10 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แรงดูดทรงพลัง เก็บกวาดได้ทุกซอกมุม

อยากได้ตัวช่วยดี ๆ ในการทำความสะอาดพื้นบ้าน ต้องนี่เลย ! หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เจ้าเครื่องตัวจิ๋วแต่พลังแจ๋ว ช่วยดูดฝุ่น ทำให้บ้านสะอาดทุกซอกทุกมุม

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น

พื้นบ้านสะอาดไร้ฝุ่นเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากให้เป็น แต่การทำความสะอาดกลับเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เพราะต้องใช้ไม้กวาดเดินกวาดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้น อีกทั้งยังต้องก้มลงกวาดหรือถูพื้นใต้โต๊ะหรือตู้ต่าง ๆ รวมถึงมุมห้องหรือขอบที่ไม้กวาดเข้าไม่ถึงอีก แล้วจะทำอย่างไรดีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าวได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยที่กำลังได้รับความนิยมและถูกพูดถึงอย่างมากก็คือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่จะมาช่วยลดขั้นตอนในการทำความสะอาดและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้คนในยุคสมัยนี้ แถมปัจจุบันมีผู้สนใจสั่งซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำนองเดียวกับบริษัทผู้ผลิตที่มีการออกแบบและจำหน่ายหุ่นยนต์ดูดฝุ่นออกมาหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งาน สำหรับใครที่กำลังสนใจแต่ยังลังเลว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร แตกต่างกับเครื่องดูดฝุ่นปกติตรงไหน และควรเลือกซื้อยี่ห้ออะไรดี เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นคืออะไร ?

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuum Cleaner) เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนการทำงานด้วยมอเตอร์ พร้อมระบบทำความสะอาดคอยเก็บกวาดสิ่งสกปรกบนพื้นบ้านให้อัตโนมัติ โดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องวิ่งชนหรือกระแทกกับของใช้ในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ รวมทั้งบริเวณที่เป็นพื้นต่างระดับ ซึ่งบางรุ่นก็มีระบบถูพื้นให้ในตัว ในขณะที่บางรุ่นมีสเตชั่นหรือถังไว้สำหรับเก็บสิ่งสกปรก เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องนำฝุ่นไปเททิ้งบ่อย ๆ ด้วย

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย : เมื่อตั้งโปรแกรมเครื่องสำหรับพื้นที่ที่กำหนดและตั้งเวลาไว้สำหรับเวลาเริ่มต้นที่กำหนดไว้แล้ว เจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็จะทำงานเองอัตโนมัติ นอกจากนี้หลายรุ่นยังถูกปรับปรุงให้สามารถควบคุมทิศทางได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการชนเครื่องเรือนต่าง ๆ หรือตกจากบันได
  • ฟังก์ชันการทำงานที่มีประสิทธิภาพ : บางรุ่นมีระบบจดจำแผนผังพื้นที่ในห้อง หรือกลับไปแท่นชาร์จได้เองเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด นอกจากนี้ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นระดับไฮเอนด์บางรุ่นยังมีเซ็นเซอร์ขั้นสูงที่สามารถเปลี่ยนระหว่างพื้นเปล่าและพื้นปูพรมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนการตั้งค่าด้วยตนเองอีกด้วย ทำให้การทำความสะอาดพื้นผิวห้องหรือบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยประหยัดเวลา : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่นสามารถสั่งงานด้วยสัญญาณ Wi-Fi และควบคุมผ่านทางแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ ทำให้ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยในขณะที่เครื่องทำงาน
  • ทำงานได้บนพื้นผิวที่แตกต่างกัน : โดยทั่วไปหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะออกแบบมาให้สามารถดูดฝุ่น ทำความสะอาดพื้นผิวได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่พรม พื้นไม้เนื้อแข็ง เสื่อน้ำมัน หรือพื้นคอนกรีตก็ได้
  • ตรวจจับทุกระดับของสิ่งสกปรก : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเหล่านี้จะมีแรงดูดที่ทรงพลัง สามารถจัดการกับสิ่งสกปรกทุกประเภทได้ ตั้งแต่ฝุ่นผงเล็ก ๆ ที่ปลิวตกลงมาจนถึงเศษสิ่งสกปรกที่ฝังลึกในพรม
  • สามารถกำหนดขอบเขตการทำงานได้ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่นจะมีระบบตั้งค่าผนังเสมือนเพื่อกำหนดพื้นที่ในการทำงาน เพื่อจำกัดขอบเขตและป้องกันไม่ให้เครื่องข้ามประตูและช่องเปิดอื่น ๆ รวมถึงไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณตกใจด้วย
  • ขนาดเล็ก กะทัดรัด และง่ายต่อการจัดเก็บ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีขนาดเล็กกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมมาก สามารถจัดเก็บได้อย่างง่ายดายในทุกพื้นที่ เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จัดเก็บจำกัด อีกทั้งเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างง่ายดาย
  • ทำให้การทำความสะอาดบ้านเร็วขึ้น : เนื่องจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานแบบพอเพียงและทำงานด้วยตัวเอง ทำให้มีเวลามากขึ้นในการทำความสะอาดส่วนอื่น ๆ ของบ้าน เมื่อทำงานควบคู่กันจะช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทำความสะอาดบ้านได้มากขึ้น และให้ผลลัพธ์ในการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย
  • เหมาะสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว : เนื่องจากความสะดวกในการใช้งานและการทำงานแบบแฮนด์ฟรี
  • ประหยัดและคุ้มค่า : ปัจจุบันราคาของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขายในท้องตลาดเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งสามารถเลือกซื้อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของผู้ใช้ได้เลย

ข้อเสีย

  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้น : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยทั่วไปจะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 2 ชั่วโมง และทำงานต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 1-2 ชั่วโมง โดยเฉลี่ย ทำให้ไม่อาจทำความสะอาดพื้นให้เสร็จในคราวเดียวได้ในกรณีบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง
  • ทำความสะอาดได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ : ด้วยลักษณะรูปทรงของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ส่วนใหญ่มักจะออกแบบมาให้เป็นทรงกลม ทำให้บางครั้งไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดตามซอกมุมของบ้านซึ่งเป็นบริเวณที่มีฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสมอยู่มากที่สุด
  • เสียงดังรบกวน : การทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเป็นแบบใช้มอเตอร์ ทำให้มีเสียงดังในระหว่างการทำงาน แม้จะไม่ดังเท่ากับเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป แต่ก็อาจจะสร้างความรำคาญได้ จึงควรเลือกรุ่นที่ทำความสะอาดอัตโนมัติเวลาไม่อยู่บ้าน หรือควรตั้งเวลาทำความสะอาด
  • ต้องล้างถังเก็บฝุ่นบ่อย ๆ : ด้วยขนาดที่เล็กทำให้ต้องจัดการกับถังเก็บฝุ่นบ่อยขึ้นกว่าเดิม จึงควรเลือกรุ่นที่มีแท่นกำจัดขยะ โดยเฉพาะบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง 
  • ทำพรมสกปรก : หุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่สามารถดูดและถูในตัวส่วนใหญ่จะยกแผ่นถูไม่พ้นพรม ทำให้พรมเปียกชื้นและมีกลิ่นอับ หากบ้านมีพรมเยอะควรเลือกรุ่นที่ยกแผ่นถูได้สูง
  • แผ่นถูพื้นที่ซักไม่สะอาด : แท่นชาร์จที่มีระบบซักแผ่นถูมักจะซักแผ่นถูพื้นไม่สะอาด ถึงแม้ว่าจะมีระบบเป่าลมร้อนและใส่น้ำยาแล้วแต่ก็ยังกำจัดเชื้อโรคได้ไม่หมด ทำให้มีแบคทีเรียหลงเหลือ เมื่อใช้งานต่อทำให้พื้นสกปรก

ความแตกต่างระหว่าง
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกับเครื่องดูดฝุ่น

เครื่องดูดฝุ่นประเภทต่าง ๆ

แม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ออกแบบให้ทำความสะอาดพื้นผิวเหมือนกัน แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องดูดฝุ่นก็มีความแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ ดังนี้

- การทำงานด้วยตัวเอง : แน่นอนว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นกินขาดในแง่นี้ เพียงแค่ตั้งโปรแกรมให้มีระบบจดจำทิศทางและการข้ามสิ่งกีดขวาง เครื่องก็สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ แต่เครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมยังต้องใช้การควบคุมโดยผู้ใช้อยู่ดี

- ความละเอียดและประสิทธิภาพในการทำงาน : ต้องยอมรับว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีข้อเสียเปรียบตรงหัวข้อนี้ เพราะเครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมจะทำความสะอาดได้ดีกว่า และมีช่วงการทำงานที่กว้างกว่า นอกจากนี้ด้วยลักษณะของเครื่องดูดฝุ่นแบบเดิม โอกาสในการดูดถุงเท้าและสิ่งของอื่น ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจก็ลดน้อยลง เนื่องจากมีการควบคุมจากตัวผู้ใช้โดยตรง  

- การเข้าถึงในซอกมุมต่าง ๆ : เครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมจะมีหัวดูดให้เลือกหลายขนาด ทำให้สามารถซอกซอนเข้าไปดูดฝุ่นตามมุมห้อง ขอบประตู-หน้าต่าง หรือบางพื้นที่ที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นไปไม่ถึง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดเล็กที่สามารถนำไปดูดฝุ่นหรือเศษผงบนโซฟาหรือในรถยนต์ได้ด้วย

- ความสะดวกสบายในการทำความสะอาด : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่นที่มีขายในท้องตลาดมาพร้อมกับฟังก์ชันดูดฝุ่นและถูพื้นในคราวเดียวกัน ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้ประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้นด้วย

วิธีการเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

สำหรับใครที่อยากได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาไว้ใช้งานในบ้านสักเครื่อง เรามีคำแนะนำและวิธีการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ โดยพิจารณาจาก

- สำรวจบ้านของตัวเอง ดูว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในบ้านเป็นพื้นผิวแบบไหน เป็นพื้นผิวเนื้อแข็งหรือปูพรมเป็นส่วนมาก รวมถึงมีสัตว์เลี้ยงในบ้านหรือไม่

- ขนาดของพื้นที่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแต่ละยี่ห้อและรุ่น ให้การดูแลและครอบคลุมพื้นที่ต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ ยิ่งความจุเยอะเท่าไรก็ยิ่งสามารถดูแลพื้นที่ได้กว้างขึ้นเท่านั้น

- ฟังก์ชันการทำงาน ปกติหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะมีฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น ตั้งเวลา ตั้งโปรแกรมการทำงานได้ วิ่งกลับแท่นชาร์จเองได้เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด สั่งงานผ่านแอปพลิเคชันหรือควบคุมการทำงานผ่านสัญญาณ Wi-Fi รวมถึงสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อถังเก็บฝุ่นใกล้เต็ม บางรุ่นอาจมีฟังก์ชันเสริมพิเศษอื่น ๆ เช่น มีเซ็นเซอร์ป้องกันการตกจากบันไดหรือที่สูง ถูพื้นได้ ส่งข้อมูลการทำความสะอาดแบบเรียลไทม์ไปยังโทรศัพท์มือถือ และอาจจะสร้างกำแพงเสมือนจริงขึ้นมาเพื่อไม่ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไป เป็นต้น

- ราคาและบริการหลังการขายต่าง ๆ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขายในท้องตลาดส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเริ่มต้นที่หลักพันขึ้นไปจนถึงหลักหมื่นก็มี ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ และการรับประกันต่าง ๆ ของแบรนด์นั้น ๆ นอกจากนี้ยังอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าแผ่นกรองและค่าอะไหล่ต่าง ๆ

แนะนำหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี

1. เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ Hitachi รุ่น RVX15N

เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ Hitachi รุ่น RVX15N

ภาพจาก : hitachi-homeappliances.com

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยี Gyro พร้อมกำลังดูด 2700 Pa และเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการสร้างแผนที่นำทางและการทำความสะอาด สามารถดูดฝุ่น ถูพื้น และปรับระดับน้ำสำหรับเช็ดบนพื้นผิวที่แข็งได้ทั้งหมด อีกทั้งเครื่องจะกลับมายังที่ชาร์จเองเมื่อแบตเตอรี่อ่อน แถมยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากทุกที่ผ่านแอปพลิเคชัน HomeDirect อีกด้วย

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
  • ขนาดแบตเตอรี่ : - mAh
  • กำลังไฟฟ้า : - วัตต์
  • ทำงานได้ถึง : 170 นาทีต่อการชาร์จเต็ม 
  • ขนาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่น : 34.2x78.5 ซม.
  • น้ำหนักหุ่นยนต์ดูดฝุ่น : 2.9 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 7,490 บาท

2. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neatsvor รุ่น V390

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neatsvor รุ่น V390

ภาพจาก : powerbuy.co.th

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ผสานการทำงานของระบบทำความสะอาดที่ทรงพลัง เพลิดเพลินกับการควบคุมอย่างง่ายดาย และปรับการทำความสะอาดให้เหมาะสมที่สุดสำหรับพื้นที่ห้องที่มีขนาดประมาณ 30-60 ตร.ม. มาพร้อมโหมดการทำความสะอาดมากมายให้เลือก ทั้งอัตโนมัติ, กำหนดเวลา, ห้องเดี่ยว, จุดคงที่, ถู, ขอบ และการทำความสะอาดตามเส้นทางที่กำหนด

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.6 ลิตร
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 2,500 mAh
  • กำลังไฟฟ้า : 21-30 วัตต์
  • ทำงานได้ถึง90 นาทีต่อการชาร์จเต็ม 
  • ขนาด : 32x32x7.8 ซม.
  • น้ำหนัก : 2 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 7,900 บาท

3. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid

ภาพจาก : homepro.co.th

สะดวกสบายด้วยนวัตกรรมใหม่ที่รวมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและหุ่นยนต์ถูพื้นมาไว้ในเครื่องเดียว เพียงแค่ถอดกล่องเก็บฝุ่นออกแล้วใส่แท็งก์น้ำเข้าไปแทนที่ เครื่องก็จะปรับโหมดโดยอัตโนมัติ มาพร้อมเทคโนโลยี Edge Detective Sensor ป้องกันการตกจากที่สูง และเทคโนโลยี Navigator Sensor หลบหลีกสิ่งกีดขวาง เดินผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ถึง 15 มม. สามารถสั่งงานผ่านสัญญาณ Wi-Fi ควบคุมการทำงานผ่านแอปฯ บนโทรศัพท์มือถือ ทำความสะอาดทุกพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างสะอาดหมดจด สะดวกสบายกว่าที่เคย

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 2,600 mAh
  • กำลังไฟฟ้า : 20-25 วัตต์
  • ทำงานได้ถึง : 180 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
  • ขนาด : 31x31x7 ซม.
  • น้ำหนัก : 2.6 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 9,900 บาท

4. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Philips รุ่น FC8792/01

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Philips รุ่น FC8792/01

ภาพจาก : philips.co.th

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นดีไซน์บางเป็นพิเศษ แต่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม พร้อมระบบทำความสะอาด 2 ขั้นตอน เพื่อดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรก โดยแปรงด้านข้างจะกวาดฝุ่นทั้งหมด ในขณะที่พลังดูดแรงสูงจะดูดฝุ่นทั้งหมดเข้าไป มีฟังก์ชันการตั้งกำหนดการ 24 ชั่วโมง และโหมดการทำความสะอาด 4 โหมด สำหรับบริเวณที่แตกต่างกัน รวมถึงฟังก์ชัน Philips SmartPro Easy ซึ่งเป็นระบบตรวจจับสุดทันสมัย จากการทำงานร่วมกันระหว่างชิปอัจฉริยะ เซ็นเซอร์ 23 ตัว และ Accelerometer ปรับเปลี่ยนการทำความสะอาดให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อม มาในดีไซน์บางพิเศษและกะทัดรัด ทำให้สามารถทำความสะอาดพื้นที่ข้างใต้ที่มีระดับต่ำได้

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 2,100 mAh
  • กำลังไฟฟ้า : 55 วัตต์
  • ทำงานได้ถึง : 105 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
  • ขนาด : 30x30x5.85 ซม.
  • น้ำหนัก : 2 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 12,900 บาท

5. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung รุ่น VR05R5050WK

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung รุ่น VR05R5050WK

ภาพจาก : samsung.com

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Robot พร้อมระบบทำความสะอาดแบบ 2 in 1 ช่วยประหยัดแรงและเวลาได้ด้วยการดูดฝุ่นและถูพื้นไปพร้อม ๆ กัน โดยเครื่องจะดูดฝุ่นและสิ่งสกปรก และถังน้ำจะสามารถตรวจจับได้ว่าติดตั้งแผ่นม็อบถูพื้นหรือยัง พร้อมทั้งสามารถสลับไปใช้การถูพื้นและปรับปริมาณน้ำได้โดยอัตโนมัติ ควบคุมผ่านสัญญาณ Wi-Fi สั่งเปิด-ปิดเครื่อง ตั้งตารางการทำความสะอาดหลาย ๆ เวลา ปรับแรงดูดและควบคุมความเร็วของการถูพื้นและการไหลของน้ำได้ด้วยสัมผัสเดียว สะดวกในการล้างทำความสะอาดด้วยตัวถังเก็บฝุ่น EZ Empty Dustbin ที่ถอดออกมาเททิ้งและทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ยังเลือกได้ว่าจะทำความสะอาดแบบไหน เพราะมีโหมดทำความสะอาดหลายแบบ มาในดีไซน์บางเฉียบ เคลื่อนที่เข้าไปใต้เฟอร์นิเจอร์ เตียง และพื้นที่ต่ำ ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุมเต็มพื้นที่

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 200 มม.
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 3,400 mAh
  • กำลังไฟฟ้า : 55 วัตต์
  • ทำงานได้ถึง : 150 นาทีต่อการชาร์จเต็ม (ในความกว้างพื้นที่ 160 มม.)
  • ขนาด : 34x34x8.5 ซม.
  • น้ำหนัก : 3 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 12,900 บาท

6. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Tefal รุ่น RG7447WH

Tefal รุ่น RG7447WH

ภาพจาก : tefal.co.th

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบบ 4 in 1 ตัวเครื่องดีไซน์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด ด้วยความสูงเพียง 6 ซม. เข้าถึงจุดที่ทำความสะอาดยากได้อย่างง่ายดาย มีเทคโนโลยีไจโรและเซ็นเซอร์อินฟราเรดช่วยนำทางไปยังจุดที่ต้องการ หลบเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ดี รวมถึงแปรง Turbo Brush ที่สามารถปัดกวาดเช็ดถูได้ทุกพื้นผิว พร้อมตัวกรองดักจับฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ให้ผู้ใช้ปลอดภัยจากภูมิแพ้อีกด้วย 

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร 
  • ขนาดแบตเตอรี่ : - mAh
  • ทำงานได้ถึง : 90 นาทีต่อการชาร์จเต็ม 
  • กำลังไฟฟ้า : 55 วัตต์
  • ขนาด : 34x34x4.06 ซม.
  • น้ำหนัก : 4.73 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 12,900 บาท

7. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Ecovacs Deebot รุ่น U2 Pro

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Ecovacs Deebot รุ่น U2 Pro

ภาพจาก : ecovacs.com

ถูกใจบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจากแบรนด์ Ecovacs กับนวัตกรรมชุดดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น ถังขยะขนาดใหญ่ช่วยเก็บสิ่งสกปรกในปริมาณมากได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลัดขน และแปรงป้องกันสิ่งสกปรกเข้าไปพันกับขนแปรง ทำความสะอาดได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังมีโหมด Max+ เพิ่มพลังดูดเพื่อรองรับขนสัตว์เลี้ยง พร้อมด้วยเทคโนโลยีถูพื้น Ozmo ที่สามารถสลับฟังก์ชันการดูดฝุ่นผสมกับการถูพื้นที่อัปเกรดใหม่สำหรับการทำความสะอาดที่ครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีระบบการเชื่อมต่อผ่านแอปฯ ช่วยให้ควบคุมและกำหนดเวลาการทำความสะอาดหรือตรวจสอบสถานะการทำความสะอาดปัจจุบันได้อีกด้วย เก็บกวาดพื้นที่ได้กว้างถึง 200 ตร.ม.

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.4 ลิตร
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 3,200 mAh
  • ทำงานได้ถึง : 120 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
  • กำลังไฟฟ้า : 26 วัตต์
  • ขนาด : 33.9x33.7x7.9 ซม.
  • น้ำหนัก : 5 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 16,500 บาท

8. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi รุ่น X10

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi รุ่น X10

ภาพจาก : homepro.co.th

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบบ 2 in 1 มาพร้อมแรงดูดทรงพลัง 17,000 Pa พร้อมเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ LDS ช่วยสแกนภาพและนำมาใช้ในการสร้างแผนที่ รวมถึงนำทางในการกำจัดสิ่งสกปรกยังจุดที่ต้องการ ทำงานได้ดีแม้พื้นที่มืดหรือแสงน้อย หลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ รวมถึงแท่นชาร์จและช่องเก็บขยะที่มีระบบปิดซีลอัตโนมัติป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.25 ลิตร 
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 5,200 mAh
  • ทำงานได้ถึง : 180 นาทีต่อการชาร์จเต็ม 
  • กำลังไฟฟ้า : 1,000 วัตต์ (รวมแท่นชาร์จ)
  • ขนาด : 35x35.3x9.88 ซม.
  • น้ำหนัก : 3.3 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 12,900 บาท

9. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot® Roomba® i7+

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot® Roomba® i7+

ภาพจาก : irobotthailand.com

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba i7+ พร้อม Clean Base™ แท่นกำจัดขยะอัตโนมัติ สามารถเก็บขยะได้มากถึง 30 ครั้ง พร้อมระบบการทำความสะอาด 3 ขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นหัวแปรงยางคู่ที่ปัดกวาดได้ทุกพื้นผิว พร้อมแรงดูดเพิ่มพลัง 10 เท่า มาพร้อมกับเทคโนโลยี Imprint™ สำหรับสร้างแผนที่ในการทำความสะอาด แถมยังสามารถสั่งการได้จากทุกที่ ทั้งวิธี เวลา และพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาด 

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.5 ลิตร
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 1,800 mAh
  • กำลังไฟฟ้า : 30 วัตต์
  • ทำงานได้ถึง : 75 นาทีต่อการชาร์จเต็ม 
  • ขนาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่น : 33.8x9.2 ซม.
  • น้ำหนักหุ่นยนต์ดูดฝุ่น : 3.37 กิโลกรัม
  • ขนาด Tower : 31x38.4x48.3 ซม.
  • น้ำหนัก Tower : 12.02 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 26,900 บาท

10. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Electrolux รุ่น Purei9.2

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Electrolux รุ่น Purei9.2

ภาพจาก : electrolux.co.th

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีระดับปฏิวัติวงการ AIVI™ ที่จะยกระดับการโต้ตอบและทำความสะอาดล้ำลึกกว่าที่เคย สามารถจดจำอุปสรรคหลากหลายได้โดยอัตโนมัติ พร้อมหลีกเลี่ยงวัตถุต่าง ๆ และแนะนำการทำความสะอาดแบบพิเศษโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบ TrueMapping สร้างแผนที่บ้านด้วยความแม่นยำเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า ทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลาเพราะสามารถดูดฝุ่นและถูพื้นในเวลาเดียวกันได้ มี Video Streaming ขณะที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาดสามารถตรวจเช็กการทำความสะอาดได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปฯ Ecovacs Home รองรับการสั่งงานผ่านสัญญาณ Wi-Fi และระบบบ้านอัจฉริยะ สั่งงานด้วยเสียงในการควบคุมแบบแฮนด์ฟรีด้วย Google Assistant หรือ Alexa ได้

  • ขนาดของถังเก็บฝุ่น : 0.42 ลิตร
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 5,200 mAh
  • ทำงานได้ถึง : 180 นาทีต่อการชาร์จเต็ม
  • กำลังไฟฟ้า : 40 วัตต์
  • ขนาด : 40x41.8x17 ซม.
  • น้ำหนัก : 4.1 กิโลกรัม
  • ราคาประมาณ : 32,500 บาท

ใครที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาไว้ช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาดบ้าน คงจะได้แนวคิดในการตัดสินใจเลือกซื้อกันแล้ว รับรองว่าได้ผู้ช่วยทำความสะอาดที่ถูกใจ ตอบโจทย์การทำงาน และเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์แน่นอนค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แรงดูดทรงพลัง เก็บกวาดได้ทุกซอกมุม อัปเดตล่าสุด 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา 23:11:59 48,235 อ่าน
TOP