9 วิธีเลือกสีตามหลักวิทยาศาสตร์ แบบไหนช่วยให้บ้านสวยเป๊ะ และเหมาะกับแต่ละห้อง

          ห้องนี้สีไหนดี ? มาดูวิธีเลือกสีทาห้องให้เหมาะสมกับแต่ละห้องตามหลักวิทยาศาสตร์ บอกเลยนอกจากความสวยงามแล้ว ยังส่งผลทางด้านจิตวิทยาด้วย
          การเลือกสีทาบ้าน ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการตกแต่งบ้าน เพราะแต่ละสีให้ความรู้สึกและสไตล์ที่แตกต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเลือกสีให้เหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มความสุขให้กับการใช้ชีวิตในบ้านได้ ว่าแต่สงสัยไหมคะว่าเราควรทาห้องไหนสีอะไรดี เลือกสีทาภายยังไงให้เด่น มาทางนี้เลยค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีเลือกสีทาห้องให้เหมาะสมกับแต่ละห้องตามหลักวิทยาศาสตร์มาฝากใครกำลังมองหาไอเดียแต่งบ้านอยู่ ต้องห้ามพลาดเด็ดขาดเลย

1. ห้องรับแขก : สีชมพูอ่อน

วิธีเลือกสีทาห้อง

          มีหลักฐานมากมายที่ช่วยพิสูจน์ว่า สีชมพูอ่อนเป็นสีที่ให้ความจรรโลงใจและความเงียบสงบ สีชมพูอ่อนจึงเหมาะกับห้องที่ค่อนข้างวุ่นวายหรือมีคนอยู่รวมกันเยอะ ๆ เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก เพราะจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่ถ้าหากใครอยากให้รู้สึกสดใสหรืออยากให้บรรยากาศดูสนุกสนานขึ้นมาหน่อย จะจับคู่กับสีมินต์หรือสีเหลืองพาสเทล ก็เข้าท่าไม่น้อยเลยล่ะ

2. ห้องนอนเด็ก : สีเขียวพาสเทล

วิธีเลือกสีทาห้อง

          สีเขียวเป็นสีแห่งความสงบ สดชื่น และเป็นธรรมชาติ จึงสามารถใช้ทาบ้านได้แทบทุกเฉด ไม่ว่าจะสีเขียวอ่อนหรือสีเขียวเข้มก็เอาอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้ทาห้องได้แทบทุกห้อง โดยเฉพาะในห้องนอนเด็กเพราะจะช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเฉดสีที่เหมาะสมกับห้องนอนเด็กมากที่สุด ควรเป็นแนวสดใส เช่น สีเขียวอ่อนหรือสีเขียวพาสเทล เป็นต้น

3. ห้องครัว : สีเหลืองอบอุ่น

วิธีเลือกสีทาห้อง

          วิคเตอร์ ทีรอนโดลา (Victor Tirondola) เจ้าของ Manor Works Painting บริษัทรับทาสีชั้นนำของอเมริกา ให้คำแนะนำว่า สีเหลืองอบอุ่นคล้ายสีเนย เป็นโทนสีที่เหมาะกับห้องครัวมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับห้องครัวที่มีห้องกินข้าวในตัว เนื่องจากเฉดสีนี้สามารถกระตุ้นความอยากอาหารและกระตุ้นพลังงานไปได้พร้อม ๆ กัน แล้วถ้าหากใครเป็นคนตื่นสายหรือไม่ชอบตื่นเช้าละก็ บอกเลยว่าการได้ทำอาหารหรือนั่งกินข้าวในห้องครัวสีเหลือง จะช่วยเพิ่มความกะตือรือร้นและแรงบันดาลใจต้อนรับเช้าวันใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

4. ห้องนอน : สีน้ำเงินเข้ม

วิธีเลือกสีทาห้อง

           ในขณะที่สีฟ้าให้ความรู้สึกสนุกสนานและตื่นตัว สีน้ำเงินกลับให้ความรู้สึกสงบและดื่มด่ำ ดังนั้น จอห์น โมเชลล์ (John Mochelle) สถาปนิกจากนิวยอร์กจึงแนะนำว่า สีน้ำเงิน โดยเฉพาะสีน้ำเงินเข้ม เป็นโทนสีที่เหมาะจะนำมาตกแต่งห้องนอนมากที่สุด แต่อย่างไรก็อย่าลืมผสมผสานสีน้ำเงินเข้ากับสีฟ้าด้วย เพื่อช่วยให้ไม่มืดทึบมากเกินไป อีกทั้งยังช่วยให้ดูลงตัวและกลมกลืนมากขึ้นนั่นเอง

5. ห้องออกกำลังกาย : สีแดงเข้ม

วิธีเลือกสีทาห้อง

          ทาร่า โพโลนี่ (Tara Polony) อินทีเรียดีไซน์ชาวเท็กซัส ให้คำแนะนำว่า หากต้องการเพิ่มพลังงานและแพชชั่นให้กับตัวเอง การใช้สีแดงทาห้องคือคำตอบที่ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นผลการวิจัยจาก The Journal of Athletic Enhancement ยังระบุว่า สีแดงช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางกายได้อีกต่างหาก ฉะนั้นใครกำลังมองหาสีทาฟิตเนสหรือห้องออกกำลังกายอยู่ ลองหยิบสีแดงมาใช้กันดูนะ

6. ห้องศิลปะ : สีม่วงอ่อน

วิธีเลือกสีทาห้อง

          ห้องศิลปะเป็นห้องที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ ฉะนั้น ดี ชลอตเตอร์ (Dee Schlotter) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสีจาก PPG Paints จึงแนะนำว่า ให้ลองคิดนอกกรอบและใช้สีทาบ้านที่แปลกใหม่ดูบ้าง ซึ่งสีม่วงอ่อน เช่น สีม่วงลาเวนเดอร์หรือสีม่วงไลแลค ก็เป็นคำตอบที่ดี เพราะในขณะที่สีม่วงเข้มให้ความรู้สึกเศร้าหมอง ขมุกขมัว และสิ้นหวัง สีม่วงอ่อนกลับให้ความรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา และช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ จึงสรุปได้ว่าสีม่วงอ่อนเป็นโทนสีที่เหมาะจะใช้ทาห้องทำงานศิลปะ เพื่อช่วยจุดประกายความคิดและจินตนาการนั่นเอง นอกจากนี้หากจับคู่เข้ากับสีโทนกลาง เช่น สีเทาหรือสีเบอร์รี่ ก็น่าจะช่วยให้ดูแจ่มว้าวได้ไม่เบาเลยทีเดียว

7. ห้องกินข้าว : สีขาวครีมหรือสีวอร์มไวท์

วิธีเลือกสีทาห้อง

          แน่นอนว่าสีขาวสามารถใช้ได้กับทุกห้อง เพราะเป็นสีพื้นฐานที่มีความเรียบง่ายในตัว ทว่าสำหรับห้องกินข้าวแล้ว ขอแนะนำให้เลือกเฉดสีที่พิเศษขึ้นมาหน่อย ได้แก่ สีขาวครีมหรือสีขาววอร์มไวท์ เนื่องจากสีโทนนี้จะช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่น ต้อนรับ และเป็นมิตร ส่งผลให้เรามีความสุขกับการรับประทานอาหารมากขึ้นนั่นเอง

8. โถงทางเดินเข้าบ้าน : สีเทาหรือสีเงิน

วิธีเลือกสีทาห้อง

          เพราะโถงทางเดินเข้าบ้านเป็นบริเวณที่ผู้คนพลุกพล่านและวุ่นวายมากที่สุด ดังนั้นจึงเหมาะกับสีเทาหรือสีเงิน เพราะเป็นโทนสีที่ให้ความสงบเรียบง่าย ช่วยทำให้บรรยากาศผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ซึ่ง จอห์น โมเชลล์ (John Mochelle) สถาปนิกจากนิวยอร์ก ก็ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า สีขาวเงินดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะช่วยเพิ่มความสดชื่นและมีชีวิตชีวาได้มากกว่าสีเทาที่มีความเรียบแข็งและอึมครึมสูง

9. โฮมออฟฟิศ : สีส้มสดใส

วิธีเลือกสีทาห้อง

          เนื่องจากสีส้มเป็นสีที่ช่วยเติมพลัง ทำให้สดใส ร่าเริง จึงเสริมให้ห้องอบอุ่นและน่าอยู่ขึ้นได้ ฉะนั้น จอห์น โมเชลล์ (John Mochelle) สถาปนิกจากนิวยอร์ก จึงแนะนำว่า ควรตกแต่งห้องที่ใช้พักผ่อนอย่างสนุกสนาน เช่น โฮฒออฟฟิศหรือห้องนั่งเล่นด้วยโทนสีส้ม นอกจากนี้ยังสามารถนำไปตกแต่งห้องทำงานหรือโฮมออฟฟิศได้อีกต่างหาก เนื่องจากสีส้มเป็นสีที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ดี อย่างไรก็ตามหากใช้สีส้มแต่งผนังทั่วทั้งสี่ทิศ อาจจะทำให้ดูน่ากลัวและอึดอัดมากไปหน่อย ทางที่ดีลองแต่งผนังสีส้มแค่เพียงด้านสองด้าน แล้วใช้สีขาวสะอาดกับฝั่งที่เหลือจะดีที่สุด

          โอ้โห มีเคล็ดลับการเลือกสีสำหรับแต่ละห้องครบถ้วนเลยทีเดียว เอาเป็นว่าใครกำลังชอบไอเดียไหน ก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ แต่ไม่ต้องซีเรียสมากล่ะ เพราะความจริงแล้วการเลือกสีที่เราชอบมากที่สุด ก็จะช่วยให้เรามีความสุขได้ไม่ยากนั่นเอง ^^

ขอขอบคุณข้อมูลจาก thespruce และ insider
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 วิธีเลือกสีตามหลักวิทยาศาสตร์ แบบไหนช่วยให้บ้านสวยเป๊ะ และเหมาะกับแต่ละห้อง อัปเดตล่าสุด 17 ธันวาคม 2562 เวลา 23:10:49 66,390 อ่าน
TOP
x close