การซักแห้ง คืออะไร แตกต่างจากการซักเสื้อผ้าทั่วไปอย่างไร การซักแห้งใช้น้ำได้ไหม แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนซักแห้งได้บ้าง ?
หลายครั้งที่เห็นบริการซักแห้งตามร้านซักรีดต่าง ๆ เลยเกิดคำถามว่า ซักแห้งแตกต่างจากการซักผ้าทั่วไปอย่าง ทำไมการซักแห้งมีราคาสูงกว่า แล้วการซักแห้งใช้น้ำซักได้หรือไม่ เราสามารถทำเองโดยไม่ต้องส่งร้านได้หรือเปล่า ? จะยุ่งยากวุ่นวายมีขั้นตอนเยอะมั้ย วันนี้กระปุกดอทคอมก็ขออาสารวมข้อสงสัยเกี่ยวกับการซักแห้งและวิธีซักแห้งสำหรับผ้าประเภทต่าง ๆ มาฝากกันค่ะ
การซักแห้งแตกต่างจากการซักผ้าทั่วไปอย่างไร ?
การซักแห้ง เป็นการทำความสะอาดเสื้อผ้ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คล้ายกันกับการซักผ้าทั่วไป แต่มีขั้นตอนมากกว่าและใช้น้ำยาหรือน้ำมันพิเศษที่มีชื่อว่า เพอร์คลอโรเอทิลีน (Perchloroethylene) แทนการใช้น้ำกับผงซักฟอก เนื่องจากน้ำยาชนิดนี้มีน้ำเป็นส่วนประกอบน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย ดังนั้นจึงช่วยถนอมเส้นใยผ้า ไม่ทำลายเนื้อผ้า ไม่ทำให้สีซีดจาง และไม่ทำให้ผ้ายืดหรือหดตัว ฉะนั้นสำหรับคนที่เคยสงสัยว่าการซักแห้งทำให้เสื้อผ้าสะอาดจริงไหม ก็สบายใจได้เลย เพราะเสื้อผ้าของคุณจะสะอาดหมดจดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
รู้ได้อย่างไรว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนซักแห้งได้บ้าง ?
ถ้าอยากรู้ว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนสามารถซักด้วยการซักแห้งได้บ้าง ให้ดูจากป้ายบนปกเสื้อ เพราะป้ายจะบอกข้อมูลสำคัญของเนื้อผ้า ว่าทำมาจากอะไร ควรทำความสะอาดแบบไหน ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าหากป้ายมีสัญลักษณ์ซักแห้ง หรือเขียนกำกับไว้ว่า "Dry Clean Only (ซักแห้งเท่านั้น)" ก็หมายความว่าเสื้อผ้าชิ้นนี้เหมาะกับการซักแห้งนั่นเอง
เนื้อผ้าแบบไหนที่เหมาะกับการซักแห้ง ?
อีกหนึ่งจุดสังเกตว่า เสื้อผ้าชิ้นนั้นเหมาะกับการซักแห้งหรือไม่ นั่นก็คือ เนื้อผ้า ซึ่งเนื้อผ้าที่เหมาะกับการซักแห้งมากที่สุด หรืออาจจะกล่าวได้ว่าจำเป็นต้องส่งร้านซักแห้งเท่านั้น ได้แก่ ขนเฟอร์ หนังนิ่ม หนังกลับ ผ้าแพร กำมะหยี่ และผ้าปักเลื่อม เนื่องจากผ้าพวกนี้ผลิตมาอย่างพิเศษ ถ้าหากเปียกน้ำจะเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง
ส่วนพวกผ้าขนสัตว์ ผ้าขนเป็ด ผ้าไหม และผ้าฝ้าย ก็เหมาะที่จะส่งร้านซักแห้งเหมือนกัน แต่ถ้าหากใครไม่อยากเปลืองเงิน ก็สามารถทำความสะอาดเองได้ แต่ต้องใช้มือเท่านั้น ที่สำคัญควรใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน พร้อมทั้งรีดให้แห้งด้วยการห่อผ้าขนหนูสามชั้นด้วย
สำหรับเนื้อผ้าอย่างลินินหรือโพลีเอสเตอร์ไม่จำเป็นต้องส่งร้านซักแห้งก็ได้ เพราะเราสามารถทำความสะอาดได้ด้วยตัวเองผ่านเครื่องซักผ้า แต่ต้องใส่ลงถุงซักผ้า ใช้น้ำเย็น ใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน ปั่นโหมดถนอมผ้า และรีบตากแห้งแบบธรรมชาติเท่านั้น
การซักแห้งใช้น้ำได้ไหม ?
หลายคนสงสัยว่าวิธีซักแห้งใช้น้ำได้ไหม ? คำตอบก็คือขึ้นอยู่กับเนื้อผ้า ถ้าหากเสื้อของคุณทำจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ ผ้าลินิน ผ้าโพลีเอสเตอร์ก็สามารถเปียกน้ำได้ แต่ถ้าเป็นขนเฟอร์ หนังนิ่ม หนังกลับ กำมะหยี่ และผ้าปักเลื่อมไม่โดนน้ำจะดีที่สุด
วิธีซักแห้งทำอย่างไรบ้าง ?
- การซักแห้งด้วยตัวเอง : การซักแห้งด้วยตัวเองที่บ้านสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. การซักเครื่อง : ให้เราใส่เสื้อผ้าลงไปในถุงซักผ้า จากนั้นตั้งค่าเครื่องซักผ้าให้อยู่ในโหมดถนอมผ้า พร้อมทั้งใช้น้ำเย็นในการซัก ส่วนผงซักฟอกเลือกเป็นสูตรอ่อนโยน เสร็จแล้วก็กดให้ทำงาน เมื่อซักเสร็จเรียบร้อย ให้รีบนำออกมาตากแห้งแบบธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการอบอย่างเด็ดขาด
2. การซักมือ : ให้เราเติมน้ำเย็นลงไปในถังซักผ้า แล้วผสมน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนลงไปเล็กน้อยให้พอเป็นฟอง จากนั้นนำเสื้อผ้าที่จะซักจุ่มเสื้อผ้าให้พอเปียก เสร็จแล้วเทน้ำทิ้งพร้อมใส่น้ำเย็นลงไปใหม่ จุ่มเสื้อผ้าซ้ำอีกเรื่อย ๆ จนกว่าฟองจะหายออกทั้งหมด หลังจากนั้นก็ทำให้ผ้าแห้งด้วยการนำผ้าขนหนู 2 ผืนมาประกบ แล้วไล่กดน้ำออก อย่าเผลอม้วนเด็ดขาด เมื่อทำไปเรื่อย ๆ สักประมาณ 3-5 ครั้ง หรือจนพอใจแล้ว ก็ให้นำไปวางไว้บนผ้าขนหนูผืนใหม่จนกว่าจะแห้ง (ถ้าเป็นผ้าขนสัตว์อย่าลืมเก็บให้ไกลจากแสงแดดและความร้อนด้วย)
***การซักแห้งด้วยตัวเองใช้ได้กับเนื้อผ้าบางชนิดเท่านั้น ถ้าเป็นพวกขนเฟอร์ หนังนิ่ม กำมะหยี่ และผ้าปักเลื่อม ควรนำส่งร้านเพื่อซักในเครื่องซักแห้งโดยเฉพาะ***
- การซักแห้งผ้าไหม
ขั้นตอนแรกเติมน้ำเย็นลงไปให้เต็มถังซักผ้า จากนั้นใส่น้ำยาสำหรับซักผ้าไหมลงไปเล็กน้อย ถ้าหากใครไม่มีสามารถใช้เป็นน้ำยาซักผ้าสูตรเด็กหรือสูตรอ่อนโยนแทนได้ จากนั้นก็แช่ผ้าลงไปซักสักประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วเทน้ำทิ้งพร้อมเติมน้ำเย็นลงไปใหม่ จากนั้นก็จุ่มเสื้อเพื่อล้างให้สะอาด แล้วจึงนำไปตากให้แห้ง
- การซักแห้งเสื้อกันหนาว
1. การซักเครื่อง : ให้เราใส่เสื้อผ้าลงไปในถุงซักผ้า จากนั้นตั้งค่าเครื่องซักผ้าให้อยู่ในโหมดถนอมผ้า พร้อมทั้งใช้น้ำเย็นในการซัก ส่วนผงซักฟอกเลือกเป็นสูตรอ่อนโยน เสร็จแล้วก็กดให้ทำงาน เมื่อซักเสร็จเรียบร้อย ให้รีบนำออกมาตากแห้งแบบธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการอบอย่างเด็ดขาด
2. การซักมือ : ให้เราเติมน้ำเย็นลงไปในถังซักผ้า แล้วผสมน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนลงไปเล็กน้อยให้พอเป็นฟอง จากนั้นนำเสื้อผ้าที่จะซักจุ่มเสื้อผ้าให้พอเปียก เสร็จแล้วเทน้ำทิ้งพร้อมใส่น้ำเย็นลงไปใหม่ จุ่มเสื้อผ้าซ้ำอีกเรื่อย ๆ จนกว่าฟองจะหายออกทั้งหมด หลังจากนั้นก็ทำให้ผ้าแห้งด้วยการนำผ้าขนหนู 2 ผืนมาประกบ แล้วไล่กดน้ำออก อย่าเผลอม้วนเด็ดขาด เมื่อทำไปเรื่อย ๆ สักประมาณ 3-5 ครั้ง หรือจนพอใจแล้ว ก็ให้นำไปวางไว้บนผ้าขนหนูผืนใหม่จนกว่าจะแห้ง (ถ้าเป็นผ้าขนสัตว์อย่าลืมเก็บให้ไกลจากแสงแดดและความร้อนด้วย)
- การซักแห้งผ้าไหม
ขั้นตอนแรกเติมน้ำเย็นลงไปให้เต็มถังซักผ้า จากนั้นใส่น้ำยาสำหรับซักผ้าไหมลงไปเล็กน้อย ถ้าหากใครไม่มีสามารถใช้เป็นน้ำยาซักผ้าสูตรเด็กหรือสูตรอ่อนโยนแทนได้ จากนั้นก็แช่ผ้าลงไปซักสักประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วเทน้ำทิ้งพร้อมเติมน้ำเย็นลงไปใหม่ จากนั้นก็จุ่มเสื้อเพื่อล้างให้สะอาด แล้วจึงนำไปตากให้แห้ง
- การซักแห้งเสื้อกันหนาว
นำเสื้อกันหนาวใส่ไปในถุงซักผ้าเพื่อป้องกันความเสียหาย จากนั้นนำไปปั่นที่เครื่องซักผ้าได้ตามปกติ แต่ทางที่ดีควรเลือกการซักแบบถนอมผ้าและใช้น้ำเย็นในการซัก สุดท้ายเมื่อผ้าปั่นเสร็จ ให้รีบนำเสื้อมาสะบัดแรง ๆ แล้วรีบตากลมให้แห้ง เท่านี้ก็จะช่วยให้เสื้อไม่ยับ ไม่เหม็น และสะอาดพร้อมใช้งานอีกครั้งแล้ว
- การซักแห้งเสื้อขนเป็ด
วิธีซักแห้งเสื้อขนเป็ดด้วยตัวเองก็คล้าย ๆ กับการซักมืออื่น ๆ คือ เติมน้ำเย็นลงไปในถัง จากนั้นผสมน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนลงไป แต่ถ้าจะให้ดีควรใช้น้ำยาสำหรับซักเสื้อขนเป็ดหรือเสื้อขนสัตว์โดยตรง ที่สำคัญคือต้องเป็นน้ำยาสูตรธรรมชาติ เลี่ยงสูตรที่มีสารเคมี จากนั้นก็ค่อย ๆ กด ๆ เสื้อผ้าลงไปในน้ำอย่างเบามือ พร้อมทั้งถูคราบสกปรกออกได้เบา ๆ แต่ห้ามขยี้หรือทำรุนแรงเด็ดขาด รวมถึงห้ามปั่นในเครื่องด้วย เพราะจะทำให้ขนสัตว์ข้างในพันหรือรวมกันเป็นก้อนจนเสียหายได้ สุดท้ายก็วางตากลมธรรมชาติให้แห้ง เท่านี้ก็จะเป็นอันเสร็จ
- การซักแห้งเสื้อสูท
เสื้อสูทสามารถซักได้ทั้งมือและเครื่อง ซึ่งสำหรับการซักสูทด้วยมือ ให้ผสมน้ำเย็นกับน้ำยาซักผ้าไหมหรือน้ำยาซักผ้าขนสัตว์เข้าด้วยกัน จากนั้นจุ่มเสื้อลงไปแบบขึ้น ๆ ลง ๆ เพื่อทำความสะอาด อย่าลืมถูเบา ๆ ที่คราบบนเสื้อด้วย เสร็จแล้วก็ค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วนำมาตากให้แห้ง
ส่วนการซักสูทด้วยเครื่องซักผ้า เริ่มแรกให้ใส่เสื้อสูทลงไปในถุงตาข่าย จากนั้นตั้งเครื่องซักผ้าให้ปั่นแบบถนอมในผ้าและใช้น้ำเย็นในการซัก อย่าลืมใช้น้ำยาสูตรอ่อนโยนด้วย และเมื่อเสร็จแล้วก็นำออกมาตามแบบธรรมชาติได้เลย
- การซักแห้งเสื้อหนังสัตว์
การซักเสื้อหนังสัตว์ต้องอ่านคำแนะนำอย่างละเอียด ซึ่งถ้าหากเสื้อสกปรกไม่มากก็สามารถทำความสะอาดเองได้ โดยให้นำผ้าเปียกมาเช็ดคราบสกปรกออกอย่างเบามือ ห้ามถูหรือขัดแรง ๆ แต่ถ้าหากคราบฝังแน่น ก็ให้หาสเปรย์ทำความสะอาดหนังมาฉีดช่วย หรือไม่ถ้าหากใครอยากใช้วิธีซักมือก็ทำได้ โดยให้ผสมน้ำเย็นกับน้ำยาล้างจานหรือสบู่น้ำมันมะกอกเข้าด้วยกัน จากนั้นแช่เสื้อทิ้งไว้ พร้อมถูเบา ๆ บริเวณที่เป็นคราบ ล้างออกให้สะอาด เสร็จแล้วค่อยนำไปตากให้แห้ง
การซักแห้งตามร้านราคาแพงใช่เล่น เริ่มต้นตัวละตั้งหลายร้อยบาท ฉะนั้นถ้าหากไม่ใช่เนื้อผ้าชนิดพิเศษมาก จะลองซักด้วยตัวเองดูก่อนก็น่าจะเข้าท่า ช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก drycleanersweb, thespruce, thesecretyumiverse.wonderhowto, sewguide, cleanipedia, wikihow และ บรีส