ประสบการณ์สร้างบ้านสองชั้น จากแบบบ้านฟรี ธอส. บ้านประหยัดพลังงาน 3 ห้องนอน รวมห้องนอนผู้สูงอายุ 3 ห้องน้ำ งบ 1 ล้านกว่าบาท ระยะเวลา 7 เดือน
เด็กจบใหม่หลายคนอาจมีความฝันเดียวกัน คือ ทำบ้านให้พ่อแม่อยู่สบาย เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากทำบ้านให้พ่อแม่อยู่ เพราะบ้านเก่าอายุมากกว่า 30 ปี เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ที่ปลวกได้มาลงหลักปักฐาน ทำสงครามกับพื้นไม้ที่บ้าน จนเดินแล้วขาสั่น ที่สำคัญบ้านต่ำกว่าถนนและบ้านรอบข้างมาก
ตั้งแต่จำความได้จนโต "ฝนมาทีไร ใจฉันรู้เลยว่า...วันนี้วิดน้ำแน่นอน" ใช่ค่ะ ! พ่อแม่เราไม่เคยสบาย ต้องวิดน้ำ แม้แต่วันที่ฝนแค่ตกกะปริบกะปรอย เพราะฉะนั้น... วันนี้เรียนจบแล้ว ทำงานแล้วสักพัก ต้องลุยแล้วล่ะเรา เอาล่ะ...ต้นทุนเราไม่ได้มีมาก แต่พ่ออายุ 70 ปี ต้องได้อยู่สบายในบั้นปลายชีวิต เราใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งในการรื้อและถมดิน (ตรงนี้พี่สาวช่วยครึ่งหนึ่ง และในยามที่ขาดเหลือจริง ๆ พี่สาวจะคอยช่วยน้องให้พ้นจากการจมน้ำเสมอ) + เงินกู้ธนาคาร เพื่อสร้างบ้านหลังแรกเด้อ
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่า "ถ้าคิดจะสร้างบ้าน เริ่มต้นจาก 0 เลยทำยังไง" เราเริ่มต้นหาแบบเอง จากนั้นไปขออนุญาตก่อสร้างเอง และไปขอยื่นกู้ธนาคารเอง (เพิ่งรู้ว่าผู้รับเหมาเจ้าอื่นเขาทำให้ด้วย) อ๋อ…จะบอกว่าตอนสร้างบ้านนี่ เราทำงานกรุงเทพฯ นะคะ สร้างบ้านอยู่ต่างจังหวัด อีกอย่างพ่อแก่แล้ว คุมงานไม่ค่อยเป็น จึงต้องหาคนมาช่วยคุมให้ (เดี๋ยวรีวิวอยู่ส่วนที่ 3)
เราแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วน จะได้อ่านง่าย ๆ
ส่วนแรก : บ้านหลังน้อยของเรา
ส่วนสอง : การหาแบบบ้าน การขออนุญาตสร้าง การยื่นกู้
ส่วนสาม : ของมันดี...ต้องมีบอกต่อ
จะพยายามรวบรวมทุกประสบการณ์มาเล่าให้ฟังนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย
ส่วนแรก : บ้านหลังน้อยของเรา
(เริ่มสร้าง 20 ตุลาคม 2560 แล้วเสร็จในสัญญา 5 มีนาคม 2561 แล้วเสร็จจริง พฤษภาคม 2561) ใช้งบ 1.7X ล้านค่ะ (ไม่รวมที่ดิน เป็นที่ดินมรดกคุณยายประมวลทิ้งไว้ให้ ขนาดกว้าง 11 เมตร ลึก 20 เมตร) ตอนแรกตั้งไว้ที่ 1.49 ล้าน แต่มีเหตุให้ บ้าน - - > บาน เลยเพิ่มขึ้นมาเยอะเลยค่ะ ส่วนตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องทำงาน ห้องครัว และระเบียงข้างบ้านค่ะ
มาเริ่มกันโลด ขอแนะนำให้รู้จักชื่อบ้านก่อน ตั้งมาจากชื่อของแม่ที่ตอนนี้ล่วงหน้าไปรอกันอยู่บนฟ้า "คุณยายประมวล" นั่นเอง เราคิดเอาเองว่า ถ้ายายมวลมองลงมาจากฟ้าแล้วเห็นสิ่งที่เราทำต้องมีความสุขแน่นอน บ้านนี้จึงชื่อ "บ้านประมวลสุข" และอีกนัยหนึ่งความหมายของบ้านนี้คือ "แหล่งรวมความสุขของครอบครัว"
กลับมาก่อน เรามีแนะนำอีกนิดหนึ่ง ใครที่วางแผนจะทำรั้วบ้านอยู่แล้ว อย่าให้ช่างเทปูนที่บริเวณหน้าบ้านจนเต็มเนื้อที่ เพราะต้องเสียค่ารื้อวางรางเหล็กประตูอีกหลายตังค์
4. ผ้าม่าน
ตอนแรกจะให้พ่อทำให้ แต่พ่อคิดไปคิดมาว่าไม่ไหว เลยได้รู้จักกับร้านหนึ่ง นี่ก็ทำให้ได้รู้จักคำว่า มืออาชีพอีกแล้วครับท่าน งานดีมาก ไวมาก เนี้ยบมาก โอนมัดจำปุ๊บไม่เกิน 7 วัน มาติดตั้งเลย ที่สำคัญ...ไม่แพงด้วยนะ ต่อรองได้ (เจ้กับเฮีย น่ารักมาก) บ้านเรากระจกเยอะมาก ความสูงกระจกประมาณ 2.5 เมตร ยังได้ราคาที่โดนใจมากเลย
5. ร้านต้นไม้ (ทางไกล)
ไทรเกาหลี สูง 1.5 เมตร จากคลอง 15 นครนายก เมืองหน้าด่านโบราณ ราคาตกต้นละ 50 บาท เจ้าของสวนใจดีมาส่งเอง
6. ร้านต้นไม้ (หน้าหมู่บ้าน)
อันนี้สด ๆ ร้อน ๆ ไปได้มาเมื่อช่วงสงกรานต์ ต้นทองกวาวและต้นอินทนิล แม่ค้าใจดีมาก ลดแล้วลดอีก ลดจนได้งบที่ลูกค้ามี ราคาพร้อมปลูกไปอีก....รอเจ้าเติบโตนะ
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ "บ้านประมวลสุข" หลังน้อยจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากพ่อแม่ พี่สาว ญาติ แฟน เพื่อนร่วมงาน และกัลยาณมิตรที่ให้การสนับสนุนทั้งแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ มาตลอด
เชื่อมั่นค่ะว่า ความพยายาม ความตั้งใจจริง ที่เรามีจะนำพาให้เราเดินถึงฝั่งฝันของเราได้แน่นอน เมื่อบ้านเสร็จแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้า ทำงานหาเงินต่อไปเพื่อส่งบ้านต่อ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรตัดสินใจดีดีนะคะ ทุกการตัดสินใจ...คือเงินทอง ของหายากค่ะ
หวังว่าทุกประสบการณ์จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านนะคะ ยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้แบ่งปัน หลังจากเป็นผู้รับในพันทิป และเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมาย
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1444338
ความฝันของลูก ๆ ส่วนใหญ่พอเริ่มทำงานเก็บหอมรอมริบได้เงินสักก้อนก็อยากปลูกบ้านให้พ่อแม่อยู่สบาย แต่ก็เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว แต่ คุณ สมาชิกหมายเลข 1444338 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ไม่ย่อท้อพยายามหาแบบบ้านฟรีจากที่ต่าง ๆ จนในที่สุดก็ได้แบบบ้านฟรี ธอส. และเดินเรื่องขออนุญาตสร้าง การยื่นกู้ด้วยตัวเอง รวมทั้งเลือกผู้รับเหมาและผู้คุมงานด้วยตัวเอง จนในที่สุดก็ได้บ้านประมวลสุข เป็นเสมือนแหล่งรวมความสุขของครอบครัว ใครอยากมีบ้านสักหลัง ลองมาดูรายละเอียดกันค่ะ
เมื่อเด็กจบใหม่ ฝันไกล อยากสร้างบ้านให้พ่อ
เด็กจบใหม่หลายคนอาจมีความฝันเดียวกัน คือ ทำบ้านให้พ่อแม่อยู่สบาย เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากทำบ้านให้พ่อแม่อยู่ เพราะบ้านเก่าอายุมากกว่า 30 ปี เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ที่ปลวกได้มาลงหลักปักฐาน ทำสงครามกับพื้นไม้ที่บ้าน จนเดินแล้วขาสั่น ที่สำคัญบ้านต่ำกว่าถนนและบ้านรอบข้างมาก
ตั้งแต่จำความได้จนโต "ฝนมาทีไร ใจฉันรู้เลยว่า...วันนี้วิดน้ำแน่นอน" ใช่ค่ะ ! พ่อแม่เราไม่เคยสบาย ต้องวิดน้ำ แม้แต่วันที่ฝนแค่ตกกะปริบกะปรอย เพราะฉะนั้น... วันนี้เรียนจบแล้ว ทำงานแล้วสักพัก ต้องลุยแล้วล่ะเรา เอาล่ะ...ต้นทุนเราไม่ได้มีมาก แต่พ่ออายุ 70 ปี ต้องได้อยู่สบายในบั้นปลายชีวิต เราใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งในการรื้อและถมดิน (ตรงนี้พี่สาวช่วยครึ่งหนึ่ง และในยามที่ขาดเหลือจริง ๆ พี่สาวจะคอยช่วยน้องให้พ้นจากการจมน้ำเสมอ) + เงินกู้ธนาคาร เพื่อสร้างบ้านหลังแรกเด้อ
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่า "ถ้าคิดจะสร้างบ้าน เริ่มต้นจาก 0 เลยทำยังไง" เราเริ่มต้นหาแบบเอง จากนั้นไปขออนุญาตก่อสร้างเอง และไปขอยื่นกู้ธนาคารเอง (เพิ่งรู้ว่าผู้รับเหมาเจ้าอื่นเขาทำให้ด้วย) อ๋อ…จะบอกว่าตอนสร้างบ้านนี่ เราทำงานกรุงเทพฯ นะคะ สร้างบ้านอยู่ต่างจังหวัด อีกอย่างพ่อแก่แล้ว คุมงานไม่ค่อยเป็น จึงต้องหาคนมาช่วยคุมให้ (เดี๋ยวรีวิวอยู่ส่วนที่ 3)
เราแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วน จะได้อ่านง่าย ๆ
ส่วนแรก : บ้านหลังน้อยของเรา
ส่วนสอง : การหาแบบบ้าน การขออนุญาตสร้าง การยื่นกู้
ส่วนสาม : ของมันดี...ต้องมีบอกต่อ
จะพยายามรวบรวมทุกประสบการณ์มาเล่าให้ฟังนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย
ส่วนแรก : บ้านหลังน้อยของเรา
(เริ่มสร้าง 20 ตุลาคม 2560 แล้วเสร็จในสัญญา 5 มีนาคม 2561 แล้วเสร็จจริง พฤษภาคม 2561) ใช้งบ 1.7X ล้านค่ะ (ไม่รวมที่ดิน เป็นที่ดินมรดกคุณยายประมวลทิ้งไว้ให้ ขนาดกว้าง 11 เมตร ลึก 20 เมตร) ตอนแรกตั้งไว้ที่ 1.49 ล้าน แต่มีเหตุให้ บ้าน - - > บาน เลยเพิ่มขึ้นมาเยอะเลยค่ะ ส่วนตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องทำงาน ห้องครัว และระเบียงข้างบ้านค่ะ
มาเริ่มกันโลด ขอแนะนำให้รู้จักชื่อบ้านก่อน ตั้งมาจากชื่อของแม่ที่ตอนนี้ล่วงหน้าไปรอกันอยู่บนฟ้า "คุณยายประมวล" นั่นเอง เราคิดเอาเองว่า ถ้ายายมวลมองลงมาจากฟ้าแล้วเห็นสิ่งที่เราทำต้องมีความสุขแน่นอน บ้านนี้จึงชื่อ "บ้านประมวลสุข" และอีกนัยหนึ่งความหมายของบ้านนี้คือ "แหล่งรวมความสุขของครอบครัว"
- เมื่อเดินเข้าบ้านจะพบผนังอิฐเปลือยสีขาวนี้ เป็นมุมโปรดของทุกคน และยังมีความพิเศษบางอย่างด้วย
- ความพิเศษที่ว่านั้นคือ ผนังอิฐเปลือยเป็น Double Space มีโคมไฟยาวห้อยลงมาจากเพดานชั้น 2 ของตัวบ้าน "โล่ง โปร่ง สบาย" นั่งมองแล้วสดชื่น
- โคมไฟยาวห้อยลงมาจริงไม่ติงนังเด้อ (โอ้วเจ้า Double Space พี่ม้องมองเธอลงมาจากชั้นบน)
- ลองมอง Double Space ไปที่มุมข้างบ้าน เห็นไทรเกาหลีต้นเล็ก ๆ แล้วใช่ไหม ส่วนที่ 3 จะบอกว่าซื้อจากไหนนะคะ (ประทับใจร้านเด้อ)
- โอ้วเจ้า Double Space โอ้วเจ้าโต๊ะไม้ที่พ่อแม่รัก พี่ม้องมองเธอลงมาจากชั้นบน
ขอแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของบ้านตัวจริง เสียงจริง "หนุ่มโสด สายเปย์ แห่งลุ่มน้ำชี"
เรา : พ้อ..พ่อ เป็นนายแบบให้แหน่ ขอถ่ายรูปเจ้าของบ้านโตจริงแหน พ่อย่างมาเปิดประตูเข้ามาในบ้านโลด
พ่อ : ห๊า เอาแบบได๋เก๊าะ ต้องเก๊กท่านำบ่
เรา : เต็มที่เลยคุณเอกพจน์ ขอแบบหล่อ ๆ (ได้ภาพดังที่เห็น ค่อนข้างเป็นธรรมชาติมาก)
เรา : พ้อ..พ่อ เป็นนายแบบให้แหน่ ขอถ่ายรูปเจ้าของบ้านโตจริงแหน พ่อย่างมาเปิดประตูเข้ามาในบ้านโลด
พ่อ : ห๊า เอาแบบได๋เก๊าะ ต้องเก๊กท่านำบ่
เรา : เต็มที่เลยคุณเอกพจน์ ขอแบบหล่อ ๆ (ได้ภาพดังที่เห็น ค่อนข้างเป็นธรรมชาติมาก)
- ต่อกันด้วยมุมกินข้าวของบ้านเรา เมื่อเดินขึ้นบันไดหน้าบ้านมา จะได้เจอกับระเบียงไม้ข้างบ้าน เข้าบ้านปุ๊บ เราจะเจอที่กินก่อนเลย (สายกินอะเนอะ) แขกก็นั่งตรงนี้ได้นะคะ อันนี้เอาผ้าปูไว้ เดี๋ยวโต๊ะเปื้อนตอนจกส้มตำปูปลาร้า
- เผยโฉมเจ้าโต๊ะกันหน่อย... มองมุมนี้กันสักนิด
- การเดินไฟที่บ้านในชั้น 1 ใช้แบบโชว์ท่อ
- นี่โคมที่โถง Double Space
- เดินผ่านประตูทะลุมิติไปที่ห้องครัวกันเลย ห้องครัวของเรา นี่เลิฟซิงค์ล้างจานและก๊อกมากนะ ได้มาตอนลดราคาด้วย ครัวของ IKEA (ส่งจากเมืองกรุง ตรงนี้วัดขนาดผิดพลาดตอนติดตั้งต้องตัดหน้าบานกันเลยทีเดียวเพราะแจ้งขนาดครัวผิด คิดแล้วเศร้า) เครื่องใช้ไฟฟ้าได้มาจาก HAFELE (ตอนลดราคาเหมือนกัน ของเขาดีจริง ๆ)
- ให้พ่อเลือกตำแหน่งการวางของใช้งานจริงกันไปเลย เอาแบบสะดวกพ่อใช้งาน คุณเอกพจน์หยิบง่าย เราก็สุขใจ
- มุมจิบน้ำชา "เช้า-บ่าย" กับคุณชายเอกพจน์
- ไปค่ะ ไปเที่ยวชั้นสองกัน บันไดโล่ง ๆ โปร่ง ๆ
- ขึ้นมาแล้วมองไปด้านข้างจะเห็นว่า มองหน้าต่างข้างบ้านได้เลย แต่เราวางให้ห่างตามกฎหมายกำหนดแล้วเด้อ ในอนาคต ที่มีสตางค์ อยากต่อเติมเป็นห้องสมุดทะลุมิติไปเลย
- ลานโล่งตรงนี้ จะเป็นทางเชื่อมสู่ห้องนอนทั้งสอง มองลงไปตรง Double Space ได้นะ ตะโกนคุยกันได้ อบอุ่นไหมล่ะ อยู่คนละชั้นก็เมาท์ได้
- ห้องนอนชั้นบน หน้าต่างเยอะ โล่ง โปร่ง สบาย เช่นเคย
- อีกสักห้อง ยังแต่งไม่ครบ งบหมดเสียก่อน
- มาดูมุมระเบียงชั้นสองกันบ้าง
- อีกสักห้อง... ห้องน้ำ อาจจะไม่ได้รีวิวมาก ไม่โดนใจนัก (เห็นน้ำตาที่ซ่อนอยู่ไหมคะ) สั่งอย่างได้อย่าง คงต้องรื้อกันใหม่อีก
- มาดูบ้านจากด้านนอกกันบ้างดีกว่า ถ้ามองจากด้านนอกเข้ามาจะเป็นแบบนี้เลย ระเบียงนี้เป็นมุมมหาชน ที่บ้านชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ นั่งกินข้าว เมาท์มอย นอนเล่น นั่งเล่น งานประดิษฐ์ งานศิลปะ เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่นั่งดี เพราะไม่ร้อนทั้งเช้าและบ่าย
- นี่ลงต้นไม้แล้วเมื่อตอนสงกรานต์ที่ผ่านมา รอแต่เจ้าเติบโต...ขอให้โตไวไวนะ เเม่ทองกวาว และเจ้าอินทนิล
ส่วนสอง ขั้นตอนหาแบบบ้าน การขออนุญาตสร้าง การยื่นกู้
การหาแบบบ้าน เราหาแบบบ้านจากหลายที่มาก เดินทางไปขอที่กรมโยธา ที่ทำการเขตต่าง ๆ ไปมาหมด ก็ยังไม่โดนใจสักที พอเลือกแบบใช่ ก็มีปัญหานิดหน่อยไม่ได้สักที พอจะได้กลับง่ายเหมือนปอกกล้วย บอกแม่ว่า "แม่จ๋า ช่วยเลือกทีนะแม่" เพราะหายังไงก็ไม่โดนใจหรือไม่ก็อุปสรรคเยอะเหลือเกิน
ส่วนสอง ขั้นตอนหาแบบบ้าน การขออนุญาตสร้าง การยื่นกู้
การหาแบบบ้าน เราหาแบบบ้านจากหลายที่มาก เดินทางไปขอที่กรมโยธา ที่ทำการเขตต่าง ๆ ไปมาหมด ก็ยังไม่โดนใจสักที พอเลือกแบบใช่ ก็มีปัญหานิดหน่อยไม่ได้สักที พอจะได้กลับง่ายเหมือนปอกกล้วย บอกแม่ว่า "แม่จ๋า ช่วยเลือกทีนะแม่" เพราะหายังไงก็ไม่โดนใจหรือไม่ก็อุปสรรคเยอะเหลือเกิน
ภาพจาก แบบบ้าน ธอส.
ภาพจาก แบบบ้าน ธอส.
ภาพจาก แบบบ้าน ธอส.
เปิดหาอย่างไม่หยุดหย่อน เข้าไปดูใน Kapook.com เว็บประจำ ที่มีแบบบ้านแนะนำหลายแบบ เลื่อนไปเลื่อนมา วันนั้นมีกระทู้แนะนำแบบบ้านฟรีของ ธอส. [6 แบบบ้านเดี่ยวแจกฟรีจาก ธอส. พร้อมราคาปลูกสร้างไม่เกิน 2 ล้านบาท] เลื่อนจนมาเจอ "บ้านใต้เงา" แวบแรก...พระเจ้า ! หลงรักเลยล่ะ เพราะตอบโจทย์มาก ๆ ไม่คิดอะไรมาก "เพราะถ้าใช่แล้ว...ใช่เลย" ไปค่ะพี่สุชาติได้แบบบ้านแล้ว
การขออนุญาตสร้าง
เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เราอย่าละเลยนะ ! ธอส. ใจดีที่สุด ให้แบบฉบับเต็มมาเลย เมื่อก่อนเข้าใจไปเองว่า แบบบ้านที่มีผังกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำใช้ยื่นได้เลย ไม่ใช่เลย แบบที่แท้ทรูจะต้องมีครบทั้งหมด ทั้งแปลนบ้าน การเดินไฟ การเดินท่อประปา ฯลฯ รวม ๆ แล้วเกือบ 30 หน้า ขั้นตอนไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างที่กองช่าง ณ เทศบาล ที่ดูแลพื้นที่บ้านที่เราจะก่อสร้างต้องเตรียมเอกสาร
1. ใบคำร้องขออนุญาต (ไปขอที่เทศบาลได้เลย)
2. หลักฐานอื่น ๆ
- แบบแปลนก่อสร้าง 5 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้ขออนุญาต 1 ชุด
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้ขออนุญาต 1 ชุด
- สำเนาโฉนดที่ดิน 1 ชุด (รับรองเอกสารถูกต้องในเอกสารทุกฉบับ)
หมายเหตุ : ตรงนี้ใครไม่สะดวกไปยื่นเอง ทำหนังสือมอบอำนาจให้คนที่สะดวกทำแทนได้นะ ของเราให้พ่อไปทำ
3. รอการอนุมัติจากเทศบาล ของเราประมาณ 1 สัปดาห์ จะได้แบบแปลนที่มีลายเซ็นจากผู้มีอำนาจมาให้เรา แล้วเราก็นำเอกสารตรงนี้ไปยื่นกู้ธนาคารอีกที ตรงนี้ใครไม่ยื่นกู้ก็ก่อสร้างได้เลย
การยื่นกู้ เรามุ่งมั่นกับ ธอส. เพราะสิทธิสวัสดิการและเป็นธนาคารที่เรารู้สึกว่าอบอุ่น เราติดต่อเจ้าหน้าที่ไป เขาให้เตรียมเอกสาร ประมาณนี้ (ทุกอย่างต้องเป็นชื่อผู้กู้นะ)
1. ใบรับรองเงินเดือน
2. สลิปเงินเดือน 3 เดือน
3. สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6-12 เดือน
4. รายการเดินบัญชี (Statement) 12 เดือน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า)
6. สำเนาบัตรประชาชน
7. ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
8. ใบเปลี่ยนชื่อ / นามสกุล (ถ้ามี)
เอกสารหลักประกัน
1. สำเนาโฉนดที่ดิน (ตัวจริงและสำเนาขนาดเท่าตัวจริง)
2. เอกสารรังวัดที่ดินขอได้จากที่ดิน
3. ใบอนุญาตและแบบแปลนบ้านที่จะสร้างที่ผ่านการอนุญาตจากเทศบาลมาแล้ว
4. เอกสารประมาณราคาก่อสร้างที่ผู้รับเหมาทำให้
5. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับเหมา
6. สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง
หมายเหตุ : ยังไงคอนเฟิร์มเอกสารกับธนาคารที่จะกู้อีกทีนะ*
ทีนี้ก็รออย่างใจจดจ่อว่าเราจะได้เป็นหนี้ไหม เขาจะเข้าไปประเมินหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันว่าจะได้สักเท่าไรกันนะ เมื่อผลออกมาว่า กู้ได้...ก็เดินทางไปทำสัญญาและรับเงินก้อนแรกเลย ธนาคารจะแจ้งให้ทราบว่า ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เมื่อทำสัญญา...จะได้เงินประมาณ 15% ของเงินที่กู้ได้ทั้งหมด เป็นหนี้กันไปยาว ๆ เด้อ 30-40 ปี แล้วแต่ตกลง
จากนั้นเราก็ดำเนินการก่อสร้างได้เลย จะเบิกเงินก็แจ้งผู้ประเมินมาประเมินความคืบหน้าในการก่อสร้าง ผู้ประเมินมาก็มีค่าใช้จ่ายนะ ประมาณครั้งละ 1,000 บาท ตรงนี้เบิกไม่ได้ แต่จะมีใบเสร็จรับเงินให้ทุกครั้ง ผู้ประเมินจะบอกว่า เราทำบ้านไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว และแจ้งไปที่ธนาคารให้อนุมัติจ่ายเงินให้เรา จากนั้นเราก็รอรับเงินในบัญชีได้ ตรงนี้ถ้าใครมีงบในกระเป๋าเยอะ ๆ อาจจะประเมินเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าใครงบน้อยแบบเรา ก็ประเมินวนไปเนอะ ตามงวดที่ผู้รับเหมาแจ้ง (ของเราประมาณ 4 งวด) บ้านเสร็จไปโอนให้ธนาคารก่อน โฉนดจ๋า ลาก่อน ผ่อนหมดแล้วเจอกัน
ส่วนสาม : ของมันดี...ต้องมีบอกต่อ
ขอเล่าให้ฟัง แนะนำต่อ ในสิ่งที่เราได้พบเจอมาและคิดว่าดี สิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำตามด้วยค่ะ (ไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆทั้งสิ้น)
- มองผลงานที่ผ่านมาหลาย ๆ งาน
- ถ้าเป็นไปได้สอบถามประสบการณ์ตรงจากเจ้าของบ้านที่ผ่านมา ว่างานของผู้รับเหมาเจ้านี้เป็นอย่างไร
- พูดคุยให้เข้าใจ ถ้าเริ่มต้นด้วยปัญหา เพิ่มเงินโน่นนี่ บอกลาได้เลย ลางไม่ดีตั้งแต่ต้น ไม่ต้องฝืนเนอะ
- BOQ คือ รายละเอียดแสดงปริมาณวัสดุพร้อมราคาในการก่อสร้างอย่างละเอียด ยึดถือตามนี้ เราควรเขียนให้ละเอียด ถ้าเป็นไปได้จ้างคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้รับเหมาถอด BOQ ก็ได้ เพื่อความชัดเจน ป้องกันการเพิ่มเงินทีหลัง
- อย่าเชื่อคำว่า "ง่าย ๆ อะไรก็ได้ เราคุยกันได้ทั้งนั้น" มันไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างเป็นเงินหมด ดังนั้นเขียนสัญญา และ BOQ ให้ละเอียด เรื่องเงินนี่ไม่เข้าใครออกใคร...พลาดมามันเจ็บเนอะ
- ตัดสินใจให้ชัดเจนยึดตามที่คุยกัน... อย่าปรับไปเปลี่ยนมา เงินทั้งนั้นที่เพิ่ม (ส่วนใหญ่ไม่มีลดหรอก)
- ยึดสัญญาเป็นหลัก (อย่าลืมว่าเราคือคนที่ต้องใช้หนี้และดอกเบี้ย)
การเลือกผู้คุมงาน
- มองหามืออาชีพที่เข้าใจแบบบ้าน เข้าใจความต้องการของเรา ต้องลองคุยกันนะ จะได้รู้ว่า คลิกกันไหม ส่วนใหญ่วิศวกรรับคุมงานนะ ของบ้านเราก็ใช้วิศวกรเหมือนกัน
- ทำสัญญาการว่าจ้างการทำงาน ขอบเขตงานต้องชัดเจน เข้าสัปดาห์ละกี่ครั้ง คิดเงินเท่าไหร่ อย่างไร เริ่มต้นงานจากอะไร จบงานที่ตรงไหน เพราะจบงานเขากับจบงานเราไม่เหมือนกัน...(เป็นเพื่อนกัน เป็นคนรู้จักกันก็ต้องทำ ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นไม่แน่ไม่นอน) ของเราเริ่มต้นดีมาก แต่พอจบงาน... ถึงกับต้องโบกมือลา
เจ้าของบ้าน
- เลือกผู้รับเหมามืออาชีพ อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
- ตกลงใจกับตัวเองให้ได้ตั้งแต่ก่อนทำสัญญา ว่าแบบบ้านของเราเป็นอย่างไร ความต้องการของตัวเองต้องชัด ไม่เปลี่ยนใจบ่อย ๆ ทุกอย่างเป็นเงินทั้งนั้น
- ซื่อสัตย์ต่อสัญญา สัญญาแบบไหนทำตามนั้น
- ถ้าเป็นไปได้ตรวจสอบงานด้วยตนเอง และ Feedback ทันที
มาถึงส่วนดีดีกันบ้าง ช่วงของดี...มีบอกต่อ
1. งานกระจกทั้งบ้าน
เราต้องใช้บริการของพ่อเพื่อน เพราะผู้รับเหมาแจ้งตอนงวดงานกระจกว่า...ช่างของเขาทำกระจกแบบนี้ไม่ได้แล้วเพราะแบบยากเกินไป เราเองก็ต้องหาทางแก้ปัญหา ตอนนั้นเครียดมากจริง ๆ โชคดีมากที่พ่อของเพื่อนรับทำให้ (ทั้งที่งานของพ่อเพื่อนแน่นมาก) แน่นอนว่าราคาสูงกว่าผู้รับเหมาประเมินไว้ เดิมประเมินที่ 200,000 บาท รวมค่าประตูทั้งบ้านพร้อมค่าติดตั้ง เมื่อทำไม่ได้เราจึงต้องจ่ายเพิ่ม 2 ทาง คือ ค่ากระจกรอบบ้าน & ค่าประตูและค่าจ้างติดตั้งประตูทั้งบ้าน อันนี้รวม ๆ แล้วมากกว่า 200,000 บาท บ้านจึงบาน อย่างไรก็ตาม ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี พ่อเพื่อนทำให้งานกระจกเนี้ยบมาก ใคร ๆ ก็ชมว่าสวย บริการหลังการขายดีมากด้วย
2. ช่างไม้ ติดประตูไม้ทั้งบ้าน (ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่ม)
เราได้น้าของเราที่เป็นช่างไม้มาช่วยทำให้ นี่ก็โชคดีเพราะงานเนี้ยบ งานเร็ววันเดียวเสร็จ
3. ช่างทำรั้ว
อันนี้ต้องแนะนำต่อ เพราะเขาทำให้เราเข้าใจคำว่า "ช่างมืออาชีพ" เสนอแบบ เสนอราคาเป๊ะมาก ! เขารับงานปูน งานเหล็กนะ ราคาต่อรองได้ อาจสูงนิดหนึ่ง แต่เชื่อเราเหอะ โคตรสบายใจ คุยกันแป๊บเดียวเข้าใจ รับผิดชอบงาน ไม่ต้องตามให้เหนื่อย เสียความรู้สึก
เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เราอย่าละเลยนะ ! ธอส. ใจดีที่สุด ให้แบบฉบับเต็มมาเลย เมื่อก่อนเข้าใจไปเองว่า แบบบ้านที่มีผังกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำใช้ยื่นได้เลย ไม่ใช่เลย แบบที่แท้ทรูจะต้องมีครบทั้งหมด ทั้งแปลนบ้าน การเดินไฟ การเดินท่อประปา ฯลฯ รวม ๆ แล้วเกือบ 30 หน้า ขั้นตอนไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างที่กองช่าง ณ เทศบาล ที่ดูแลพื้นที่บ้านที่เราจะก่อสร้างต้องเตรียมเอกสาร
1. ใบคำร้องขออนุญาต (ไปขอที่เทศบาลได้เลย)
2. หลักฐานอื่น ๆ
- แบบแปลนก่อสร้าง 5 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้ขออนุญาต 1 ชุด
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้ขออนุญาต 1 ชุด
- สำเนาโฉนดที่ดิน 1 ชุด (รับรองเอกสารถูกต้องในเอกสารทุกฉบับ)
หมายเหตุ : ตรงนี้ใครไม่สะดวกไปยื่นเอง ทำหนังสือมอบอำนาจให้คนที่สะดวกทำแทนได้นะ ของเราให้พ่อไปทำ
3. รอการอนุมัติจากเทศบาล ของเราประมาณ 1 สัปดาห์ จะได้แบบแปลนที่มีลายเซ็นจากผู้มีอำนาจมาให้เรา แล้วเราก็นำเอกสารตรงนี้ไปยื่นกู้ธนาคารอีกที ตรงนี้ใครไม่ยื่นกู้ก็ก่อสร้างได้เลย
การยื่นกู้ เรามุ่งมั่นกับ ธอส. เพราะสิทธิสวัสดิการและเป็นธนาคารที่เรารู้สึกว่าอบอุ่น เราติดต่อเจ้าหน้าที่ไป เขาให้เตรียมเอกสาร ประมาณนี้ (ทุกอย่างต้องเป็นชื่อผู้กู้นะ)
1. ใบรับรองเงินเดือน
2. สลิปเงินเดือน 3 เดือน
3. สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6-12 เดือน
4. รายการเดินบัญชี (Statement) 12 เดือน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า)
6. สำเนาบัตรประชาชน
7. ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
8. ใบเปลี่ยนชื่อ / นามสกุล (ถ้ามี)
เอกสารหลักประกัน
1. สำเนาโฉนดที่ดิน (ตัวจริงและสำเนาขนาดเท่าตัวจริง)
2. เอกสารรังวัดที่ดินขอได้จากที่ดิน
3. ใบอนุญาตและแบบแปลนบ้านที่จะสร้างที่ผ่านการอนุญาตจากเทศบาลมาแล้ว
4. เอกสารประมาณราคาก่อสร้างที่ผู้รับเหมาทำให้
5. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับเหมา
6. สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง
หมายเหตุ : ยังไงคอนเฟิร์มเอกสารกับธนาคารที่จะกู้อีกทีนะ*
ทีนี้ก็รออย่างใจจดจ่อว่าเราจะได้เป็นหนี้ไหม เขาจะเข้าไปประเมินหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันว่าจะได้สักเท่าไรกันนะ เมื่อผลออกมาว่า กู้ได้...ก็เดินทางไปทำสัญญาและรับเงินก้อนแรกเลย ธนาคารจะแจ้งให้ทราบว่า ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เมื่อทำสัญญา...จะได้เงินประมาณ 15% ของเงินที่กู้ได้ทั้งหมด เป็นหนี้กันไปยาว ๆ เด้อ 30-40 ปี แล้วแต่ตกลง
จากนั้นเราก็ดำเนินการก่อสร้างได้เลย จะเบิกเงินก็แจ้งผู้ประเมินมาประเมินความคืบหน้าในการก่อสร้าง ผู้ประเมินมาก็มีค่าใช้จ่ายนะ ประมาณครั้งละ 1,000 บาท ตรงนี้เบิกไม่ได้ แต่จะมีใบเสร็จรับเงินให้ทุกครั้ง ผู้ประเมินจะบอกว่า เราทำบ้านไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว และแจ้งไปที่ธนาคารให้อนุมัติจ่ายเงินให้เรา จากนั้นเราก็รอรับเงินในบัญชีได้ ตรงนี้ถ้าใครมีงบในกระเป๋าเยอะ ๆ อาจจะประเมินเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าใครงบน้อยแบบเรา ก็ประเมินวนไปเนอะ ตามงวดที่ผู้รับเหมาแจ้ง (ของเราประมาณ 4 งวด) บ้านเสร็จไปโอนให้ธนาคารก่อน โฉนดจ๋า ลาก่อน ผ่อนหมดแล้วเจอกัน
ส่วนสาม : ของมันดี...ต้องมีบอกต่อ
ขอเล่าให้ฟัง แนะนำต่อ ในสิ่งที่เราได้พบเจอมาและคิดว่าดี สิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำตามด้วยค่ะ (ไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆทั้งสิ้น)
การเลือกผู้รับเหมา
- มองผลงานที่ผ่านมาหลาย ๆ งาน
- ถ้าเป็นไปได้สอบถามประสบการณ์ตรงจากเจ้าของบ้านที่ผ่านมา ว่างานของผู้รับเหมาเจ้านี้เป็นอย่างไร
- พูดคุยให้เข้าใจ ถ้าเริ่มต้นด้วยปัญหา เพิ่มเงินโน่นนี่ บอกลาได้เลย ลางไม่ดีตั้งแต่ต้น ไม่ต้องฝืนเนอะ
- BOQ คือ รายละเอียดแสดงปริมาณวัสดุพร้อมราคาในการก่อสร้างอย่างละเอียด ยึดถือตามนี้ เราควรเขียนให้ละเอียด ถ้าเป็นไปได้จ้างคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้รับเหมาถอด BOQ ก็ได้ เพื่อความชัดเจน ป้องกันการเพิ่มเงินทีหลัง
- อย่าเชื่อคำว่า "ง่าย ๆ อะไรก็ได้ เราคุยกันได้ทั้งนั้น" มันไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างเป็นเงินหมด ดังนั้นเขียนสัญญา และ BOQ ให้ละเอียด เรื่องเงินนี่ไม่เข้าใครออกใคร...พลาดมามันเจ็บเนอะ
- ตัดสินใจให้ชัดเจนยึดตามที่คุยกัน... อย่าปรับไปเปลี่ยนมา เงินทั้งนั้นที่เพิ่ม (ส่วนใหญ่ไม่มีลดหรอก)
- ยึดสัญญาเป็นหลัก (อย่าลืมว่าเราคือคนที่ต้องใช้หนี้และดอกเบี้ย)
การเลือกผู้คุมงาน
- มองหามืออาชีพที่เข้าใจแบบบ้าน เข้าใจความต้องการของเรา ต้องลองคุยกันนะ จะได้รู้ว่า คลิกกันไหม ส่วนใหญ่วิศวกรรับคุมงานนะ ของบ้านเราก็ใช้วิศวกรเหมือนกัน
- ทำสัญญาการว่าจ้างการทำงาน ขอบเขตงานต้องชัดเจน เข้าสัปดาห์ละกี่ครั้ง คิดเงินเท่าไหร่ อย่างไร เริ่มต้นงานจากอะไร จบงานที่ตรงไหน เพราะจบงานเขากับจบงานเราไม่เหมือนกัน...(เป็นเพื่อนกัน เป็นคนรู้จักกันก็ต้องทำ ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นไม่แน่ไม่นอน) ของเราเริ่มต้นดีมาก แต่พอจบงาน... ถึงกับต้องโบกมือลา
เจ้าของบ้าน
- เลือกผู้รับเหมามืออาชีพ อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
- ตกลงใจกับตัวเองให้ได้ตั้งแต่ก่อนทำสัญญา ว่าแบบบ้านของเราเป็นอย่างไร ความต้องการของตัวเองต้องชัด ไม่เปลี่ยนใจบ่อย ๆ ทุกอย่างเป็นเงินทั้งนั้น
- ซื่อสัตย์ต่อสัญญา สัญญาแบบไหนทำตามนั้น
- ถ้าเป็นไปได้ตรวจสอบงานด้วยตนเอง และ Feedback ทันที
มาถึงส่วนดีดีกันบ้าง ช่วงของดี...มีบอกต่อ
1. งานกระจกทั้งบ้าน
เราต้องใช้บริการของพ่อเพื่อน เพราะผู้รับเหมาแจ้งตอนงวดงานกระจกว่า...ช่างของเขาทำกระจกแบบนี้ไม่ได้แล้วเพราะแบบยากเกินไป เราเองก็ต้องหาทางแก้ปัญหา ตอนนั้นเครียดมากจริง ๆ โชคดีมากที่พ่อของเพื่อนรับทำให้ (ทั้งที่งานของพ่อเพื่อนแน่นมาก) แน่นอนว่าราคาสูงกว่าผู้รับเหมาประเมินไว้ เดิมประเมินที่ 200,000 บาท รวมค่าประตูทั้งบ้านพร้อมค่าติดตั้ง เมื่อทำไม่ได้เราจึงต้องจ่ายเพิ่ม 2 ทาง คือ ค่ากระจกรอบบ้าน & ค่าประตูและค่าจ้างติดตั้งประตูทั้งบ้าน อันนี้รวม ๆ แล้วมากกว่า 200,000 บาท บ้านจึงบาน อย่างไรก็ตาม ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี พ่อเพื่อนทำให้งานกระจกเนี้ยบมาก ใคร ๆ ก็ชมว่าสวย บริการหลังการขายดีมากด้วย
2. ช่างไม้ ติดประตูไม้ทั้งบ้าน (ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่ม)
เราได้น้าของเราที่เป็นช่างไม้มาช่วยทำให้ นี่ก็โชคดีเพราะงานเนี้ยบ งานเร็ววันเดียวเสร็จ
3. ช่างทำรั้ว
อันนี้ต้องแนะนำต่อ เพราะเขาทำให้เราเข้าใจคำว่า "ช่างมืออาชีพ" เสนอแบบ เสนอราคาเป๊ะมาก ! เขารับงานปูน งานเหล็กนะ ราคาต่อรองได้ อาจสูงนิดหนึ่ง แต่เชื่อเราเหอะ โคตรสบายใจ คุยกันแป๊บเดียวเข้าใจ รับผิดชอบงาน ไม่ต้องตามให้เหนื่อย เสียความรู้สึก
กลับมาก่อน เรามีแนะนำอีกนิดหนึ่ง ใครที่วางแผนจะทำรั้วบ้านอยู่แล้ว อย่าให้ช่างเทปูนที่บริเวณหน้าบ้านจนเต็มเนื้อที่ เพราะต้องเสียค่ารื้อวางรางเหล็กประตูอีกหลายตังค์
4. ผ้าม่าน
ตอนแรกจะให้พ่อทำให้ แต่พ่อคิดไปคิดมาว่าไม่ไหว เลยได้รู้จักกับร้านหนึ่ง นี่ก็ทำให้ได้รู้จักคำว่า มืออาชีพอีกแล้วครับท่าน งานดีมาก ไวมาก เนี้ยบมาก โอนมัดจำปุ๊บไม่เกิน 7 วัน มาติดตั้งเลย ที่สำคัญ...ไม่แพงด้วยนะ ต่อรองได้ (เจ้กับเฮีย น่ารักมาก) บ้านเรากระจกเยอะมาก ความสูงกระจกประมาณ 2.5 เมตร ยังได้ราคาที่โดนใจมากเลย
5. ร้านต้นไม้ (ทางไกล)
ไทรเกาหลี สูง 1.5 เมตร จากคลอง 15 นครนายก เมืองหน้าด่านโบราณ ราคาตกต้นละ 50 บาท เจ้าของสวนใจดีมาส่งเอง
6. ร้านต้นไม้ (หน้าหมู่บ้าน)
อันนี้สด ๆ ร้อน ๆ ไปได้มาเมื่อช่วงสงกรานต์ ต้นทองกวาวและต้นอินทนิล แม่ค้าใจดีมาก ลดแล้วลดอีก ลดจนได้งบที่ลูกค้ามี ราคาพร้อมปลูกไปอีก....รอเจ้าเติบโตนะ
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ "บ้านประมวลสุข" หลังน้อยจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากพ่อแม่ พี่สาว ญาติ แฟน เพื่อนร่วมงาน และกัลยาณมิตรที่ให้การสนับสนุนทั้งแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ มาตลอด
เชื่อมั่นค่ะว่า ความพยายาม ความตั้งใจจริง ที่เรามีจะนำพาให้เราเดินถึงฝั่งฝันของเราได้แน่นอน เมื่อบ้านเสร็จแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้า ทำงานหาเงินต่อไปเพื่อส่งบ้านต่อ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรตัดสินใจดีดีนะคะ ทุกการตัดสินใจ...คือเงินทอง ของหายากค่ะ
หวังว่าทุกประสบการณ์จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านนะคะ ยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้แบ่งปัน หลังจากเป็นผู้รับในพันทิป และเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมาย
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1444338