วิธีจัดตู้เย็น อาหารแต่ละชนิดควรวางตรงไหน แช่ยังไงอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ช่วยยืดอายุอาหาร และเก็บไว้กินได้นานขึ้น
หลายคนคงเคยเจอปัญหาคล้าย ๆ กันว่า เวลาถามที่บ้านทีไรว่าอาหารแต่ลชนิดแช่ตู้เย็นได้นานแค่ไหน ก็มักจะได้คำตอบว่าเก็บได้นานเป็นสัปดาห์บ้าง บางครั้งก็เป็นเดือน ถึงแม้ตู้เย็นจะมีไว้เก็บอาหาร แต่อาหารแต่ละชนิดก็มีวันหมดอายุ วันนี้กระปุกดอทคอมขอลิสต์รายชื่ออาหารและเวลาแช่ตู้เย็นมาฝาก พร้อมวิธีจัดตู้เย็นให้เหมาะสมกับอาหารแต่ละชนิด เพราะแต่ละตำแหน่งมีอุณหภูมิไม่เท่ากันนะรู้หรือเปล่า
เนื่องจากตู้เย็นแต่ละชั้นมีอุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เหมือนกัน เช่น ชั้นวางด้านบนเป็นจุดที่เย็นที่สุดเพราะอยู่ใกล้กับพัดลมและคอนเดนเซอร์ ชั้นวางด้านล่างเป็นจุดที่เย็นรองลงมาเพราะอากาศตกบริเวณนี้ ส่วนชั้นวางตรงกลางและข้างประตูเป็นจุดที่อุ่นที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ดังนั้นแต่ละชั้นจึงเหมาะกับการเก็บอาหารที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ช่องฟรีซ
เหมาะจะเก็บผักและเนื้อสัตว์แช่แข็งของที่ไวต่อแสงและความร้อน เช่น เนื้อสัตว์แปรรูป เกล็ดขนมปัง แป้งสาลี ถั่ว รวมถึงน้ำซุปหรือน้ำสต๊อกต่าง ๆ ที่ทำเก็บไว้
- ชั้นวางด้านบน
เหมาะจะเก็บอาหารปรุงสำเร็จพร้อมกิน เช่น ข้าวแกง ข้าวกล่อง เครื่องปรุงที่ใช้ไม่บ่อย เช่น กะทิ พริกแกง ผลไม้ที่แช่ตู้เย็นได้ เช่น ส้ม องุ่น แอปเปิล เมลอน เบอร์รี รวมถึงของดองต่าง ๆ
- ชั้นวางตรงกลาง
เหมาะจะเก็บอาหารเหลือกินที่ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด ชีสและเนยแข็งที่ใส่กล่องอย่างดีหรือห่อด้วยแผ่นรองอบและอยู่ในถุงปิดสนิท ไข่ในแผง ขนมปังแซนด์วิช ขนมปังมันฝรั่ง และโคลด์คัตหรือเนื้อตัดเย็น (เนื้อสัตว์ปรุงสุกที่หั่นเป็นชิ้น พร้อมแก่การกินหรือทำอาหารอื่น)
- ชั้นวางด้านล่าง
เหมาะจะเก็บเนื้อสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา รวมถึงนมและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ทำจากนม
- ช่องแช่ผัก
เหมาะจะเก็บผักและสมุนไพรต่าง ๆ ที่ใส่ในถุงที่มีรูระบายอากาศหรือเปิดด้านบนเล็กน้อย
- ชั้นวางข้างประตูด้านบน
เหมาะจะเก็บไข่ที่ไม่ใส่ในแผง รวมถึงเนยหรือชีสที่ใช้บ่อยและห่ออย่างดี
- ชั้นวางข้างประตูตู้เย็นตรงกลาง
เหมาะจะเก็บเครื่องปรุงรสที่อยู่ในขวด เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก มัสตาร์ด มายองเนส และน้ำสลัด
- ชั้นวางข้างประตูตู้เย็นด้านล่าง
เหมาะจะเก็บเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น น้ำดื่ม นมสด น้ำผลไม้ และน้ำอัดลม
1. ไข่ไก่
- ไข่ดิบ เก็บในตู้เย็นได้ 3-5 สัปดาห์ ไม่ควรเก็บในช่องฟรีซ
- ไข่ต้ม เก็บในตู้เย็นได้ 1 สัปดาห์ ไม่ควรเก็บในช่องฟรีซ
- เมนูไข่ เก็บในตู้เย็นได้ 4 วัน
2. เนื้อไก่
- ไก่สดเป็นตัว เก็บในตู้เย็นได้ 1-2 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 1 ปี
- ไก่สดเป็นชิ้น เก็บในตู้เย็นได้ 1-2 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 9 เดือน
3. เนื้อสด
- เนื้อบด (หมู วัว) เก็บในตู้เย็นได้ 1-2 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 3-4 เดือน
- เนื้อสด (หมู วัว) เก็บในตู้เย็นได้ 3-5 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 4-12 เดือน
- เนื้อปรุงสุก เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 2-6 เดือน
- เครื่องในสัตว์ปีก เก็บในตู้เย็นได้ 2 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 3-4 เดือน
4. อาหารทะเล
- ปลา เก็บในตู้เย็นได้ 2 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 6 เดือน
- หอย เก็บในตู้เย็นได้ 2 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 3-6 เดือน
5. เบคอนและแฮม
- เบคอน เก็บในตู้เย็นได้ 1 สัปดาห์ เก็บในช่องฟรีซได้ 1 เดือน
- แฮมดิบ เก็บในตู้เย็นได้ 3-5 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 6 เดือน
- แฮมปรุงสุก เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 3-4 เดือน
- แฮมกระป๋องที่เปิดแล้ว เก็บในตู้เย็นได้ 5-14 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 1-2 เดือน
- แฮมกระป๋องที่ยังไม่เปิด เก็บในตู้เย็นได้ 6-9 เดือน ไม่ควรเก็บในช่องฟรีซ
6. ไส้กรอก
- ไส้กรอกเปิดซองแล้ว เก็บในตู้เย็นได้ 1 สัปดาห์ เก็บในช่องฟรีซได้ 1-2 เดือน
- ฮอตดอกยังไม่เปิดซอง เก็บในตู้เย็นได้ 2 สัปดาห์ เก็บในช่องฟรีซได้ 1-2 เดือน
- ไส้กรอกดิบ (เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว) เก็บในตู้เย็นได้ 1-2 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 1-2 เดือน
- ไส้กรอกปรุงสุก (เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว) เก็บในตู้เย็นได้ 1 สัปดาห์ เก็บในช่องฟรีซได้ 1-2 เดือน
7. สลัดและซุป
- สลัดผัก (มีไข่, ไก่, แฮม, ทูน่า) เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน ไม่ควรเก็บในช่องฟรีซ
- ซุป (ผักหรือเนื้อ) เก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน เก็บในช่องฟรีซได้ 2-3 เดือน
8. อาหาร
- อาหารสำเร็จรูปที่ซื้อมาจากร้านค้า เก็บในตู้เย็นได้ 4 วัน
- อาหารที่กินเหลือ เก็บในตู้เย็นได้ 2-3 วัน
เอาเป็นว่าต่อไปนี้จะเก็บ จะตุนอะไร ก็อย่าลืมคำนึงถึงอายุของอาหารแต่ละชนิดด้วยนะคะ อ๊ะ ๆ ๆ อย่างไรก็ตามระยะเวลาดังกล่าวเป็นเพียงแค่ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ทางที่ดีต้องตรวจเช็กสภาพ กลิ่น และสีของอาหารก่อนนำมาปรุงทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัวนั่นเอง