รีวิวสร้างบ้านสวนในฝัน ขนาดพื้นที่ 48 ตารางเมตร บรรยากาศธรรมชาติ มีบ่อน้ำและโรงจอดรถ ออกแบบและคุมงานเองทุกขั้นตอน

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เนื่องจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้รับที่ดินจากพ่อแม่ของภรรยาพร้อมสระน้ำ 2 บ่อ ที่ต่างจังหวัด ทำให้เจ้าของกระทู้และภรรยาอยากปลูกบ้านริมน้ำ จึงได้หาคนออกแบบและผู้รับเหมา ตลอดจนคุมงานและตรวจรับงานเอง หน้าตาบ้านจะน่าอยู่ขนาดไหนและมีอุปสรรคอะไรบ้างหรือไม่ ถ้าอยากรู้ตามมาดูกัน
รีวิวสร้างบ้านสวนในฝัน 1 ห้องนอน 1 ห้องโถง 1 ห้องน้ำ งบประมาณไม่เกิน 5 แสน
โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การสร้างบ้านสวนในฝันหลังนี้ เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การเตรียมที่ดินและการสรรหาผู้รับเหมาก่อสร้าง การตรวจรับงาน เพื่อเป็นแนวทางการสร้างบ้านสำหรับคนที่มีความฝันเหมือนกัน ในวันนี้ความฝันผมเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป จึงอยากจะนำประสบการณ์ที่ดีนี้ส่งต่อครับ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านหลังนี้เกิดจากการที่พ่อแม่ของภรรยาได้ยกที่ดิน จ.ชัยภูมิ ให้ และในที่ดินนั้นมีสระน้ำถึง 2 บ่อ ที่ดินที่อยู่ตรงกลางเว้นว่างไว้ ความคิดที่จะมีบ้านริมน้ำในจินตนาการของเราทั้งสองจึงเกิดขึ้นทันที หลังจากนั้นได้หาดูรูปแบบของบ้านที่ชอบแล้วสรุปออกมา
ขั้นตอนต่อไปคือ หาคนเขียนแบบบ้าน เนื่องจากที่ดินที่มีอยู่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่บ่อน้ำทั้ง 2 ฝั่ง สามารถสร้างบ้านได้ลึกสุด 11 เมตร แต่มีขนาดกว้างเพียง 8-9 เมตร ซึ่งไม่เพียงพอต่อแบบบ้านสำเร็จรูปที่เขาขายทางออนไลน์กัน จนน้องที่เคยร่วมทำงานกันแนะนำเพื่อนให้ เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้าแต่สามารถทำงานออกแบบได้ นับว่าเป็นความโชคดี เพราะคนที่รู้จักสามารถปรึกษาได้จนกระทั่งจบงาน การออกแบบจึงได้เริ่มขึ้น ตามข้อกำหนดที่มี จบที่ขนาดบ้าน 6X8 เมตร หรือ 48 ตารางเมตร ซึ่งตรงกับความต้องการและเงินในกระเป๋า

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ระหว่างที่ทำการออกแบบอยู่นั้นก็ขออนุญาตก่อสร้างและหาช่างผู้รับเหมาสร้างบ้าน ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ไม่แพ้ขั้นตอนการออกแบบบ้าน แต่แตกต่างกันตรงที่ว่าการออกแบบบ้านเราสามารถทำใหม่ได้หากไม่ถูกใจ แต่สำหรับการหาผู้รับเหมาคือหากไม่เป็นไปตามแบบที่เรากำหนดจะต้องทุบทิ้ง หรือผู้รับเหมาทิ้งงานจะเสียทั้งเงินและเวลา
ในการสรรหาช่างผู้รับเหมาเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด ผมอธิบายถึงตรงนี้อาจต้องมีหลักการหน่อย เพราะว่าเรากับผู้รับเหมาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากได้ช่างที่รู้จักกันก็จะมีข้อดีคือ ได้เห็นผลงาน รู้ถึงฝีมือกัน แต่ก็จะมีข้อเสียคือ ถ้างานไม่ตรงตามเจ้าของบ้านหรือผู้ว่าจ้างต้องการ ก็อาจจะไม่กล้าบอกให้แก้งานหรือตำหนิ เพียงเพราะคำว่า "คนกันเอง" นี่ยังไม่รวมถึงการเบิกค่างวดหรือค่าแรง ดังที่ผมกล่าวมาผมเริ่มตั้งเป้าหมายการหาผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน ซึ่งผู้รับเหมาในความคิดหรือในอุดมคติของผมก็คือ
1. จะต้องเป็นคนในพื้นที่หรือละแวกใกล้เคียง เพื่อเวลาเดินทางมาทำงานมีอุปสรรคน้อยที่สุด และหากเอาคนต่างพื้นที่มาจะต้องมีค่าใช้จ่ายของผู้รับเหมาเพิ่มขึ้น ซึ่งก็อาจทำให้ราคาค่าก่อสร้างสูงกว่าที่ควรจะเป็น
2. มีผลงานตัวอย่างเป็นที่ประจักษ์ ที่ไม่ใช่แค่รูปภาพ สามารถขอดูผลงานของผู้รับเหมาได้ ถ้าเป็นไปได้ลงไปดูฝีมือที่หน้างานด้วยตัวเองเลย ซึ่งผมได้ให้พ่อตาและภรรยาไปดูหน้างาน
3. อดีตผู้ว่าจ้างยอมรับในฝีมือและความตรงไปตรงมา ก็คือกลุ่มลูกค้าเก่าที่ผู้รับเหมาเคยรับงานหรือรับงานอยู่ อันนี้ต้องสอบถามอดีตผู้ว่าจ้างให้ละเอียด เรื่องการเบิกเงินก่อนงวดมีไหม หากมีให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าผู้รับเหมาหมุนเงินไม่ทัน อาจมีปัญหาแบบนี้อีก และผลสุดท้ายถ้าเราไม่ให้ งานก็จะไม่เดิน บ้านก็จะไม่เสร็จ
4. ปริมาณคนของทีมงานผู้รับเหมา แน่นอนคนเยอะบ้านย่อมเสร็จเร็ว คนน้อยย่อมเสร็จช้า
5. มีที่อยู่ที่พักเป็นหลักแหล่งชัดเจน ตรงนี้ผมได้นัดไปเซ็นสัญญาที่บ้านผู้รับเหมาเองเลย จะได้รู้ถึงความเป็นอยู่ของผู้รับเหมาผู้ที่จะมาสานฝันให้เรา
เมื่อได้ผู้รับเหมาและตกลงราคากันหรือข้อกำหนดแล้วก็มาถึงจุดที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้รับเหมา ซึ่งก็คือ "สัญญาว่าจ้าง" ซึ่งกล่าวถึงตรงนี้จะต้องเขียนให้รัดกุมและชัดเจน ระบุให้แน่ชัดว่ารวมค่าอุปกรณ์และค่าแรงหรือเฉพาะค่าแรงไม่รวมค่าของ พร้อมรายละเอียดของวัสดุชนิดต่าง ๆ โดยปกติแล้วเนื้อหาของสัญญาส่วนมากผู้รับเหมาจะขอค่าดำเนินการส่วนแรกหลังจากเซ็นสัญญาประมาณ 10% เป็นอย่างน้อย ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนงวดแรกที่เราต้องจ่ายให้คู่สัญญาในฐานะผู้รับจ้าง ถือว่าเป็นเงินก้อนที่วัดใจ เพราะหากผู้รับเหมาหนีงานหรือมีเจตนาฉ้อโกงก็จะเป็นปัญหาที่ต้องเป็นภาระให้ผู้ว่าจ้างไปติดตามอีก

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานตีผังขุดหลุมเสา

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานยกเสาเทฐานพื้น อย่าลืมตรวจเช็กสเปกเหล็กงานโครงสร้างก่อนนะครับ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ต่อจากนั้นเป็นงานเข้าแบบเทปูน ซึ่งตรงนี้สิ่งที่ต้องดูเป็นพิเศษคือ
- สเปกของเหล็ก คาน เสา ให้ตรงตามแบบ
- ค่ากำลังอัดของคอนกรีตให้ตรงกับที่ออกแบบ เช่น 240 280 300 Ksc.
ksc. ย่อมาจาก Kilogram Square Centimetre คือ กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร นั่นเอง โดยปกติแล้ว “กำลังคอนกรีต” ที่เราใช้กันเป็นมาตรฐานก็คือกำลังคอนกรีตที่ 240 ksc. ดังนั้นจะขอนำมาอธิบายให้แบบง่าย ๆ สมมติว่าเราสั่งคอนกรีตแรงอัด 240 ksc. นั่นหมายถึง คอนกรีตผสมเสร็จที่ได้จะรับแรงต่อพื้นที่ได้ที่ 240 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร หรือทุก ๆ พื้นที่ทางกว้างและยาว 1 เซนติเมตร จะสามารถรับน้ำหนักได้ 240 กิโลกรัมนั่นเอง ดังนั้นควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการรับน้ำหนักของเสาและพื้นบ้าน ที่สำคัญอย่าลืมขอดูเอกสารจากรถคอนกรีตจะได้แน่ใจ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- ตอนเทคอนกรีตลงแบบช่างเขาก็จะมีเครื่องจี้ปูนให้ปูนไหลไปตามซอกจนเต็มแบบ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- ถอดแบบคานแล้วก็ขนดินเข้าบ้าน ซึ่งตรงนี้ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของบ้านจะต้องหารถดินมาเทไว้รอตอนเขาถอดแบบเลยงานจะได้ต่อเนื่อง ขนดินเข้าต้องบดอัดให้แน่นด้วยนะ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานต่อไปวางเหล็กพื้นและเทคอนกรีตพื้น
งานต่อไป เข้าแบบเสา เทปูนพื้น ซึ่งตรงนี้มีความรู้มาแชร์ครับ เมื่อครู่นี้ได้กล่าวถึงค่า Ksc. ซึ่งปกติแล้วค่า Ksc. จะมีอยู่ 2 แบบ คือ Cylinder กับ Cube ค่าจะไม่เท่ากัน 240 ของ Cylinder จะเท่ากับ 210 Cube ตรงนี้คือเทคนิคเล็ก ๆ ในการใช้งานคอนกรีต ดังนั้นควรถามให้แน่ใจก่อน เนื่องจากการรับน้ำหนักและราคาคอนกรีตจะไม่เท่ากัน ด้านล่างนี้จะเป็นตัวเลขที่เปรียบเทียบระหว่างค่ากำลังอัดของคอนกรีตรูปทรงกระบอก (Cylinder) และกำลังอัดคอนกรีตรูปทรงลูกบาศก์ (Cube)

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
คอนกรีตผสมเสร็จที่ใช้กันทั่วไปในการออกแบบให้มีกำลังอัดตั้งแต่ 180-400 ksc. และนิยมใช้กันมากที่สุดคือ 240 ksc. Cylinder นอกจากนี้กำลังอัดของคอนกรีตจะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ ต้องใช้เวลา 28 วัน เป็นมาตรฐาน นับตั้งแต่วันผลิต เพราะการบ่มคอนกรีตที่ 28 วัน มีการทดสอบมาแล้วว่าเป็นจุดที่ได้กำลังคอนกรีตมากที่สุดแล้ว (บ่มนานกว่านี้ก็ไม่เพิ่มอีกแล้ว)
จากตัวเลขและกราฟสังเกตได้ว่าในช่วง 14 วันแรก กำลังคอนกรีตเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง (87%) ดังนั้นเราต้องดูแลกำลังคอนกรีตให้ดีเป็นพิเศษ เพื่อให้คอนกรีตผสมเสร็จมีคุณภาพ และได้ตรงตามค่ามาตรฐานการออกแบบ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงจะบอกว่าหากเทคอนกรีตไปแล้วเราจะต้องมีการบ่มคอนกรีตตามระยะเวลาที่เหมาะสม และห้ามไปเจาะ เคาะ หรือตีคอนกรีต ในระหว่างที่ทำการบ่ม อันจะทำให้ค่ากำลังอัดหรือค่า Ksc. ลดลง ซึ่งการบ่มคอนกรีตมีอยุู่หลายวิธี ได้แก่
- บ่มโดยการเพิ่มความชื้นเพื่อช่วยทดแทนการระเหยน้ำออกจากคอนกรีต เช่น การทำทำนบกั้นไม่ให้น้ำไหลออกสำหรับงานพื้น, การรดน้ำให้ผิวคอนกรีตเปียก โดยผิวหน้าคอนกรีตที่ยังไม่แข็งตัวต้องไม่ถูกชะล้างออกไปหมด หรือการคลุมด้วยผ้าใบแล้วราดน้ำให้เปียกชุ่มอยู่เสมอ
- บ่มโดยป้องกันไม่ให้ความชื้นระเหยออก เช่น ทิ้งแบบหล่อให้อยู่กับคอนกรีตที่หล่อไว้ให้นานที่สุด และคอยดูแลให้ผิวด้านบนคอนกรีตมีน้ำอยู่, ใช้กระดาษกันน้ำซึมหรือแผ่นผ้าพลาสติกคลุมทับผิวคอนกรีตให้สนิท หรือการพ่นสารเคมีเคลือบลงบนผิวคอนกรีตป้องกันการระเหยน้ำออกจากคอนกรีต ซึ่งต้องพ่นในขณะที่ผิวคอนกรีตยังชื้นอยู่ครับ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- หลังจากเทปูนแล้วขั้นตอนต่อไปคืองานโครงสร้างเหล็กหลังคา ซึ่งเป็นช่วงที่เหล็กขึ้นราคาพอดีและจะต้องใช้ปริมาณเหล็กเยอะพอสมควร เนื่องจากเราทำสัญญาแบบเหมารวมอุปกรณ์และค่าแรง แอบสงสารผู้รับเหมาอยู่เหมือนกันว่าซื้อเหล็กเกือบ 80,000 บาท ถือว่าเป็นงวดค่าใช้จ่ายที่ผู้รับเหมาจ่ายเยอะที่สุด สังเกตเห็นพลาสติกที่ห่อเสาไหมครับ นั่นแหละคือการบ่มปูน

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- แต่ละส่วนของหลังคามีชื่อเรียก

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- ต่อด้วยงานก่ออิฐมวลเบาซึ่งจะต้องใช้ปูนกาวเท่านั้น และจะต้องมีตัวยึดกับเสา อย่างน้อยแถวเว้นแถวครับ

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานฉาบรอบนอก+ไฟฟ้าร้อยท่อ+ประปาฝังผนัง

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- ปรับพื้นที่เทรอบตัวบ้าน 1 เมตร

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- เหลือเก็บงานสี+หน้าต่าง+กระเบื้อง

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานประตูหน้าบ้านผมใช้ช่างคนละทีมกันเพื่อความรวดเร็ว

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานเดินระบบประปา

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานกระเบื้องเสร็จ ทีมหน้าต่างประตูกระจกก็เข้าติดตั้ง

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- งานโรงจอดรถใช้ทีมช่างที่ทำประตูทำ 3 วันเสร็จ อย่างไว

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
- ทีมช่างทำความสะอาดพื้นที่ก่อนส่งมอบงาน

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1053873 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
จบแล้วครับ สำหรับประสบการณ์การสร้างบ้านหลังนี้ของผม ใครที่กำลังจะสร้างบ้านต้องคิดให้ดี ๆ และวางแผนให้ดี ๆ นะครับ สำหรับผมเองผมคิดว่าโชคดีที่ได้ทีมช่างที่ดีเลยไม่เหนื่อยมาก และขอแนะนำอีกอย่างนะครับ ควรจ้างแบบรวมค่าอุปกรณ์และค่าแรง จะได้ไม่ท้อใจเวลาจ่ายเงิน เพราะว่ารายจ่ายจะเข้ามาอย่างต่อเนื่องชนิดที่คุณจะไม่เคยเจอมาก่อน
งานออกแบบก่อสร้างทุกระบบ ซึ่งผมจะเรียกว่าผู้ออกแบบความฝัน "บริการงานออกเเบบ ทุกระบบจบที่พร้อมอยู่"
- โทรศัพท์ : 09-2619-5254
- ID Line : natthapong2133
- สิบเเปด ธันวา (ping)
งานโครงสร้างและก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ซึ่งผมจะเรียกว่า "ผู้ทำความฝันให้เป็นจริง" ทีมงานช่างแดงก่อสร้างชัยภูมิ
- โทรศัพท์ : 08-3389-4359
- โทรศัพท์ : 08-4707-5539
- ช่างแดงก่อสร้างชัยภูมิ
- หนูแดง บุดดีหล้า