การขออนุญาตสร้าง
เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เราอย่าละเลยนะ ! ธอส. ใจดีที่สุด ให้แบบฉบับเต็มมาเลย เมื่อก่อนเข้าใจไปเองว่า แบบบ้านที่มีผังกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำใช้ยื่นได้เลย ไม่ใช่เลย แบบที่แท้ทรูจะต้องมีครบทั้งหมด ทั้งแปลนบ้าน การเดินไฟ การเดินท่อประปา ฯลฯ รวม ๆ แล้วเกือบ 30 หน้า ขั้นตอนไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างที่กองช่าง ณ เทศบาล ที่ดูแลพื้นที่บ้านที่เราจะก่อสร้างต้องเตรียมเอกสาร
1. ใบคำร้องขออนุญาต (ไปขอที่เทศบาลได้เลย)
2. หลักฐานอื่น ๆ
- แบบแปลนก่อสร้าง 5 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้ขออนุญาต 1 ชุด
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้ขออนุญาต 1 ชุด
- สำเนาโฉนดที่ดิน 1 ชุด (รับรองเอกสารถูกต้องในเอกสารทุกฉบับ)
หมายเหตุ : ตรงนี้ใครไม่สะดวกไปยื่นเอง ทำหนังสือมอบอำนาจให้คนที่สะดวกทำแทนได้นะ ของเราให้พ่อไปทำ
3. รอการอนุมัติจากเทศบาล ของเราประมาณ 1 สัปดาห์ จะได้แบบแปลนที่มีลายเซ็นจากผู้มีอำนาจมาให้เรา แล้วเราก็นำเอกสารตรงนี้ไปยื่นกู้ธนาคารอีกที ตรงนี้ใครไม่ยื่นกู้ก็ก่อสร้างได้เลย
การยื่นกู้ เรามุ่งมั่นกับ
ธอส. เพราะสิทธิสวัสดิการและเป็นธนาคารที่เรารู้สึกว่าอบอุ่น เราติดต่อเจ้าหน้าที่ไป เขาให้เตรียมเอกสาร ประมาณนี้ (ทุกอย่างต้องเป็นชื่อผู้กู้นะ)
1. ใบรับรองเงินเดือน
2. สลิปเงินเดือน 3 เดือน
3. สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6-12 เดือน
4. รายการเดินบัญชี (Statement) 12 เดือน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า)
6. สำเนาบัตรประชาชน
7. ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
8. ใบเปลี่ยนชื่อ / นามสกุล (ถ้ามี)
เอกสารหลักประกัน 1. สำเนาโฉนดที่ดิน (ตัวจริงและสำเนาขนาดเท่าตัวจริง)
2. เอกสารรังวัดที่ดินขอได้จากที่ดิน
3. ใบอนุญาตและแบบแปลนบ้านที่จะสร้างที่ผ่านการอนุญาตจากเทศบาลมาแล้ว
4. เอกสารประมาณราคาก่อสร้างที่ผู้รับเหมาทำให้
5. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับเหมา
6. สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง
หมายเหตุ : ยังไงคอนเฟิร์มเอกสารกับธนาคารที่จะกู้อีกทีนะ*
ทีนี้ก็รออย่างใจจดจ่อว่าเราจะได้เป็นหนี้ไหม เขาจะเข้าไปประเมินหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันว่าจะได้สักเท่าไรกันนะ เมื่อผลออกมาว่า กู้ได้...ก็เดินทางไปทำสัญญาและรับเงินก้อนแรกเลย ธนาคารจะแจ้งให้ทราบว่า ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เมื่อทำสัญญา...จะได้เงินประมาณ 15% ของเงินที่กู้ได้ทั้งหมด เป็นหนี้กันไปยาว ๆ เด้อ 30-40 ปี แล้วแต่ตกลง
จากนั้นเราก็ดำเนินการก่อสร้างได้เลย จะเบิกเงินก็แจ้งผู้ประเมินมาประเมินความคืบหน้าในการก่อสร้าง ผู้ประเมินมาก็มีค่าใช้จ่ายนะ ประมาณครั้งละ 1,000 บาท ตรงนี้เบิกไม่ได้ แต่จะมีใบเสร็จรับเงินให้ทุกครั้ง ผู้ประเมินจะบอกว่า เราทำบ้านไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว และแจ้งไปที่ธนาคารให้อนุมัติจ่ายเงินให้เรา จากนั้นเราก็รอรับเงินในบัญชีได้ ตรงนี้ถ้าใครมีงบในกระเป๋าเยอะ ๆ อาจจะประเมินเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าใครงบน้อยแบบเรา ก็ประเมินวนไปเนอะ ตามงวดที่ผู้รับเหมาแจ้ง (ของเราประมาณ 4 งวด) บ้านเสร็จไปโอนให้ธนาคารก่อน โฉนดจ๋า ลาก่อน ผ่อนหมดแล้วเจอกัน
ส่วนสาม : ของมันดี...ต้องมีบอกต่อ ขอเล่าให้ฟัง แนะนำต่อ ในสิ่งที่เราได้พบเจอมาและคิดว่าดี สิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำตามด้วยค่ะ (ไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆทั้งสิ้น)
การเลือกผู้รับเหมา
- มองผลงานที่ผ่านมาหลาย ๆ งาน
- ถ้าเป็นไปได้สอบถามประสบการณ์ตรงจากเจ้าของบ้านที่ผ่านมา ว่างานของผู้รับเหมาเจ้านี้เป็นอย่างไร
- พูดคุยให้เข้าใจ ถ้าเริ่มต้นด้วยปัญหา เพิ่มเงินโน่นนี่ บอกลาได้เลย ลางไม่ดีตั้งแต่ต้น ไม่ต้องฝืนเนอะ
- BOQ คือ รายละเอียดแสดงปริมาณวัสดุพร้อมราคาในการก่อสร้างอย่างละเอียด ยึดถือตามนี้ เราควรเขียนให้ละเอียด ถ้าเป็นไปได้จ้างคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้รับเหมาถอด BOQ ก็ได้ เพื่อความชัดเจน ป้องกันการเพิ่มเงินทีหลัง
- อย่าเชื่อคำว่า "ง่าย ๆ อะไรก็ได้ เราคุยกันได้ทั้งนั้น" มันไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างเป็นเงินหมด ดังนั้นเขียนสัญญา และ BOQ ให้ละเอียด เรื่องเงินนี่ไม่เข้าใครออกใคร...พลาดมามันเจ็บเนอะ
- ตัดสินใจให้ชัดเจนยึดตามที่คุยกัน... อย่าปรับไปเปลี่ยนมา เงินทั้งนั้นที่เพิ่ม (ส่วนใหญ่ไม่มีลดหรอก)
- ยึดสัญญาเป็นหลัก (อย่าลืมว่าเราคือคนที่ต้องใช้หนี้และดอกเบี้ย)
การเลือกผู้คุมงาน - มองหามืออาชีพที่เข้าใจแบบบ้าน เข้าใจความต้องการของเรา ต้องลองคุยกันนะ จะได้รู้ว่า คลิกกันไหม ส่วนใหญ่วิศวกรรับคุมงานนะ ของบ้านเราก็ใช้วิศวกรเหมือนกัน
- ทำสัญญาการว่าจ้างการทำงาน ขอบเขตงานต้องชัดเจน เข้าสัปดาห์ละกี่ครั้ง คิดเงินเท่าไหร่ อย่างไร เริ่มต้นงานจากอะไร จบงานที่ตรงไหน เพราะจบงานเขากับจบงานเราไม่เหมือนกัน...(เป็นเพื่อนกัน เป็นคนรู้จักกันก็ต้องทำ ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นไม่แน่ไม่นอน) ของเราเริ่มต้นดีมาก แต่พอจบงาน... ถึงกับต้องโบกมือลา
เจ้าของบ้าน - เลือกผู้รับเหมามืออาชีพ อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
- ตกลงใจกับตัวเองให้ได้ตั้งแต่ก่อนทำสัญญา ว่าแบบบ้านของเราเป็นอย่างไร ความต้องการของตัวเองต้องชัด ไม่เปลี่ยนใจบ่อย ๆ ทุกอย่างเป็นเงินทั้งนั้น
- ซื่อสัตย์ต่อสัญญา สัญญาแบบไหนทำตามนั้น
- ถ้าเป็นไปได้ตรวจสอบงานด้วยตนเอง และ Feedback ทันที
มาถึงส่วนดีดีกันบ้าง ช่วงของดี...มีบอกต่อ 1. งานกระจกทั้งบ้าน เราต้องใช้บริการของพ่อเพื่อน เพราะผู้รับเหมาแจ้งตอนงวดงานกระจกว่า...ช่างของเขาทำกระจกแบบนี้ไม่ได้แล้วเพราะแบบยากเกินไป เราเองก็ต้องหาทางแก้ปัญหา ตอนนั้นเครียดมากจริง ๆ โชคดีมากที่พ่อของเพื่อนรับทำให้ (ทั้งที่งานของพ่อเพื่อนแน่นมาก) แน่นอนว่าราคาสูงกว่าผู้รับเหมาประเมินไว้ เดิมประเมินที่ 200,000 บาท รวมค่าประตูทั้งบ้านพร้อมค่าติดตั้ง เมื่อทำไม่ได้เราจึงต้องจ่ายเพิ่ม 2 ทาง คือ ค่ากระจกรอบบ้าน & ค่าประตูและค่าจ้างติดตั้งประตูทั้งบ้าน อันนี้รวม ๆ แล้วมากกว่า 200,000 บาท บ้านจึงบาน อย่างไรก็ตาม ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี พ่อเพื่อนทำให้งานกระจกเนี้ยบมาก ใคร ๆ ก็ชมว่าสวย บริการหลังการขายดีมากด้วย
2. ช่างไม้ ติดประตูไม้ทั้งบ้าน (ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่ม)
เราได้น้าของเราที่เป็นช่างไม้มาช่วยทำให้ นี่ก็โชคดีเพราะงานเนี้ยบ งานเร็ววันเดียวเสร็จ
3. ช่างทำรั้ว อันนี้ต้องแนะนำต่อ เพราะเขาทำให้เราเข้าใจคำว่า "ช่างมืออาชีพ" เสนอแบบ เสนอราคาเป๊ะมาก ! เขารับงานปูน งานเหล็กนะ ราคาต่อรองได้ อาจสูงนิดหนึ่ง แต่เชื่อเราเหอะ โคตรสบายใจ คุยกันแป๊บเดียวเข้าใจ รับผิดชอบงาน ไม่ต้องตามให้เหนื่อย เสียความรู้สึก
กลับมาก่อน เรามีแนะนำอีกนิดหนึ่ง ใครที่วางแผนจะทำรั้วบ้านอยู่แล้ว อย่าให้ช่างเทปูนที่บริเวณหน้าบ้านจนเต็มเนื้อที่ เพราะต้องเสียค่ารื้อวางรางเหล็กประตูอีกหลายตังค์
4. ผ้าม่าน ตอนแรกจะให้พ่อทำให้ แต่พ่อคิดไปคิดมาว่าไม่ไหว เลยได้รู้จักกับร้านหนึ่ง นี่ก็ทำให้ได้รู้จักคำว่า มืออาชีพอีกแล้วครับท่าน งานดีมาก ไวมาก เนี้ยบมาก โอนมัดจำปุ๊บไม่เกิน 7 วัน มาติดตั้งเลย ที่สำคัญ...ไม่แพงด้วยนะ ต่อรองได้ (เจ้กับเฮีย น่ารักมาก) บ้านเรากระจกเยอะมาก ความสูงกระจกประมาณ 2.5 เมตร ยังได้ราคาที่โดนใจมากเลย
5. ร้านต้นไม้ (ทางไกล) ไทรเกาหลี สูง 1.5 เมตร จากคลอง 15 นครนายก เมืองหน้าด่านโบราณ ราคาตกต้นละ 50 บาท เจ้าของสวนใจดีมาส่งเอง
6. ร้านต้นไม้ (หน้าหมู่บ้าน) อันนี้สด ๆ ร้อน ๆ ไปได้มาเมื่อช่วงสงกรานต์ ต้นทองกวาวและต้นอินทนิล แม่ค้าใจดีมาก ลดแล้วลดอีก ลดจนได้งบที่ลูกค้ามี ราคาพร้อมปลูกไปอีก....รอเจ้าเติบโตนะ
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ "บ้านประมวลสุข" หลังน้อยจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากพ่อแม่ พี่สาว ญาติ แฟน เพื่อนร่วมงาน และกัลยาณมิตรที่ให้การสนับสนุนทั้งแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ มาตลอด
เชื่อมั่นค่ะว่า ความพยายาม ความตั้งใจจริง ที่เรามีจะนำพาให้เราเดินถึงฝั่งฝันของเราได้แน่นอน เมื่อบ้านเสร็จแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้า ทำงานหาเงินต่อไปเพื่อส่งบ้านต่อ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรตัดสินใจดีดีนะคะ ทุกการตัดสินใจ...คือเงินทอง ของหายากค่ะ
หวังว่าทุกประสบการณ์จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านนะคะ ยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้แบ่งปัน หลังจากเป็นผู้รับในพันทิป และเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมาย
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ สมาชิกหมายเลข 1444338