
เรียกว่าช่างทิ้งงาน สร้างบ้านบานปลาย สร้างไม่เสร็จเพราะโดนเท มีมาให้เห็นทุกยุคจริง ๆ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ต่อให้มีเงินมีชื่อเสียงก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าเลือกคนผิดมาสร้างบ้านให้
ยิ่งช่วงนี้มีข่าวดาราหลายคนออกมาเล่าประสบการณ์สุดช้ำน้ำตานอง โดนโกงจากผู้รับเหมาสร้างบ้าน บางคนจ่ายไปหลายสิบล้าน แต่บ้านไม่คืบหน้า แถมงานไม่ตรงปก วัสดุถูกย้อมแมวจนอยู่ไม่ได้ บางรายโดนทิ้งงานกลางคัน ต้องประกาศตามหาช่างใหม่ เรียกว่าเสียเวลา เสียเงิน เสียสุขภาพจิต จนทำเอาดาราและคนธรรมดาอย่างพวกเราที่กำลังจะตัดสินใจสร้างบ้านเสียวสันหลังกันเป็นแถว
เพราะทุกคนต่างก็เก็บเงินมาทั้งชีวิตกว่าจะได้เริ่มสร้างบ้าน บางคนพ่วงมาด้วยหนี้สินเชื่อสร้างบ้านอีก 30 ปี แต่กลับต้องมาเจอกับปัญหาบ้านสร้างไม่เสร็จตามสัญญา ต้องไปเสียเงินเช่าอยู่ชั่วคราว เสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน วัสดุก่อสร้างก็กองไว้จนชำรุด ช่างที่มาทำงานต่อก็ไม่ใช่ทีมเดิม งานก็เลยผิดสเปก ซ่อมยาก ตรวจสอบลำบาก บางครั้งไม่มีแม้แต่การรับประกัน เพราะช่างเปลี่ยนมือจนไม่ขอการันตีผลงานสร้างบ้าน เรียกว่าซวยซ้ำซ้อนยิ่งกว่าเจอปีชง !
วันนี้เลยอยากมาแชร์ 5 ข้อเช็กให้ชัวร์ก่อนเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง ที่แค่รู้ 5 ข้อนี้ ต่อให้ไม่มีประสบการณ์การสร้างบ้านเลยก็ช่วยลดความเสี่ยงการโดนโกง ช่างทิ้งงาน เจองบบานปลาย บ้านผิดสเปก วัสดุโดนลดคุณภาพ บ้านไม่ตรงปกได้เยอะมาก !

5 ข้อที่คนสร้างบ้านต้องรู้
ก่อนเลือกบริษัทรับสร้างบ้านหรือผู้รับเหมาก่อสร้าง
1. รีวิวจากลูกค้าจริง ต้อง "เยอะ" และ "ดีจริง"
จุดแรกที่ควรดูไม่ใช่โบรชัวร์ ไม่ใช่โปรโมชั่น ไม่ใช่ราคา ที่เน้นถูกไว้ก่อน คุณภาพไว้ทีหลัง แต่คือ "เสียงของคนที่เคยใช้บริการสร้างบ้านจริง"
ข้อนี้เช็กได้ง่าย ๆ เพียงลองเสิร์ชชื่อบริษัทรับสร้างบ้านที่คุณเล็งไว้ แล้วดูรีวิวของลูกค้าจากบริษัทรับสร้างบ้าน หรือรีวิวจากลูกค้าตามเว็บบอร์ด กลุ่มที่สนใจสร้างบ้าน และเพจโซเชียลต่าง ๆ ว่าเขาพูดถึงบริษัทรับสร้างบ้านหรือผู้รับเหมาเจ้านั้นยังไงบ้าง เพราะถ้าเราเสียเงินสร้างบ้านระดับหลักล้านไปจนถึงหลายสิบล้าน ถ้าสร้างไม่ดี บริการไม่น่าประทับใจ ต่อให้ใช้เงินจ้างให้ถ่ายรีวิวก็คงไม่มีใครยินดีทำ ดังนั้น คลิปลูกค้าในสินค้าและบริการประเภทบ้านนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งการรีวิวที่น่าเชื่อถือ
-
ลูกค้าต้องมีตัวจริง รีวิวจริงจากใจ
-
ในรีวิวต้องได้เห็นผลงานการสร้างบ้านจริงที่เสร็จแล้ว เพื่อได้เห็นบ้านและผลงานของช่างด้วยตาของเรา
-
มีการบอกต่อเยอะ ไม่ได้มีแค่ไม่กี่คลิป เพื่อป้องกันการ Fake !
-
ยิ่งรีวิวที่มีความรู้สึกครบทั้งก่อนสร้าง ระหว่างสร้าง และหลังเข้าอยู่ ยิ่งทำให้เห็นถึงการทำงานและการดูแลที่ดีเยี่ยม
บริษัทที่กล้าดึงรีวิวจริงของลูกค้าสร้างบ้านมาโชว์ ยิ่งเยอะ ยิ่งจริง ยิ่งเชื่อได้ เพราะการสร้างบ้านไม่ใช่ของเล็ก ๆ แต่เป็นสินทรัพย์ที่ลูกค้าและครอบครัวที่เป็นเจ้าของบ้านต้องอยู่อาศัยจริง และเป็นสินค้าที่ราคาสูง ถ้าบริการดีจริง ลูกค้าจะพูดถึงเองโดยไม่ต้องจ้าง แต่ถ้าบริการไม่ดี ผลงานไม่เลิศ ก็ไม่สามารถสร้างรีวิวพวกนี้ขึ้นมาได้ เพราะเสียงจากผู้ใช้จริงคือสิ่งที่เชื่อถือได้ที่สุด
จุดนี้คือความได้เปรียบของบริษัทระดับชาติบางแห่งที่มีรีวิวจากลูกค้าหลายร้อยหลัง และมีการแชร์ต่อแบบปากต่อปากเยอะมากจนแทบไม่ต้องพึ่งโฆษณาเลยด้วยซ้ำ
2. ทุนจดทะเบียนต้องมากกว่าราคาบ้านที่จะสร้าง
ทุนจดทะเบียนคือสิ่งสำคัญมากสำหรับการสร้างบ้าน เพราะคือสิ่งรับประกันว่าบ้านของเราจะสร้างเสร็จตามคุณภาพมาตรฐานที่ดีตรงตามเอกสารสัญญา โดยบริษัทรับสร้างบ้านที่มีทุนจดทะเบียนสูงมั่นคง น่าไว้วางใจ ที่เห็นได้ชัดเจนคือ เครือแลนดี้ โฮม ที่มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท, รอยัล เฮ้าส์ ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โฟร์พัฒนา ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท และพีดีเฮ้าส์ ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เป็นต้น
ยิ่งถ้าเราสร้างบ้านที่มีราคาสูง ยิ่งต้องเลือกใช้บริการสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านที่มีทุนจดทะเบียนสูงมากกว่าราคาบ้าน เช่น สร้างบ้านราคา 5 ล้าน 10 ล้าน แต่บริษัททุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้าน แบบนี้ไม่น่าไว้ใจเลยว่าจะสร้างเสร็จตรงปก เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา เช่น เศรษฐกิจเปลี่ยน บริษัทล้มตัว การเงินสะดุด…คุณจะไม่มีหลักประกันใด ๆ มาให้อุ่นใจได้เลยว่าจะได้บ้านตรงปกตามสัญญา
ก่อนเซ็นสัญญาสร้างบ้านกับที่ไหน ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจว่ายิ่งบริษัทรับสร้างบ้านไหนมีทุนจดทะเบียนสูง ยิ่งมั่นใจว่าเขาสร้างบ้านให้คุณได้จนจบแน่นอน ยิ่งหลักร้อยล้านยิ่งดี เพราะแต่ละที่ไม่ได้สร้างบ้านและรับประกันให้บ้านของเราแค่หลังเดียว !
นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปเช็กข้อมูลบริษัทรับสร้างบ้านที่อยู่ในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ทาง www.hba-th.org ที่มีมากถึง 29 บริษัท เพื่อความมั่นใจและเปรียบเทียบ เลือกบริษัทที่ตรงใจที่สุดได้อีกด้วย
3. มีผลงานสร้างบ้านจริงจำนวนมาก และทีมช่างเฉพาะทางครบถ้วน
ข้อนี้ดูได้จากจำนวนบ้านที่เคยสร้าง หรือผลงานบ้านระหว่างสร้างและบ้านที่สร้างเสร็จแล้วทั้งในรูปแบบคลิปวิดีโอหรือรูปภาพ ที่ต้องมีเยอะ มีให้ดูหลากหลาย ไม่ใช่แค่ไม่กี่หลังในโบรชัวร์ ซึ่งหากค้นหาข้อมูลทางโซเชียลมีเดียรวมถึงเว็บไซต์ของศูนย์รับสร้างบ้านต่าง ๆ ก็มีหลายเจ้าที่รวบรวมภาพและคลิปวิดีโอไว้ให้มั่นใจได้
นอกจากนี้การสร้างบ้านต้องมีผู้เชี่ยวชาญการสร้างบ้านเฉพาะทางในขั้นตอนต่าง ๆ ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ในการสร้างบ้านที่ไว้วางใจได้ เพราะงานสร้างบ้านเป็นงานฝีมือ ต้องเนี้ยบทุกจุด
- ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการสร้างบ้านลงสำรวจที่ดิน เพื่อคำนวณการใช้เสาเข็ม กรรมวิธีสร้างบ้าน
- ต้องมีสถาปนิกผู้ออกแบบบ้านที่ชำนาญ
- ต้องมีวิศวกรที่ดูแลด้านการวางโครงสร้าง เสา คาน บันได ที่ปลอดภัย แข็งแรง
- ต้องมีช่างก่อ ฉาบ ปูกระเบื้อง รวมถึงช่างไฟฟ้า-ประปาที่มีความชำนาญ แยกกันทำงานในแต่ละงวดงานแบบมืออาชีพ เพราะช่างแต่ละประเภทจะมีความเชี่ยวชาญในงานเฉพาะด้านที่แตกต่างกัน
- ต้องมีวิศวกรควบคุมงานจริง
- ต้องมีฝ่ายบริการลูกค้า ที่ดูแลแม้ในระหว่างก่อสร้าง เพื่อควบคุมการทำงานของช่างและวิศวกรอีกขั้น เพื่อบริการการสร้างบ้านที่ดีที่สุด
- ต้องมีฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ (QC) ก่อนส่งมอบบ้าน
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงสำหรับบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นระบบและสร้างบ้านมาหลายพันหลัง ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างบ้านคุณภาพสูง ได้ผลงานจริงตรงปกไม่จกตา แม้ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์สร้างบ้านเลยก็ตาม
4. การรับประกันที่ "กล้ารับ" และ "ชัดเจน"
ต้องเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ไม่ใช่แค่บอกว่าจะรับประกัน แต่ต้องบอกอย่างชัดเจนว่ารับประกันอะไร ยาวนานแค่ไหน มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
ซึ่งการรับประกันที่ควรคำนึงเป็นอันดับแรก คือกลุ่มงานโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหลังเข้าอยู่ ที่ต้องกล้ารับประกันยาวนาน โดยมาตรฐานของบริษัทชั้นนำของไทยจะอยู่ที่ 20 ปีแทบทั้งนั้น
ส่วนกลุ่มงานหลังคา การรับประกันควรอยู่ที่ 3-5 ปี ตามประเภทของหลังคาที่เลือกให้ ส่วนงานด้านไฟฟ้า-ประปา-สถาปัตย์ ควรรับประกันอย่างน้อย 1 ปี
ถ้าสร้างบ้านดีจริง ไว้ใจได้ ต้องกล้ารับประกัน ! ถ้าไม่มีการรับประกัน หรือไม่ระบุชัด ๆ ในเอกสาร อย่าเสี่ยงสร้างให้ปวดใจทีหลังเลย
และที่สำคัญควรดูด้วยว่าบริษัทรับสร้างบ้านที่เลือกนั้นเปิดให้บริการในการสร้างบ้านมาแล้วกี่ปี เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่บริษัทรับสร้างบ้านเหล่านั้นจะปิดตัวลงก่อนหมดอายุรับประกันบ้าน โดยเฉพาะงานโครงสร้างที่ในท้องตลาดจะรับประกันยาวนานตั้งแต่ 5-20 ปี
5. ข้อมูลวัสดุ สเปก ต้อง "ชัดเจน-ตรง-ตรวจสอบได้"
เดี๋ยวนี้หลายบริษัทรับสร้างบ้านจะมีการให้ข้อมูลที่คลุมเครือ เช่น ตามมาตรฐานบริษัท แต่เราไม่อาจรู้ได้เลยว่ามาตรฐานบริษัทในอนาคตจะถูกปรับวัสดุจากเดิมไปเป็นอะไร ไม่สามารถยึดถือได้เลย เฉพาะไม่ได้ให้รายละเอียดชี้เฉพาะ ซึ่งนั่นจะทำให้เราเสียเปรียบในอนาคตได้ ดังนั้น ควรเลือกสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านที่กล้าบอกชัดตั้งแต่แรกว่าใช้วัสดุจากแบรนด์อะไร ไซซ์ไหน รุ่นใด สีอะไร และมีอยู่ในเอกสารการจอง/เอกสารหนังสือสัญญาอย่างชัดเจนหรือเปล่า
ทุกอย่างที่เกี่ยวกับบ้านของเราต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าเขาไม่สามารถสับเปลี่ยนวัสดุลดต้นทุนภายหลังได้
เมื่อเช็กครบทุกข้อแล้ว ยังไม่รู้ว่ามีเจ้าไหนตรงใจบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้วกับ 4 บริษัทรับสร้างบ้านที่มีครบตาม Check List

ศูนย์รับสร้างบ้าน | รีวิวจากลูกค้า | ทุนจดทะเบียน | ข้อมูลอื่น ๆ |
---|---|---|---|
1. Landy Group |
มีเสียงรีวิวลูกค้าบอกต่อมากที่สุดทั้งในช่องทาง Social Media และช่องทาง Online, Offline | 200 ล้านบาท (สูงสุดในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านในประเทศไทย) |
✔ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 จาก UKAS รายแรกของไทย ✔ มีผลงานสร้างบ้านเริ่มต้น 2 ล้านบาท ไปจนถึงมากกว่า 60 ล้านบาท ✔ มีบริการ Landy Care ดูแลหลังการเข้าอยู่ ✔ มีการให้บริการทีมงานครบครัน อาทิ สถาปนิก, วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ, ช่างผู้ชำนาญการเฉพาะด้านตามประเภทงาน, ฝ่ายบริการลูกค้า (CS), ฝ่ายควบคุมคุณภาพ (QC), ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ✔ มีนวัตกรรม Clean Air Positive Pressure ป้องกันเชื้อไวรัสและฝุ่น PM2.5 ✔ มีนวัตกรรมบ้านปลอดแมลงสาบ ✔ มีนวัตกรรมบ้านเย็นอยู่สบาย ✔ มีนวัตกรรมบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ✔ โดดเด่นด้านการใช้วัสดุคุณภาพสูง แบรนด์ชั้นนำ ✔ มีแบบบ้านมากกว่า 500 แบบบ้าน ตั้งแต่ 1 ชั้น จนถึง 3 ชั้น ภายใต้ 3 แบรนด์ในเครือแลนดี้ กรุ๊ป ด้วยระบบ Landy AI Design System และ Landy 3D Design ✔ ให้บริการในรูปแบบ One Stop Service ครบวงจร |
2. Royal House (รอยัลเฮ้าส์) |
มีรีวิวบอกต่อทาง Social Media และ Website | 20 ล้านบาท |
✔ ให้บริการในรูปแบบ One Stop Service ดูแล 6 ขั้นตอนการสร้างบ้าน ✔ มีแบบบ้านตั้งแต่ 1 ชั้น ถึง 6 ชั้น |
3. Fourpattana (โฟร์พัฒนา) |
10 ล้านบาท |
✔ รับสร้างบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป ✔ ให้บริการในรูปแบบ One Stop Service |
|
4. PD House (พีดีเฮ้าส์) |
2 ล้านบาท | ✔ มีแบบบ้านมากกว่า 200 แบบบ้าน ✔ เป็นบ้านแนวอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✔ PD Fresh Airflow คือ ระบบการถ่าย |
ใครที่เคยสร้างบ้านแล้วโดนทิ้งงานกลางทาง หรือโชคดีได้เจอบริษัทรับสร้างบ้านที่ถูกใจ รวมถึงเคยใช้บริการเจ้าใดมาแล้ว สามารถช่วยแนะนําต่อได้เลย