7 เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ถือง่ายใช้สะดวก ช่วยกำจัดฝุ่นเกลี้ยงทุกซอกมุม

          แนะนำเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023 ตัวช่วยทำความสะอาด กำจัดฝุ่นเกลี้ยงทุกซอกมุมภายในบ้าน มียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกัน 

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย



          เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย แม้จะใช้ดูดเศษฝุ่นได้แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องความคล่องตัว ดังนั้นหลายบ้านจึงหันมาสนใจเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เนื่องจากไม่ต้องหาปลั๊กไฟเสียบ ไม่ต้องมีสายไฟพันยุ่งเหยิง ไม่ต้องกังวลความยาวของสาย ทำให้เพิ่มความสะดวกสบายในการทำความสะอาดบ้านมากขึ้น ใครสนใจเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย มาดูยี่ห้อที่น่าสนใจกันเลย

วิธีเลือกซื่อเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย


1. พื้นที่ภายในบ้าน


          ก่อนที่จะพิจารณาส่วนประกอบอื่น ๆ ควรคำนึงถึงความกว้างของพื้นที่ภายในบ้านเสียก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณขนาดความเล็ก-ใหญ่ รูปแบบ และกำลังไฟฟ้าของเครื่องดูดฝุ่นที่จะนำมาใช้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงปัจจัยและองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น ความถี่ในการใช้ เฟอร์นิเจอร์ และมุมอับต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยง เพราะอาจจะต้องทำความสะอาดมากขึ้นเป็นพิเศษ

2. ประเภทเครื่องดูดฝุ่น


          เครื่องดูดฝุ่นถูกแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกัน คือ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย มีข้อดีคือ พลังดูดสูง ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำความสะอาดพื้นผิวได้หลายแบบ และใช้ต่อเนื่องได้ตลอด ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ แต่มีข้อจำกัดคือ มีน้ำหนักและมีความยาวสายไฟจำกัด อาจทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้ทุกที่่ สำหรับเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย มีน้ำหนักเบา ทำความสะอาดได้คล่องตัว สามารถเข้าถึงซอกมุมต่าง ๆ ของบ้านได้มากกว่าแบบแรก แต่มีราคาสูงกว่า และมีเวลาในการใช้งานจำกัด สุดท้ายคือ หุ่นยนต์ทำความสะอาด ช่วยทำความสะอาดบ้านให้อัตโนมัติ เซฟแรง ประหยัดเวลา สามารถสั่งการได้ผ่านแอปพลิเคชัน แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่าเครื่องดูดฝุ่น 2 แบบแรก

3. ระบบการดูดฝุ่น


          ประเภทของเครื่องดูดฝุ่นแบ่งคร่าว ๆ ออกมาได้ดังนี้

          - การดูดฝุ่นเข้าเครื่องโดยตรง เครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้จะเป็นแบบไม่กระจายฝุ่น แต่ดูดเข้าไปภายในตัวเครื่องโดยตรง ซึ่งบางรุ่นหรือบางแบรนด์มีการติดขนแปรงไว้บริเวณปลายท่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดให้มากขึ้น ซึ่งเหมาะกับพื้นที่โล่งกว้างและวัสดุเรียบ ๆ เช่น พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ และบริเวณที่มีฝุ่นเกาะไม่มากนัก

          - การดูดฝุ่นแบบสั่นสะเทือน ในระบบนี้จะมีแปรงที่ปลายแกนหมุนและบ่านูน หรือติดตั้งระบบสั่นสะเทือนเอาไว้ในตัวเครื่อง เพื่อทำให้ฝุ่นกระจายตัวก่อนแล้วค่อยดูดเข้าเครื่อง ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้เหมาะสำหรับพื้นพรมที่มีความหนามาก ๆ หรือบริเวณที่มีฝุ่นเกาะแน่น

          - การดูดฝุ่นแบบแปรงหมุน ถึงแม้จะมีแปรงหมุนเหมือนกัน แต่เครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้จะไม่มีบ่านูนเหมือนแบบสั่นสะเทือน และขนแปรงจะอยู่รอบ ๆ แกนหมุนเพื่อให้ฝุ่นกระจายออกก่อนที่จะทำการดูดเข้าเครื่อง เป็นระบบที่เหมาะกับพื้นพรมที่มีความหนาไม่มากนัก

4. การกรองฝุ่น


          การกรองฝุ่นที่ระบุบนตัวเครื่องควรจะมีระบบกรองเศษฝุ่นขนาดเล็กตั้งแต่ 10 ไมครอน ไปจนกระทั่งขนาด 0.6 ไมครอน (1 ไมครอน = 0.001 มม.) ถึงจะถือว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพดี โดยเฉพาะบ้านที่มีสมาชิกเป็นภูมิแพ้ ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์กรองอากาศที่ระบุคำว่า HEPA ซึ่งเป็นระบบใหม่ของเครื่องดูดฝุ่น เนื่องจากในระบบนี้จะช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่เกิดจากฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ปะปนมากับอากาศ แต่ถ้าหากเน้นความสะดวกสบายในการถอดทำความสะอาด อาจเลือกเครื่องดูดฝุ่นระบบ Cyclone เพราะระบบนี้จะเก็บฝุ่นไว้ในถัง สามารถถอดล้างได้เลย ซึ่งสิ้นเปลืองน้อยกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบที่ใช้ถุงเก็บฝุ่น

5. ถุงเก็บฝุ่น


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย

          สำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ถุงเก็บฝุ่นสามารถพิจารณาได้ตามการใช้งานคือ ถุงกรองแบบกระดาษ สามารถกรองฝุ่นได้ถึง 0.1 ไมครอน โดยถุงประเภทนี้เป็นแบบใช้งานครั้งเดียว และจะต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งหากมีการใช้งาน ส่วนคนที่ต้องการถุงแบบถอดล้างได้อาจจะเลือกถุงกรองแบบใยสังเคราะห์ หรือถุงกรองแบบผ้า เพราะทั้งสองแบบนี้สามารถถอดล้างได้เช่นกัน แต่มีความแตกต่างตรงที่ถุงกรองใยสังเคราะห์สามารถกรองฝุ่นได้ถึง 0.3 ไมครอน ไม่ขึ้นรา และไม่เกิดกลิ่นอับ ในขณะที่ถุงกรองฝุ่นแบบผ้า กรองฝุ่นขนาดเล็กสุดได้ 0.5 ไมครอน แต่ถ้าหากทำความสะอาดไม่ดี หรือเกิดความชื้น อาจจะเกิดกลิ่นอับและเชื้อราได้

6. ก้านดูดฝุ่น


          เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นแต่ละรุ่นมีขนาดความยาวของท่อดูดฝุ่นแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรพิจารณาด้วยว่าในส่วนของท่อดูดฝุ่นมีความยาวเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดบริเวณที่เข้าถึงยากหรือบนพื้นที่ที่มีความสูงมาก ๆ เช่น บนฝ้าเพดาน ใต้เฟอร์นิเจอร์ หรือตามซอกมุมต่าง ๆ และในกรณีที่เป็นแบบท่อตัวหนอนควรจะมีความหนามากพอ เมื่อจับหรือบีบแล้วไม่บุบหรือยุบลงไป อีกทั้งยังควรพิจารณาลักษณะของหัวแปรงด้วยว่ามีแบบที่ต้องการหรือไม่ นอกจากนี้หากเป็นไปได้ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถเก็บหัวแปรงไว้กับตัวเครื่องได้ด้วย เพื่อป้องกันการสูญหายและความสะดวกในการหยิบใช้งานค่ะ

7. น้ำหนักของตัวเครื่อง


          ไม่ควรตัดสินใจซื้อเพราะลักษณะของรูปแบบ ดีไซน์ และสีสันภายนอกเท่านั้น แต่ควรทดลองเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเสียก่อน รวมไปถึงความเหมาะสมของอุปกรณ์ ได้แก่ ความถนัดในการจับ น้ำหนักของตัวเครื่อง และระดับความดังของเครื่องดูดฝุ่น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง เช่น หากจับไม่ถนัด หรือเครื่องดูดฝุ่นมีน้ำหนักมากเกินไป จะทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้

 8. กำลังไฟฟ้า


          กำลังไฟฟ้าของเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านเรือนทั่วไปอยู่ที่ 750-1,200 วัตต์ โดยพิจารณาจากวัสดุที่ใช้ตกแต่งและขนาดความกว้างของพื้นที่ภายในบ้าน ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นที่มีกำลังไฟฟ้ามากจะเหมาะกับพื้นที่ปูด้วยพรม หรือบริเวณที่มีฝุ่นเกาะหนา ส่วนบ้านที่ปูพื้นด้วยไม้ ทำความสะอาดง่าย และไม่ค่อยมีฝุ่นมากนัก เลือกเครื่องดูดฝุ่นกำลังไฟฟ้าต่ำก็เพียงพอแล้ว เพราะอย่าลืมว่ายิ่งมีกำลังไฟฟ้ามากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเปลืองไฟมากเท่านั้น และสำหรับบ้านที่มีการใช้งานหลากหลายแบบ ควรจะเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถปรับระดับความแรงของกำลังดูดได้จะดีที่สุด

9. ระบบกรองอากาศ


          ระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นควรจะมีระบบจัดการการหมุนเวียนของอากาศได้ดี กล่าวคือ อากาศที่ไหลผ่านเข้าไปในตัวเครื่องควรจะผ่านระบบกรองที่ติดตั้งอยู่ภายในก่อนทุกครั้ง และในส่วนของอากาศที่ยังไม่ผ่านระบบกรองฝุ่นไม่ควรจะหลุดรอดออกมาจากตัวเครื่องด้วย

10. วิธีการใช้


          เนื่องจากคู่มือการใช้เครื่องดูดฝุ่นบางรุ่นไม่มีในส่วนของภาษาไทย หรือบางครั้งมีเนื้อหาไม่ครบตามที่ต้นฉบับได้เขียนไว้ ดังนั้นหลังจากที่เลือกรุ่นและแบบของเครื่องดูดฝุ่นได้แล้ว ควรให้ผู้ขายอธิบายการใช้เบื้องต้นด้วย เช่น ตำแหน่งของปุ่มต่าง ๆ วิธีปรับเปลี่ยนท่อดูดฝุ่น ขั้นตอนการเปลี่ยนแผ่นกรอง การทำความสะอาดเครื่อง และข้อห้ามต่าง ๆ รวมไปถึงการประกันตัวเครื่องด้วย

11. คุณภาพและราคา


          เครื่องดูดฝุ่นราคาแพงไม่ได้หมายความว่ามีคุณภาพดีและเหมาะสมกับการทำความสะอาดภายในบ้านเสมอไป ดังนั้นควรคำนึงถึงการให้บริการหลังการขายด้วยว่าได้คุณภาพและเหมาะสมกับราคาที่จ่ายไปหรือไม่ เพราะบางครั้งถึงแม้เครื่องดูดฝุ่นจะมีราคาแพง แต่การบริการอาจจะแย่กว่าที่คิด ฉะนั้นควรเช็กข้อมูลในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้คุ้มค่ากับราคาของเครื่องดูดฝุ่นมากที่สุดค่ะ

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023


1. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Iris Ohyama รุ่น IC-SLDC11


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ภาพจาก : homepro.co.th

          เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Iris Ohyama รุ่น IC-SLDC11 กำลังดูด 80 วัตต์ น้ำหนัก 1.9 กิโลกรัม ความจุถังเก็บฝุ่นขนาด 0.3 ลิตร ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน จ่ายไฟได้แรงและคงที่ ชาร์จไฟรวดเร็วในเวลา 3 ชั่วโมง ทำงานด้วยระบบไซโคลนช่วยเพิ่มแรงดูดรอบทิศทาง ตัวเครื่องมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งสกปกรกได้แม่นยำหากมีปริมาณมาก และสามารถดูดฝุ่นได้สะอาดกว่า 99% มาพร้อมไม้ขนไก่ติดมากับด้ามจับ สามารถทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและพื้นได้พร้อมกัน ราคาประมาณ 4,980 บาท

2. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Electrolux รุ่น ErgoRapido 


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ภาพจาก : electrolux.co.th

          เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Electrolux เครื่องดูดฝุ่นแบบ 2 in 1 กำลังไฟ 18 วัตต์ น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ความจุถังเก็บฝุ่นขนาด 0.42 ลิตร หัวดูดหมุนได้ 180 องศา สามารถทำความสะอาดซอกขนาดเล็กใต้โซฟา รวมทั้งในรถยนต์ มาพร้อมเทคโนโลยี Brush Roll Clean ช่วยตัดเส้นผมหรือเส้นใยที่เข้าไปยังกล่องเก็บฝุ่นได้โดยไม่พันกันบริเวณหัวดูด แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 นาที และมีไฟ Led ช่วยให้มองเห็นฝุ่นแม้อยู่ในที่มืด ราคาประมาณ 5,990 บาท

3. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Bosch รุ่น BCHF216B 


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ภาพจาก : bosch-home.in.th

          เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Bosch Series 2 Rechargeable Vacuum Cleaner Black เครื่องดูดฝุ่น 2 in 1 ใช้ได้ทั้งแบบมือถือและแบบไม้กวาด น้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม Bosch Lithium-Ion ช่วยให้ตัวเครื่องทำงานได้นาน มีหัวดูดที่ทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว ทั้งกระเบื้อง ไม้ปาร์เก้ หรือพรม สามารถถอดหัวแปรงออกมาทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถตั้งงวางได้โดยไม่ต้องมีแท่นรอง ราคาประมาณ 6,590 บาท

4. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Tefal X-Nanano Essential รุ่น TY1129WO 


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ภาพจาก : tefal.co.th

          เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Tefal กำลังไฟ 100 วัตต์ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 40 นาที ใช้เวลาชาร์จไฟครั้งละ 3 ชั่วโมง ทำงานด้วยเทคโนโลยี Cyclonic พร้อมมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง สามารถทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิวที่เป็นพื้นแข็งและทุกพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้น เพดาน และจุดที่เข้าถึงยาก  มีถังเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ ราคาประมาณ 6,590 บาท

5. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Philips 4000 Series รุ่น XC4201/01 


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ภาพจาก : philips.co.th

          เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Philips 4000 Series รุ่น XC4201/01 เครื่องดูดฝุ่น 2 in 1 ใช้ได้ทั้งแบบดูดฝุ่นปกติและแบบมือถือ น้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ตัวเครื่องแยกชิ้นส่วนเก็บในลิ้นชักได้ ถังเก็บฝุ่นคู่เพื่อการเก็บฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบกรอง 3 ชั้น สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ใช้งานโหมดเทอร์โบนาน 18 นาที และโหมดปกติ 30 นาที ทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์และมุมแคบได้ เหมาะสำหรับพื้นแข็ง ราคาประมาณ 8,990 บาท

6. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Samsung รุ่น VS15A6031R1/ST 


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ภาพจาก : homepro.co.th

          เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Samsung หนักเพียง 1.48 กิโลกรัม ความจุถังเก็บฝุ่นขนาด 0.8 ลิตร พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น 5 ชั้น จับฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.5 ไมครอน แรงดูดทรงพลังระบบ Jet Cyclone ทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว รวมทั้งพรมและบนพื้นแข็ง มาพร้อมหัวแปรงหมุนได้ 180 องศา สามารถเข้าถึงทุกซอกมุม หัวแปรงถอดทำความสะอาดได้ แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องถึง 40 นาที พร้อมแท่นชาร์จแบบ 2 in 1 เลือกได้ทั้งแบบติดผนังหรือ Stand-Alone Charger ราคาประมาณ 8,990 บาท

7. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Sharp รุ่น EC-A1RA-A 


เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ภาพจาก : powerbuy.co.th

          เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Sharp รุ่น EC-A1RA-A เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 2 in 1 ใช้ได้ทั้งแบบด้ามจับและแบบมือถือ กำลังไฟฟ้า 40 วัตต์ น้ำหนักเบา 1.5 กิโลกรัม ความจุถังเก็บฝุ่นขนาด 0.13 ลิตร ชาร์จแบตฯ เร็วในระยะเวลาประมาณ 80 นาที โหมดการทำงานมี 2 โหมด ได้แก่ แรงดูดมาตรฐานและแรงดูดสูง มอเตอร์เทอร์โบมีกำลังแรงสูง และมีน้ำหนักเบา ช่วยดูดฝุ่นภายในบ้านได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมท่อคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาและแข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน ราคาประมาณ 12,990 บาท

          การเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอาจจะมีรายละเอียดมากสักหน่อย แต่ทั้งนี้เพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ ตรงกับความต้องการ และการใช้งานมากที่สุด จึงควรจะศึกษาเอาไว้ก่อน เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป พร้อมทั้งได้เครื่องดูดฝุ่นที่อยู่คู่กับบ้านของคุณไปนาน ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก allergyandair, kohlsofficematehomepro.co.th (1) (2), electrolux.co.th, bosch-home.in.th, tefal.co.th, philips.co.th และ powerbuy.co.th 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ถือง่ายใช้สะดวก ช่วยกำจัดฝุ่นเกลี้ยงทุกซอกมุม อัปเดตล่าสุด 3 สิงหาคม 2566 เวลา 14:20:19 116,872 อ่าน
TOP
x close