เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดจากมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง Dyson Digital Motor V10 เป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ที่ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนรูปแบบของเครื่องดูดฝุ่นให้แตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ ได้อย่างสิ้นเชิง และทำให้ Dyson บรรลุเป้าหมายในการผลิตเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายได้ดีที่สุด
James Dysonผู้ก่อตั้งแบรนด์ Dyson
แม้เครื่องดูดฝุ่นจะสามารถเก็บกวาดสิ่งสกปรกขนาดเล็กรวมถึงฝุ่นละอองได้ดีกว่าการใช้ไม้กวาดธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง อาทิ ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ต้องเสียบปลั๊กทำให้เคลื่อนย้ายได้ในวงแคบ ๆ ตามความยาวของสายไฟ ต้องคอยเปลี่ยนถุงกรองฝุ่นบ่อย ๆ เพื่อให้ตัวเครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ปัญหาเหล่านี้ใคร ๆ ก็เคยเจอ แต่ James Dyson (เจมส์ ไดสัน) ไม่ได้หยุดอยู่แค่การตั้งคำถาม เพราะเขาได้นำความคิดเหล่านั้นมาต่อยอดเพื่อพัฒนาเป็นนวัตกรรม จนกลายเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ไม่ต้องถอดเปลี่ยนถุงกรองฝุ่นบ่อย ๆ โดยมีมอเตอร์ขนาดเล็กเป็นหัวใจในการควบคุมการทำงานทั้งหมด




นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 จากหนึ่งคนหนึ่งแนวความคิด ตอนนี้ Dyson มีวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์กว่า 4,450 คน ทั่วโลก เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปเยี่ยมชมกันถึงฐานการผลิตในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ตั้งของศูนย์วิจัยและผลิต Dyson Digital Motor V10 ด้วยหุ่นยนต์กว่า 300 ตัว เพื่อทำให้มอเตอร์มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่มีพลังในการทำงานสูงขึ้น หลังจากการพัฒนาจากมอเตอร์ต้นแบบนับสิบรุ่น อาทิ

- DDM V1 มอเตอร์ประเภท AC ยังไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานเท่าที่ควร ด้วยอัตราการหมุน 41,400 รอบต่อนาที น้ำหนัก 800 กรัม

- DDM V2 ดิจิทัลมอเตอร์ V2 แบบไม่มีหัวแปรง อัตราการหมุน 104,000 รอบต่อนาที น้ำหนัก 150 กรัม

- DDM V8 ดิจิทัลมอเตอร์ V8 ควบคุมความเร็วแบบอัลกอริทึม อัตราการหมุน 115,000 รอบต่อนาที น้ำหนัก 220 กรัม

- DDM V10 ดิจิทัลมอเตอร์รุ่นล่าสุดที่มีขนาดเล็ก เบา แข็งแรง และทำงานด้วยอัตราการหมุน 125,000 รอบต่อนาที น้ำหนัก 125 กรัม มีพลังในการทำงานมากกว่า มอเตอร์ DDM V2 ถึง 3 เท่า น้ำหนักเบากว่าครึ่งหนึ่งของมอเตอร์ DDM V8 และพลังดูดเพิ่มขึ้น 20% มีเซ็นเซอร์วัดความดันอากาศ สามารถทำงานได้อย่างเสถียรแม้จะอยู่ในระดับความสูงที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังเป็นมอเตอร์ที่นำมาใช้ในการผลิตกับ Dyson Cyclone V10 เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย
เครื่องดูดฝุ่น Dyson Cyclone V10



Dyson Cyclone V10 นอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของมอเตอร์ที่มีขนาดเล็ก และทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาขึ้นแล้ว ยังสามารถถือไปใช้งานได้ทุกที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟ ไม่ว่าจะเป็นซอกมุมเล็ก ๆ ใต้เฟอร์นิเจอร์หรือหยากไย่บนเพดาน แถมยังดักสารก่อภูมิแพ้ที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน ไปเก็บไว้ในถังดักฝุ่นใสที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องคอยเทฝุ่นทิ้งบ่อย ๆ แถมยังถอดล้างได้ง่าย อีกทั้งยังปรับความแรงของพลังดูดได้ 3 ระดับ และทำงานต่อเนื่องได้มากสุด 60 นาที


พร้อมกันนี้ยังมีการพัฒนาหัวแปรงให้ทำความสะอาดได้มากขึ้น ด้วยขนแปรงไนลอนสำหรับเก็บกวาดขนสัตว์และสิ่งสกปรกบนพรม เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ป้องกันไฟฟ้าสถิตไว้ดักจับฝุ่นขนาดเล็ก และหัวแปรงแบบลูกกลิ้งพร้อมมอเตอร์สำหรับทำความสะอาดพื้นที่กว้าง ซึ่งดักจับได้ทั้งสิ่งสกปรกขนาดเล็กและละอองฝุ่นขนาดเล็ก มีให้เลือก 3 รุ่น คือ
- Dyson Cyclone V10 Fluffy ราคา 23,900 บาท
- Dyson Cyclone V10 Absolute Small Bin (0.54 ลิตร) ราคา 25,900 บาท
- Dyson Cyclone V10 Absolute Big Bin (0.76 ลิตร) ราคา 27,900 บาท


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Cyclone V10 มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 14 กันยายน 2561 ที่ร้าน Dyson ในห้างสรรพสินค้าและร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำทั่วไป