x close

เปิดสัมพันธ์รักต้องห้าม พี่น้องอยู่กิน สานรักแบบผัวเมีย แม้ติดคุก - ลูกพิการ ก็ไม่สน

         เปิดเรื่องราวสัมพันธ์รักต้องห้าม พี่น้องอยู่กินกัน สานสัมพันธ์ฉันท์ผัวเมีย ไม่แคร์โลกแม้ลูกพิการ 2 ใน 4 คน ยังดื้อฝืนกฎหมาย เรียกร้องให้สัมพันธ์นี้เป็นเรื่องถูก

รักต้องห้าม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

         วันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานเรื่องราวความรักต้องห้ามระหว่างคู่พี่น้องในเยอรมนี ที่ยืนกรานจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแม้รู้ทั้งรู้ว่าสัมพันธ์ดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับและผิดกฎหมาย ต่อให้ฝ่ายชายถูกตัดสินโทษจำคุกมาแล้วหลายรอบ ก็ยังเลือกที่จะรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ โดยอ้างว่ามันเป็นสิทธิมนุษยชนของพวกเขา และยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้เยอรมนียุติกฎหมายที่ขัดขวางความสัมพันธ์ดังกล่าว

ครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ - ถูกแยกจากกันตอนเด็ก


         รายงานเผยว่า แพทริก สตูบิง พี่ชายวัย 44 ปี และ ซูซาน คาโรลีวสกี น้องสาววัย 37 ปี เกิดมาในครอบครัวที่มีความบกพร่องและยากจน ในบรรดาพี่น้องทั้ง 8 คน มีหลายคนที่พิการตั้งแต่กำเนิด บางคนเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก แต่ละคนแทบไม่ได้รับการศึกษา แม่ของพวกเขาเป็นคนติดบุหรี่และไม่มีงานทำ ขณะที่พ่อก็มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง  

         แพทริก ซึ่งเป็นลูกคนที่ 3 ถูกทางการนำตัวไปดูแลหลังถูกพ่อแท้ ๆ ใช้มีดทำร้ายตอนที่เขาอายุ 3 ขวบ จากนั้นก็มีคนรับเขาไปเป็นลูกบุญธรรม จนกระทั่งตอนที่เขาอายุ 18 ปี แพทริกก็ตัดสินใจจะออกตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอีกครั้ง

         ขณะที่ ซูซาน ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้าย เกิดมาในตอนที่พ่อกับแม่หย่าร้างกันเสร็จสิ้น เธอเติบโตมาโดยไม่ได้รับความรักและความใส่ใจ ผู้เป็นแม่มักจะทิ้งเธอให้อยู่บ้านตามลำพัง หรือพาคนรักใหม่มาเริงรักขณะที่ลูกสาวยังอยู่ด้วย มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นภาระของแม่

พบกันครั้งแรก ก่อนใช้ชีวิตร่วมกัน


         เวลาผ่านไป 4 ปีหลังจากที่แพทริกเริ่มตามหาครอบครัว ในที่สุดเขาก็พบว่าพ่อที่เคยทำร้ายเขาเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนแม่อาศัยอยู่กับลูกอีก 2 คน หนึ่งในนั้นคือซูซานที่เขาเพิ่งจะได้พบเป็นครั้งแรก จากนั้นแพทริกก็ตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่กับแม่ และน่าประหลาดใจที่แม่อนุญาตให้เขาแชร์ห้องนอนร่วมกับลูกสาวคนเล็ก ที่ตอนนั้นอายุ 15 ปี

         แพทริกเคยเล่าถึงความสัมพันธ์ของเขากับซูซานในตอนนั้นว่า พวกเขามักจะอยู่คุยกันจนดึกดื่น เรื่องความฝันและความหวังของทั้งคู่

จุดเปลี่ยนความรัก จากพี่น้องสู่สัมพันธ์ต้องห้าม


         แต่หลังจากแพทริกย้ายมาอยู่ได้พียง 6 เดือน แม่ของเขาก็เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย เช่นเดียวกับ อังเดร พี่น้องอีกคนซึ่งมีความพิการ ได้เสียชีวิตลงในปีเดียวกัน การสูญเสียคนในครอบครัวไปทำให้ซูซานต้องพึ่งพาแพทริกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 คน

         ซูซาน เผยว่า ความไว้วางใจได้เติบโตขึ้นมาเป็นรูปแบบของความรักที่แตกต่าง ตอนที่แม่ของเธอเสียชีวิตไป

         ขณะที่แพทริกชี้ว่า เขากลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องปกป้องน้องสาว เธอเป็นคนอ่อนไหวมาก แต่พวกเขาก็ช่วยเหลือกันและกันระหว่างช่วงเวลาอันยากลำบาก กระทั่งในที่สุดความสัมพันธ์นั้นก็ขยับขึ้นมากลายเป็นความสัมพันธ์ทางกาย

         พี่น้องเริ่มหลับนอนด้วยกันไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ซึ่งจากข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในศาลพบว่า แพทริกกับซูซานร่วมหลับนอนด้วยกันถึง 16 ครั้ง ระหว่างเดือนมกราคม - สิงหาคม 2544 โดยแทบจะไม่ป้องกันเลย


         แพทริกอ้างว่า เขาไม่รู้ว่าทำอะไรผิดตอนที่เริ่มหลับนอนกับน้องสาว เขาไม่ได้คิดถึงการใช้ถุงยางอนามัยด้วย เขากับน้องไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการมีอะไรกันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จริงอยู่ว่าแม่ของเขาคงไม่ยอมรับเรื่องนี้ แต่เพียงคนเดียวที่จะตัดสินพวกเขาได้ในตอนนี้ ก็คือตัวของพวกเขาเอง

เรื่องถึงศาล แต่ยังไม่ยอมตัดใจ


         อย่างไรก็ตาม แม้แพทริกไม่คิดว่าความรักระหว่างตัวเองกับน้องสาวเป็นปัญหา สังคมกลับไม่คิดเช่นนั้น โดยในเดือนตุลาคม 2544 หลังจากที่ซูซานให้กำเนิดลูกคนแรก ทางการก็ทราบเรื่องและนำตัวลูกของทั้งคู่ไปอยู่ในความดูแล และต่อมาในปี 2545 แพทริกถูกศาลในเมืองไลพ์ซิก ของเยอรมนี ตัดสินว่ามีความผิดฐานร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง ซึ่งมีโทษจำคุก 1 ปี ขณะที่ซูซานซึ่งขณะนั้นอายุ 17 ปี ถูกนำตัวไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานคุ้มครองเยาวชน

         แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยังคงอยู่ด้วยกันและมีลูกอีก 2 คน ทำให้ศาลตัดสินโทษจำคุกแพทริกนาน 10 เดือน ก่อนที่แพทริกจะต้องขึ้นศาลอีกครั้งในปี 2548 เมื่อลูกคนที่ 4 คลอดออกมา ทำให้เขาต้องติดคุกอีกครั้งจากความผิดเดิม

ไม่ยอมเลิกรา แม้ลูกพิการ 2 คน


         ทั้งนี้ สำหรับลูก ๆ ทั้ง 4 คนของพวกเขา พบว่าลูกชายคนโตขณะนี้อายุ 20 ปี มีความพิการ แทบจะไม่สามารถเดินหรือพูดได้ ส่วนลูกสาวคนที่ 2 ตอนนี้อายุ 19 ปี มีความพิการเช่นเดียวกับพี่คนโต ขณะที่ลูกสาวอีก 2 คนมีสภาพร่างกายปกติ

         ในตอนที่แพทริกถูกนำตัวเข้าคุกไป ซูซานเผยกับสื่อทั้งน้ำตาว่าเธอคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ขณะที่แพทริกก็ขู่จะฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่พี่ชายอยู่ในคุก ซูซานก็ได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 5 โดยมีผู้ชายคนอื่นเป็นพ่อเด็ก แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อแพทริกได้รับการปล่อยตัว เธอก็เลือกที่จะกลับไปหาเขา และบอกกับนักข่าวว่า "ฉันมีความสุขที่แพทริกอยูที่นี่ และฉันได้มีเขาอีกครั้ง ฉันต้องการเขา"

         แม้ว่าลูก ๆ ที่เกิดมาจะมีความพิการหลายคน แพทริกก็ยังอ้างว่า เรื่องที่ลูก 2 คนพิการนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการที่เขากับคนรักเป็นพี่น้องกัน เขาอ้างว่าในครอบครัวก็ยังมีคนอื่น ๆ ที่เกิดมาพร้อมความพิการเช่นกัน หลายคนไม่รอดชีวิตจากความพิการนั้นด้วยซ้ำ อีกทั้งเขากับซูซานก็คงไม่ได้มีลูกด้วยกันเยอะขนาดนี้ หากลูกคนโตไม่ถูกพลัดพรากไป


         “ลูกคนอื่น ๆ อาจไม่ได้เกิดมา ถ้าพวกเขาไม่พรากลูกคนแรกไปจากเรา เราก็แค่อยากทำให้มั่นใจว่าจะไม่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปอีกครั้ง”

ต่อสู้เพื่อยกเลิกกฎหมาย หวังให้สัมพันธ์นี้ถูกต้อง


         ทั้งนี้ แพทริกและซูซานยังคงพยายามจะต่อสู้เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ถูกจัดเป็นอาชญากรรมอีกต่อไป โดยมีการยื่นเรื่องถึงศาลสิทธิมนุษยชนเพื่อขอให้พิจารณา ผลักดันให้ยกเลิกกฎหมายห้ามการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องในเยอรมนี แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่สำเร็จ

         แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ และเลือกจะปกป้องความสัมพันธ์นี้ต่อไป โดยซูซานเปิดใจว่า เธอกับแพทริกไม่ได้รู้จักกันมาก่อนในวัยเด็ก และเพิ่งมารักกันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ความรักที่เกิดขึ้นเป็นของจริง ซึ่งเธอทำอะไรไม่ได้ เธอกับเขาต่างดึงดูดซึ่งกันและกัน

         “เราทำตามสัญชาตญาณและหัวใจของเรา” ซูซาน กล่าว

         ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดสัมพันธ์รักต้องห้าม พี่น้องอยู่กิน สานรักแบบผัวเมีย แม้ติดคุก - ลูกพิการ ก็ไม่สน โพสต์เมื่อ 3 พฤษภาคม 2565 เวลา 11:28:02 292,294 อ่าน
TOP