เตารีดไอน้ำ มาดูวิธีการเลือกซื้อและดูแลเตารีดไอน้ำ ตัวช่วยสำคัญในการทำให้เสื้อผ้าตัวโปรดเรียบร้อย พร้อมแนะนำ 10 รุ่นยอดนิยมในราคาไม่เกิน 2,000 บาท
ปัจจุบันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เตารีด เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต่อทุกบ้าน เพราะช่วยทำให้เสื้อผ้าที่ยับย่นกลับกลายเป็นเรียบร้อย สวยงาม และในตอนนี้ก็มีเตารีดให้เลือกใช้มากมายหลายประเภท ซึ่งในวันนี้เราจะขอพูดถึง เตารีดไอน้ำ ที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ หรือคนที่ต้องการประหยัดเวลาในการรีดผ้า หากใครกำลังมองหาเตารีดไอน้ำยี่ห้อดี ๆ วันนี้เรามีมาแนะนำให้ถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน
แต่ก่อนที่จะไปดูว่า เตารีดไอน้ำ ยี่ห้อไหนดี มาทำความรู้จักกับเตารีดไอน้ำกันก่อนว่า คืออะไร ทำงานยังไง และมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกับเตารีดปกติอย่างไร
เตารีดไอน้ำ (Steam Iron) คือ เตารีดที่ใช้ไฟฟ้าในการให้ความร้อน เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดพิเศษที่อยู่ด้านใน จะเกิดเป็นความร้อนและถ่ายเทไปยังแผ่นความร้อน และภายในเตารีดจะมีแท็งก์น้ำ เมื่อมีความร้อนมาก ๆ น้ำในช่องเก็บน้ำจะหยดลงไปในแผ่นเหล็ก และทำให้เกิดไอน้ำ ซึ่งไอน้ำนี้จะถูกพ่นออกไปด้านนอกโดยอัตโนมัติระหว่างการรีด ทำให้เส้นใยของเนื้อผ้าอ่อนนุ่มลงและรีดผ้าเรียบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ เตารีดไอน้ำยังสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ เตารีดไอน้ำธรรมดาทั่วไป ที่มีรูปทรงและรูปลักษณ์คล้ายกับเตารีดปกติ แต่จะมีช่องหรือถังสำหรับบรรจุน้ำ และบริเวณแผ่นทำความร้อนจะมีรูเล็ก ๆ สำหรับปล่อยไอน้ำออกมา และเตารีดไอน้ำแบบที่มีสายพ่นเป็นทรงตั้ง สำหรับแขวนไม้แขวนเสื้อแล้วรีดได้เลยโดยไม่ต้องใช้ที่รองรีด ซึ่งก็อาจจะมีราคาสูงกว่าเตารีดไอน้ำแบบธรรมดา นอกจากนี้ยังมีเตารีดไอน้ำสำหรับพกพา แบบไร้สาย ขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ไม่สามารถรีดผ้าในจำนวนมากได้
ซึ่งเตารีดไอน้ำนั้นก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างจากเตารีดธรรมดาทั่วไป ดังนี้
ข้อดี : ปลอดภัย เพราะมีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเตารีดอยู่นิ่ง ๆ เป็นเวลา 2-3 นาที มีน้ำหนักเบา จัดเก็บและพกพาง่าย ไม่มีเสียงดังรบกวนระหว่างการใช้ และสามารถใช้งานได้ทั้งแบบไอน้ำและแบบใช้ความร้อนธรรมดาเหมือนเตารีดทั่วไป
ข้อเสีย : ต้องเติมน้ำบ่อย ๆ เพื่อสร้างไอน้ำ และต้องดูการปิดล็อกของช่องหรือถังบรรจุน้ำให้ดี เพราะน้ำอาจจะรั่วซึมและทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ นอกจากนี้ยังมีเนื้อผ้าบางประเภทที่ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกับเตารีดไอน้ำด้วย
ปัจจุบันเตารีดไอน้ำมีหลากยี่ห้อหลายรุ่น ซึ่งก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งานของผู้บริโภค โดยที่เราสามารถเลือกซื้อเตารีดไอน้ำให้เหมาะกับวิธีการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ และความชอบของแต่ละคน แต่ก็ควรพิจารณาถึงฟังก์ชันต่าง ๆ เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานที่ดีดังต่อไปนี้
- น้ำหนัก : หากจำเป็นต้องรีดผ้าจำนวนมากเป็นเวลานาน ควรมีน้ำหนักที่พอเหมาะกับกำลังมือของผู้ใช้งาน ถ้าหนักเกินไปก็จะควบคุมได้ยาก และถ้าเบาเกินไปก็ทำให้ต้องออกแรงมากขึ้น ทั้งนี้ ควรเลือกเตารีดที่มีน้ำหนักเบา หรือไม่เกิน 1 กิโลกรัม เพราะในระหว่างการใช้งานจะต้องเติมน้ำเพิ่มเข้าไปอีก
- แผ่นความร้อน : ควรเลือกแผ่นความร้อนที่ทำจากเซรามิก หรือสเตนเลส เพราะทนทาน ให้ความร้อนได้ดี นอกจากนี้ผู้ผลิตเตารีดไอน้ำบางรายยังเคลือบแผ่นความร้อนเซรามิกด้วยวัสดุอื่น ๆ เพื่อให้รีดได้ลื่นมากกว่าเดิม และช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้นด้วย
- พลังไอน้ำสูงและต่อเนื่อง : ยิ่งเตารีดปล่อยไอน้ำออกมาในระหว่างการรีดผ้าได้มากและเร็วเท่าไร ก็จะช่วยทำให้ผ้าเรียบเร็วขึ้น รีดผ้าได้เร็วขึ้น และช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าด้วย
- ความยาวของสายไฟ : โดยทั่วไปแล้วสายไฟของเตารีดจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 เมตร เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน ทั้งนี้ เตารีดไอน้ำเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าแรงสูง จึงไม่เหมาะที่จะใช้สายไฟต่อ เนื่องจากความร้อนสูงเกินไปอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ จึงควรเลือกเตารีดที่มีสายไฟยาวพอดีตัว เพื่อให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้สายพ่วง
- ระบบปิดอัตโนมัติ : ถือเป็นคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่มีประโยชน์มาก เพราะเตารีดที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลาหนึ่งจะถูกตัดกระแสไฟทันที
- แผงควบคุม : เตารีดไอน้ำที่มีขายในท้องตลาดนั้นมีแผงควบคุมที่แตกต่างกัน บางรุ่นมีแป้นหมุน บางรุ่นเป็นแบบรางเลื่อน รวมถึงบางรุ่นที่เป็นแผงควบคุมแบบดิจิทัลด้วย
- คุณภาพของแผ่นความร้อน : เตารีดไอน้ำแต่ละรุ่นมีแผ่นความร้อนที่แตกต่างกัน บางชนิดมีคุณสมบัติกันติด ไม่เป็นรอย ให้ความร้อนเร็ว รีดได้เรียบลื่น ไม่สะดุด
- ช่องหรือถังสำหรับบรรจุน้ำ : ควรเป็นแบบโปร่งใส เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นว่าน้ำเหลือมากน้อยเพียงใด เพราะถ้าน้ำแห้งเกินไป อาจจะเกิดความเสียหายต่อทั้งตัวเตารีดและเนื้อผ้าได้ นอกจากนี้เตารีดที่มีถังน้ำใหญ่กว่าก็จะให้แรงดันไอน้ำที่มากกว่าเตารีดที่มีถังน้ำเล็กกว่าด้วย
ก่อนจะเริ่มต้นการใช้งานเตารีดไอน้ำ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
- ตรวจสอบป้ายกำกับบนเสื้อผ้าเพื่อกำหนดการตั้งค่าความร้อนที่เหมาะสมที่สุด จากนั้นตั้งระดับอุณหภูมิของเตารีดตามฉลากบนเสื้อผ้า และรอเวลาให้เตารีดร้อนขึ้น สำหรับเตารีดบางรุ่นอาจจะมีไฟสว่างขึ้นมาเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนดไว้ ระหว่างที่รอให้เตารีดร้อน ให้กางเสื้อผ้าที่ต้องการรีดลงบนที่รองรีด จากนั้นคลุมด้วยผ้าบาง ๆ เพื่อป้องกันเนื้อผ้า เพราะหากรีดด้วยเตารีดไอน้ำโดยตรงอาจจะเป็นการทำร้ายเนื้อผ้าที่บอบบางได้ จากนั้นให้เปิดระบบรีดด้วยไอน้ำ และเริ่มต้นรีดผ้าได้เลย ทั้งนี้ เตารีดบางรุ่นจะมีระบบปล่อยไอน้ำอัตโนมัติ แต่บางรุ่นก็จะต้องกดปุ่มเพื่อพ่นไอน้ำออกมา และไม่ควรวางเตารีดไว้บนจุดใดจุดหนึ่งบนเสื้อผ้านานเกินไป
- รีดแต่ละส่วนของเสื้อผ้าให้เรียบ โดยไม่จำเป็นต้องให้เนื้อผ้าแห้งแข็งจนเกินไป ผ้าควรจะชื้นเล็กน้อยหลังจากที่รีดเสร็จ ในกรณีผ้าที่หนา เช่น ยีน หรือกำมะหยี่ สามารถถือเตารีดให้อยู่เหนือเนื้อผ้าเล็กน้อย และใช้ระบบฉีดพ่นไอน้ำ เพื่อฉีดน้ำลงบนรอยยับให้เส้นใยคลายตัว จากนั้นจึงค่อยกดเตารีดทับลงมาและรีดตามปกติ
- เมื่อรีดผ้าเสร็จแล้วให้ถอดปลั๊กเตารีด และค่อย ๆ เทน้ำออกในขณะที่เตารีดยังมีความร้อนอยู่ จากนั้นให้วางลงบนที่วางทิ้งไว้ให้เย็นสนิท ค่อย ๆ พันสายไฟหลวม ๆ และเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น
เพื่อให้เตารีดไอน้ำยังคงสภาพดี พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ควรดูแลรักษาตามวิธีต่าง ๆ ดังนี้
- ใช้น้ำกลั่นเติมในช่องหรือถังบรรจุน้ำ ไม่ควรใช้น้ำประปา เพราะจะทำให้เกิดตะกรันสะสมและปิดกั้นรูไอน้ำบนแผ่นทำความร้อนได้
- หากหน้าเตารีดมีคราบแป้ง ให้เทน้ำส้มสายชูลงบนผ้าแห้งสะอาด และเช็ดทำความสะอาดบนพื้นผิวที่เย็นของเตารีดให้ทั่ว
- หากมีคราบสกปรกสะสมอยู่ในช่องหรือถังบรรจุน้ำ และในรูของแผ่นทำความร้อน ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน เติมลงในช่องใส่น้ำของเตารีด จากนั้นเปิดเครื่องให้ร้อน และปล่อยให้ไอน้ำเดือดเป็นเวลา 5 นาที
- หากเกิดคราบไหม้ติดบนแผ่นความร้อนเตารีด ให้เปิดเตารีดในอุณหภูมิสูงที่สุด จากนั้นเทเกลือจำนวนหนึ่งลงบนถุงกระดาษสีน้ำตาลหรือแผ่นหนังสือพิมพ์ และนำเตารีดไปถูเบา ๆ กับเกลือจนคราบไหม้ที่ติดอยู่หลุดออกมา
1. เตารีดไอน้ำ Sonar
เตารีดไอน้ำ Sonar รุ่น SI-T63 กำลังไฟฟ้า 1,000 วัตต์ น้ำหนักเบา ไม่เปลืองแรง ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติก มาพร้อมแผ่นทำความร้อนเคลือบเทฟลอนอย่างดี ช่วยให้รีดผ้าเรียบและไม่ติดผ้า สามารถเลือกปรับอุณหภูมิความร้อนตามชนิดผ้าและพ่นไอน้ำได้ ช่วยประหยัดไฟ ราคา 690 บาท
2. เตารีดไอน้ำ Beko
เตารีดไอน้ำ Beko รุ่น SIM3617 กำลังไฟฟ้า 1800 วัตต์ ความจุแท็งก์น้ำ 220 มิลลิลิตร สามารถปรับได้ทั้งอุณหภูมิความร้อนและแรงดันไอน้ำ 2 ระดับ สามารถให้แรงดันไอน้ำต่อเนื่องได้ 12 กรัม/นาที และแรงดันไอน้ำพิเศษ 100/นาที แผ่นทำความร้อนเคลือบสารกันติดเพื่อให้รีดผ้าเรียบได้อย่างใจ ไม่สะดุด แถมมีระบบทำความสะอาดตัวเครื่องอัตโนมัติ ราคา 690 บาท
3. เตารีดไอน้ำ Smart Home
เตารีดไอน้ำ Smart Home รุ่น SSIR-925 กำลังไฟฟ้า 1800 วัตต์ สายไฟยาว 1.5 เมตร ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกคุณภาพดี ทนความร้อนสูงได้ แผ่นความร้อนเคลือบด้วยสาร Non Stick ไม่ติดเนื้อผ้า มีระบบไอน้ำและสเปรย์ฉีดน้ำในตัว สามารถปรับความร้อนให้เหมาะกับเนื้อผ้าได้หลายชนิด พร้อมฟังก์ชันเพิ่มแรงดันไอน้ำ ช่วยให้เสื้อเรียบได้เร็วขึ้น ราคา 899 บาท
4. เตารีดไอน้ำ Panasonic
เตารีดไอน้ำ Panasonic รุ่น NI-M300TVSF กำลังไฟฟ้า 1800 วัตต์ มาพร้อมระบบไอน้ำทรงพลัง แรงดันไอน้ำ 80 กรัม/นาที และให้พลังไอน้ำต่อเนื่องได้ 20 กรัม/นาที เคลือบแผ่นให้ความร้อนด้วย Titanium ช่วยให้สามารถรีดผ้าได้ลื่นไม่มีสะดุด เพิ่มความทนทานและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี สามารถรีดผ้าแนวตั้ง เช่น ผ้าม่านหรือเสื้อผ้าแบบแขวนได้ พร้อมระบบป้องกันการสะสมของคราบตะกรันในตัว ราคา 990 บาท
5. เตารีดไอน้ำ Klindo
เตารีดไอน้ำ Klindo รุ่น KSI260AF-17 กำลังไฟฟ้า 2600 วัตต์ แท็งก์น้ำขนาด 320 มิลลิลิตร แรงดันไอน้ำ 320 กรัม/นาที และให้พลังไอน้ำต่อเนื่องได้ 40 กรัม/นาที ใช้แผ่นความร้อนเซรามิกและตัวกรองพิเศษป้องกันการเกิดคราบตะกรันหน้าเตารีด ปรับความร้อนได้ 3 ระดับ และสามารถใช้รีดแนวตั้งได้ด้วย ราคา 1,100 บาท
6. เตารีดไอน้ำ Philips
เตารีดไอน้ำ Philips รุ่น GC2990/20 กำลังไฟฟ้า 2300 วัตต์ ความจุแท็งก์น้ำ 320 มิลลิลิตร แรงดันไอน้ำพิเศษ 140 กรัม/นาที และให้พลังไอน้ำต่อเนื่องได้ 40 กรัม/นาที ใช้แผ่นให้ความร้อนแบบ Steam Glide ช่วยให้สามารถรีดผ้าได้ลื่น เรียบไว มีความทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และทำความสะอาดได้ง่าย ตัวเครื่องน้ำหนักเบา มาพร้อมระบบ Calc Clean กำจัดตะกรันและระบบป้องกันน้ำหยดขณะรีด ราคา 1,290 บาท
7. เตารีดไอน้ำ Tefal
เตารีดไอน้ำ Tefal รุ่น FV1848 กำลังไฟฟ้า 2500 วัตต์ แรงดันไอน้ำ 130 กรัม/นาที และให้พลังไอน้ำต่อเนื่องได้ 40 กรัม/นาที ใช้แผ่นความร้อนเซรามิก ช่วยให้ผ้าเรียบไว แม้จะเป็นเนื้อผ้าหนา ๆ มาพร้อมกับหน้าเตาขนาดใหญ่พิเศษ ช่วยลดเวลารีดไปในตัว นอกจากนี้ยังมีปุ่มปล่อยไอน้ำที่ด้ามจับ ใช้งานง่าย ถนัดมือ พร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ ราคา 1,590 บาท
8. เตารีดไอน้ำ Electrolux
เตารีดไอน้ำ Electrolux รุ่น ESI5226 กำลังไฟฟ้า 2400 วัตต์ แรงดันไอน้ำ 120 กรัม/นาที และให้พลังไอน้ำต่อเนื่องได้ 32 กรัม/นาที ใช้แผ่นความร้อน Glissium เคลือบเซรามิก ปรับระดับความร้อนได้ตามความต้องการ พร้อมแถบแสดงความร้อนเมื่อเตารีดร้อนหรือเย็นลง ราคา 1,590 บาท
9. เตารีดไอน้ำ Bosch
เตารีดไอน้ำ Bosch รุ่น TDA2329TH กำลังไฟฟ้า 2200 วัตต์ แรงดันไอน้ำ 70 กรัม/นาที และให้พลังไอน้ำต่อเนื่องได้ 22 กรัม/นาที ใช้แผ่นความร้อน PalladiumGlissée Ceramic ช่วยให้รีดผ้าได้ลื่น ผ้าเรียบ และไม่เป็นรอยยับ ปรับความร้อนและไอน้ำได้หลายระดับ มีระบบขจัดตะกรัน 3 ชั้น ราคา 1,790 บาท
10. เตารีดไอน้ำ Thompson
เตารีดไอน้ำ Thompson รุ่น EL2059AGR กำลังไฟฟ้า EL2059AGR มาพร้อมแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ ช่วยให้รีดผ้าได้นานโดยไม่ต้องเติมน้ำบ่อย และแผ่นให้ความร้อนเคลือบเซรามิก รีดได้ต่อเนื่องไม่สะดุด ไม่ติดผ้า มีทั้งระบบพ่นไอน้ำและพ่นสเปรย์ ใช้งานได้สะดวก กับความร้อนที่มีให้เลือกถึง 3 ระดับ และฟังก์ชันกำจัดตะกรันในตัว ราคา 1,995 บาท
เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับ 10 เตารีดไอน้ำที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยดี ๆ ในการรีดผ้า ก็ลองเลือกดูให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของตัวเองได้เลยนะคะ