิดพลาดอย่างไร ต้องขออภัยด้วยนะครับ
เริ่มจากการหาบ้านใหม่ เนื่องจากมีเจ้าตัวเล็กและไม่มีคนดูแล จึงต้องย้ายมาอยู่ใกล้ ๆ บ้านแม่ยาย และเดิมทีเคยซื้อบ้านทาวน์โฮมมาก่อน รู้สึกว่าน่าจะคับแคบมากขึ้น เพราะฉะนั้นก็จะมีประสบการณ์บ้างแล้ว ในครั้งนี้จึงเลือกบ้านเดี่ยว เพราะสมาชิกเพิ่มขึ้นและเตรียมใจจะอยู่ยาวแล้ว ซึ่งถ้าหากรีวิวข้อมูลผิดพลาดอย่างไร ต้องขออภัยด้วยนะครับ
- การตกแต่งภายในเริ่มกันที่ไปได้ผู้รับเหมา Build-in มาจากเพื่อน เพื่อนแนะนำมาว่าผู้รับเหมาเคยทำงานรับเหมาในห้างมาค่อนข้างเยอะ แล้วราคาไม่แพง เลยลองให้ประเมินราคาดู โดยส่วนที่ต้องการจะทำหลัก ๆ ก็มี
1. Walk-in Closet
2. แผงทีวีชั้นล่าง
3. ครัว
4. โซฟา+ตู้ บริเวณโต๊ะกินข้าว
5. แผงทีวีห้องนอน (เพิ่มมาทีหลัง)
ส่วนอันนี้ทำเพิ่มจาก Build in
6. ทำผนังหลังทีวีและโซนโต๊ะกินข้าว (ส่วนนี้ตั้งใจหาซื้อผนังอิฐปลอมมาติดเอง)
7. ติดวอลเปเปอร์
8. ต่อเติมข้างบ้าน+หลังบ้าน ให้ 2 แสบ (ทำพื้น+ทำหลังคา)
พอราคาเป็นที่ยอมรับได้ก็รอประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากช่างติดงานอื่น
1. Walk-in Closet
2. แผงทีวีชั้นล่าง
3. ครัว
4. โซฟา+ตู้ บริเวณโต๊ะกินข้าว
5. แผงทีวีห้องนอน (เพิ่มมาทีหลัง)
ส่วนอันนี้ทำเพิ่มจาก Build in
6. ทำผนังหลังทีวีและโซนโต๊ะกินข้าว (ส่วนนี้ตั้งใจหาซื้อผนังอิฐปลอมมาติดเอง)
7. ติดวอลเปเปอร์
8. ต่อเติมข้างบ้าน+หลังบ้าน ให้ 2 แสบ (ทำพื้น+ทำหลังคา)
พอราคาเป็นที่ยอมรับได้ก็รอประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากช่างติดงานอื่น
- เรื่องแบบเราหาแบบคร่าว ๆ ไปนั่งดูในอินเทอร์เน็ตมา แล้วส่งให้ช่างดูเป็นส่วน ๆ ไป จากนั้นก็นัดช่างมาวัดพื้นที่ แล้วก็แกะแบบมาให้
- ต่อไปก็เริ่มเอาแค็ตตาล็อกมาให้เลือกสี เลือกลายลามิเนต ซึ่งผู้รับเหมาเองก็ใจเย็นมาก เพราะเราเลือกนาน แล้วก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา 555 ถือว่าได้ผู้รับเหมาดีอยู่ เพราะได้คำแนะนำค่อนข้างมาก ปรับแบบไปมา จนมาลงตัว ส่วนช่างเองก็ถ่ายรูปงานส่งให้ดูตลอด แถมแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ไม้สะเดาจะได้ทนปลวกได้มากขึ้น ก็จัดไป
- ผ่านมาประมาณ 1 สัปดาห์ ช่างทำชิ้นงานบางส่วนจากโรงงาน และเริ่มทยอยขนมามาทำหน้างาน
- สำหรับ Walk-in closet เนื่องจากแบบบ้านทำห้องสำหรับส่วนนี้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับเราว่าอยากใส่เป็นตู้เสื้อผ้าหรือทำ Walk-in closet แล้วในบ้านตัวอย่างก็เป็นประตูบานเลื่อนเต็มบานสีดำ ซึ่งก็แน่นอนว่าอยากได้แบบนั้น แต่ของบ้านตัวอย่างเป็นแบบกระจกใช้บานเลื่อนสีดำเต็มบาน ราคาค่อนข้างสูง ซึ่งให้ช่างประเมินราคาแล้วหนักเกินไป จึงมาจบที่หน้าบานแบบนี้ และก็ด้วยความที่ต้องการทำห้องโทนสีอ่อน จึงไม่สามารถใช้กระจกใสดำได้ เลยเปลี่ยนเป็นกระจกใสติดสติ๊กเกอร์ฝ้าแทน
- ในส่วนของกระจกโต๊ะเครื่องแป้งเอง คุณภรรยาก็อยากได้แบบบ้านตัวอย่างเช่นกัน เลยได้กระจกเงาเต็มบานแบบเลื่อนได้อีกเช่นกัน
- ชั้นภายใน Walk-in closet ตอนแรกผู้รับเหมาก็ออกแบบมาให้ แต่ปรับแบบหมด โดยคำนึงถึงการใส่เสื้อผ้าของคุณภรรยาให้ได้มากที่สุด ซึ่งเอาจริง ๆ เป็นของผมแค่ 1 ช่อง เป็นของเธอเสีย 4 ช่อง สงสัยจริง ๆ ใส่ครบทุกตัวไหม และก็ชั้นเก็บของด้านบน ตอนแรกตั้งใจใช้หน้าบานด้านบนปกติ แต่นึกขึ้นได้ว่าถ้าเปลี่ยนเป็นบานกระจกจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น รวมถึงที่เวลาคุณภรรยาใช้แสงไฟแต่งหน้าจะถือเป็นการสะท้อนแสงให้มากขึ้นเช่นกัน บวกกับลิ้นชักที่ขอเพิ่มเป็น 4 ชั้น และสีของลามิเนตที่เลือกเป็นแบบลายไม้อาร์ช (Ash) สีออกครีมด้วย
- ในส่วนของกระจกโต๊ะเครื่องแป้งเอง คุณภรรยาก็อยากได้แบบบ้านตัวอย่างเช่นกัน เลยได้กระจกเงาเต็มบานแบบเลื่อนได้อีกเช่นกัน
- ชั้นภายใน Walk-in closet ตอนแรกผู้รับเหมาก็ออกแบบมาให้ แต่ปรับแบบหมด โดยคำนึงถึงการใส่เสื้อผ้าของคุณภรรยาให้ได้มากที่สุด ซึ่งเอาจริง ๆ เป็นของผมแค่ 1 ช่อง เป็นของเธอเสีย 4 ช่อง สงสัยจริง ๆ ใส่ครบทุกตัวไหม และก็ชั้นเก็บของด้านบน ตอนแรกตั้งใจใช้หน้าบานด้านบนปกติ แต่นึกขึ้นได้ว่าถ้าเปลี่ยนเป็นบานกระจกจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น รวมถึงที่เวลาคุณภรรยาใช้แสงไฟแต่งหน้าจะถือเป็นการสะท้อนแสงให้มากขึ้นเช่นกัน บวกกับลิ้นชักที่ขอเพิ่มเป็น 4 ชั้น และสีของลามิเนตที่เลือกเป็นแบบลายไม้อาร์ช (Ash) สีออกครีมด้วย
- ผลที่ได้มาเป็นแบบนี้ครับ
- จากที่เห็นไฟจะเป็นวอร์ม ไวท์ (Warm White) เราก็เกรงว่าเวลาภรรยาแต่งหน้าเดี๋ยวสีจะเพี้ยน เลยให้ช่างเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอดสลับคูล ไวท์ (Cool White) และวอร์ม ไวท์
- เพิ่มเติมสำหรับลามิเนต ช่างให้เลือกว่าอยากได้แบบมีเท็กเจอร์ไหม ส่วนตัวเราเลือกแบบมีเท็กเจอร์เพราะดูสมจริงมากกว่า บวกกับผิวด้านไม่สะท้อนแสง เลยเลือกลามิเนตทั้งบ้านเป็นแบบนี้หมดเลย
- ซึ่งพอติดตั้งได้บางส่วน ก็เริ่มมีการอยากต่อเติมบางส่วน โดยขอให้ช่างเพิ่มกระจกเงาฝั่งข้างบานประตูเต็มบานเพื่อสะท้อนแผงทีวี จะได้ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก โดยได้แรงบันดาลใจนี้มาจากห้องพักที่พัทยา ไปเที่ยวมาแล้วคุณภรรยาบอกอยากได้แบบนี้ ก็เลยถูกเพิ่มเข้ามา
- เพิ่มเติมสำหรับลามิเนต ช่างให้เลือกว่าอยากได้แบบมีเท็กเจอร์ไหม ส่วนตัวเราเลือกแบบมีเท็กเจอร์เพราะดูสมจริงมากกว่า บวกกับผิวด้านไม่สะท้อนแสง เลยเลือกลามิเนตทั้งบ้านเป็นแบบนี้หมดเลย
- ซึ่งพอติดตั้งได้บางส่วน ก็เริ่มมีการอยากต่อเติมบางส่วน โดยขอให้ช่างเพิ่มกระจกเงาฝั่งข้างบานประตูเต็มบานเพื่อสะท้อนแผงทีวี จะได้ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก โดยได้แรงบันดาลใจนี้มาจากห้องพักที่พัทยา ไปเที่ยวมาแล้วคุณภรรยาบอกอยากได้แบบนี้ ก็เลยถูกเพิ่มเข้ามา
- มาถึงในส่วนของผนังทีวีห้องนอนใหญ่ ตอกแรกกะว่าจะไม่ทำเนื่องจากค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ แต่ช่างบอกว่าให้ทำครั้งเดียวไปเลย เพราะทำแต่ละครั้งบ้านเละแน่นอน เลยยอมจ่ายไป โดยแบบหาจากในอินเตอร์เน็ต วางแบบให้เป็นชั้นวางทีวีที่สามารถใช้เป็นโต๊ะได้ด้วย โดยกำหนดหน้ากว้างแค่ 40 เซนติเมตร เนื่องจากไม่อยากให้ห้องดูแคบ
แล้วก็ทำชั้นเก็บของด้านบนแค่ 2 ล็อค เพราะต้องการความโปร่ง ส่วนผนังทีวี รวมไปถึงชั้นเก็บของด้านล่าง ใช้ลามิเนตลายไม้แบบเดียวกับ Walk in closet โดยชั้นเก็บของเป็นแบบบานเลื่อนหน้าเดียว ซึ่งก็ได้ย้ายปลั๊กทั้งหมดมาไว้ด้านใน เพราะลูกยังเล็ก และต้องการเก็บสายไฟไว้ด้านใน
แล้วก็ทำชั้นเก็บของด้านบนแค่ 2 ล็อค เพราะต้องการความโปร่ง ส่วนผนังทีวี รวมไปถึงชั้นเก็บของด้านล่าง ใช้ลามิเนตลายไม้แบบเดียวกับ Walk in closet โดยชั้นเก็บของเป็นแบบบานเลื่อนหน้าเดียว ซึ่งก็ได้ย้ายปลั๊กทั้งหมดมาไว้ด้านใน เพราะลูกยังเล็ก และต้องการเก็บสายไฟไว้ด้านใน
- เอาสีเทาเดิมออก ทาสีขาวทับ เพราะจะติด wallpaper และติดโคมไฟเล็ก 2 จุด ที่ผนังทีวี เนื่องจากภรรยามักจะเปิดไฟหรี่ตอนนอน เพราะต้องตื่นมาดูลูก (ประเด็นหลักคือกลัวผี 555)
มาถึงส่วนครัวกันบ้าง พื้นที่ครัวค่อนข้างเล็ก แล้วก็จริง ๆ ไม่มีแบบครัวในใจเลย เลยให้ช่างออกแบบมาให้ ดูชั้นตู้จากบ้านตัวอย่าง แต่ขอเพิ่มพื้นที่ตู้ด้านบน ซึ่งก็ได้มาเป็นหน้าบานเต็มติดฝ้าและชั้นตู้ด้านล่าง ส่วนครัวทางโครงการทำเคาน์เตอร์ปูนมาให้แล้ว เลยทำอะไรมากไม่ค่อยได้ เพราะถูกกำหนดตำแหน่งแล้ว แบบลามิเนตเลือกใช้ลามิเนตดำเงา ด้านล่างใช้ลายไม้แบบเดียวกับส่วนของโต๊ะกินข้าว
- พอทำเสร็จช่างยังถามถึงไฟในครัวว่าเพียงพอหรือไม่ เพราะตัวชั้นจะบังแสงจากด้านบน แนะนำให้ติดไฟซ่อนด้านใต้ชั้นตอนทำครัวเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่น่าจะได้ใช้งานคุ้มกว่า
- ในส่วนของโซนกินข้าวอยากได้ตามแบบบ้านตัวอย่าง โดยทำเป็นโซฟาติดกำแพงบริเวณโต๊ะกินข้าว และชั้นตู้สำหรับตู้เย็น โดยช่างแนะนำให้ทำเป็นชิ้นเดียวกันจะทำให้ดูเป็นสัดส่วน โซฟามีลิ้นชักด้านใต้และมีชั้นวางของด้านข้าง 2 ด้าน สำหรับเก็บของ ส่วนชั้นตู้เย็นทำเป็นช่องเก็บของและเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน โดยลามิเนตใช้ลายเดียวกับตู้ด้านล่างครัว
- ซึ่งในตอนแรกชั้นวางของติดผนังทำเป็นชั้นปกติ แต่ช่างแนะนำให้ติดกระจกด้านใน พอติดแล้วห้องก็กว้างขึ้นมากทันที
- ส่วนของผนังฝั่งโซฟาครัวตั้งใจติดผนังอิฐเทียม ให้ดูแนวลอท์ฟตั้งใจซื้อมาติดเอง (ด้วยความอยากประหยัด) โดยให้ช่างมาช่วยติดด้วยบางส่วน เอาจริง ๆ ถ้าไม่มีเครื่องมือช่างโดยเฉพาะ เช่นพวกเลื่อยมือแบบเล็ก ปืนตะปู ก็ลำบากแน่นอน แต่ก็ผ่านมาได้แบบทุลักทุเล เจอปัญหาปืนตะปูเจาะผนังพรีแคสไม่เข้าด้วย ต้องยิงหลายทีและเปลี่ยนจุดยิง ยิงจนผนังที่ซื้อมาพรุนเลยทีเดียวเชียว แต่ไม่เป็นไรเก็บงานสีทีหลังได้
- โซนแผงทีวีห้องนั่งเล่นหาแบบจากอินเทอร์เน็ต มีชั้นตู้ด้านล่างสีขาว ชั้นตู้ด้านข้างลายหินอ่อน และแผงทีวีเป็นลายไม้ โดยทำไฟซ่อนอยู่บนแผงไม้ด้านบน
- ช่างบิวท์อินได้แนะนำให้ใช้กระจกดำตัด จะทำให้สวยมากขึ้น ก็โอเค ทำออกมาแล้วดูดีจริง ๆ
- ในส่วนของด้านหลังที่เป็นช่องตรงกับบันได ได้ทำเป็นชั้นวางกุญแจ วางของเล็ก ๆ
- ในส่วนของผนังอิฐเทียมตั้งใจเลือกใช้ผนังอิฐเทียมที่เป็นแผงใหญ่มาติดเป็นแผ่น ๆ เพราะถ้าใช้อิฐเทียมเป็นก้อนเดาว่าถ้าหากมีฝุ่นจะทำความสะอาดลำบาก เลยเลือกที่เป็นวัสดุแบบอื่นเพื่อที่จะได้เช็ดทำความสะอาดได้ และเท่าที่สอบถามมา ค่าติดค่อนข้างสูง ซึ่งก็ตั้งใจติดเองอยู่แล้ว รวมแล้วติดทั้ง 2 ด้านใช้เวลาประมาณ 3 วันเสร็จ โดยไปได้ไอเดียนี้มาจากร้านอาหาร เห็นแล้วอยากได้เลยเอามาไว้ในโซนนี้
- จากนั้นพอมีเวลาไปเดินงานเฟอร์นิเจอร์ ก็เลยไปได้ชุดโต๊ะทานข้าวหินอ่อน ชุดที่นอน และโซฟาห้องนั่งเล่นมา โดยสำหรับเตียงคุณภรรยาตั้งใจจะนอนกับลูก ยังไม่แยกห้องจนกว่าจะโต แต่เดิมเตียง 6 ฟุต ต้องผลัดกันนอนพื้น 1 คน เลยสั่งชุดเตียงแบบ 6+3.5 ฟุต
- ในส่วนของผนังตั้งใจจะติดวอปเปเปอร์ทั้งบ้าน โดยจะแบ่งเป็นส่วนห้องนอน 1 สี Muddy blush (ออก Nude หรือ ชมพู Pastel) ซึ่งสุดท้ายก็ให้ช่างเพิ่มที่บังผ้าม่านและไฟรางผ้าม่านเพิ่ม
- ห้องนอน 2 สี ม่วงอ่อน ส่วนห้องนอน 3 สีฟ้าอ่อน ไม่มีรูปเพราะน่าจะเต็มไปด้วยของที่ยังไม่ได้แกะออกจากกล่อง
- ชั้นล่างเป็นสีเทา
- รวมไปถึงโถงบันไดก็เป็นสีเทาด้วย แต่ที่เป็นสีเทาครึ่งเดียวเป็นเพราะเป็นวอลเปเปอร์หมด แต่ไม่เป็นไร ทำให้ดูสว่างขึ้นเช่นกัน
ซึ่งในส่วนของการตกแต่งภายนอก ต่อเติมข้างบ้านและหลังบ้านสำหรับเจ้า 2 แสบโดยลงเสา 4 เมตร 36 ต้น ซึ่งช่างก็ได้แนะนำให้เทปูน โดยใช้เหล็ก 2 หุนแทนเหล็กม้วนไวเมท ใช้ปูนเกรด 280 และทำหลังคาโดยไม่ลงเสา
หากมีเวลาจะมารีวิวเพิ่มเติม เพราะอยู่ระหว่างทำครับ โดยรวม ๆ ออกมาตามที่ต้องการมากกว่า 95% ถือว่าช่างดีทีเดียว ส่วนสไตล์ ผมเขียนทุกแบบ เพราะมันอยากได้นู่น อยากได้นี่ มาผสม ๆ กัน ไม่มีแบบตายตัว เลยออกมาเป็นแบบของตัวเองแบบนี้ ทำตามที่อยากได้เพราะบ้านอยู่กับเราไปตลอดครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ อู่หลงหอมละมุน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ซึ่งในส่วนของการตกแต่งภายนอก ต่อเติมข้างบ้านและหลังบ้านสำหรับเจ้า 2 แสบโดยลงเสา 4 เมตร 36 ต้น ซึ่งช่างก็ได้แนะนำให้เทปูน โดยใช้เหล็ก 2 หุนแทนเหล็กม้วนไวเมท ใช้ปูนเกรด 280 และทำหลังคาโดยไม่ลงเสา
หากมีเวลาจะมารีวิวเพิ่มเติม เพราะอยู่ระหว่างทำครับ โดยรวม ๆ ออกมาตามที่ต้องการมากกว่า 95% ถือว่าช่างดีทีเดียว ส่วนสไตล์ ผมเขียนทุกแบบ เพราะมันอยากได้นู่น อยากได้นี่ มาผสม ๆ กัน ไม่มีแบบตายตัว เลยออกมาเป็นแบบของตัวเองแบบนี้ ทำตามที่อยากได้เพราะบ้านอยู่กับเราไปตลอดครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ อู่หลงหอมละมุน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม