วิธีออกแบบห้องแมวในบ้าน เพิ่มพื้นที่ส่วนตัวให้เหมียวแฮปปี้

          เอาใจทาสแมวที่อยากทำห้องให้เหมียวจะได้มีพื้นที่เป็นสัดส่วนและดูแลง่ายขึ้น วันนี้เรารวมไอเดียออกแบบห้องแมวมาฝากแล้ว
ห้องแมว

          สำหรับทาสแมวที่อยากจัดโซนให้แมวได้มีห้องของตัวเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะตกแต่งอย่างไรให้ครอบคลุม ทำรอบเดียวจบป้องกันงบบานปลาย วันนี้เรามีวิธีออกแบบห้องแมวมาฝาก เพื่อให้เหมียวพักผ่อนในบ้านได้อย่างแฮปปี้ 

ห้องแมวมีประโยชน์อย่างไร

คอนโดแมว

          การทำห้องแมวมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะโดยปกติแล้วแมวจะชอบสร้างอาณาเขตเองตามธรรมชาติ ดังนั้น การทำห้องแมวก็จะทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกว่ามีพื้นที่ส่วนตัวจากการมีขอบเขตพื้นที่ชัดเจน ช่วยให้แมวสงบ ลดความวิตกกังวล กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้แมวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วย 

          นอกจากนี้การมีห้องแมวทำให้แมวมีพื้นที่ในการเล่นในพื้นที่ที่กำหนด ป้องกันไม่ให้แมวมาข่วนโซฟา ลับเล็บกับเฟอร์นิเจอร์ ที่สำคัญคือยังสามารถควบคุมกลิ่น ป้องกันไม่ให้ขนหรือฝุ่นกระจาย สามารถทำความสะอาดได้สะดวกอีกด้วย

วิธีออกแบบห้องแมว

1. มีมุมให้วิ่งเล่น

คอนโดแมว

          การดีไซน์พื้นที่ห้องแมวนอกจากมุมสำหรับกินนอนแล้ว ควรจะมีมุมให้แมวได้ปีนป่ายหรือวิ่งเล่นด้วย เพื่อให้แมวได้ออกกำลังกายและไม่รู้สึกเบื่อหรือเหงา เช่น คอนโดแมว ซึ่งใช้พื้นที่น้อย แต่มีทั้งที่ลับเล็บ ที่นอน และชั้นต่างระดับให้แมวกระโดดไปมา หากมีพื้นที่มากพออาจจะทำบันไดปีนให้แมวบนผนังด้วย

2. ปลูกต้นไม้ในห้อง

          อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มธรรมชาติในห้องแมวได้ ด้วยการนำต้นไม้มาปลูก เช่น ต้นอ่อนข้าวสาลี แคทนิป ไผ่เงิน นอกจากแมวจะกินได้แล้วยังเพิ่มความสดชื่นให้บ้านอีกด้วย อ่านเพิ่มเติม : 7 ต้นไม้แมวกินได้ ยาวิเศษจากธรรมชาติที่ทาสควรมีติดบ้าน

3. มีพื้นที่เพียงพอ

คอนโดแมว

          โดยเฉลี่ยแล้วแมว 1 ตัว ต้องการพื้นที่อย่างน้อย 18 ตารางฟุต หรือประมาณ 1.67 ตารางเมตร เพื่อให้แมวได้มีพื้นที่ส่วนตัวในห้องของตัวเอง สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่แออัด และไม่ทำให้แมวรู้สึกอึดอัดเกินไปหากต้องอยู่ร่วมกันหลายตัว 

4. เลือกห้องให้เหมาะสม

          การทำห้องแมวไม่จำเป็นต้องต่อเติมขึ้นใหม่ สามารถดัดแปลงห้องที่ไม่ได้ใช้ในบ้าน เช่น ห้องนอนแขก ห้องทำงาน หรือแม้กระทั่งพื้นที่ใต้บันได มาดีไซน์เป็นห้องแมวได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรมีขนาดพื้นที่เพียงพอและเหมาะสมกับจำนวนแมวด้วย 

5. เลือกโทนสีที่เป็นมิตรกับแมว

ห้องแมว

          สีที่ใช้ในห้องแมวควรเป็นสีอ่อน ๆ สีกลาง ๆ เช่น สีเบจ สีขาว สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน จะทำให้แมวรู้สึกสงบและสบายมากกว่าการใช้โทนสีเข้ม ๆ หรือจัดจ้าน

6. เตรียมของใช้ให้พร้อม

          มุมวางชามอาหารกับถ้วยใส่น้ำควรวางแยกออกมาจากมุมพักผ่อน และแยกกระบะทรายวางไว้อีกมุม เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่นรบกวนในโซนอื่น และจุดที่วางกระบะทรายควรเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว โดยควรใช้กระบะทราย 1 อัน ต่อแมว 1 ตัว

7. เผื่อพื้นที่สำหรับเก็บของ

          นอกจากจะต้องเตรียมของเล่นกับของใช้ต่าง ๆ แล้ว อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับเก็บของกับเก็บสต็อกอาหารแมวด้วย และควรมีประตูหรือบานเปิด-ปิดที่ล็อกได้ เพื่อป้องกันไม่ให้แมวเข้าไปรื้อค้นด้านใน

8. ใกล้ชิดธรรมชาติ

ห้องแมว

          แมวจะรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้นหากภายในห้องมีบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น ใช้เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ก็ควรเป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทานและไม่มีกลิ่นฉุน รวมถึงการทำให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องได้ด้วย

9. อย่าลืมความปลอดภัย

          นอกจากการทำให้ห้องแมวมีความสบายและสะดวกแล้ว ที่สำคัญคือจะต้องมีความปลอดภัยด้วย ควรตรวจสอบล็อกประตูให้แน่นหนา หรือติดมุ้งลวดให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้แมวหนีออกไปนอกบ้าน รวมถึงการเก็บสายไฟต่าง ๆ ให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้แมวกัดสายไฟหรือบาดเจ็บ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับแมวด้วย
          ใครที่กำลังจะทำห้องแมวแต่ยังไม่มีไอเดีย ลองนำวิธีออกแบบห้องแมวของเราไปใช้เป็นแนวไอเดียได้นะคะ เพื่อให้เหมียวได้มีพื้นที่ส่วนตัว แถมยังดูแลและทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญยังช่วยควบคุมกลิ่นได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : feliway.co.uk, neakasa.com, richardrowlands.com และ wikihow.com
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีออกแบบห้องแมวในบ้าน เพิ่มพื้นที่ส่วนตัวให้เหมียวแฮปปี้ อัปเดตล่าสุด 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 15:07:52
TOP
x close