รีวิว ตกแต่งคอนโด ขนาด 36 ตารางเมตร สไตล์มินิมอล โทนสีขาว-ดำ ที่อัดแน่นไปด้วยเคล็ดลับและเทคนิคในการบิวต์อินและเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่น่าสนใจเพียบ !
[แชร์ประสบการณ์แต่งคอนโด] คอนโดมินิมัลของคนเรื่องเยอะ โดย คุณ สกาป้า
สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์การแต่งคอนโดของตัวเอง เพราะจริง ๆ แอบดูไอเดียและความรู้จากที่ต่าง ๆ ตลอดช่วงทำบ้าน ก็เลยคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ตัวเองจะมาแชร์บ้าง เผื่อจะเป็นโยชน์ น้อยหรือมากไม่รู้ (ฮา) กับเพื่อน ๆ ค่ะ
บ้านเจ้าของกระทู้เป็นคอนโดนะคะ พื้นที่ใช้สอยภายในประมาณ 36 ตารางเมตร ไม่รวมระเบียงที่กว้างจนเตะบอลและปิ้งบาร์บีคิวได้อีก 10 ตารางเมตร
เนื่องจากเจ้าของกระทู้เป็นคนเยอะ เรื่องเยอะ เลือกเยอะ เลยไม่ชอบห้องที่แต่งสำเร็จของโครงการ มันทึบ ตัน แล้วก็วัสดุดูไม่มีชีวิตชีวา ตอนที่ซื้อก็เลยบอกว่าขอซื้อห้องเปล่า แต่ให้เก็บบิวต์อินห้องน้ำกับห้องครัวไว้ เพราะเขาบอกว่า สองส่วนนี้ถึงไม่เอา ก็ลดไม่เยอะ ก็เลยไม่อยากเสียเงินเพิ่ม
- ห้องที่ได้ก่อนแต่ง
หลังจากซื้อเรียบร้อยแล้ว ความเห่อก็ตามมาค่ะ คิดแปลน หาเรฟเฟอเรนซ์ หาของแต่งบ้าน หาพื้น หากระเบื้อง เอ้อออ... งานละเอียดค่ะ บอกเลย แต่ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งที่จำเป็นสำหรับช่วงหาไอเดียสำหรับเรา มีตามนี้ค่ะ
1. โปรแกรม Sweet Home 3D
เป็นโปรแกรมช่วยวางแปลนบ้านที่ง่ายมาก ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ก็น่าจะทำกันได้ ทำให้เราแปลงภาพในหัวที่ฟุ้ง ๆ ออกมาให้คนอื่นเข้าใจ เห็นภาพเดียวกัน โทนสีห้องที่แมตช์ไว้มันจะรอดมั้ย เฟอร์นิเจอร์วางหมุนซ้ายหรือหมุนขวาดี ก็ลองทำดูในโปรแกรมนี้ค่ะ
2. Pinterest
อันนี้เป็นแพลตฟอร์มรวมไอเดียต่าง ๆ ซึ่งเราก็ไว้หาแนวบ้านที่ชอบ เช่น โมเดิร์น คลาสสิก ลอฟท์ ส่วนของเราชอบแนวอพาร์ตเมนต์ในปารีส คือชอบความคิ้ว ความบัวสีขาว-ดำตัดกันค่ะ แล้วก็ไว้ดูพวกไอเดียวิธีการดีไซน์บิวต์อิน เอาไว้ไปคุยกับช่าง
3. บ้านและสวน
เว็บไซต์หรือรายการในยูทูบที่พาไปชมบ้านก็ให้ไอเดียได้เยอะค่ะ การแมตช์สีและการตกแต่งของแต่ละบ้านที่เอามาออกก็สวย ๆ ทั้งนั้น
หลังจากซื้อเรียบร้อยแล้ว ความเห่อก็ตามมาค่ะ คิดแปลน หาเรฟเฟอเรนซ์ หาของแต่งบ้าน หาพื้น หากระเบื้อง เอ้อออ... งานละเอียดค่ะ บอกเลย แต่ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งที่จำเป็นสำหรับช่วงหาไอเดียสำหรับเรา มีตามนี้ค่ะ
1. โปรแกรม Sweet Home 3D
เป็นโปรแกรมช่วยวางแปลนบ้านที่ง่ายมาก ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ก็น่าจะทำกันได้ ทำให้เราแปลงภาพในหัวที่ฟุ้ง ๆ ออกมาให้คนอื่นเข้าใจ เห็นภาพเดียวกัน โทนสีห้องที่แมตช์ไว้มันจะรอดมั้ย เฟอร์นิเจอร์วางหมุนซ้ายหรือหมุนขวาดี ก็ลองทำดูในโปรแกรมนี้ค่ะ
2. Pinterest
อันนี้เป็นแพลตฟอร์มรวมไอเดียต่าง ๆ ซึ่งเราก็ไว้หาแนวบ้านที่ชอบ เช่น โมเดิร์น คลาสสิก ลอฟท์ ส่วนของเราชอบแนวอพาร์ตเมนต์ในปารีส คือชอบความคิ้ว ความบัวสีขาว-ดำตัดกันค่ะ แล้วก็ไว้ดูพวกไอเดียวิธีการดีไซน์บิวต์อิน เอาไว้ไปคุยกับช่าง
3. บ้านและสวน
เว็บไซต์หรือรายการในยูทูบที่พาไปชมบ้านก็ให้ไอเดียได้เยอะค่ะ การแมตช์สีและการตกแต่งของแต่ละบ้านที่เอามาออกก็สวย ๆ ทั้งนั้น
- ซ้าย : ภาพแปลนจากโครงการ ขวา : ภาพที่ลองวางเองจาก Sweet Home 3D
หลังจากได้ไอเดียทำมูดบอร์ดทั้งหมดแล้วว่าชอบแบบไหน ก็หาช่าง หาของที่ตรงกับที่อยากได้ รวม ๆ แล้วมีช่างหลัก ๆ ที่ช่วยประกอบบ้านนี้ทั้งหมด 4 คนค่ะ
1. ช่างทำบิวต์อิน
คนสำคัญที่สุดและไปวอแวเยอะสุดค่ะ จริง ๆ มีหาไว้หลายเจ้า มีทั้งคนแนะนำมาด้วย แต่เราไปเจอกระทู้แต่งคอนโดในพันทิปกระทู้หนึ่งที่ว่าสวยดี เลยหลังไมค์ไปขอคอนแทคมาค่ะ หลังจากนั้นเราก็ส่งตัวอย่างให้ดู ตีราคา แต่เจ้านี้ไม่ขึ้นภาพเปอร์ให้นะคะ แต่ดูงานเก่า ๆ เขาเราค่อนข้างชอบ และดูรับฟังดี ก็เลยตกลงค่ะ
2. ช่างปูพื้นไม้
ตอนแรกคนรอบตัวบอกว่าให้ใช้พื้นกระเบื้องลายไม้ เพราะรักษาง่ายสุด แต่ด้วยความรั้น และชอบความอุ่น ๆ ของพื้น เราเลือกเอนจิเนียร์วู้ด ก็ดั้นกูเกิลแล้วไปเจอร้านหนึ่งอยู่แถวรามคำแหง เจ้าของแนะนำดีค่ะ ก็เลยได้ไม้อเมริกันวอลนัทไว้ปูห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ชอบมาก แต่ แต่ แต่ มันเลอะง่ายเหลือเกิน เคยน้ำหยดจากตัวที่ทาบอดี้ออยล์ไว้ เป็นรอยดวง ๆ เลย ช้ำใจมาก เจ็บแล้วถึงรู้ ก็เลยกะว่าถ้ามันเลอะเยอะ ๆ จะทาสีดำเข้มไปเลย
3. ช่างปูกระเบื้อง
ปูกระเบื้องผนังครัวกับทำที่วางเครื่องซักผ้านอกระเบียง กระเบื้องกับยาแนวเราซื้อมาค่ะ ช่างปูอย่างเดียว ตอนนี้เสียดายตรงที่วางเครื่องซักผ้านิดหน่อย น่าจะทำฐานกับเคาน์เตอร์ด้านบนให้สูงกว่านี้หน่อย ฝนจะได้ไม่สาดและทำความสะอาดง่าย
4. ช่างม่าน/ช่างมุ้ง
ร้านม่านมีพี่ที่เป็นอินทีเรียแนะนำมาอีกที คิดว่าม่านเขาสวยดีนะคะ ใครอยากรู้หลังไมค์มาได้ ส่วนช่างมุ้งตอนแรกเจอร้านที่เป็นมุ้งจีบถอดเอามาล้างได้ แต่ราคาคุณพระมาก สู้ไม่ไหว ก็เลยกูเกิลเอา เจอร้านที่รีวิวดี ราคารับได้ ก็เอาร้านนั้นเลย ที่ใช้มาก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ
หลังจากได้ไอเดียทำมูดบอร์ดทั้งหมดแล้วว่าชอบแบบไหน ก็หาช่าง หาของที่ตรงกับที่อยากได้ รวม ๆ แล้วมีช่างหลัก ๆ ที่ช่วยประกอบบ้านนี้ทั้งหมด 4 คนค่ะ
1. ช่างทำบิวต์อิน
คนสำคัญที่สุดและไปวอแวเยอะสุดค่ะ จริง ๆ มีหาไว้หลายเจ้า มีทั้งคนแนะนำมาด้วย แต่เราไปเจอกระทู้แต่งคอนโดในพันทิปกระทู้หนึ่งที่ว่าสวยดี เลยหลังไมค์ไปขอคอนแทคมาค่ะ หลังจากนั้นเราก็ส่งตัวอย่างให้ดู ตีราคา แต่เจ้านี้ไม่ขึ้นภาพเปอร์ให้นะคะ แต่ดูงานเก่า ๆ เขาเราค่อนข้างชอบ และดูรับฟังดี ก็เลยตกลงค่ะ
2. ช่างปูพื้นไม้
ตอนแรกคนรอบตัวบอกว่าให้ใช้พื้นกระเบื้องลายไม้ เพราะรักษาง่ายสุด แต่ด้วยความรั้น และชอบความอุ่น ๆ ของพื้น เราเลือกเอนจิเนียร์วู้ด ก็ดั้นกูเกิลแล้วไปเจอร้านหนึ่งอยู่แถวรามคำแหง เจ้าของแนะนำดีค่ะ ก็เลยได้ไม้อเมริกันวอลนัทไว้ปูห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ชอบมาก แต่ แต่ แต่ มันเลอะง่ายเหลือเกิน เคยน้ำหยดจากตัวที่ทาบอดี้ออยล์ไว้ เป็นรอยดวง ๆ เลย ช้ำใจมาก เจ็บแล้วถึงรู้ ก็เลยกะว่าถ้ามันเลอะเยอะ ๆ จะทาสีดำเข้มไปเลย
3. ช่างปูกระเบื้อง
ปูกระเบื้องผนังครัวกับทำที่วางเครื่องซักผ้านอกระเบียง กระเบื้องกับยาแนวเราซื้อมาค่ะ ช่างปูอย่างเดียว ตอนนี้เสียดายตรงที่วางเครื่องซักผ้านิดหน่อย น่าจะทำฐานกับเคาน์เตอร์ด้านบนให้สูงกว่านี้หน่อย ฝนจะได้ไม่สาดและทำความสะอาดง่าย
4. ช่างม่าน/ช่างมุ้ง
ร้านม่านมีพี่ที่เป็นอินทีเรียแนะนำมาอีกที คิดว่าม่านเขาสวยดีนะคะ ใครอยากรู้หลังไมค์มาได้ ส่วนช่างมุ้งตอนแรกเจอร้านที่เป็นมุ้งจีบถอดเอามาล้างได้ แต่ราคาคุณพระมาก สู้ไม่ไหว ก็เลยกูเกิลเอา เจอร้านที่รีวิวดี ราคารับได้ ก็เอาร้านนั้นเลย ที่ใช้มาก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ
- ตัวอย่างบรีฟที่คุยกับช่างบิวต์อิน ยิ่งละเอียดยิ่งดีค่ะ
- ระหว่างการบิวต์อิน ช่างแต่ละส่วนก็ทำส่วนตัวเองไป
- ผ่านไป 3 เดือน ทุกอย่างก็เรียบร้อย
ต่อไปเป็นหลังจากอยู่ไป 1 ปีค่ะ
- ตรงฝั่งตู้ด้านซ้ายของคอนโซลทีวีเป็นตู้หลอกนะคะ เปิดด้านข้างได้ ไว้เก็บรองเท้า ส่วนโซฟาสั่งทำมาพร้อมหมอนอิงค่ะ ขนาดกว้าง 180 เซนติเมตร ราคา 26,000 บาท
- เตียงเหล็กซื้อที่ Chic Republic แบรนด์ Rina Hey (เป็นแบรนด์ที่ชิคน่าจะผลิตเอง) ซื้อตอนลดราคาเหลือ 8,000 บาทนิด ๆ ค่ะ
- ห้องน้ำใช้กระเบื้องทั้งหมด 2 แบบ คือ สีเทาด้านกับลายหินอ่อนค่ะ ลายหินอ่อนจะมีตรงส่วนที่เปิดประตูเข้ามาเจอคือ ด้านอ่างล่างหน้าทั้งหมดและส่วนเปียกค่ะ ที่เหลือจะเป็นสีเทาด้านค่ะ
สรุปบทเรียน ทำบ้านครั้งแรก
1. คุยกับช่างเรื่องการเก็บดีเฟกต์และเซอร์วิสหลังทำเสร็จให้เรียบร้อย เพราะบางทีตรวจหน้างานมันโอเค แต่พออยู่จริงแล้วมีปัญหาตามมา เขาก็ควรจะแก้ให้ อย่างเราประตูเก็บของบานหนึ่งมีมอดไม้ เขาก็เอาไปแก้มาให้ หรือที่ฝังแอร์ผิดไปกับบิวต์อินก็แก้ให้ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
2. ใครที่จะบิวต์อินตรงที่มีแอร์ติดตั้งแล้ว ให้เช็กกับช่างให้ดีนะคะว่าตัวแอร์ต้องไม่ฝังไปกับตัวบิวต์อิน ไม่งั้นจะล้างแอร์ไม่ได้
3. ให้ซื้อที่ชอบจริง ๆ อย่าซื้อมาใช้ไปก่อน เพราะสุดท้ายมันจะเป็นการเสียเงินซ้ำซ้อนอยู่ดี (ตอนนี้เราก็ยังเหลืออีก 5% ที่ยังแต่งไม่ครบนะคะ ขาดโต๊ะหน้าโซฟา กระถางต้นไม้ แต่ยังไม่เจอที่ชอบ ก็ทนอยู่แบบไม่มีต่อไป T-T)
4. ถ้ามีแพลนแต่งบ้าน ให้เดินหาของก่อน ชอบเจ้าไหน ให้ตามเฟซบุ๊กเขาไว้ เผื่อช่วงไหนเขาเซลเราจะได้ซื้อเก็บไว้ก่อน เซฟได้ก็เซฟ เพราะการแต่งบ้านมีแสนหมดแสนค่ะ
ต่อไปจะแนะนำที่ซื้อของ
1. ร้านกระเบื้อง
เราซื้อที่ร้าน Ceramique ที่รัชดา (ข้าง ๆ บุญถาวร) กับ WDC ที่ CDC เราว่ากระเบื้องแผ่นใหญ่เขาสวยดีและมีหลายแบบที่บุญถาวรไม่มี
2. ร้านเฟอร์นิเจอร์
นอกจากพวกงานแฟร์ต่าง ๆ แล้ว เราว่า Chic Republic เป็นอีกตัวเลือกที่น่าไปลองดู ของไม่แพงนะคะ อย่างฐานเตียงนอนควีนไซซ์ เราได้มา 8,000 บาทนิด ๆ
3. ร้านโคมไฟ
มีร้าน Y Factory ตรงเลียบด่วนรามอินทราที่ของสวย แล้วก็ร้านตรงปากซอย Big C เอกมัยค่ะ ของโอเค ราคาไม่แรง ไฟย้อยในห้องน้ำได้มาอันละประมาณ 300 บาท (ตัวโชว์)
สรุปบทเรียน ทำบ้านครั้งแรก
1. คุยกับช่างเรื่องการเก็บดีเฟกต์และเซอร์วิสหลังทำเสร็จให้เรียบร้อย เพราะบางทีตรวจหน้างานมันโอเค แต่พออยู่จริงแล้วมีปัญหาตามมา เขาก็ควรจะแก้ให้ อย่างเราประตูเก็บของบานหนึ่งมีมอดไม้ เขาก็เอาไปแก้มาให้ หรือที่ฝังแอร์ผิดไปกับบิวต์อินก็แก้ให้ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
2. ใครที่จะบิวต์อินตรงที่มีแอร์ติดตั้งแล้ว ให้เช็กกับช่างให้ดีนะคะว่าตัวแอร์ต้องไม่ฝังไปกับตัวบิวต์อิน ไม่งั้นจะล้างแอร์ไม่ได้
3. ให้ซื้อที่ชอบจริง ๆ อย่าซื้อมาใช้ไปก่อน เพราะสุดท้ายมันจะเป็นการเสียเงินซ้ำซ้อนอยู่ดี (ตอนนี้เราก็ยังเหลืออีก 5% ที่ยังแต่งไม่ครบนะคะ ขาดโต๊ะหน้าโซฟา กระถางต้นไม้ แต่ยังไม่เจอที่ชอบ ก็ทนอยู่แบบไม่มีต่อไป T-T)
4. ถ้ามีแพลนแต่งบ้าน ให้เดินหาของก่อน ชอบเจ้าไหน ให้ตามเฟซบุ๊กเขาไว้ เผื่อช่วงไหนเขาเซลเราจะได้ซื้อเก็บไว้ก่อน เซฟได้ก็เซฟ เพราะการแต่งบ้านมีแสนหมดแสนค่ะ
ต่อไปจะแนะนำที่ซื้อของ
1. ร้านกระเบื้อง
เราซื้อที่ร้าน Ceramique ที่รัชดา (ข้าง ๆ บุญถาวร) กับ WDC ที่ CDC เราว่ากระเบื้องแผ่นใหญ่เขาสวยดีและมีหลายแบบที่บุญถาวรไม่มี
2. ร้านเฟอร์นิเจอร์
นอกจากพวกงานแฟร์ต่าง ๆ แล้ว เราว่า Chic Republic เป็นอีกตัวเลือกที่น่าไปลองดู ของไม่แพงนะคะ อย่างฐานเตียงนอนควีนไซซ์ เราได้มา 8,000 บาทนิด ๆ
3. ร้านโคมไฟ
มีร้าน Y Factory ตรงเลียบด่วนรามอินทราที่ของสวย แล้วก็ร้านตรงปากซอย Big C เอกมัยค่ะ ของโอเค ราคาไม่แรง ไฟย้อยในห้องน้ำได้มาอันละประมาณ 300 บาท (ตัวโชว์)
- นี่เป็นไอเทมที่ซื้อแล้วชอบ ถ้าพังก็จะซื้อซ้ำ
1. แผ่นหินซับน้ำ
เป็นเทคโนโลยีที่ดีมากแม่ ! ไว้ซับเท้าหลังจากอาบน้ำเสร็จ แห้งไว ไม่สกปรก ไม่ต้องซักแบบพรม แล้วเดี๋ยวนี้มีหลายสี หลายลายให้เลือกค่ะ ตอนเราซื้อเหมือนเพิ่งทำตลาด แบบน้อย เลยได้สีชมพูที่ไม่เข้ากับอะไรสักอย่างในห้องน้ำมา
2. ที่กันแมลงหน้าประตู
แมลงสาบ จิ้งจก ไม่มีมากวนเลยตั้งแต่อยู่มา เราซื้อที่โฮมโปร เป็นสีครีม ๆ ดูไม่โดดออกไปจากห้อง
3. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
มันดีทั้งในแง่ของความสะดวก คือถือไปดูดห้องนู้นห้องนี้ มีหัวแปรงให้เปลี่ยนตามพื้นที่ที่ควรใช้ เราใช้ทั้งกับพื้น โซฟา ผ้าม่าน ที่นอน และตัวกั้นห้องนอน/ห้องนั่งเล่นที่ซี่เยอะเหลือเกิน แถมยังดีในแง่ของความสะอาด ทั้งฝุ่น เศษผม และไรฝุ่นบนที่นอนก็ดูดออกมาได้
สุดท้ายก็มาถึงค่าใช้จ่าย เบ็ดเสร็จรวม ๆ ก็กระเป๋าตังค์โล่งไปเยอะเลยค่าาา
- บิวต์อิน 290,000 บาท
- กระเบื้องทั้งหมด 30,000 บาท
- พื้นไม้เอนจิเนียร์ 60,000 บาท
- เฟอร์นิเจอร์/เครื่องใช้ไฟฟ้า 150,000 บาท
ทั้งหมดทั้งสิ้น 530,000 บาท >> อ้าว แพง (ฮา)
จบแล้วนะคะสำหรับกระทู้นี้ หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ ส่วนใครอยากถามเรื่องเฟอร์นิเจอร์ เรื่องของแต่งบ้านว่าซื้อที่ไหน ถามได้นะคะ ยินดีตอบค่า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สกาป้า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
1. แผ่นหินซับน้ำ
เป็นเทคโนโลยีที่ดีมากแม่ ! ไว้ซับเท้าหลังจากอาบน้ำเสร็จ แห้งไว ไม่สกปรก ไม่ต้องซักแบบพรม แล้วเดี๋ยวนี้มีหลายสี หลายลายให้เลือกค่ะ ตอนเราซื้อเหมือนเพิ่งทำตลาด แบบน้อย เลยได้สีชมพูที่ไม่เข้ากับอะไรสักอย่างในห้องน้ำมา
2. ที่กันแมลงหน้าประตู
แมลงสาบ จิ้งจก ไม่มีมากวนเลยตั้งแต่อยู่มา เราซื้อที่โฮมโปร เป็นสีครีม ๆ ดูไม่โดดออกไปจากห้อง
3. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
มันดีทั้งในแง่ของความสะดวก คือถือไปดูดห้องนู้นห้องนี้ มีหัวแปรงให้เปลี่ยนตามพื้นที่ที่ควรใช้ เราใช้ทั้งกับพื้น โซฟา ผ้าม่าน ที่นอน และตัวกั้นห้องนอน/ห้องนั่งเล่นที่ซี่เยอะเหลือเกิน แถมยังดีในแง่ของความสะอาด ทั้งฝุ่น เศษผม และไรฝุ่นบนที่นอนก็ดูดออกมาได้
สุดท้ายก็มาถึงค่าใช้จ่าย เบ็ดเสร็จรวม ๆ ก็กระเป๋าตังค์โล่งไปเยอะเลยค่าาา
- บิวต์อิน 290,000 บาท
- กระเบื้องทั้งหมด 30,000 บาท
- พื้นไม้เอนจิเนียร์ 60,000 บาท
- เฟอร์นิเจอร์/เครื่องใช้ไฟฟ้า 150,000 บาท
ทั้งหมดทั้งสิ้น 530,000 บาท >> อ้าว แพง (ฮา)
จบแล้วนะคะสำหรับกระทู้นี้ หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ ส่วนใครอยากถามเรื่องเฟอร์นิเจอร์ เรื่องของแต่งบ้านว่าซื้อที่ไหน ถามได้นะคะ ยินดีตอบค่า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สกาป้า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม