The Forestias by MQDC ทุ่มงบ 25 ล้าน เปิดโครงการ "Forest for Life สร้างป่าสร้างชีวิต" มอบเงินช่วยผู้ประสบปัญหาโควิด 1,000 ครอบครัว ครอบครัวละ 15,000 บาท เพื่อให้ช่วยดูแลกล้าไม้ 1.2 ล้านต้น ในระยะเวลา 3 เดือน โดยมีกรมป่าไม้ให้ความรู้และเชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนเพาะกล้า

• โครงการ The Forestias by MQDC เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวคิดในการสร้างเมืองคู่ป่า ได้เล็งเห็นโอกาสในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด 19 จึงได้ร่วมประสานกับชุมชนผ่านมูลนิธิพุทธรักษา และเครือข่ายผู้ให้ The Givers Network
• โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมป่าไม้ ทำหน้าที่ให้ความรู้วิชาการ แนะนำเครือข่ายชุมชนเพาะกล้าจำหน่าย โดยจะเปิดตัวโครงการนำร่องแห่งแรกที่ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี
14 พฤษภาคม 2563 จ.ชลบุรี - นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า โครงการ The Forestias by MQDC ได้เล็งเห็นว่าผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 นั้นได้กระจายผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับความลำบากมากขึ้น รวมถึงมีผู้ตกงาน หรือผู้ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจมากมาย จึงมองเห็นโอกาสว่า The Forestias by MQDC เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวคิดในการสร้างเมืองคู่ป่า มีแนวคิดในการมุ่งเน้นให้คนเห็นความสำคัญของการเพิ่มพื้นที่สีเขียวอยู่แล้ว จึงเกิดไอเดียที่จะเข้าช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับชุมชนโดยใช้การสร้างป่าเข้ามาเป็นหัวใจหลักในการช่วยเหลือ
จึงได้จัดโครงการ "Forest for Life สร้างป่าสร้างชีวิต" โดยที่จะนำกล้าไม้ไปให้ครอบครัวที่เข้าร่วมเป็นเครือข่ายตามที่กำหนดจากชุมชน นำไปดูแลอนุบาลให้เติบโตขึ้น เป็นระยะเวลา 90 วัน หรือ 3 เดือน โดยประมาณ โดยจะมีเงินช่วยเหลือให้ 5,000 บาทต่อครอบครัว โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด รวม 15,000 บาท
จากนั้นกล้าไม้จะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับหน่วยงานราชการ เช่น กองสาธารณะ กรุงเทพมหานคร สำหรับสร้างเสริมพื้นที่สีเขียว หรือนำไปร่วมโครงการแจกกล้าไม้คนเมือง บางส่วนนำมาใช้กับโครงการของ The Forestias แจกจ่ายประชาชนทั่วไป หรือชุมชนที่รับต้นกล้าไปดูแลต้องการพื้นที่สีเขียว ก็จะมอบให้ เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว

"ปัจจุบันนี้ เราต่างเห็นผลลัพธ์ว่าปัญหาผืนป่าหรือต้นไม้ที่ลดลง ทำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของพวกเราทุกคน เช่น เรื่องอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้สภาพแวดล้อมในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในเขตศูนย์สูตร มีอากาศร้อนอยู่แล้ว ยิ่งมีอากาศร้อนมากขึ้น มีฝุ่นพิษมากขึ้น ทำให้มีปัญหาด้านสุขภาพตามมา โครงการสร้างป่าสร้างชีวิตนี้ จึงตอบโจทย์ช่วยแก้ปัญหาสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ประกอบกับในช่วงที่ชุมชนมีผู้ว่างงานจากสภาวะวิกฤตโควิดในครั้งนี้ ทางโครงการจึงขอมีส่วนช่วยในการให้ทุนเพื่อการดำเนินชีวิตเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัว ผ่านการให้ชาวชุมชนช่วยดูแลกล้าไม้" นายคีรินทร์ กล่าว

โครงการนี้มีเป้าหมายในการช่วยเหลือ 1,000 ครอบครัว ซึ่งอยู่ในชุมชนที่สมัครเข้าโครงการ แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรก กล้าไม้จำนวน 6 แสนต้น และผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ จำนวน 500 ครอบครัว เฟสสอง กล้าไม้จำนวน 6 แสนต้น และผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ จำนวน 500 ครอบครัว โดยได้จัดสรรงบประมาณให้โครงการนี้จำนวน 25 ล้านบาท
"เราเชื่อมั่นว่า เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายความคิดเรื่องการสร้างพื้นที่สีเขียว ความผูกพันระหว่างคนกับต้นไม้ และสร้างความแข็งแกร่งและความผูกพันให้ชุมชน" นายคีรินทร์ กล่าว
การสนับสนุนครั้งนี้เม็ดเงินจะถึงชาวบ้านทุกภาคส่วน โดยกล้าไม้ที่ใช้ในโครงการนี้จำนวน 1.2 ล้านต้น ซื้อมาจากชุมชนที่เป็นเครือข่ายเพาะกล้าของทางกรมป่าไม้ ซึ่งทำการเพาะกล้าเพื่อจำหน่ายเป็นการสร้างรายได้ ทำให้ชุมชนเพาะกล้าเหล่านั้นได้รับเม็ดเงินค่ากล้าไม้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในส่วนครอบครัวในชุมชนที่รับกล้าไม้ไปดูแลก็จะได้รับเงิน 15,000 บาท ในระยะเวลา 90 วัน โดยแบ่งมอบเป็น 3 งวด เมื่อครบเวลาที่กำหนด ต้นไม้ที่ชุมชนดูแลรวมจำนวน 1.2 ล้านต้น จะมอบบางส่วนให้ทางกองสาธารณะ กรุงเทพมหานคร สำหรับสร้างเสริมพื้นที่สีเขียว หรือนำไปร่วมโครงการแจกกล้าไม้คนเมือง มอบให้กับพื้นที่ที่ดูแลกล้าไม้ และมอบให้กับประชาชนทั่วไป


นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส โครงการ The Forestias by MQDC บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า โครงการ The Forestias by MQDC เป็นอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกของโลกที่มนุษย์เราสามารถอยู่อาศัยได้จริงท่ามกลางสภาพ แวดล้อมแบบธรรมชาติ ที่ที่เราจะมีต้นไม้และสัตว์อาศัยอยู่รวมกัน ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพและเอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต โดยคนทุกวัย ทุกเจเนอเรชั่น สามารถอยู่และร่วมกันทำกิจกรรมได้อย่างมีความสุขแบบยั่งยืน
จุดเด่นของโครงการที่สำคัญคือ การมอบพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ประมาณ 30 ไร่ เป็นผืนป่าใจกลางโครงการ โดยจะเป็นป่าที่แท้จริง เพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมดุลให้คืนกลับมาใหม่
การเปิดโครงการ Forest For Life สร้างป่าสร้างชีวิต ในครั้งนี้ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ขยายแนวคิดในการสร้างพื้นที่สีเขียวนี้ออกไปสู่สาธารณะมากขึ้น ต้นไม้จากโครงการนี้บางส่วน จะนำมาปลูกต่อไปในป่าของโครงการ The Forestias by MQDC ที่บางนา กิโลเมตรที่ 7 ซึ่งถือว่าเป็นป่าที่แท้จริงใจกลางเมือง
"เราหวังว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และอยากให้ทุกคนในชุมชนได้ร่วมกันส่งต่อขยายผลให้งอกเงยออกไปในวงกว้างให้มากที่สุด เพราะหากชุมชนมองเห็นโอกาสจากการสร้างป่าสร้างชีวิตแล้ว แน่นอนว่าผลดีย่อมตกกับชุมชน หากชุมชนช่วยเหลือตัวเองได้ มีรายได้เพียงพอไม่เดือดร้อน สังคมจะมีความสุข จะส่งผลดีต่อประเทศชาติในที่สุด" นายกิตติพันธุ์ กล่าว
ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ รองประธานมูลนิธิพุทธรักษา กล่าวว่า ทางโครงการ The Forestias ได้มีความร่วมมือกับทางมูลนิธิพุทธรักษา และเครือข่ายผู้ให้ The Givers Network ในการที่จะสรรหาและคัดเลือกชุมชนที่จะเข้าร่วมกับโครงการ
โดยเนื่องจากข้อจำกัดด้านการขนส่งกล้าไม้ จึงจะขอเป็นชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่ใกล้เคียง หลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือ คือ
1. การสมัครเข้ามาเป็นชุมชน ในบริเวณกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่ใกล้เคียง
2. ชุมชนจะต้องมีสมาชิกที่จะผ่านตามหลักเกณฑ์ไม่ต่ำกว่า 20 ครัวเรือน โดยจะพิจารณาจากชุมชนที่เดือดร้อนที่สุดก่อน สมาชิกของชุมชนมาในลักษณะครัวเรือน โดยแต่ละครัวเรือนที่สมัครและจะผ่านการคัดเลือก ต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด และไม่มีสมาชิกในครัวเรือนที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการของรัฐบาลแล้ว เพื่อเป็นการแบ่งเบาบรรเทาทุกข์ให้ทั่วถึง
3. ครัวเรือนที่สมัครจะต้องมีพื้นที่เพื่อวางกล้าไม้อย่างน้อย 20 ตารางเมตร หรือถ้าชุมชนจะจัดหาที่ส่วนกลาง เช่น วัดและโรงเรียน ก็สามารถทำได้ โดยทางโครงการจะช่วยเหลือค่าน้ำตามสมควรให้กับที่สาธารณะที่ให้พื้นที่กับโครงการนี้
4. แต่ละครัวเรือนจะรับกล้าไม้ไปดูแล 1,200 ต้น โดย 1,000 ต้น จะเป็นกล้าไม้กลุ่มป่าไม้และไม้พุ่ม รวมถึงไม้มีค่าต่าง ๆ และอีก 200 ต้น จะเป็นกลุ่มพืชสวนครัว
โครงการตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,000 ครัวเรือน เพื่อดูแลต้นกล้า 1.2 ล้านต้น โดยแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรก 500 ครัวเรือน ดูแลกล้าไม้จำนวน 6 แสนต้น ซึ่งชุมชนนำร่องคือ ชุมชนวัดทุ่งเหียง จำนวน 26 ครัวเรือน


ข้อมูลที่เราพบจากชุมชนวัดทุ่งเหียง พบว่า บางครอบครัวประสบปัญหา ขาดรายได้ทั้งครอบครัว เพราะสมาชิกในบ้านจำนวน 4-5 คน ต้องตกงานทุกคน ทำให้ไม่มีเงินเลี้ยงชีพ การเข้ามาร่วมโครงการนี้จึงช่วยทำให้ชุมชนมีรายได้พอเลี้ยงชีพในช่วงเวลา 3 เดือน ชุมชนวัดทุ่งเหียง ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีความใกล้ชิดกันระหว่างวัดและชุมชน และยินดีที่จะให้พื้นที่ของวัดและบริเวณชุมชนโดยรอบนำพื้นที่ส่วนกลางมาร่วมโครงการ
และล่าสุดทางโครงการได้จัดพิธีมอบกล้าไม้จำนวน 144,000 ต้น แก่ชุมชนบ้านอำเภอ จำนวน 120 ครอบครัว ซึ่งเป็นชุมชนที่สองตามแผนงานในเฟสแรก ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563
นอกจากชุมชน 2 แห่งข้างต้นนี้แล้ว ทางโครงการยังได้เตรียมขยายไปยังพื้นที่ชุมชนอื่น ๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันได้ประสานกับทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เพื่อดำเนินการจัดหาชุมชนและกลุ่มคนไร้บ้านเพื่อเข้าร่วมโครงการอีกด้วย
สำหรับชุมชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ www.mqdc.com