ต้นอะโวคาโด 8 สายพันธุ์นิยมปลูก เนื้อหวานมันไม่เละแถมอร่อย

สำหรับคนที่อยากปลูกต้นอะโวคาโด จะไว้กินเองหรือลองเพาะขาย วันนี้มีวิธีปลูกอะโวคาโด ผลไม้มากประโยชน์มาฝากแล้ว

ต้นอะโวคาโด

อะโวคาโด นอกจากจะเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ ไขมันดี วิตามินต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่ปลูกขายได้ด้วย หากใครจะลองเอามาปลูก วันนี้เราก็มี 8 สายพันธุ์ยอดนิยมของต้นอะโวคาโดที่นิยมปลูกและให้ผลอร่อย พร้อมวิธีปลูกมาฝากแล้ว

ลักษณะต้นอะโวคาโด

อะโวคาโด

อะโวคาโด (Avocado) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Persea Americana Mill มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง ส่วนในประเทศไทยนั้นก็มีการปลูกอะโวคาโดมานานกว่า 80 ปี นำเข้ามาโดยมิชชันนารีชาวอเมริกัน ปลูกครั้งแรกใน จ.น่าน ต้นอะโวคาโดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ความสูงประมาณ 5-18 เมตร ใบเดี่ยวรูปรี มีขนนุ่มสั้น ๆ ปกคลุมทั่วใบ ดอกเล็กออกเป็นช่อ ดอกมีสีเหลืองอมเขียว และออกดอกที่ปลายกิ่ง ผลมีทั้งแบบผลกลมและผลรี มีทั้งเปลือกบางและเปลือกหนา มีทั้งผิวขรุขระและผิวเรียบขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ด้านในมีเนื้อสีเหลืองอ่อนถึงสีเหลืองเข้ม มีรสมัน เนื้อละเอียด เพราะมีส่วนประกอบเป็นน้ำมัน 30% และโปรตีนสูงอีกด้วย

สายพันธุ์อะโวคาโดน่าปลูก

ผลอะโวคาโด

ลักษณะของพันธุ์อะโวคาโดที่ดีควรจะมีคุณภาพเนื้อที่ดี มีเปอร์เซ็นต์ไขมันสูง เนื้อแน่นและนิ่ม แต่ไม่เละ ไม่มีเสี้ยน ไม่เป็นน้ำตาลง่ายเมื่อผ่า และไม่มีกลิ่นฉุน อีกทั้งเมื่อผลแก่ก็อยู่บนต้นได้นานไม่ร่วงง่าย และมีผลเปลือกหนา ผลขนาดไม่ใหญ่เกินไป ซึ่งมีต้นอะโวคาโด 8 สายพันธุ์ ที่นิยมปลูกในไทย ดังนี้

  • สายพันธุ์ปีเตอร์สัน (Peterson) ผลกลม ขนาดกลางถึงเล็ก น้ำหนักประมาณ 200-300 กรัมต่อผล เนื้อสีเหลืองอมเขียว รสชาติดี
  • สายพันธุ์รูเฮิล (Ruehle) ลักษณะผลค่อนข้างกลม ทรงสูงเล็กน้อย น้ำหนักประมาณ 200-300 กรัมต่อผล เนื้อสีเหลืองอมเขียว รสชาติดี
  • สายพันธุ์บัคคาเนียร์ (Buccanear) ต้นเป็นทรงพุ่มแผ่กว้าง ผลค่อนข้างกลมรี น้ำหนักประมาณ 300-500 กรัมต่อผล ผิวสีเขียวขรุขระ เปลือกหนา เนื้อสีเหลืองอ่อน รสชาติดี 
  • สายพันธุ์เฟอร์ออเท่ (Fuerte) ผลทรงยาว ขนาดเล็กถึงกลาง น้ำหนัก 200-500 กรัมต่อผล เปลือกหนาสีเขียว ผิวขรุขระเล็กน้อย เนื้อสีเหลืองครีม 
  • สายพันธุ์บูธ 7 (Booth-7) ผลค่อนข้างกลม ขนาดกลาง น้ำหนัก 300-500 กรัมต่อผล เปลือกสีเขียว ผิวขรุขระ เปลือกหนา เนื้อสีเหลืองอ่อน รสชาติดี มีไขมัน 7-14% 
  • สายพันธุ์บูธ 8 (Booth-8) ผลรูปไข่ ขนาดเล็กถึงกลาง น้ำหนัก 270-400 กรัมต่อผล เปลือกสีเขียว ผิวขรุขระ เปลือกหนา เนื้อสีเหลืองอ่อน รสชาติดี มีไขมัน 6-12%
  • สายพันธุ์ฮอลล์ (Hall) พันธุ์ผสมระหว่างกัวเตมาลันและเวสต์อินเดียน ผลคล้ายหลอดไฟ น้ำหนัก 400-500 กรัม มีไขมัน 10-16%
  • สายพันธุ์แฮส (Hass) ผลรูปไข่ เปลือกสีเขียว ผิวขรุขระ ผลขนาดเล็ก น้ำหนัก 200-300 กรัมต่อผล เนื้อสีเหลือง มีไขมันประมาณ 20% เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกขาย เพราะคุณภาพผลดีมาก 

วิธีปลูกต้นอะโวคาโดลงดิน

ต้นอะโวคาโดปลูกในกระถาง

ต้นอะโวคาโดสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี หากเป็นการปลูกอะโวคาโดขายจะนิยมใช้วิธีการเสียบยอดดีบนต้นตอเพาะเมล็ด เพราะให้ผลผลิตเร็วกว่าการปลูกด้วยเมล็ด และสามารถปลูกอะโวคาโดได้ทุกฤดูหากมีน้ำเพียงพอ ดังนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกในช่วงต้นฤดูฝนมากที่สุด แต่ควรระวังเรื่องน้ำขัง หากต้องการปลูกหน้าร้อนก็ทำได้เหมือนกัน แต่ควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกันแสงแดดเผาส่วนของลำต้นและกิ่งก้านด้วย

นำปุ๋ยคอก 1-2 บุ้งกี๋ มาผสมกับดินที่จะปลูก จากนั้นขุดหลุมขนาด (กว้างxยาว) 80x80 เซนติเมตร ลึก 80 เซนติเมตร แล้วนำต้นอะโวคาโดมาใส่ในหลุม หากเป็นต้นที่ทำการต่อกิ่งมาให้ พร้อมปักไม้ยึดต้นกันล้ม แล้วคลุมหน้าดินด้วยฟางข้าว เศษหญ้าแห้ง แกลบ หรือขี้เลื่อยก็ได้ และหมั่นรดน้ำให้สม่ำเสมอจนกว่าต้นจะตั้งตัวได้ หลังจากนั้นหมั่นให้น้ำทุกสัปดาห์จนกว่าต้นอะโวคาโดจะมีอายุ 1 ปี เมื่อต้นโตขึ้นและต้องใช้น้ำมากให้เปลี่ยนเป็นระบบหยดน้ำหรือใช้มินิสปริงเกอร์แทน

วิธีเก็บเกี่ยวอะโวคาโด

ผลอะโวคาโด

วิธีเก็บเกี่ยวอะโวคาโด ให้ลองเก็บผลจากระดับต่าง ๆ ประมาณ 6-8 ผล แล้วผ่าดูเยื่อหุ้มเมล็ด หากเยื่อหุ้มเป็นสีน้ำตาลทั้งหมดก็สามารถเก็บเกี่ยวอะโวคาโดได้ โดยเด็ดหรือใช้กรรไกรตัดขั้วผลให้หลุดออกจากกิ่ง แล้วใส่ลงไปในภาชนะที่รองด้วยกระดาษหรือฟองน้ำป้องกันผลช้ำ

วิธีปลูกต้นอะโวคาโดในบ้าน

อะโวคาโดปลูกในน้ำ

  • สามารถปลูกต้นอะโวคาโดในบ้านได้ โดยนำไม้จิ้มฟัน 3 อัน เสียบเข้าไปในเมล็ดอะโวคาโด แล้วแขวนเมล็ดไว้เหนือแก้วน้ำ โดยให้ด้านกว้างอยู่ด้านล่าง 
  • เติมน้ำลงในภาชนะ โดยให้เมล็ดแช่ในน้ำลึกประมาณ 1 นิ้ว แล้วรอประมาณ 2-6 สัปดาห์ เพื่อรอให้รากงอกออกมา 
  • เมื่อรากหนาและมีลำต้นพร้อมใบใหม่งอกออกมา ให้นำไปปลูกในกระถางต่อ โดยใช้กระถางขนาด 10 นิ้ว 
  • นำดินร่วนหรือดินระบายน้ำได้ดีใส่ลงไปในกระถาง และวางเมล็ดอะโวคาโดลงไป โดยให้เมล็ดโผล่พ้นดินประมาณครึ่งเมล็ด 
  • นำกระถางปลูกอะโวคาโดไปวางไว้ในจุดที่มีแสงแดดส่องถึง เช่น ริมหน้าต่าง 
  • หมั่นรดน้ำเมื่อดินแห้ง เพราะต้นอะโวคาโดชอบให้ดินชื้น แต่ไม่แฉะหรือชุ่มน้ำเกินไป หากใบเริ่มเหลืองแสดงว่ารดน้ำมากเกินไปนั่นเอง 

สำหรับใครที่อยากลองปลูกอะโวคาโด ไม่ว่าจะปลูกไว้กินเองหรือปลูกไว้ขาย ลองนำวิธีปลูกต้นอะโวคาโดที่เรานำมาฝากในวันนี้ไปปลูกกันดูนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : doae.go.th, doa.go.th, qsbg.org และ thespruce.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ต้นอะโวคาโด 8 สายพันธุ์นิยมปลูก เนื้อหวานมันไม่เละแถมอร่อย อัปเดตล่าสุด 30 เมษายน 2568 เวลา 11:17:58 1,728 อ่าน
TOP
x close