วิธีซื้อตู้เย็นมินิบาร์ ตู้เย็นขนาดเล็ก สำหรับตั้งในพื้นที่จำกัด

 วิธีซื้อตู้เย็นเล็ก ไซซ์มินิ เหมาะสำหรับตั้งในพื้นที่จำกัด ใครอยากมีตู้เย็นมินิบาร์ในห้องต้องห้ามพลาดเลย !

ตู้เย็นมินิบาร์

นอกจากตู้เย็นธรรมดาทั่วไปแล้ว ตู้เย็นเล็กหรือตู้เย็นมินิบาร์ก็เป็นของใช้ในบ้าน ที่หลายคนนิยมมีติดไว้ในบ้านไม่แพ้กัน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้เหมาะกับบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ห้องนอน บ้านขนาดเล็ก คอนโดมิเนียม และอพาร์ตเมนต์ ซึ่งถ้าหากใครอยากมีไว้ใช้สักเครื่อง แต่ยังสงสัยไม่รู้ว่าตู้เย็นไซซ์มินิ ยี่ห้อไหนดีละก็ มาทางนี้เลยค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมรวบรวมข้อมูลมาฝากกันแล้ว

ซื้อตู้เย็นมินิบาร์ ดูที่อะไรบ้าง

1. เลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

ตู้เย็นขนาดเล็ก

เหนือสิ่งอื่นใดในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้องคำนึงถึงการประหยัดไฟเป็นลำดับแรก ดังนั้น เราควรเลือกซื้อตู้เย็นที่มีสติ๊กเกอร์ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 กำกับ เพราะจะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากกว่า แต่ถ้าเป็นตู้เย็นที่มีตัวเลขต่ำกว่า 5 ลงไปก็จะยิ่งกินไฟเยอะและมีคุณภาพที่ด้อยลงไป เช่น เบอร์ 1 คือระดับต่ำสุด เบอร์ 2 คือระดับพอใช้ เบอร์ 3 คือระดับปานกลาง เบอร์ 4 คือระดับดี และเบอร์ 5 คือระดับดีมาก เปรียบเทียบเบอร์ฉลากกับค่าไฟที่ต้องเสียรายปีได้ดังนี้

  • ตู้เย็นฉลากเบอร์ 3 : กินไฟ 332 หน่วย/ปี ต้องเสียค่าไฟประมาณ 840 บาท/ปี
  • ตู้เย็นฉลากเบอร์ 4 : กินไฟ 262 หน่วย/ปี ต้องเสียค่าไฟประมาณ 644 บาท/ปี
  • ตู้เย็นฉลากเบอร์ 5 : กินไฟ 220 หน่วย/ปี ต้องเสียค่าไฟประมาณ 573 บาท/ปี

2. สังเกตจากรายละเอียดข้อมูล

ถึงแม้ข้อสังเกตนี้จะเป็นมาตรฐานทั่ว ๆ ไปที่ใช้ในการพิจารณากัน แต่ก็พลาดไม่ได้เลยนะคะ นั่นก็คือ ตู้เย็นจะต้องมีตราชื่อผู้ผลิตและเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน มีฉลากระบุรายละเอียดของประเภท รหัสรุ่น ปริมาตรภายใน และวงจรไฟฟ้าที่ครบถ้วน รวมไปถึงคู่มือแนะนำตู้เย็น เช่น รายละเอียดของตู้เย็น วิธีการใช้ วิธีการติดตั้ง อุปกรณ์ควบคุม การทำความสะอาด และการบำรุงรักษา ถ้าจะให้ดีควรเลือกตู้เย็นที่มีฉนวนกันความร้อนหนาชนิดโฟมอัดช่วยกักเก็บความเย็นได้ดี และเลือกตู้เย็นที่ใช้ระบบไฟฟ้า 220-330 โวลต์ เพราะเป็นระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมกับบ้านเรา

3. พิจารณาจากคุณสมบัติพื้นฐาน

ตู้เย็นมินิบาร์

คุณสมบัติพื้นฐานที่ว่านี้คือ ดีไซน์ภายในตู้เย็นที่ต้องเลือกให้เหมาะสม ดูทันสมัย และจัดวางสิ่งของง่าย พิจารณาได้จากส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้

  • ชั้นวาง : จะต้องถอด-เข้าออกได้ เพื่อให้ง่ายต่อการปรับขนาดช่องแช่และทำความสะอาด
  • ลิ้นชักช่องแช่ : จะต้องมีช่องแยกภายใน เพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับอาหารที่แช่
  • ชั้นวางข้างประตู : จะต้องมีขนาดกว้างพอสมควร สามารถแช่ขวดนมและขวดน้ำต่าง ๆ ได้ดี

4. ฟีเจอร์เสริม

ฟีเจอร์เสริม คือคุณสมบัติเพิ่มเติมในการใช้งานที่ตู้เย็นแต่ละตู้มีไม่เหมือนกัน ซึ่งจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าต้องการใช้งานคุณสมบัติเหล่านั้นหรือไม่

  • ระบบทำความเย็นแบบคู่ (Dual-cooling system) : ช่องแช่แข็งจะกระจายลมเย็นแยกจากช่องแช่เย็นธรรมดา เพื่อให้อุณหภูมิช่องแช่แข็งมีประสิทธิภาพ
  • ระบบกรองอากาศ (Air filtration) : จะมีช่องกรองอากาศแบบคาร์บอนในตัว ช่วยลดกลิ่นอับภายในตู้เย็น
  • แผงควบคุมการทำงาน (Programmable control pad) : เป็นแผงปุ่มตั้งค่าอุณหภูมิ ล็อกความเย็น เช็กตัวกรอง และระดับน้ำต่าง ๆ ในเครื่อง
  • ระบบประหยัดพลังงาน (Energy-saving models) : นวัตกรรมอัจฉริยะที่ช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่กินไฟ งดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และช่วยลดค่าไฟในแต่ละเดือน

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ตู้เย็นมินิบาร์ : 

เป็นตู้เย็นที่มีขนาดกะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีมากเลยทีเดียว เอาเป็นว่าบ้านใครมีพื้นที่จำกัดก็ลองไปหาซื้อตู้เย็นจิ๋วเหล่านี้มาใช้กันดูนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : minifridge.co.uk และ familyhandyman.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีซื้อตู้เย็นมินิบาร์ ตู้เย็นขนาดเล็ก สำหรับตั้งในพื้นที่จำกัด อัปเดตล่าสุด 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 13:49:11 146,423 อ่าน
TOP
x close