ไม่รู้จะเลือกผ้าห่มแบบไหนดีใช่ไหม ? มาลองทำความรู้จักผ้าห่มและผ้านวมแต่ละแบบ พร้อมเคล็ดลับเลือกให้ตรงกับสไตล์และการใช้งาน เพื่อความอบอุ่นที่ลงตัว
แม้การเลือกผ้าห่มและผ้านวมจะดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ความจริงแล้ววัสดุ เนื้อผ้า และวิธีการทอล้วนมีผลต่อความอบอุ่น นุ่มสบาย และการระบายอากาศของผ้าห่มแต่ละแบบ รวมถึงอายุการใช้งานและการดูแลรักษา ทำให้การเลือกผ้าห่มที่เหมาะกับคุณสำคัญกว่าที่คิด มาติดตามกันต่อว่า ผ้าห่มและผ้านวมแต่ละแบบต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนถึงตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างลงตัว
ผ้าห่มและผ้านวม ต่างกันยังไง ?
หลายคนอาจสงสัยว่าผ้าห่มกับผ้านวมต่างกันอย่างไร ? จริง ๆ แล้วความแตกต่างอยู่ที่โครงสร้างและระดับความอบอุ่นที่แต่ละแบบมอบให้ แม้ว่าผ้านวมจะถือเป็นผ้าห่มชนิดหนึ่งและบางครั้งก็ถูกเรียกว่าผ้าห่มนวม แต่ทั้งสองแบบมีลักษณะเด่นที่แตกต่างชัดเจน
ผ้าห่ม
ผ้าห่มมักมีโครงสร้างเรียบง่าย ทำจากผ้าผืนเดียวหรือหลายผืนเย็บต่อกัน น้ำหนักเบาและให้ความอบอุ่นในระดับปานกลาง เหมาะกับวันที่อากาศไม่หนาวมาก หรือใช้เป็นผ้าห่มเสริมร่วมกับผืนอื่นในช่วงอากาศเย็นจัด
ผ้านวม
ผ้านวมออกแบบเป็นผ้าห่มหลายชั้น มีไส้ในที่อาจทำจากขนเป็ด ขนห่าน หรือใยสังเคราะห์ หุ้มด้วยผ้าชั้นนอกและเย็บเป็นช่อง ๆ เพื่อให้ไส้ในกระจายตัวสม่ำเสมอทั่วทั้งผืน โครงสร้างแบบนี้ทำให้ผ้านวมหนักกว่าและเก็บความร้อนได้ดี เหมาะกับอากาศหนาวจัดหรือห้องที่เปิดแอร์แรง
ผ้าฝ้าย
ผ้าฝ้ายเป็นวัสดุยอดนิยมเพราะระบายอากาศได้ดีและนุ่มสบาย เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยหรือการใช้งานในห้องแอร์ โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้อย่างสบายใจ อีกทั้งยังดูแลไม่ยุ่งยาก ซักง่าย แห้งเร็ว แต่อาจมีการหดตัวเมื่อซักหลาย ๆ ครั้ง
ผ้าขนสัตว์
ขนสัตว์ให้ความอบอุ่นสูงกว่าวัสดุอื่นและคงทนมาก ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีในช่วงฤดูหนาวหรือพื้นที่ที่ต้องการความอบอุ่นเป็นพิเศษ แม้จะให้สัมผัสต่างจากผ้าฝ้ายและอาจระคายเคืองต่อหิวที่แพ้ง่าย แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบเนื้อผ้าธรรมชาติที่หลายคนชอบ
ขนเป็ดและขนห่าน
ผ้าห่มประเภทนี้มีจุดเด่นคือความเบาแต่ให้ความอบอุ่นดีมาก จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการผ้าห่มน้ำหนักเบาแต่ยังให้ความรู้สึกอุ่นแบบเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาอาจซับซ้อนกว่า เช่น ต้องซักแห้งหรือซักด้วยโปรแกรมเฉพาะเพื่อไม่ให้เส้นใยเสียรูป รวมทั้งมีราคาที่ค่อนข้างสูง
ไหม
ผ้าไหมให้สัมผัสหรูหรา ลื่น เบา และช่วยระบายอากาศได้ดี เหมาะกับคนที่ชอบเนื้อผ้าที่ละเอียดหรือมองหาผ้าห่มที่เหมาะกับการใช้งานในห้องแอร์แบบไม่หนักเกินไป โดดเด่นตรงความรู้สึกสบายผิวและไม่เก็บฝุ่นมากนัก แต่มีราคาและสูงและค่อนข้างดูแลยาก
โพลีเอสเตอร์
เป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะราคาเข้าถึงง่าย ทนทาน และซักง่าย มักถูกใช้เป็นผ้าห่มสำหรับห้องนั่งเล่นหรือใช้งานทั่วไป เพราะมีหลายลวดลาย สีสัน และเนื้อสัมผัสให้เลือก เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่ต้องการความคงทนและการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก แต่อาจระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าผ้าแบบอื่น ๆ
ไมโครไฟเบอร์
ไมโครไฟเบอร์มีลักษณะเส้นใยที่เล็กละเอียด ทำให้ผ้านุ่ม เบา และอุ่นพอดี เหมาะกับการใช้งานแบบสบาย ๆ เช่น ห่มระหว่างดูทีวี หรือใช้คลุมตัวเวลานั่งทำงาน นอกจากนี้ยังซักง่ายและแห้งไว จึงเหมาะกับการใช้งานเป็นประจำ แต่อาจเกิดไฟฟ้าสถิตได้ในบางครั้ง
เลือกผ้าห่ม ผ้านวม สรุปง่าย ๆ
การเลือกผ้าห่มที่ใช่ ไม่ได้มีแค่เรื่องลายสวยหรือสีถูกใจเท่านั้น แต่ควรเริ่มจาก “เราจะใช้มันทำอะไร” เป็นหลัก หากต้องการผ้าห่มสำหรับตกแต่งปลายเตียงหรือโซฟา การเลือกผ้าห่มแบบ Throw Blanket จะตอบโจทย์ที่สุด เพราะน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด และมีดีไซน์ให้เลือกเยอะ ใช้คลุมตัวเบา ๆ เวลาดูหนัง หรือจะใช้เพิ่มความสวยให้ห้องก็ยิ่งดี
แต่ถ้าตั้งใจใช้จริงจังในห้องแอร์หรือช่วงอากาศเย็นแบบจัดเต็ม ควรมองหาผ้าห่มที่ให้ความอบอุ่นดี เช่น ผ้าวูล ขนสัตว์ หรือขนเป็ด ที่ช่วยกักเก็บความร้อนแบบไม่ต้องห่มหลายชั้น สำหรับคนที่ชอบความง่ายในการดูแล ผ้ากลุ่ม ฝ้าย โพลีเอสเตอร์ หรือไมโครไฟเบอร์ เป็นตัวเลือกที่ใช่ เพราะสามารถซักเครื่องได้สบาย ๆ ไม่ต้องระวังมากเหมือนผ้าไหมหรือผ้าขนห่านที่ต้องดูแลละเอียดกว่า
เมื่อเข้าใจคุณสมบัติของผ้าห่ม ผ้านวม แต่ละแบบ การเลือกผืนที่เหมาะกับตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่ว่าจะใช้พักผ่อนบนโซฟาหรือใช้นอนในห้องแอร์ ผ้าห่มที่ “ใช่” จะช่วยให้ทุกคืนอบอุ่นและสบายขึ้นอย่างลงตัว พร้อมเติมบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่ยิ่งกว่าเดิม
บทความเกี่ยวกับผ้าห่มเรื่องอื่น ๆ