รวม 10 ประโยชน์ของแสงแดดที่ส่งผลดีกับบ้านและคนในบ้าน บอกเลยว่าฤดูร้อนก็มีดีเลอค่าไม่แพ้ฤดูไหน ๆ นะจ้ะ
ถึงแม้ตอนนี้อากาศจะร้อน แดดจะแรง แต่ขอร้องทุกคนอย่าเพิ่งหัวร้อนกันเลย เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีประโยชน์ของแสงแดดที่ส่งผลอันดีงามต่อบ้านของเรามาฝาก บอกเลยว่าถ้าหากได้รู้กันแล้ว หลายคนจะต้องรู้สึกดีกับแสงแดด แสงธรรมชาติมากขึ้นแน่ ๆ ก็แหม นอกจากจะช่วยให้บ้านสวยงามและกว้างขวางแล้ว ยังดีกับจิตใจของเราอีกต่างหาก เอาล่ะ ความดีงามของแสงแรง ๆ ในอากาศร้อน ๆ แบบนี้จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
1. ช่วยกำจัดเชื้อราในบ้าน
ตามปกติแล้วเชื้อโรค เชื้อรา และสิ่งสกปรกต่าง ๆ มักจะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มืด ความชื้นสูง และมีอากาศเย็น เช่น มุมอับ ห้องเก็บของ ห้องใต้ดิน ห้องใต้หลังคา ดังนั้นเพียงแค่เราเปิดหน้าต่างให้แสงแดดอุ่น ๆ เข้ามาในบ้านบาง ก็จะช่วยทำลายแหล่งที่อยู่และลดการแพร่กระจายของกองทัพเชื้อรา ทำให้คนในบ้านมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากตัวร้าย
2. ช่วยลดการใช้พลังงาน
ทุกวันนี้หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจและรักโลกกันมากขึ้น ซึ่งเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยโลกของเราได้ โดยการเปิดม่าน-หน้าต่างเพื่อทำให้บ้านสว่างโดยไม่ต้องพึ่งแสงจากหลอดไฟ นอกจากจะช่วยค่าไฟได้ส่วนหนึ่งแล้ว ที่สำคัญแสงธรรมชาติยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูปลอดโปร่ง สะอาด และทำให้ห้องต่าง ๆ ดูกว้างขวางขึ้นอีกต่างหาก
3. ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
บ้านที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ย่อมดีกว่าบ้านที่มืดทึบ อึมครึม เพราะแสงแดดนอกจากจะช่วยให้ความสว่างไสวแล้ว ยังช่วยลดอุบัติเหตุในบ้าน เนื่องจากแสงธรรมชาติไม่หลอกตา ทำให้มองเห็นสิ่งกีดขวางได้ชัดเจน แถมยังช่วยให้อ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องใช้สายตาจดจ้องได้ง่ายและดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย บอกเลยว่าแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้านช่วยถนอมสายตาและเซฟความปลอดภัยของเราได้เยอะเลยล่ะค่ะ
ตามปกติแล้วเชื้อโรค เชื้อรา และสิ่งสกปรกต่าง ๆ มักจะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มืด ความชื้นสูง และมีอากาศเย็น เช่น มุมอับ ห้องเก็บของ ห้องใต้ดิน ห้องใต้หลังคา ดังนั้นเพียงแค่เราเปิดหน้าต่างให้แสงแดดอุ่น ๆ เข้ามาในบ้านบาง ก็จะช่วยทำลายแหล่งที่อยู่และลดการแพร่กระจายของกองทัพเชื้อรา ทำให้คนในบ้านมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากตัวร้าย
2. ช่วยลดการใช้พลังงาน
ทุกวันนี้หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจและรักโลกกันมากขึ้น ซึ่งเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยโลกของเราได้ โดยการเปิดม่าน-หน้าต่างเพื่อทำให้บ้านสว่างโดยไม่ต้องพึ่งแสงจากหลอดไฟ นอกจากจะช่วยค่าไฟได้ส่วนหนึ่งแล้ว ที่สำคัญแสงธรรมชาติยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูปลอดโปร่ง สะอาด และทำให้ห้องต่าง ๆ ดูกว้างขวางขึ้นอีกต่างหาก
3. ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
บ้านที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ย่อมดีกว่าบ้านที่มืดทึบ อึมครึม เพราะแสงแดดนอกจากจะช่วยให้ความสว่างไสวแล้ว ยังช่วยลดอุบัติเหตุในบ้าน เนื่องจากแสงธรรมชาติไม่หลอกตา ทำให้มองเห็นสิ่งกีดขวางได้ชัดเจน แถมยังช่วยให้อ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องใช้สายตาจดจ้องได้ง่ายและดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย บอกเลยว่าแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้านช่วยถนอมสายตาและเซฟความปลอดภัยของเราได้เยอะเลยล่ะค่ะ
4. ทำให้ต้นไม้ในบ้านเจริญเติบโต
นอกจากการจัดสวนรอบบ้าน หลายคนยังนิยมปลูกต้นไม้ในบ้านกันด้วย ก็แหม การปลูกต้นไม้ในบ้านมีประโยชน์เพียบ ทั้งช่วยให้บ้านสวยงามสดใส ช่วยลดมลพิษในอากาศ แถมยังดูสดชื่น ใครเล่าจะไม่อยากปลูก อ๊ะ ๆ ๆ ทว่าช้าก่อนค่ะ ถึงแม้การปลูกต้นไม้-ดอกไม้ในบ้านจะไม่ต้องดูแลมาก ไม่ต้องโดนแดดจัด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลูกตรงไหนในบ้านก็ได้ แต่ควรย้ายกระถางไปวางในที่ที่โดนแสงแดดบ้าง ก็จะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี ออกดอกออกใบสวยงามให้เราชื่นชม
5. ส่งผลดีกับการตกแต่งภายใน
สำหรับคนที่อยากแต่งบ้านให้สวยงาม น่ามอง เหมือนมีสถาปนิกมาออกแบบให้ ขอบอกเลยว่าแสงแดดสามารถช่วยคุณได้ เพราะถ้าหากลองสังเกตกันดี ๆ ก็จะเห็นว่าสถาปนิกชื่อดังหลายคนมักจะคำนึงถึงเรื่องทิศทางของแสงด้วยเสมอ เพราะนอกจากจะทำให้พื้นที่เล็ก ๆ ดูกว้างขวางมากขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยให้ภายในแต่ละส่วนของบ้านดูสว่าง ไม่อึมครึม อึดอัด คับแคบ แถมยังทำให้
6. แสงแดดช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน
นอกจากเรื่องที่ทราบกันดีกว่าแสงช่วยเพิ่มความสว่าง ทำให้พื้นที่ดูใหญ่โต กว้างขวาง น่าอยู่ แถมยังโล่ง โปร่ง สบาย ยังส่งผลให้คนที่สนใจจะซื้อบ้านยอมควักกระเป๋าจ่ายตามราคาที่เราตั้งไว้ได้แบบไม่ยากเย็นยิ่งถ้าหากบ้านหลังไหนมีหน้าต่างกว้าง ๆ เปิดรับแสงแดดพร้อมมองเห็นวิวด้วยละก็ บอกเลยเพิ่มมูลค่าได้มากโขเลยทีเดียว ฮั่นแน่ รู้งี้แล้วใครมีแพลนจะขายบ้านต่อก็อย่าลืมคำนึงถึงจุดนี้ด้วยนะคะ
นอกจากการจัดสวนรอบบ้าน หลายคนยังนิยมปลูกต้นไม้ในบ้านกันด้วย ก็แหม การปลูกต้นไม้ในบ้านมีประโยชน์เพียบ ทั้งช่วยให้บ้านสวยงามสดใส ช่วยลดมลพิษในอากาศ แถมยังดูสดชื่น ใครเล่าจะไม่อยากปลูก อ๊ะ ๆ ๆ ทว่าช้าก่อนค่ะ ถึงแม้การปลูกต้นไม้-ดอกไม้ในบ้านจะไม่ต้องดูแลมาก ไม่ต้องโดนแดดจัด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลูกตรงไหนในบ้านก็ได้ แต่ควรย้ายกระถางไปวางในที่ที่โดนแสงแดดบ้าง ก็จะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี ออกดอกออกใบสวยงามให้เราชื่นชม
5. ส่งผลดีกับการตกแต่งภายใน
สำหรับคนที่อยากแต่งบ้านให้สวยงาม น่ามอง เหมือนมีสถาปนิกมาออกแบบให้ ขอบอกเลยว่าแสงแดดสามารถช่วยคุณได้ เพราะถ้าหากลองสังเกตกันดี ๆ ก็จะเห็นว่าสถาปนิกชื่อดังหลายคนมักจะคำนึงถึงเรื่องทิศทางของแสงด้วยเสมอ เพราะนอกจากจะทำให้พื้นที่เล็ก ๆ ดูกว้างขวางมากขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยให้ภายในแต่ละส่วนของบ้านดูสว่าง ไม่อึมครึม อึดอัด คับแคบ แถมยังทำให้
6. แสงแดดช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน
นอกจากเรื่องที่ทราบกันดีกว่าแสงช่วยเพิ่มความสว่าง ทำให้พื้นที่ดูใหญ่โต กว้างขวาง น่าอยู่ แถมยังโล่ง โปร่ง สบาย ยังส่งผลให้คนที่สนใจจะซื้อบ้านยอมควักกระเป๋าจ่ายตามราคาที่เราตั้งไว้ได้แบบไม่ยากเย็นยิ่งถ้าหากบ้านหลังไหนมีหน้าต่างกว้าง ๆ เปิดรับแสงแดดพร้อมมองเห็นวิวด้วยละก็ บอกเลยเพิ่มมูลค่าได้มากโขเลยทีเดียว ฮั่นแน่ รู้งี้แล้วใครมีแพลนจะขายบ้านต่อก็อย่าลืมคำนึงถึงจุดนี้ด้วยนะคะ
7. ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย
รู้ไหมคะว่าแสงแดดมีผลกระทบต่ออารมณ์ของเราด้วย ลองสังเกตง่าย ๆ บางคนอาจจะรู้สึกหงุดหงิดถ้าได้รับความร้อนจากแสงแดดมากเกินไป แต่ในทางกลับกันถ้าหากร่างกายขาดแสงแดด ก็อาจจะทำให้มีอาการซึมเศร้าได้ ฉะนั้นทางที่ดีเราควรใมีห้แสงแดดในบ้านบ้าง เพราะแสงแดดจะช่วยกระตุ้นให้สมองผลิตเซโรโทนินหรือสารที่ทำให้รู้สึกดี พร้อมกับทำให้เรารู้สึกกลับมามีชีวิตชีวา ยิ้มง่ายขึ้น ไม่เบื่อหน่ายอีกต่อไป
8. ช่วยเพิ่มระดับความสุข
ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผ่อนคลายจากความซึมเศร้าเท่านั้น แต่สารเซโรโทนินที่ร่างกายจะผลิตจากการถูกกระตุ้นของแสงแดด ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ บรรเทาความเจ็บปวด และทำให้เรารู้สึกมีความสุขได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นแสงแดดยังช่วยในการผลิตสารเอนดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขอีกต่างหาก บอกเลยว่าแค่อยู่ในบ้านที่มีแสงแดดส่องเข้ามาถึง ก็ช่วยให้เรามีแฮปปี้ขึ้นได้มากแล้ว
9. ช่วยให้นอนหลับสนิท
อาจจะฟังดูแปลก แต่การเปิดให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาในบ้านตอนกลางวัน สามารถช่วยให้เรานอนหลับฝันดีได้ในตอนกลางคืน เพราะแสงแดดมีผลต่อการผลิตเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้เรานอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อร่างกายของเราเริ่มสะสมฮอร์โมนเมลาโทนินไว้ตั้งแต่ตอนกลางวัน ก็จะส่งผลให้เราหลับได้ง่าย สนิท และเร็วขึ้นในตอนกลางขึ้น ฉะนั้นแล้วยิ่งเราเปิดรับแสงแดดในบ้านมากขึ้นเท่าไร ก็จะช่วยให้เรานอนหลับตอนกลางคืนได้มากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง
10. แสงแดดช่วยให้คนในบ้านทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลการวิจัยของ Sacramento Municipal Utility District รายงานว่า ผู้คนที่ทำงานในห้องที่มีแสงแดดสาดส่องจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 10-25% เมื่อเทียบกับคนที่ทำงานในห้องที่ไม่ได้รับแสงแดด ฉะนั้นถ้าหากใครอยากทำงานที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพละก็ อย่าลืมเปิดให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบ้านเลยนะคะ
แน่นอนว่าเราไม่ควรจะโดนแสงแดดจัด ๆ ตรง ๆ ฉะนั้นการอยู่ในบ้านที่เปิดรับแสงแดดอย่างเหมาะสมจึงเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์มาก ฮั่นแน่ ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คราวนี้ก็อย่าลืมเปิดกระจก เปิดหน้าต่าง เพื่อให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามาข้างในได้อย่างเต็มที่นะคะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก egresspro, cherwellwindows, elemental.green และ salisbury-glass
รู้ไหมคะว่าแสงแดดมีผลกระทบต่ออารมณ์ของเราด้วย ลองสังเกตง่าย ๆ บางคนอาจจะรู้สึกหงุดหงิดถ้าได้รับความร้อนจากแสงแดดมากเกินไป แต่ในทางกลับกันถ้าหากร่างกายขาดแสงแดด ก็อาจจะทำให้มีอาการซึมเศร้าได้ ฉะนั้นทางที่ดีเราควรใมีห้แสงแดดในบ้านบ้าง เพราะแสงแดดจะช่วยกระตุ้นให้สมองผลิตเซโรโทนินหรือสารที่ทำให้รู้สึกดี พร้อมกับทำให้เรารู้สึกกลับมามีชีวิตชีวา ยิ้มง่ายขึ้น ไม่เบื่อหน่ายอีกต่อไป
8. ช่วยเพิ่มระดับความสุข
ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผ่อนคลายจากความซึมเศร้าเท่านั้น แต่สารเซโรโทนินที่ร่างกายจะผลิตจากการถูกกระตุ้นของแสงแดด ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ บรรเทาความเจ็บปวด และทำให้เรารู้สึกมีความสุขได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นแสงแดดยังช่วยในการผลิตสารเอนดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขอีกต่างหาก บอกเลยว่าแค่อยู่ในบ้านที่มีแสงแดดส่องเข้ามาถึง ก็ช่วยให้เรามีแฮปปี้ขึ้นได้มากแล้ว
9. ช่วยให้นอนหลับสนิท
อาจจะฟังดูแปลก แต่การเปิดให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาในบ้านตอนกลางวัน สามารถช่วยให้เรานอนหลับฝันดีได้ในตอนกลางคืน เพราะแสงแดดมีผลต่อการผลิตเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้เรานอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อร่างกายของเราเริ่มสะสมฮอร์โมนเมลาโทนินไว้ตั้งแต่ตอนกลางวัน ก็จะส่งผลให้เราหลับได้ง่าย สนิท และเร็วขึ้นในตอนกลางขึ้น ฉะนั้นแล้วยิ่งเราเปิดรับแสงแดดในบ้านมากขึ้นเท่าไร ก็จะช่วยให้เรานอนหลับตอนกลางคืนได้มากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง
10. แสงแดดช่วยให้คนในบ้านทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลการวิจัยของ Sacramento Municipal Utility District รายงานว่า ผู้คนที่ทำงานในห้องที่มีแสงแดดสาดส่องจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 10-25% เมื่อเทียบกับคนที่ทำงานในห้องที่ไม่ได้รับแสงแดด ฉะนั้นถ้าหากใครอยากทำงานที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพละก็ อย่าลืมเปิดให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบ้านเลยนะคะ
แน่นอนว่าเราไม่ควรจะโดนแสงแดดจัด ๆ ตรง ๆ ฉะนั้นการอยู่ในบ้านที่เปิดรับแสงแดดอย่างเหมาะสมจึงเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์มาก ฮั่นแน่ ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คราวนี้ก็อย่าลืมเปิดกระจก เปิดหน้าต่าง เพื่อให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามาข้างในได้อย่างเต็มที่นะคะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก egresspro, cherwellwindows, elemental.green และ salisbury-glass